4 เจ้าคือตัวนำโชค 1

"ท่านพ่อ!!! ท่านแม่รอพวกท่านจนอยู่ไม่สุข เหตุใดพวกท่านถึงไปนานเพียงนี้ล่ะขอรับ"

หลี่เฉินบุตรชายคนเล็กวัยสี่ขวบรีบเดินออกมารับตรงถนนและพยายามช่วยลากรถด้วยพลังอันเต็มเปี่ยมของเขา แต่ทว่ารถลากกลับไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย เมื่อหลี่หงเห็นเช่นนั้นก็ยิ้มอ่อนให้บุตรชายคนเล็กที่มีใจอยากช่วยเหลือ แต่เขาตัวเล็กเกินไปจึงไม่สามารถช่วยได้หลี่หงเลยบอกว่าหิวน้ำเขาวิ่งสับขาสั้นๆเข้าบ้านหาน้ำท่ามาให้ท่านพ่อด้วยความยินดี

"ชื่นใจนัก"

เขาชมบุตรชายคนเล็กด้วยน้ำเสียงอบอุ่น และส่งเสียงหัวเราะเบาๆอย่างเอ็ดดู

"ท่านแม่ดูสิขอรับ เราได้ปลามาเยอะมากเลยขอรับ"

บุตรชายคนโตถือพวงปลาที่ร้อยมาอย่างดิบดียกชูสูงขึ้นเหนือศีรษะด้วยท่าทางกระฉับกระเฉง 

"ได้มาจากที่ใดกันถึงได้เยอะเพียงนี้แถมทุกตัวอวบอ้วนทั้งนั้น"

หลี่จงหัวเราะเสียงดัง แล้วบอกท่านแม่อย่างละเอียดว่าน้องรองเราเก่งกาจเพียงใด หวังลู่ยิ้มกว้างย่อตัวลงสวมกอดแล้วมองสาวน้อยที่ใส่มงกุฎดอกหญ้าอย่างรักใคร่ ลูกสาวข้าคือตัวนำโชคจริงๆ ทั้งแกงเห็ดที่อร่อยลูกหนามที่หอมหวานก็ถูกนางค้นพบ ถ้าจะมีอะไรที่แปลกมากกว่านี้ข้าก็จะไม่สงสัยเลยที่นางทำได้ เพราะนางคือดวงใจของข้า 

"ท่านแม่น้องรองบอกว่าจักทำอาหารเลิศรสให้เราได้ทานด้วยนะขอรับ"

"ดูเอาเถิดนางให้ข้ากับท่านพ่อช่วยเก็บยอดอ่อนของต้นไผ่มามากมายเลยนะขอรับ"

"ไหนบอกแม่ซิ เจ้าอยากทำอะไร เดี๋ยวแม่จะเป็นลูกมือช่วยเจ้าทำเอง"

หวังลู่ยิ้มบางๆพร้อมลุกขึ้นยืนหยิบปลาที่ร้อยเป็นพวงมาจากบุตรชาย แล้วมายืนข้างกายลูกสาวก่อนที่จะพานางเข้าบ้าน ดูจากเหงื่อที่ไหลอาบแก้มน้อยๆนางคงเหนื่อยล้าเอาการ นางหวังจึงพาบุตรสาวเข้าบ้านไปพักก่อน

"ข้าต้องใช้หน่อไม้กับเห็ดด้วย"

นางดึงมือผู้เป็นมารดาให้หยุดเดิน แล้วชี้ไปบนรถลากที่มีของเต็มรถ

"เดี๋ยวพี่จะเอาไปให้ เจ้าตามท่านแม่เข้าไปบ้านไปก่อนเถิด"

หลี่จงเข้าใจว่าท่านแม่เป็นห่วงน้องรองที่พึ่งหายไข้ ถึงภายนอกจะดูปกติแต่งรอยเขียวช้ำยังคงอยู่ภายใต้เสื้อผ้าอย่างชัดเจน ถึงน้องรองไม่พูดถึงมันอีกแต่ทุกคนก็ยังสลดใจกับเรื่องก่อนหน้าอยู่มาก

"ได้ ถ้าเช่นนั้นข้าจะช่วยท่านแม่ล้างและทำความสะอาดปลาพวกนี้รอนะเจ้าคะ"

