บันทึกของบาทหลวงอีรีค บันทึกกระสุน การเดินทางของเหล่าแม่ทัพตัวน้อยนั้นได้เริ่มต้นขึ้นมาเมื่อราวช่วงกลางของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ในระหว่างที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญหน้าอยู่กับความกดดันและการสูญเสีย ประเทศไทยกลับเป็นเพียงประเทศเดียวที่ปฏิเสธที่จะเลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในสงครามเพราะในตอนนี้ประเทศไทยนั้นกำลังมีสงครามกลางเมืองปะทุขึ้นอยู่เนืองๆ
มีประชาชนภายในประเทศล้มตายไปหลักสิบจนถึงเรือนร้อยในแต่ละวัน การทำรัฐประหารและการโค่นล้มราชวงศ์ที่มีมาอย่างยาวนานได้เกิดขึ้นมาในเวลาเดียวกัน สงครามกลางเมืองในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของสงครามที่จะเป็นที่รู้จักกันในทุกวันนี้ว่าสงครามศักดิ์สิทธิ์หรือสงครามเผยแพร่เอกราช
ทางราชวงศ์นั้นได้ส่งทหารกว่าสองแสนนายในการเข้าบุกโจมตีฐานทัพของฝ่ายกบฏที่ตั้งอยู่ในจังหวัดธนบุรี แต่ทว่าหลังจากที่ภารกิจได้เริ่มต้นขึ้นจนถึงทุกวันนี้ก็ไม่เคยมีใครเลยที่ได้เห็นแม้หนึ่งในทหารทั้งสองแสนนายนั้นอีก
ราวหนึ่งปีหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่หนึ่งทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ถูกเข้ายึดและถูกดึงเข้ามารวมกับประเทศไทยอันเป็นชาติแรกที่ถูกยึด จากการตรวจสอบข้อมูลและหลักฐานมากมายที่ได้ถูกเก็บรักษาเอาไว้ก็ทำให้ได้ทราบว่าเหตุที่ทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถูกยึดได้ในระยะเวลาอันสั้นนั้นก็มีสาเหตุหนึ่งมาจากเทคโนโลยีทางทหารที่มีชื่อว่าเอฟค์สูท
เอฟค์สูท หุ่นยนต์สงครามอเนกประสงค์รูปร่างมนุษย์ที่ได้พัฒนามาจากเทคโนโลยีทางการแพทย์อย่างเอ็กโซสเกเลตัน ในทุกวันนี้เอฟค์สูทนั้นเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปแม้ภายในเขตชุมชนขนาดเล็ก หรือแม้แต่ภายในชนบท แต่ทว่าในช่วงเวลาที่การรวมประเทศได้เกิดขึ้นมานั้น เอฟค์สูทกลับเป็นสิ่งที่แปลกใหม่และคาดเดาไม่ได้ ด้วยความห่างชั้นกันทางเทคโนโลยีสงครามที่ใช้อย่างเทียบไม่ได้ นั่นก็ได้ทำให้การบุกเข้ายึดนั้นเป็นไปได้โดยง่าย การรวมแผ่นดินจึงถือกำเนิดขึ้นก่อกำเนิดเป็นจักรวรรดิอาเซียน จักรวรรดิแห่งการไล่ล่า
แต่ทว่าถึงแม้การรวมชาติแผ่นดินจะได้สิ้นสุดลงไปแล้วนั้น ก็ยังคงมีความวุ่นวายนานับประการปรากฏขึ้นมาอยู่เสมอ ภายในจักรวรรดินั้นมีผู้นำสูงสุดถึงสิบคนเพื่อไม่ให้อำนาจสูงสุดในการตัดสินใจตกเป็นของใครคนใดคนหนึ่ง
ในตอนนี้พลเอกดำเนินหนึ่งในสิบผู้นำสูงสุดนั้นกำลังเล่นอยู่กับลูกน้อยทั้งเจ็ดคนของเขา โดยมีลูกอีกยี่สิบสามคนที่มีหน้าที่ก็แค่เพียงมองดูบิดาผู้ให้กำเนิดเล่นกับพี่ๆทั้งเจ็ดของพวกเขา การได้รับอ้อมกอดของพ่อแม่แม้จะเป็นเพียงแค่เวลาอันสั้นนั้นมันกลับมีคุณค่าทางใจสูงยิ่งกว่าอะไรโดยเฉพาะกับเหล่าลูกน้อยที่ถูกทิ้งหรือถูกลืม
เหล่าลูกน้อยทั้งยี่สิบสามคนนั้นได้เติบโตขึ้นมาในฐานะแม่ทัพของบิดา พวกเขาถูกส่งไปยังหลายประเทศที่อยู่ใกล้กับจักรวรรดิเพื่อเจริญไมตรีและการทำสงคราม ไม่เคยมีสมรภูมิใดที่มอบความพ่ายแพ้ให้กับจักรวรรดิเมื่อพวกเขาก้าวลงสู่สนามรบ เป็นเวลากว่าเจ็ดสิบสองปีที่เหล่าเด็กน้อยที่มีอายุมากกว่าร้อยปีทั้งยี่สิบสามคนได้นำชัยชนะในสนามรบมามอบให้กับจักรวรรดิ
