อีกด้านหนึ่งหวังบรูคลินที่อยู่ในห้องทำงานของตัวเองก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเมื่อเห็นข้อความคำถามจากคนในกลุ่มแชตที่ถามถึงแฟนสาวของเขา
เป็นการเป็นงาน (12)
หวังบรูคลิน: [ส่งสติกเกอร์นิ้วกลาง]
หวังบรูคลิน: @เควิน อย่าถามได้ได้ไหมพี่ผมไม่อยากเจอ
ลิษา: ถ้ามาแว้ด ๆ ในนี้อีกกูจับโยนออกไปแน่
จางอี้ชิง: @หวังบรูคลิน ทะเลาะกัน?
หวังบรูคลินถอนหายใจออกด้วยความเหนื่อย คำถามที่จางอี้ชิงถามเขาจะตอบว่าทะเลาะก็ได้แต่จะบอกว่าไม่ได้ทะเลาะก็ได้เพราะมันคือเรื่องเดิม ๆ ที่เฉิงเวนดี้แฟนสาวของเขาชอบเอามาพูดอยู่แล้ว
เป็นการเป็นงาน (12)
หวังบรูคลิน: ครับ เรื่องเดิมเดิม
เควิน: แฟนมึงเขาเป็นห่วงมึงไงไม่อยากให้ทำอะไรเสี่ยง ๆ
โชไมค์กี้: แต่เวนดี้ทำเกินไปนะพี่
โจวโคลิน: ล่าสุดคือเขียนจดหมายลาออกแล้วเอาไปส่งให้หัวหน้าเองเลยอะ
ลิษา: นังนี่มันร้ายค่ะ
หวังบรูคลิน: ตอนแรกเวนดี้ก็นะ
โจวโคลิน: แต่หลัง ๆ มาแย่ใช่ไหม
หวังบรูคลิน: อืม
บิลลี่: เลิกไหมจะได้จบ ๆ ไปเลย
ลิษา: เอ่อจริง
โชไมค์กี้: ถ้ามันง่ายขนาดนั้นไอ้บรูคคงเลิกไปแล้วล่ะคงไม่ต้องทนอยู่แบบนี้
ลู่จิน: น้องเขาไม่ยอมเลิก?
โจวโคลิน: @หวังบรูคลิน ไอ้นี่ไม่กล้าบอกเลิกเองมากกว่า
ความจริงมันก็เหมือนที่โจวโคลินเพื่อนของเขาบอกคนในกลุ่ม เขาไม่กล้าบอกเลิกเองมากกว่าทั้งที่ในใจของเขาอยากจะเลิกมากแค่ไหนก็ตาม เพราะตัวเขาเองยังไม่สามารถเลิกกับอีกฝ่ายได้
เป็นการเป็นงาน (12)
หวังบรูคลิน: เอาจริงมีก็เหมือนไม่มี กูเบื่อนะที่ต้องมาทะเลาะกันเรื่องเดิม ๆ ทำไมถึงชอบบังคับให้กูลาออก กูชอบทำงานไม่ได้ชอบอยู่เฉย ๆ เขาบอกว่าจะเลี้ยงกูเองมันได้เหรอวะ
เอริค: ได้ทีแล้วบ่นใหญ่
ลิษา: กูก็บอกให้เลิกกันซะ
หวังบรูคลิน: กูกลัวเขาเสียใจ
จางอี้ชิง: @หวังบรูคลิน ยังรักเขาอยู่เหรอ
ยังรักอยู่อย่างงั้นเหรอ?
ความรู้สึกของเขาที่ให้เฉิงเวนดี้เรียกว่าความรักอย่างงั้นเหรอ?
หวังบรูคลิน: คงงั้นมั้งครับ
เควิน: มึงแค่ผูกผันไอ้บรูค
เควิน: มึงไม่ได้รักเขาแล้ว
หวังบรูคลิน: อาจจะเป็นแบบที่พี่ว่า
รัก? ผูกผัน? มันคือความรู้สึกของเขาจริง ๆ น่ะเหรอ หวังบรูคลินนั่งคิดอยากตลก
ในอีกด้านหนึ่งจางอี้ชิงเห็นว่านิโคลินที่กลับมากจากการเข้าห้องน้ำกำลังเดินทางเขาก็ตัดสินใจพิมพ์ข้อความส่งเข้าไปในกลุ่มอีกครั้ง เพราะหลังจากนี้เขาจะไม่จับโทรศัพท์อีกแล้ว
เป็นการเป็นงาน (12)
จางอี้ชิง: เฮียจะกลับแล้วมีใครจะเอาอะไรอีกไหม?