หลี่หลิ่วที่ไม่สนใจความเหนื่อยล้าเท่าไหร่นักเพราะนางเริ่มหิวแล้วจึงตามท่านแม่ไปล้างหน้าคลายร้อนดื่มน้ำให้ชื่นใจแล้วช่วยท่านแม่ทำครัว เมื่อถอดเกล็ดล้างข้างในพุงปลาเสร็จพี่ใหญ่ก็เอาหน่อไม้และเห็ดมาให้ หลี่หลิวบอกท่านแม่ว่าต้องปลอกหน่อไม้เช่นไรหั่นแบบไหนแล้วตัวเองไปนั่งล้างเห็ดด้วยการใส่เกลือลงในน้ำไปเล็กน้อยดินโคลนที่ติดมาถึงจะหลุดออกได้โดยง่าย แล้วก่อไฟตั้งน้ำด้วยหม้อที่ใหญ่ที่สุด มันสามารถใส่น้ำได้มากกว่าสองลิตรเป็นหม้อเหล็กเก่าที่ยังใช้งานได้อยู่ถึงจะไม่มีฝาปิดก็ตาม ด้วยเครื่องปรุงตอนนี้ที่มีแต่เกลือถึงจะมีของที่น่าอร่อยเพียงใดแต่รสชาติคงมีแต่เค็มเพียงเท่านั้น เมื่อน้ำเริ่มเดือดแล้วหลี่หลิวใส่ปลาแล้วตามด้วยขิงเพื่อดับคาวจากนั้นใส่หน่อไม้ที่ท่านแม่หั่นตามด้วยเห็ดโคนใส่เกลือปลายช้อนด้วยความมันของปลาความหวานจากเห็ดก็จะได้รสชาติกลมกล่อม หวังลู่มองดูเด็กน้อยขยับนิดหยิบหน่อยอย่างคล่องมือและไม่ลืมที่จะเป็นลูกมือที่ดีค่อยใส่โน้นนี่ตามที่ลูกสาวบอก เมื่อปลาสุกแล้วจนเริ่มมีกลิ่นหอมอ่อนๆชวนให้น้ำลายสอ นางหวังอดไม่ได้ที่จะชิมรสชาติน้ำแกงอย่างพอใจ ลูกสาวข้าเก่งด้านการทำครัวตั้งแต่ยังเด็กถึงเพียงนี้ในอนาคตหากแต่งงานออกเรือนครอบครัวนั้นจะต้องโชคดีเอามากๆเป็นแน่

"หอมจังขอรับ"

หลี่เฉินเดินตามกลิ่นจนมาถึงครัวเขาทำจมูกฟุดฟิดแล้วเอ่ยถามว่าทำอะไรถึงได้หอมถึงเพียงนี้

"แกงปลา ตอนนี้ทำเสร็จพอดีเจ้าไปเรียกท่านพ่อกับพี่ใหญ่เจ้ามากินได้แล้วล่ะ พวกเขาคงหิวมากแล้ว"

หวังลู่ได้ยินเสียงท้องร้องของหลี่หลิวก็คิดได้ว่านี่ก็บ่ายคล้อยแล้ว จึงรีบเตรียมถ้วยชามจัดวางบนโต๊ะไม้ไผ่อย่างรวดเร็ว ไม่นานนักสามพ่อลูกก็เดินมาพร้อมกันล้างไม้ล้างมือเสร็จก็มานั่งโต๊ะอาหารอย่างพร้อมเพียง

"ทานกันเถอะ"

ท่านพ่อพูดจบทุกคนก็กินแกงปลาที่สดใหม่ แทบไม่มีใครปริปากต่างคนต่างกินอย่างเอร็ดอร่อยหวังลู่คอยตักอาหารเพิ่มให้ทุกคนจนอิ่มท้อง

เอิกกกก

เสียงเลอของหลี่เฉินดังขึ้น ทำให้เกิดเสียงขบขันทุกคนกินอิ่มแล้วนางหวังเก็บถ้วยชาม ส่วนสองพ่อลูกไปช่วยกันทำรั้วบ้านอย่างขันแข็งโดยมีน้องรองและน้องเล็กคอยให้กำลังใจ ไม้ไผ่ที่ยาวกว่าสิบเมตรถูกตัดออกเมตรครึ่งและตัดทำเสาฝังดินอีกสองเมตร นำไม้ที่ตัดเมตรครึ่งมามัดด้วยเถาวัลย์บนกลางล่างเป็นแพรยาวโดยใช้ไม้ไผ่ยาวสองเมตรวางทาบบนล่างเป็นตัวยึดเพื่อเตรียมเอาไว้ผูกติดกับเสาไม้ไผ่ มัดเรียงยาวกว่ายี่สิบอันนับเป็นหนึ่งแผ่น ทำแบบนั้นซ้ำไปซ้ำมาจนไม้หมดก็ค่ำมืด จึงได้แยกกันไปอาบน้ำข้างบ่อน้ำเพื่อความสะอาดร่างกาย อาหารค่ำก็เป็นปลาย่างเกลือและแกงปลาที่เหลือจากตอนบ่าย เมื่อกินเสร็จก็แยกย้ายกันเข้านอน หลี่เฉินอยากเข้านอนกับพ่อแม่ได้แต่นั่งงอนตุ๊บป่องเพราะหลี่หลิวบอกว่าอยากให้ท่านพ่อกับท่านแม่ได้พักผ่อนส่วนเราสามพี่น้องควรนอนด้วยกัน เมื่อแบ่งห้องนอนกันเสร็จสับจึงแยกย้ายกันเข้านอน