แต่ทว่าชีวิตนั้นก็เหมือนกันกับเปลวเพลิงเมื่อมีวันลุกโชนก็ต้องมีวันมอดดับ สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดนั้นไม่ใช่การที่พวกเขาได้เผชิญหน้ากับความพ่ายแพ้เป็นครั้งแรก แต่กลับเป็นการที่พวกเขาถูกแทนที่ด้วยอะไรที่ใหม่กว่าและดีกว่า ซึ่งมันก็คือเหล่าน้องชายและน้องสาวตัวน้อยของพวกเขา สิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างขึ้นมาในกรรมวิธีเฉกเช่นเดียวกันกับพวกเขา
บันทึกของแบนชี ภายในวันครบรอบร้อยปีวันก่อตั้งจักรวรรดิ ขณะที่พี่น้องและคนในครอบครัวกำลังเพลิดเพลินอยู่กับงานฉลองอยู่นั้น สองพี่น้องเทียร์และเวลล์สกลับเลือกที่จะปลีกตัวออกมาเพื่อเฝ้ามองดูการบินไปบนฟากฟ้าของเอฟค์สูทในยามราตรีอันเป็นสิ่งที่สองพี่น้องชื่นชอบมากที่สุด ซึ่งบิดาและมารดาของทั้งคู่นั้นก็รับรู้ได้ถึงเรื่องนี้เป็นอย่างดี
ในทุกค่ำคืนก่อนที่จะเข้านอนนั้นเวลล์สก็มักจะคอยอธิษฐานร้องขอให้ในวันพรุ่งนี้เขาได้เป็นนักบินของเอฟค์สูทสักเครื่องต่อให้มันจะเป็นเอฟค์สูทที่ธรรมดาที่สุดก็ตาม ขอแค่เพียงมันยังทำงานได้ก็มากเพียงพอให้เขาได้ทำตามความฝัน
เจ้าเด็กน้อยของฉันได้ตื่นขึ้นมาในสภาพที่สับสนวุ่นวาย เขาร้องเรียกหาฉันทั้งที่ฉันอยู่ตรงหน้าของเขา ฉันบอกให้เขารีบตั้งสติและตรวจสอบระบบของเอฟค์สูทและสภาพของบริเวณโดยรอบเพื่อค้นหาศัตรูที่ยังรอดชีวิตและเป้าหมายของภารกิจ
ตาขวาเสียหาย น้ำมันรั่ว บีมซอร์ดเหลือพลังงานสิบสามเปอร์เซ็นต์ บีมฮาร์ฟเหลือกระสุนหนึ่งนัด มีสัญญาณของศัตรูอยู่ในรัศมีสามร้อยเมตรและเป้าหมายของภารกิจอยู่ห่างออกไปหกจุดสามไมล์
เสียงของเขาแหบแห้งและฟังดูเหนื่อยล้า ศัตรูนั้นได้เข้ามาใกล้ทั้งที่เรายังหยุดนิ่ง สายตาของเจ้าหนูน้อยของฉันนั้นบ่งบอกถึงความโศกเศร้า เขาบ่นพึมพำฟังไม่ได้ศัพท์ สายตาของเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อศัตรูเปิดใช้บีมซอร์ด เจ้าหนูน้อยของฉันหายใจเขาเฮือกใหญ่ก่อนที่จะตะโกนออกมาว่าพอกันทีและควบคุมให้เอฟค์สูทเดินตรงไปข้างหน้ามุ่งหาศัตรู
การต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง เอฟค์สูทของเจ้าหนูน้อยนี้รับศึกหนักมาตลอดทั้งวันและในตอนนี้มันสมควรแล้วที่จะได้พักเป็นอย่างยิ่ง แต่ทว่าโชคชะตานั้นกลับเล่นตลกเพราะในตอนนี้มันได้พุ่งตรงเข้าไปหาศัตรูตรงหน้าด้วยกำลังทั้งหมดที่มี มือซ้ายยกขึ้นมาป้องกันมือขวาจับบีมซอร์ดไว้แน่น ลำแสงความร้อนสูงได้แทงทะลุเข้าไปยังห้องนักบิน ก่อนที่จะผลักมันออกและเล็งปืนไปยังเป้าหมายที่อยู่ห่างออกไปเจ็ดจุดเก้าไมล์และจะห่างไกลออกไปอีกเมื่อเวลาได้ผ่านไป
เสียงปืนได้ดังขึ้นพร้อมกันกับตอนที่เอฟค์สูทของเจ้าหนูน้อยได้เกิดระเบิด ลำแสงบีมฮาร์ฟได้ตรงดิ่งไปยังเป้าหมายด้วยความแม่นยำและแรงระเบิดขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้นในตอนที่ลำแสงเข้าปะทะกับเป้าหมาย เจ้าหนูน้อยได้หัวเราะขึ้นมาในขณะที่ร่างกายเริ่มไม่รู้สึกตัว เราทั้งสองได้สบตากันในระหว่างที่เอฟค์สูทของฝั่งศัตรูสองเครื่องได้เดินตรงมาทางนี้
...จบ....
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 26
Comments