#อย่าเสพติดยะ [ Mpreg ]

#อย่าเสพติดยะ [ Mpreg ]

อารัมภบท

อดีต

ภาพความวุ่นวายตรงหน้ามักจะมีให้เห็นจนชินตา ถ้าหากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับบุคคลนั้น บุคคลที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของคนทั้งตระกูล 'ขจรกิญจณ'

จึงก่อให้เกิดความรู้สึกริษยาขึ้นมาในหัวใจดวงน้อยของเด็กคนหนึ่ง ที่ไม่เคยสลักสำคัญแก่ใครเลย เป็นคนที่โดนแสงเงาจากคนคนนั้นบดบังจนมิด แม้แต่อากาศที่หายใจเข้าไปก็เหมือนจะเป็นการแย่งชิงมา ทำให้ทุกครั้งที่สูดอากาศเข้าปอดจะรู้สึกจุกแน่นและเสียดแทงอยู่ในอก จนต้องยกมือขึ้นกุมอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ กับชีวิตน่าสมเพชของตัวเองนัก

ทั้งที่ก็เป็นบุตรชายของผู้นำตระกูลเช่นกัน แต่แล้วทำไมถึงไม่เคยหันมามองกันบ้าง ทั้งที่ยังมีเด็กน้อยคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนี้ ไม่เคยคิดจะหนีไปไหนเลย ยังคงรอคอยที่จะได้รับความรักจากบิดาของตนบ้าง แค่สักครั้งที่ทอดมองมาที่ตนบ้างก็ยังดี

มันคงเป็นคำขอร้องอ้อนวอนที่มากเกินไป...

วันเวลาหมุนผลัดสับเปลี่ยนไปเรื่อยจนเด็กน้อยในวันวานที่อ้อนวอนรอคอยที่จะได้รับความรักอย่างบุตรคนหนึ่งที่ควรได้รับ แต่วันแล้ววันเล่าก็ยังคงถูกลืมเลือนเรื่อยมา จากที่รอคอยก็กลายเป็นเฉยชา รอเวลาที่จะหลุดพ้นไปจากขุมนรกแห่งนี้ในสักวัน

แต่เหมือนความหวังอันริบหรี่ใกล้จะเป็นจริงเต็มที ไม่รู้ว่าหากออกไปจากนรกขุมนี้แล้ว จะเป็นเช่นไร แต่มันคงไม่เหลือบ่ากว่าแรงหรอกมั้ง เพราะสถานที่แห่งนี้ทำให้เขาเข้มแข็งไม่น้อยเลย โลกภายนอกคงไม่น่าจะลำบากเท่าไหร่หรอก

"มึงจะยืนบื้ออยู่อีกนานมั้ยไอ้ลูกคนใช้!" เสียงแหลมจัดจากสาวใช้คนหนึ่งตะโกนขึ้นเมื่อเห็นหน้าคนที่ตนชิงชัง ที่มันมัวแต่เอ้อระเหยอยู่นั้น ทั้งที่คนอื่นเขาวุ่นวายจนหัวหมุน

"นี่มึงคิดจะกินแรงคนอื่นหรือไง เดี๋ยวกูบ้องหูมึงสักที" สาวใช้ไม่พูดเปล่า นางสาวเท้าเข้ามาใกล้คนที่ตนชิงชังมากขึ้น ทั้งมือก็ยกขึ้นท่าเตรียมเอาไว้ คล้ายคำขู่เมื่อครู่ไม่มีแววล้อเล่นเลยเพียงนิด

"แล้วมึงคิดว่ากูจะยืนเฉยๆให้มึงรังแกหรือ" คนที่เงียบฟังอีกคนพูดจาเสียดสีอยู่นานสองนาน เงยหน้าขึ้นประจันกับสาวใช้เสียงแหลมบาดหูอย่างเอาเรื่อง ไม่หลงเหลืออีกแล้ว เด็กน้อยที่ไม่สู้คนในวันวาน ก็นั่นมันคือตัวเขาเมื่อแปดปีก่อน ที่เป็นเพียงเด็กน้อยวัยสิบขวบปี ที่ยังเรียกหาความรักอย่างน่าสมเพช

พอนึกถึงตนเองในวันวานก็อดจะยิ้มเยาะอย่างอดไม่ได้ ทำไมถึงทำตัวน่าสมเพชได้ขนาดนั้นนะ แต่อดีตมันลบล้างไม่ได้ คงมีไว้เคยย้ำเตือนเท่านั้น ว่าอย่าได้ทำอีก