"ลูกสาวเราช่างเป็นเด็กดีอะไรเช่นนี้นะ"

หลี่หงชมลูกสาวไม่ขาดปาก ตั้งแต่ความคิด การกระทำ ลูกสาวของเขานั้นกล่าวได้ว่ามีความสามารถยิ่งนักบางทีหากเป็นนางอาจมีโอกาสเป็นข้าหลวงได้ แต่ติดตรงที่ว่าเขารับเฉพาะชายชาตรีเพียงเท่านั้น

"รู้แล้วๆ ท่านก็อย่าเอาแต่ชมบุตรสาวจนลืมบุตรชายเสียล่ะ เดี๋ยวพวกเขาจักน้อยใจเอาได้"

หวังลู่ตระเตรียมหมอนมุ้งเสร็จก็ดับไฟพร้อมที่จะเข้านอน สองผัวเมียมอบความรักให้กันและกันหลังจากห่างเหินมานานการได้บ้านใหม่นี่เป็นสิ่งที่ดียิ่งนัก

หลี่หลิวมองตะแคงมองดูสองพี่น้องที่หลับไหลด้วยความเหนื่อยล้า แต่นางกลับคิดไม่ตกนางมาเพียงวันเดียวกับเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้มากมายถึงเพียงนี้นางต้องวางแผนการใช้ชีวิตที่นี่ให้ดีไม่เช่นนั้นความทุกข์ยากอาจมาถึงเข้าสักวัน พอคิดถึงความทุกข์ยากคงหนีไม่พุ้นภัยแล้งตอนนี้เป็นน่าน้ำมีฝนบ้างปะปลายแต่ถ้าเข้าหน้าแล้งเล่า ในยุคสมัยนี้ภัยแล้งชอบมาแบบเงียบๆเสมอ การขุดบ่อน้ำไว้และกักเก็บน้ำเป็นสิ่งที่ควรทำรวมทั้งปลูกผักผลไม้ที่สามารถเก็บไว้ได้นานๆ เหมือนอย่างมันหวาน ใช่แล้ว มันหวานข้าจะปลูกให้มากหน่อยแล้วทำการแปลรูปเป็นแป้งจะได้เก็บไว้ใช้ในยามจำเป็นแถมยังสามารถเอามาทำได้หลายเมนูอีกด้วยหรือจะทำไปขายคงได้ราคาดี ข้าวโพดก็น่าปลูกไว้แต่ที่สำคัญคงเป็นข้าว เอาล่ะทีนี้ก็ค่อยๆเริ่มการขุดบ่อหลังจากท่านพ่อทำรั้วกั้นและประตบ้านเสร็จ ไม่รู้ว่าหลี่หลิวคิดเรื่องอะไรไปบ้างจนคล้อยหลับไป

"หนาวจัง"

หลี่หลิวเอามือคว้านหาผ้าห่มแต่กับไม่พบ พื้นหญ้านี่เย็นจริงๆเลยผ้าห่มข้าไปไหนล่ะเนี่ย

"พื้นหญ้า?"

หลี่หลิวลืมตาตื่นด้วยความตกใจ แล้วพบว่าตนอยู่ในพื้นที่แปลกตา นางลุกขึ้นยืนเต็มตัวแล้วเดินเตร็ดเตร่ไปรอบๆพบว่ามีบ่น้ำตื้นๆเพียงหนึ่งบ่อ มันกว้างใหญ่และสูงพอสมควรนอกจากนี้ก็ไม่มีอะไรอีก

"ที่นี่คือที่ไหนกันล่ะเนี่ย ฉันเดินดูรอบๆแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไร แถมยังมีเหมือนกำแพงใสๆกั้นไว้อีก"