โจวโคลิน: @บิลลี่ มึงอะตัวดี
บิลลี่: @โจวโคลิน [ส่งมีมตบหน้า] @จางอี้ชิง ไม่เอาเฮียรีบกลับมาก็พอ
เอริค: ตามเป็นเมียเลยนะ
บิลลี่: เฮีย @เอริค ยังอยากมีมือไว้จับกล้องอยู่ไหม?
จางอี้ชิง: ฆ่าได้เลยเฮียอนุญาต
ลู่จิน: เดี๋ยวกูเตรียมห้องชันสูตรไว้รอจะได้ช่วยปกปิดสาเหตุการตายให้
เอริค: ไอ้พวกเลว!!!!
โชไมค์กี้: 5555
จางอี้ชิงหัวเราะให้โทรศัพท์ก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงตัวเอง แล้วหันไปมองลูกพี่ลูกน้องของตน
“ถ่ายรูปผมส่งให้ม้าเหรอ?” เซียวฌอนถามขึ้นอย่างสงสัย เขาเห็นลูกพี่ลูกน้องของเขายกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายเขาจากนั้นก็ก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์ยิก ๆ
จางอี้ชิงส่ายหน้า “ไม่ใช่ ถ่ายส่งให้คนให้กลุ่มที่ทำงานน่ะ”
“อ๋อ” เซียวฌอนพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“ไปรถกันเถอะ จะได้พักผ่อนกัน” จางอี้ชิงเอ่ยจบก็ช่วยลากกระเป๋าให้เซียวฌอน ส่วนเซียวฌอนเองก็เต็มใจที่จะได้รับความช่วยเหลือนั้นเพราะเขาขี้เกียจถือกระเป๋าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
บนรถของจางอี้ชิง
“เอาไปตราของมึง” เมื่อรถเคลื่อนตัวออกไปได้สักพัก นิโคลินเพื่อนสาวที่สนิทของเซียวฌอนก็เอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นตราประจำตำแหน่งให้เซียวฌอน
“ใจร้ายกันฉิบหาย” เซียวฌอนตัดพ้อ แทนที่ปล่อยให้เขาได้พักสักอาทิตย์สองอาทิตย์ค่อยมอบตราให้เขาแต่นี่มอบให้ทันทีที่ถึงประเทศ บอกตามตรงว่าเขารู้สึกว่าเป็นลางที่ไม่ดีเอามาก ๆ “บังคับกันแบบนี้ได้ไงอะ ขอพักหน่อยไม่ได้รึไง”
นิโคลินเห็นเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนานเบะปากเมื่อโดนขัดใจ เธอก็กลอกตามองบนทันที “ไม่ต้องเบะกูไม่สงสาร”
จางอี้ชิงเอ่ยสนับสนุนความคิดของนิโคลินทันที “คิดว่าเฮียจะปล่อยคนเก่งแบบฌอนไปเหรอ ไหน ๆ ก็ว่างงานแล้วก็มาทำงานกับเฮียดีกว่า”
“แต่ผมเพิ่งถึงจีน และยังไม่ทันออกจากเขตสนามบินเลย เฮียจะมาจับผมเซ็นสัญญาแบบนี้ไม่ได้” เซียวฌอนหยิบเอกสารที่แนบมาด้วยขึ้นมาถืออย่างหงุดหงิด
“ถ้าเฮียว่าได้มันก็คือได้ฌอน” จางอี้ชิงตอบกลับ เซียวฌอนกอดอกพ่นลมหายใจออกมาราวกับเด็กที่โดนขัดใจ แต่เขาดันเป็นผู้ใหญ่ที่โดนขัดใจต่างหาก
“เอาหน่ามึง สวัสดิการดี เงินดี งานดี” นิโคลินพยายามเอ่ยปลอบใจเซียวฌอน
เซียวฌอนร้องหึในลำคอก่อนจะเอ่ยถามขึ้น “แล้วคนล่ะ มึงก็รู้กูทำงานไม่เหมือนคนอื่น แน่ใจว่าคนที่นี่จะทนกูได้”
สวัสดิการดี เงินดี งานดี แล้วไง?