แต่รอยยิ้มหยันที่เผยให้เห็นนั้น ทำให้สาวใช้ที่มาหาเรื่องกันเข้าใจไปคนละแบบ เลยยิ่งทำให้นางรู้สึกร้อนวูบวาบในอก คิดว่าเด็กที่อยู่ตรงหน้าตนนั้น กำลังยั่วอารมณ์กรุ่นโกรธของตน จึงได้ลงมือทำร้ายกันอย่างที่ปากว่าไว้ อย่างขาดสติ และด้วยเพราะความถูกอารมณ์คุกรุ่นชักนำ จึงทำให้อะไรอย่างขาดวางแผนและยั้งคิดให้ถี่ถ้วน

ผลสุดท้ายคนที่จะเป็นฝ่ายเสียเปรียบก็คือตัวเอง แต่แล้วอย่างไร เพราะที่นี่คือตระกูลขจรกิญจณ ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่สาวใช้ แต่ก็ถือไพ่เหนือกว่าคนที่เป็นบุตรชายผู้ถูกลืมอยู่ดี และการที่ต้องเข้ามาเหยียบยังตึกใหญ่ ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นดีใจเลยสักนิด คงจะเป็นเพราะชิงชังที่แห่งนี้มากล่ะมั้ง

"แกกล้าก่อเรื่องในวันเกิดลูกของฉันได้ยังไง" สุรเสียงอันทรงอำนาจของผู้เป็นบิดากังวานก้องอย่างคนที่อารมณ์ไม่คงที่นัก แต่ละคำที่เอื้อนเอ่ยออกมาทุกคำล้วนเต็มไปด้วยแรงอารมณ์กรุ่นโกรธ

อยากจะย้อนถามอยู่เหมือนกัน ว่าเขาไม่ใช่ลูกหรือ กับอีกคนเรียกลูกได้อย่างเต็มปากเต็มคำ แต่กับเขาแม้แต่จะมองหน้ากันยังไม่มี ไม่เคยเลยแม้แต่เสี้ยววินาทีหนึ่ง ขนาดเขายืนอยู่ตรงนี้ยังคงหันหลังให้กันอยู่เลย

"คุณคะ ใจเย็นก่อนเถอะค่ะ วันนี้วันเกิดลูกทั้งที อย่าอารมณ์เสียไปเลยนะคะ เดี๋ยวจะไม่มงคล" คุณนิจยา ภรรยาคนดีคนเดิมของนายประจักษ์ ขยับเข้ามาใกล้สามี และพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ หวังว่าจะคล้ายความร้อนในอกให้แก่สามี ถึงแม้จะไม่ชอบขี้หน้าลูกอีกคนของสามีแค่ไหน แต่วันนี้เป็นวันเกิดของลูกชายตน จึงจะยอมปล่อยไปก่อน ค่อยจัดการวันหลังก็ไม่สาย

"ก็ดูมันสิ ขยันสร้างเรื่องให้ปวดหัว" นายประจักษ์มีท่าทีอ่อนลงเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำว่าวันเกิดลูกชายคนโปรด วันนี้เป็นวันดีจึงไม่อยากให้มีเรื่องขุ่นมัวเกิดขึ้น ด้วยเพราะเกรงว่า ลูกชายตนจะรู้สึกไม่ดี

"แล้วยังจะยืนเซ่ออะไรอยู่เล่า ออกไปได้แล้ว!" นางนิจยาหันมาพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้นอีกระดับ ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นจึงสลายตัวไปทำหน้าที่ของตนต่อ

งานเลี้ยงวันเกิดของลูกชายคนโปรดถูกจัดขึ้นเสียโออ่า สมกับความรักที่คนในตระกูลมอบให้ ทุกคนต่างก็ยินดีปรีดากันหน้าระรื่น แต่มีอยู่คนหนึ่งที่ไม่ได้รู้สึกยินดีอะไรด้วย

เพราะเป็นงานวันเกิดของลูกคนโปรดจึงเชื้อเชิญผู้คนมาเสียมากมาย คนที่ไม่อยากสุงสิงและข้องเกี่ยวอะไรกับคนตระกูลนี้สักเท่าไหร่ ก็ต้องมาเป็นเด็กเสิร์ฟจำเป็นให้อย่างเสียไม่ได้ ไม่รู้จะตอกย้ำอะไรกันนัก แต่ใกล้แล้วแหละ เขาใกล้จะหลุดพ้นจากขุมนรกนี่แล้ว

หลังจากที่ต้องอยู่ช่วยในงานอย่างไม่เต็มใจจนแน่ใจแล้วว่าหมดหน้าที่ของตน ก็ปลีกตัวออกมาแล้วกลับไปยังบ้านหลังเล็กของตนที่อยู่เกือบสุดขอบรั้วของบ้านขจรกิญจณ อาจต้องใช้เวลาเดินหลายนาทีแต่ก็ดีที่มันเงียบไม่มีเสียงหรือใครเข้ามารบกวน