หลี่หลิวเดินลูปคลำหาทางออกจากกำแพงใสแต่ก็ไม่พบ ทำยังไงดีล่ะหรือที่นี่คือที่กักขังดวงวิญญาณของฉันถ้าเป็นแบบนั้นฉันจะต้องอยู่ที่นี่จนกว่าจะได้ไปเกิดใหม่หรือเปล่า แล้วร่างของเด็กน้อยหลี่หลิวนั่นล่ะ บ้าไปแล้ว!!! ใช่ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เสี่ยวเหมยทุบกำแพงอย่างบ้าคลั่งแต่ก็ไม่เป็นผลกำแพงนี่เหมือนน้ำเลยพอทุบมันก็เด้งสู้มือแถมยังเย็นอีกด้วย

"ฉันต้องเจอกับอะไรแบบนี้ด้วยหรือ"

เสี่ยวเหมยนั่งลงน้ำตาอาบแก้มแล้วมองไปที่เงาสะท้อนในกำแพงกั้น เห็นเด็กผู้หญิงนั่งกอดเข่าน้ำตาคลอเบ้าขอบตาแดงก่ำ พอเสี่ยวเหมยขยับภาพสะท้อนก็ขยับตามไปด้วย

"เอ๊ะ!! นี่ฉันยังอยู่ในร่างเด็กคนนั้นนี่"

เสี่ยเหมยปาดน้ำตาแล้วลุกขึ้นเดินสำรวจอีกที หากวินญาณออกจากร่างเด็กคนนั้น ฉันควรอยู่ในรูปลักษณ์เดิมสิ แต่นี่ฉันยังอยู่ในรูปลักษณ์เด็กคนนั้นอยู่เลย เสี่ยวเหมยหมดความอดทนกับการหาทางออกแล้วเทองมหาทางออกมามากกว่าหนึ่งชั่วโมงแต่ยังไม่เจอสักที

"เจ้ากำแพงบ้าปล่อยฉันออกไปนะ"

หลี่หลิวกระวนกระวายใจแล้วนั่งแหมะลงกับพื้น กำหญ้าที่ค่อนข้างนุ่มนิ่มจนถอนมันขึ้นมาอย่างหมดหนทาง นางตะคอกใส่กำแพงใสจนคอสั่นด้วยความโกรธ เมื่อนางพูดจบหลี่หลิวก็ลุกขึ้นยืนเหงื่อแตกด้วยความหวาดกลัว

"เมื่อครู่นี้ข้าฝันหรือสมจริงมากเลย"

หลี่หลิวบ่นพึมพำในความมืด เราเพราะเมื่อครู่นางยังอยู่ในสถานที่แปลกตาและมีแสงแดดอ่อนอยู่เลย

"แล้วถ้าไม่ใช่ฝันข้าเข้าไปในนั้นได้อย่างไร"

พอพูดจบนางก็กลับเข้าไปในกำแพงน้ำนั่นอีกครั้ง

"ข้าไม่ได้ฝันนี่แล้วข้าเข้ามาได้ยังล่ะ"

หลี่หลิวยืนคิดอยู่พักนึงพอจับต้นชนปลายได้ ใช่ต้องเป็นมิติแน่ เมื่อรู้ว่ามันคืออะไรนางจึงเดินไปที่บ่อน้ำที่สูงประมาณอกแล้วลองใช้มือน้อยๆที่เปื้อนเศษหญ้ามาปัดเช็ดออกที่เสื้อ แล้วใช้มือโอบอุ้มน้ำมาดื่มกิน

"หวานจังแถมยังสดชื่นด้วย ดีเลยถ้าภัยแล้งมาถึงอย่างน้อยข้าก็มีบ่อน้ำนี้ที่มีน้ำผุดออกมาเรื่อยๆให้ได้ดื่มกินแล้ว"

หลี่หลิวนังลงพิงบ่อน้ำ หากปลูกพืชผักในนี้ได้คงจะดีไม่น้อย 

"ปล่อยข้าออกไป"

พอนางพูดจบก็ออกมาจากมิติได้ดั่งที่นางคาดการณ์ไว้ หลี่หลิวงมหาที่จุดไฟเมื่อเจอมันวางอยู่มุมห้องจึงดึงฝาปิดออกแล้วค่อยๆเป่าจนเกิดเปลวไฟจากนั้นก็จุดเชิงเทียนที่วางไว้ข้างๆกัน เมื่อห้องมีแสงสว่างแล้วนางเดินไปที่หัวนอนที่วางของใช้ไว้บางส่วนนางค่อยๆคลายปมผ้าที่มัดไว้ออกแล้วนำเมล็ดพันธุ์ออกมากำนึง ก่อนจะเอ่ยว่าพาข้าเข้าไปเบาๆ