ถ้าเพื่อนร่วมทำงานไม่ได้เรื่องเขาก็ไม่มีทางทำงานที่นั่นแน่ ๆ
“ทนความหวังบรูคลินได้ ความเซียวฌอนแค่นี้สบายมาก” จางอี้ชิงนึกถึงเพื่อนร่วมทำงานอีกคนหนึ่งที่ชื่อว่าหวังบรูคลิน
เขารู้ว่าเซียวฌอนเป็นคนจริงจังกับการทำงานมากขนาดไหน เพื่อนร่วมงานหลายคนมักจะไม่พอใจเซียวฌอนอยู่บ่อย ๆ ในที่ทำงานเก่า แต่ที่นี่ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นกังวลเลย เพราะก็มีหนึ่งคนที่นิสัยคล้ายเซียวฌอน และเพื่อนร่วมทำงานก็ทำงานกันจนชินไปหมดแล้ว มีเซียวฌอนเพิ่มเข้ามาก็ไม่ส่งผลกระทบอะไรมากมายแน่นอน
“มึงสบายใจได้ มีคนที่เรื่องเยอะพอ ๆ กับมึงเหมือนกัน พวกกูยังทำงานร่วมได้เลย” นิโคลินเอ่ยเสริมคำพูดของจางอี้ชิงเพื่อยืนยัน
“ขอพักหนึ่งอาทิตย์แล้วจะไปทำงาน” เซียวฌอนยื่นข้อเสนอที่เขาต้องการด้วยท่าทางนิ่ง ๆ
“เยี่ยม!” นิโคลินเอ่ยออกมาด้วยความดีใจ ถึงไม่ได้ทำงานตอนนี้ แต่เพื่อนของเธอก็ตกลงที่จะทำงานด้วย ให้พักหนึ่งอาทิตย์ก็ดีเพราะเซียวฌอนเพิ่งเดินทางมาถึงและอาจไม่คุ้นเคยกับที่นี่มากเท่าไหร่ อยากน้อยก็มีเวลาให้เซียวฌอนได้ปรับตารางเวลาชีวิตของตัวบ้าง
จางอี้ชิงเองก็พอใจกับคำตอบของเซียวฌอนเหมือนกัน “ต้องแบบนี้สิน้องเฮีย” จางอี้ชิงยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดี
เซียวฌอนเชิดหน้าขึ้นก่อนจะเอ่ยขึ้น “ขี้เกียจอยู่เฉย ๆ หรอกนะ”
“จ้า~” นิโคลินลากเสียงยาวประชดเซียวฌอน ถึงต่อให้อยู่เฉย ๆ ก็จริง แต่เพื่อนของเธอไม่มีทางอยู่เฉย ๆ แน่นอน เพราะเซียวฌอนเป็นพวกที่อยู่เฉย ๆ ไม่ได้
ติ๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
เซียวฌอนถามขึ้นเมื่อเขาได้ยินเหมือนเสียงแจ้งเตือนอะไรบางอย่าง “เสียงอะไรอะ?” แต่ก็ไม่มีใครตอบคำถามของเซียวฌอนเลยแม้แต่คนเดียว
นิโคลินรีบเปิดแท็ปเล็ตอีกเครื่องที่มีการแจ้งเตือนขึ้นมาดูทันทีอย่างรีบร้อน “เฮียเครื่องบินตกที่แม่น้ำเฉาไป๋ อยู่ห่างจากที่นี่ 91 กิโล” นิโคลินมองตาของจางอี้ชิง
จางอี้ชิงรับรู้ได้ทันทีว่านิโคลินต้องการอะไรผ่านสายตาที่ส่งมา “โอเค บอกพวกนั้นว่าเจอกันที่นั่นเลย” พูดจบจางอี้ชิงก็เบี่ยงตัวรถไปที่ถนนอีกสายหนึ่งทันที
นิโคลิน “ค่ะ”
จางอี้ชิง “คงไม่ได้พักแล้วนะฌอน”
เซียวฌอนอยากจะปล่อยโฮร้องไห้ออกมาดัง ๆ เสียเหลือเกิน “ยังไม่ทันถึงที่พักก็มีคดีแล้วเหรอเนี่ย~” เซียวฌอนขยุ้มผมตัวเองพร้อมกับทำท่าราวกับจะร้องไห้อย่างหนักหน่วง “ชีวิตไอ้ฌอนให้มันได้แบบนี้สิวะ”
สังหรณ์ใจเอาไว้แบบไหน ก็เกิดเรื่องขึ้นแบบนั้นจริง ๆ
“ถือสะว่าอุ่นเครื่องมึง” นิโคลินไม่รู้ว่าจะปลอบเซียวฌอนยังไงแล้ว
“แต่ก็ให้กูพักหน่อยก็ดีไหมมึง! น้องฌอนเศร้าครับ”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 30
Comments