กระเป๋าผ้าใบขนาดกลางถูกเปิดและหยิบของด้านในออกมาวางไว้บนโต๊ะ ก่อนที่เจ้าของเรือนหลังเล็กจะลากเก้าอี้ออกแล้วหย่อนก้นนั่งลงมา

สายตาเฉยเมยมองไปที่ของเบื้องหน้า แม้ไม่อยากแสดงออกความรู้สึก แต่ก็อดจะรู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตายามมองไปที่ของเบื้องหน้าตนไม่ได้ มันเป็นเพียงขนมปังหนึ่งก้อนกลมเล็กๆ ที่เขาซื้อมา ไม่ได้รู้สึกอยากกิน แม้จะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าซื้อมาทำไม แต่ก็พยายามหลอกตัวเองอยู่เสมอว่าแค่สงสารคุณป้าคนขายเท่านั้น

ใช่...แค่สงสารเท่านั้น

นั่งมองก้อนขนมปังอยู่นานสองนาน จนริมผีปากที่ปิดสนิทแถมขบเม้มจนแน่นก็ค่อยๆคลายออกและขยับปากเอื้อนเอ่ยอย่างยากลำบาก แม้เป็นเพียงคำสั้นๆหนึ่งคำเท่านั้น

"สุขสันต์วันเกิดนะสุริยะ" พยายามแล้วที่จะคุมเสียงของตัวเองไม่ให้สั่น แต่ก็ยังคงแกว่งในตอนท้ายอยู่ดี แล้วก็รีบปิดปากฉับเพราะพยายามกลั้นก่อนสะอื้นที่ตีรื้นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

ใช่ วันนี้ก็เป็นวันเกิดของเขาเช่นเดียวกัน แต่ชินแล้วแหละที่ไม่มีใครจำได้หรือล่วงรู้ เพราะคนที่ถูกลืมเลือนอย่างเขา ใครเล่าจะมาใส่ใจ แค่เพียงตัวเองจำได้ก็พอแล้ว

วันเกิดปีนี้ก็เป็นปีที่สิบแปดแล้ว วันคืนที่เฝ้ารอให้มาถึงก็มาแล้ว ความตั้งใจอย่างตั้งหวังที่จะออกไปจากขุมนรกนี่ก็มาถึงสักที ไม่มีความอาลัยแม้แต่เสี้ยวเดียว เพราะสถานที่แห่งนี้ไม่มีความทรงจำดีๆเลยสักเสี้ยวหนึ่ง

ใช้เวลาเก็บข้าวของส่วนตัวไม่นานเพราะไม่ได้มีของอะไรมากมายนัก แต่ที่ช้าจนเสียเวลาไปอยู่นานนั่นคงจะเป็นการปิดประตูหน้าต่างทุกบานเสียมากกว่า เขาปิดทุกบานไม่มีเหลือ ก่อนที่จะเดินวนเข้าไปในครัวอีกครั้ง เพราะต้องทำสิ่งนี้เป็นอย่างสุดท้ายก่อนจะหันหลังให้ขุมนรกแห่งนี้

ในเมื่อไม่เคยทำดีต่อกัน ก่อนจากก็ขอสร้างความฉิบหายไว้ให้สักหน่อยแล้วกัน ถึงแม้จะไม่ได้มากมายอะไร แต่ก็คงทำให้บิดาตนควันออกหูได้ไม่น้อย

คล้อยหลังที่เด็กคนนั้นออกไปพ้นตระกูลขจรกิญจณได้ไม่กี่ชั่วโมง ก็เกิดเสียงบึ้มดังขึ้นที่บ้านหลังเล็กท้ายตระกูลก่อนจะมีเปลวไฟลุกท่วมบ้านทั้งหลัง แล้วด้วยเป็นวันที่มีลมแรง จึงทำให้เปลวเพลิงยิ่งโหมกระพือได้รวดเร็ว ไฟลามเป็นวงกว้างจึงสร้างความเสียหายไม่น้อย

แต่ในช่วงชุลมุนนั้นไม่มีใครเลยสักคนที่จะนึกถึงคนที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กนั้น ไม่มีใครเลยสักคนที่จะเป็นห่วง ต่างคนต่างกระวีกระวาดดับไฟกันไปพรางก่อนที่รถดับเพลิงจะมาถึง แต่กว่าจะดับไฟจนเสร็จนั้นก็เป็นเวลาที่ฟ้าเกือบจะสว่างแล้ว

ค่ำคืนอันชุลมุนวุ่นวายผ่านพ้นไปแล้ว แต่สภาพโรยลาของผู้คนก็เป็นคำตอบได้อย่างดีว่าเมื่อคืนหนักหนาขนาดไหน