"เข้าออกแบบนี้จริงๆสินะ"

หลี่หลิวไม่รอช้าใช้มือเล็กดึงหญ้าออกเพื่อเปิดหน้าดินเล็กน้อยเอาเมล็ดพันผักโรยลงเอามือที่สะอาดวิดน้ำให้กระเดนโดนตรงที่ว่านเมล็ดจนชุ่มจากนั้นก็ค่อยออกไปจากมิติแล้วนอนต่ออย่างอารมณ์ดี

ก็อกแกกๆ

เสียงท่านแม่ลุกขึ้นเข้าครัวแต่เช้ามืด หลี่หลิวลืมตาขึ้นมาแล้วรีบเข้ามิติไปด้วยความใคร่รู้ว่าข้างในนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ นางเห็นเมล็ดพันธุ์ผักกาดขาวงอกออกมาแล้วแถมยังสูงหนึ่งนี้วนางใช้มือน้อยปิดปากร้องอุทานด้วยความดีใจ

"นี่สินะมิติที่ในนิยายเขาล่ำลือกัน สวรรค์ขอบคุณท่านที่พาข้ามาที่นี่ แถมยังให้ของดีกับข้าไว้ใช้อีกด้วย"

หลี่หลิวก้มกราบดินฟ้าอย่างซาบซึ้ง จากนั้นนางแยกต้นอ่อนออกจากกันเพื่อที่จะขุดหลุดปลูกผักให้เรียงสวย พอปลูกเสร็จนางรีบออกจากมิติแล้วแอบออกจากห้องมองซ้ายขวาไม่เห็นใครแล้วหยิบขันน้ำเข้าไปด้านในตักรดน้ำให้ครบยี่สิบต้นจนเสร็จ

"โตเร็วๆนะไว้ตอนเย็นข้าจะเข้ามารดน้ำให้อีกที"

หลี่หลิวบอกลาต้นอ่อนผักกาดขาวแล้วเอาขันไปออกไปเก็บไว้ตามเดิมก่อนจะเดินไปที่ครัวข้างๆบ้านหาท่านแม่

"ท่านแม่"

หลี่หลิวส่งเสียงทักทายมารดา

"เจ้าตื่นแล้ว?"

หวังลู่มองดูบุตรสาวที่ตื่นมาแล้วกระปรี้กระเปร่าแต่เช้า

"เจ้ายิ้มแบบนี้มีอะไรดีๆงั้นรึ"

"ข้าฝันดีเจ้าค่ะ"

"ที่แท้ก็ฝันดี มาๆนั่งตรงนี้มีปลาที่เหลืออยู่เจ้าอยากทำอะไรเป็นพิเศษหรือไม่"

หวังลู่รู้ว่าลูกสาวชอบทำอาหารจึงได้ถามนางก่อนว่านางอยากทำอะไร

"ปลาหรือเจ้าคะ อืมมมแกงข้าก็เบื่อแล้วย่างก็ย่างไปแล้วทอดได้หรือไม่เจ้าคะ"

หลี่หลิวทำท่าทางครุ่นคิดจนผู้เป็นมารดาอดขำไม่ได้จึงยิ้มออกมา ท่าทางของหลี่หลิวตอนนี้เหมือนผู้ใหญ่ในร่างเด็กยังไงยังงั้นแต่กลับทำให้ผู้เป็นแม่เอ็นดูนางมากขึ้น

"เจ้าอยากผัดหรือทอดก็ต้องรอพ่อเจ้าก่อน อีกประเดี๋ยวพ่อของเจ้าจะไปตลาดเช้าเพื่อซื้อข้าวสารและเครื่องปรุง เจ้าอยากจะไปด้วยหรือไม่"

หวังลู่มองบุตรสาวอย่างคาดหวัง เพราะนางเป็นคนคิดเมนูแปลกๆในใจต้องมีของที่อยากได้อย่างแน่นอน

"ข้าอยากไปเจ้าค่ะ"

หลี่หลิวรีบตอบรับคำชวนจากมารดาแล้วไปล้างหน้าล้างตาเตรียมพร้อมรอท่านพ่ออย่างใจจดใจจ่อ ไปตลาดเช้างั้นรึ ดีเหมือนกันจะได้ไปดูว่าที่ตลาดเขาขายอะไรบ้างครั้งหน้าจะได้ทำไปขายด้วยเสียเลย

"เจ้าก็จะไปกับพ่อด้วยงั้นรึ"

หลี่หงเตรียมตระกร้าสานไปด้วยสองสามใบพร้อมทั้งกระสอบป่านเพื่อไปใส่ข้าวสาร เห็นบุตรสาวนั่งรออยู่จึงเดินเอาหมวกสานให้นางใส่แล้วหยิบผ้าห่มที่พาดไว้แขนซ้ายมาคลุมตัวนางไว้ก่อนจะอุ้มนางขึ้นนั่งรถลากที่ทำความสะอาดแล้ว

"ใส่เถอะ อากาศมันเย็นและอาจมีหมอกลงหนักก็เป็นได้เมื่อคืนมีฝนตกปรอยๆด้วยเจ้าต้องคลุมผ้าให้ดี"

"เจ้าค่ะท่านพ่อ"

เมื่อหลี่หงใส่หมวกสานและเสื้อคลุมพร้อมด้วยรองเท้าหนังแล้วจึงออกเดินทาง

"ไปดีมาดีนะ"

ท่านแม่ยืนโบกไม้โบกมือเพื่อส่งข้ากับท่านพ่อ ชีวิตแบบนี้เรียบง่ายเสียจริง เงียบสงบขาดก็แต่พ้องเพื่อนเท่านั้นแต่ไม่เป็นไรยังมีพี่ใหญ่น้องเล็กให้ได้พูดเล่นคลายเหงาอยู่บ้าง รถลากเคลื่อนตัวไปข้างหน้าเลื่อยๆท่านพ่อคอยถามข้าอยู่เป็นพักๆว่าอยากได้อะไรบ้าง วันนี้จะทำอะไรข้าแค่ตอบว่าต้องได้เห็นกับตาก่อนถึงจะรู้ว่าต้องการอะไร ส่วนวันนี้คงจะไปตกปลาหาผักป่ารอท่านพ่อกับพี่ชายที่จะไปตัดไม้ไผ่ ตลอดทางถนนเต็มไปด้วยน้ำขังดีที่ทางเป็นหินขรุขระจึงไม่ทำให้ติดหล่มตามทางท่านพ่อเหนื่อยหอบระหว่างทางจึงล้าช้าไปบ้าง แต่พอมาถึงที่หมายข้าได้เห็นแทบทุกคนวางของขายข้างทางบนรถลากบ้างก็ยกโต๊ะตั้งจัดข้าวของ จะมีก็แค่ร้านค้าที่เปิดบ้านขายของแค่ไม่กี่สิบเจ้าเท่านั้นนอกนั้นเป็นชาวบ้านที่นำของป่ามาขายสมกับเป็นชนบทจริงๆ 

"เราไปซื้อข้าวกันเถอะ"

ท่านพ่อกล่าวแล้วเข็นรถลากไปหน้าร้านขายข้าวสาร ท่านพ่อซื้อข้าวสารมาสามสิบกิโล จากนั้นพาข้าไปเลือกเครื่องปรุง ข้าได้เครื่องปรุงเช่นน้ำปลา ซอลถั่วเหลือง น้ำมัน เกลือ จริงๆแล้วอยากได้น้ำตาลอ้อยด้วยแต่ราคามันแพงมากจึงตัดใจไม่เอา แล้วไปซื้อเมล็ดพันธ์ผักแทน

"พ่อเห็นเจ้ายืนจ้องน้ำตาลอ้อยอยู่นานเหตุใดเจ้าถึงไม่ซื้อมันมาด้วยล่ะ"

เมื่อเดินออกจากร้านขายน้ำตาลอ้อยท่านพ่อถามอย่างสงสัย

"มันแพงเกินไปเจ้าค่ะ ท่านพ่อบอกข้าว่ามีเงินไม่มากข้ากลัวว่ามันจักไม่พอใช้ในภายหลังข้าไม่อยากได้มันแล้วเจ้าค่ะ"

เมื่อได้ฟังคำตอบของบุตรสาวหลี่หงตื้นตันใจที่มีลูกคอยคิดเผื่ออนาคตเช่นนี้ แต่ที่จรงแล้วน้ำตาลอ้อยนั้นพ่อซื้อให้เจ้าได้สบายทว่าบุตรสาวพูดก็ถูกเราควรซื้อแต่สิ่งจำเป็นเท่านั้น นี่ลูกสาวข้ามีความคิดที่โตขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันหรือเพราะเราอยู่อย่างอดอยากมากนานนางจึงกลัวว่าจะกลับไปเป็นแบบนั้นอีก หลี่หงสลัดความคิดในหัวทิ้งไปแล้วช่วยบุตรสาวเลือกเมล็ดพันธ์ผัก

"เจ้าเอาอะไรไปบ้างแล้ว"