"ไปตามตัวมันมา!" นายประจักษ์ตวาดลั่นใส่คนสนิท เพราะยังรู้สึกไม่พอใจอยู่ไม่น้อย ที่เด็กเหลือขอนั่นสร้างความวุ่นวายเอาไว้ เขารู้ว่ามันจงใจ มีหรือที่อยู่ดีๆจะเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ขึ้นเอง จะมีก็แค่มันนั่นแหละที่จงใจ

"คุณสุริยะไม่ได้อยู่ที่บ้านครับ ผมตามหาจนทั่วแล้ว" คนสนิทรีบละล่ำละลักตอบอย่างรวดเร็ว เพราะคนเป็นนายยามอารมณ์ไม่ดีนั้นชอบทำอเหนือความคาดหมายอยู่เสมอ

"ไม่อยู่?" ประจักษ์ทวนคำตอบของคนสนิท และได้รับการพยักหน้าตอบกลับมา

"ฮึ ตายแล้วหรือ ก็ดี ไม่ขวางหูขวางตาดี!" ประจักษ์ไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายอะไรกับชีวิตเด็กคนหนึ่ง จะอยู่หรือตายก็ไม่เกี่ยวกับเขา แค่เลี้ยงดูมีที่ซุกหัวนอนให้มาสิบกว่าปีก็นับว่าบุญหัวมันแล้ว

"ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่พบศพนะครับ เลยไม่รู้ว่ายังอยู่หรือตาย เขาอาจจะแค่ออกไปข้างนอกก็ได้ครับ ถ้าเขากลับมาผมจะมาเรียนให้ทราบ"

"ช่างหัวมัน มันจะไปมุดหัวอยู่ไหนก็ช่าง ดีเสียอีกไปให้พ้นๆตาสักที" ว่าจบก็โบกมือไล่คนสนิทออกไปจากห้องทำงานตนทันที

...

"คุณแม่ครับ นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไร ทำไมอยู่ๆบ้านเราก็เกิดไฟไหม้ล่ะครับ เนี่ยดูสิครับ มีแต่คนเข้ามาถามพัทณ์เต็มไปหมด นักข่าวพวกนั้นก็ด้วย เล่นข่าวบ้านเรากันทุกช่องทุกสำนัก น่ารำคาญ"

"จะใครซะอีกเล่า ก็ไอ้เด็กเวรนั่นไง มันคงเรียกร้องความสนใจอีกนั่นแหละ แต่ไม่รู้ว่ามันไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ตายห่าคากองไฟไปหรือยังก็ไม่รู้"

"ตัววุ่นวายจริงๆ"

"ลูกไม่ต้องไปสนใจหรอก เดี๋ยวเรื่องมันก็เงียบ ลูกใช้ชีวิตตามปกตินั่นแหละ"

"ครับ แต่ถ้าได้ข่าวเขาก็บอกพัทณ์ด้วย" นิจยาหันขวับไปหาลูกชายตัวเองทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของลูกตน

"นี่ลูกยังคิดจะนับญาติกับมันอยู่อีกเหรอ ไม่รู้หรือไงว่าพวกมันนั่นแหละเกือบทำชีวิตพวกเราพัง"

"แต่ยังไงเขาก็เป็นลูกคุณพ่อนะครับ"

"แล้วยังไง อย่าให้แม่ได้ยินอีกนะ ไม่งั้นจะได้เห็นดีกันแน่" ปัญหาของผู้ใหญ่แต่ทำไมต้องมาลงที่เด็ก แต่เพราะไม่อยากเป็นลูกอกตัญญูเลยต้องทำตามอย่างว่าง่าย คุณแม่จะได้ไม่รู้สึกทุกข์ใจ

...****...

TALK

เราจะย้อนอดีตแค่นี้ค่ะ ตอนหน้าจะเป็นเนื้อหาในส่วนของปัจจุบันแล้วค่ะ เอาใจช่วยน้องยะกันด้วยนะคะ น้องน่ารัก ไม่กัด ฉีดยาแล้ว อาจจะมีขู่บ้างอวดขนฟูๆ

ปล.หากพบคำผิด แจ้งไรท์ได้เลยนะคะ

ฮอต

Comments

seventeen%

seventeen%

น่าติดตามเหมือนทุกเรื่องเลย ไรท์สู้ๆนะ สนุกมาก

2023-04-24

1

zin(เลิกเล่นแล้วค่ะ)

zin(เลิกเล่นแล้วค่ะ)

จริงๆแล้วเรื่องนี้เราตั้งใจจะเข้าร่วมกิจกรรมแต่งนิยายมาราธอน แต่ว่าเรากดสร้างในวันและเวลาที่เขากำหนดไม่ทัน เราเลยชวดกิจกรรมนี้ไป เสียดายเหมือนกัน เพราะกดสมัครไปแล้ว

2023-04-02

2

ทั้งหมด
เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 1

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!