เขาเห็นบุตรสาวหยิบนั่นนี่ไปสี่ห้าอย่างจึงถามขึ้น

"ท่านพ่อ ข้าได้เมล็ดข้าวโพด ถั่วเหลือง ถั่วลันเตา มะเขือเทศ พริก ต้นหอม กระเทียม ข้ายังอยากได้ข่าตระไคร้ต้นมะกรูด รวมทั้งฟักทองอีกเจ้าค่ะ"

"ที่ว่ามาไปร้านฝั่งนั้นน่าจะมีต้นแก่ของมันที่ปลูกได้ร้านข้าเล็กมีเพียงสิบอย่างเท่านั้น แม่นางน้อยต้องการมากหรือไม่" 

เฒ่าแก่เจ้าของร้านเมื่อได้ยินว่าเด็กน้อยอยากซื้อหลายอย่างในร้านตน จึงยิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดี

"ท่านพ่อข้าต้องการเมล็ดพันธ์ข้าวโพด ถั่วเหลือง ถั่วลันเตา กระเทียม ต้นหอมอย่างล่ะครึ่งโล และพริกมะเขือเทศอย่างล่ะร้อยเม็ดได้หรือไม่เจ้าคะ"

หลี่หลิวหันมองผู้เป็นพ่ออย่างคาดหวัง หากได้เมล็ดพันธ์เหล่านี้นางจะแบ่งไปปลูกในมิติของนางด้วย

"เฒ่าแก่ทั้งหมดมันราคาเท่าไหร่หรือขอรับ"

"ถ้าที่แม่นางน้อยบอกมาล่ะก็ข้าคิดราคากันเองเก้าอีแปะก็แล้วกัน ข้าลดให้มากกว่านี้ไม่ได้แล้วนะ ของบางอย่างนำเข้ามาจากประเทศอื่นเชียวนะ"

เฒ่าแก่ตอบไปด้วยรอยยิ้ม แน่หน่ะสิเขาต้องได้กำไรอยู่แล้วมิเช่นนั้นจะนำมาขายทำไมกันแต่ถ้าข้าปลูกแล้าเอามาขายล่ะก็กำไรมากโขทีเดียวเพราะนางเห็นแต่คนขายแค่เมล็ดพันธุ์แต่กลับไม่มีคนขายของพวกนี้เท่าไหร่นัก หลี่หงมองหน้าบุตรสาวอยากถามความเห็นหลี่หลิวพยักหน้าตอบรับเขาจึงตกลงซื้อทั้งที่ราคาแสนจะแพงกว่าข้าวเสียอีก ไม่ใช่ว่านางอยากช่วยข้าประหยัดเงินหรอกรึ มือที่ถือเงินอีแปะสั่นเล็กน้อย ไม่คิดว่าราคาของที่ลูกสาวอยากได้มันจะแพงเช่นนี้

"ท่านพ่อเราไปร้านนั้นกัน"

เมื่อได้เมล็ดพันธ์มาแล้วนางชี้ไปฝั่งตรงข้ามที่เฒ่าแก่บอกให้ไปดู หลี่หงถึงกับปาดเหงื่อเลยทีเดียวแต่เมื่อลูกสาวต้องการเขาจึงต้องตามใจนางเพื่อวัดดวงสักครา

"ข้าเอาอันนี้ อันนี้ อันนี้อันนี้ด้วยแล้วก็อันนี้อีก" 

หลี่หลิวเห็นเมล็ดฟักทอง แตงโม แตงกวา ต้นมะกรูด รวมทั้งพวกขิง ข่า ตระไคร้ นางจึงเอามาพอสมควร ท่านพ่อแทบลมจับเกิดมาไม่เคยใช้เงินมากถึงเพียงนี้มาก่อน เจ้าของร้านห่อเมล็ดต่างต่างใส่ห่อกระดาษให้มัดด้วยเชือกเสร็จก็ส่งให้แม่นางน้อยด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร แถมยังบอกวิธีปลูกว่าปลูกเช่นไรมันถึงจะรอด เมื่อหลี่หงรู้ว่าเมล็ดพันธ์ที่นางซื้อมาอาจงอกหรือไม่งอกก็ได้เขาแทบเข่าทรุด ได้แต่ยืนฝืนยิ้มแห้งๆข้างๆบุตรสาวส่วนเจ้าตัวได้ของที่ต้องการก็ยิ้มกริ่ม จากนั้นหลี่หลิวเลือกตุ่มน้ำขนาดกลางมาสามสี่ตุ่มแล้วให้คนงานช่วยยกขึ้นรถลาก จากนั้นดูพวกหม้อกระทะตะหลิวขันน้ำจนของแทบจะเต็มรถลากจึงบอกท่านพ่อว่าข้าพอแล้ว เมื่อได้ยินคำนั้นหลี่หงเหมือนได้ยินเสียงสวรรค์เขาแทบรีบอุ้มบุตรสาวขึ้นรถลากแล้วรีบเข็นออกไปด้วยความเร่งรีบ หลี่หลิวมองดูไหน้ำปลา ซอสถั่วเหลืองและน้ำมันที่วางเรียงกันโดยมีฟางข้าวมัดคล้องกันกระแทกด้วยแววตาเปี่ยมสุข แตกต่างจากท่านพ่อของนางที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกพาบุตรสาวมาตลากเช้าครั้งแรกเขาหมดไปมากกว่าห้าสิบอีแปะ นี่เขาสามารถใช้เงินจำนวนนี้ได้ตลอดทั้งปีก็ว่าได้คราวหน้าต้องไม่พานางมาด้วยอีกเป็นแน่เข็ดหลาบแล้วจริงๆ

เลือกตอน
1 1 ที่นี่มันที่ไหนกันเนี่ย!
2 2 แกงเห็ดโคลน
3 3 บ้านใหม่
4 4 เจ้าคือตัวนำโชค 1
5 5 เจ้าคือตัวนำโชค2
6 6 การค้าแบบใหม่
7 7 พรุ่งนี้ไม่ขาย
8 8 เจ้าบอกพี่ได้ไหม
9 9 พวกอกตัญญู
10 10 ข้าสบายใจแบบนี้มากกว่า
11 11 พี่ชายกางปีก
12 12 พวกเจ้าอย่าสร้างปัญหา
13 13 รูปลักษณ์ภายนอก
14 14 ถึงเสียที
15 15 อาหารถูกปาก
16 16 ใช้ไม่ได้
17 17 ปลูกผัก
18 18 เปิดร้าน
19 19 ท่านชอบข้ารึ
20 20 ขบวนรถลาก
21 21 ปฏิเสธ
22 22 ซอสหอยนางรม1
23 23 ซอสหอยนางรม2
24 24 ซอสหอยนางรม3
25 25 ซอสหอยนางรม4
26 26 ซอสหอยนางรม5
27 27 การวางแผนของหลี่หลิว
28 28 วานหาคน
29 29 บ่อปูน
30 30 เก็บหอยหลอดสนุกเพียงนี้เชียว
31 31 ถูกใจ
32 32 ตัดสินใจ
33 33 เตรียมพร้อม
34 34 ขึ้นเขา
35 35 ออกเดินทาง
36 36 ทำข้อตกลง
37 37 เปิดใจ
38 38 ไปกันเถอะ
39 39 ลงตัว
40 40 แต่งงานกันเถอะ
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 40

1
1 ที่นี่มันที่ไหนกันเนี่ย!
2
2 แกงเห็ดโคลน
3
3 บ้านใหม่
4
4 เจ้าคือตัวนำโชค 1
5
5 เจ้าคือตัวนำโชค2
6
6 การค้าแบบใหม่
7
7 พรุ่งนี้ไม่ขาย
8
8 เจ้าบอกพี่ได้ไหม
9
9 พวกอกตัญญู
10
10 ข้าสบายใจแบบนี้มากกว่า
11
11 พี่ชายกางปีก
12
12 พวกเจ้าอย่าสร้างปัญหา
13
13 รูปลักษณ์ภายนอก
14
14 ถึงเสียที
15
15 อาหารถูกปาก
16
16 ใช้ไม่ได้
17
17 ปลูกผัก
18
18 เปิดร้าน
19
19 ท่านชอบข้ารึ
20
20 ขบวนรถลาก
21
21 ปฏิเสธ
22
22 ซอสหอยนางรม1
23
23 ซอสหอยนางรม2
24
24 ซอสหอยนางรม3
25
25 ซอสหอยนางรม4
26
26 ซอสหอยนางรม5
27
27 การวางแผนของหลี่หลิว
28
28 วานหาคน
29
29 บ่อปูน
30
30 เก็บหอยหลอดสนุกเพียงนี้เชียว
31
31 ถูกใจ
32
32 ตัดสินใจ
33
33 เตรียมพร้อม
34
34 ขึ้นเขา
35
35 ออกเดินทาง
36
36 ทำข้อตกลง
37
37 เปิดใจ
38
38 ไปกันเถอะ
39
39 ลงตัว
40
40 แต่งงานกันเถอะ

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!