3 บ้านใหม่

พระอาทิตย์เริ่มส่งแสงนางหลี่กลับจากบ้านข้างๆมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเพราะเพื่อนบ้านบอกจะยกหมูให้นางหนึ่งตัวจนนางยิ้มไม่หุบ หลี่หวนเห็นเช่นนั้นใจก็ไม่เป็นสุขนัก หากนางรู้ว่าครอบครัวสองย้ายออกไปแล้วนางคงบ่นสามวันเจ็ดวันที่ขาดคนคอยช่วยงานในบ้านและไร่นาไป

"ภรรยาตัวดีของเจ้าสองทำกับข้าวกับปลาเสร็จหรือยังตะวันเริ่มขึ้นแล้วนะทำไมวันนี้ถึงดูเงียบจัง"

เมื่อกับถึงบ้านนางหลี่ไช่หัวก็บ่นให้สะใภ้รองไม่ขาดคำตาเฒ่าหลี่หวนได้แต่แอบส่ายหน้าเบาๆ แต่ก็ไม่พูดอะไรมาก

"ไม่อยู่แล้ว"

"อะไรคือไม่อยู่แล้ว พวกเขาออกไปทำไร่แต่ไม่ยอมทำกับข้าวกับปลาไว้ให้ข้างั้นหรือ ดีเลยไว้กลับมาข้าจะต้องสั่งสอนนางเสียหน่อยแล้ว"

กล้าดีอย่างไรถึงกับทิ้งหน้าที่ที่ควรทำก่อนเป็นอันดับแรกไปเช่นนี้ วันนี้ข้าต้องหาคนมาทำครัวแทนเสียแล้วใช่แล้วสะใภ้ใหญ่ก็ทำได้นิ ถึงรสมือของนางจะไม่ดีเท่าเมียเจ้าสองแต่ก็ถือว่ายังกินได้ เรื่องอะไรข้าต้องไปทำกับข้าวกับปลาพวกนี้ด้วยตนเองเล่า

"พวกเขาย้ายออกไปแล้ว"

"ท่านว่ากะไรนะ!!! ย้ายออกไปแล้วงั้นหรือ!"

"ใช่ ย้ายออกไปตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางแล้ว"

"พวกมันกล้าดีอย่างไรถึงได้ไปไม่ลา มาไม่ไหว้เช่นนี้ หน๊อยยย!!! นี่ข้าเลี้ยงดูเสียข้าวปลาไปตั้งมากคิดจะไปก็ไปเช่นนี้มันยังเห็นหัวขาวหัวหงอกอย่างข้าอยู่หรือไม่"

"เจ้าสามมาขอข้าแล้ว ข้าก็รับปากไปแล้วเจ้าหยุดพูดเถอะ มีอะไรก็ไปทำเสีย"

หลี่หวนที่อ่านหนังสืออยู่แสร้งทำหน้าเข้มขึง เหล่ตามองภรรยาที่บ่นไม่หยุดจึงบอกให้นางไปทำหน้าที่ที่สมควรทำ หลี่ไช่หัวได้ยินเช่นนั้นก็ยิ่งโมโหโกธาเดินออกจากห้องนอนไปแล้วปลุกสะใภ้ใหญ่ให้ลุกทำงานบ้าน

ตึง ตึง ตึง 

"ท่านแม่ นี่ยังเช้าอยู่เลยนะเจ้าคะ"

หลี่เหลียนที่ตกใจเพราะเสียงเคาะประตูต้องลุกขึ้นมาเปิดพร้อมขยี้ตาอย่างงัวเงีย

"เช้ากะไรกัน!! ตะวันขึ้นโด่งแล้วรีบไปล้างหน้าทำครัวเสีย"

เจ้าใหญ่นี่ได้ภรรยาดีมีสินสมรสมากสุด ตอนแต่งเข้ามานางก็หอบทรัพย์สินมามากพอควรแต่ตอนนี้นางเป็นสะใภ้ที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวในบ้านของข้าแล้ว เช่นนั้นงานบ้าบงานช่องคงต้องตกเป็นของนาง

"ทำครัวหรือเจ้าคะ"

หลี่เหลียนถึงกับอุทานออกมา เรื่องงานบ้านงานเรือนต้องเป็นหน้าที่ของสะใภ้สองมิใช่หรือมิใช่ว่าท่านแม่เลอะเลือนไปแล้วหรือกะไร

"ก็ใช่น่ะสิ หรือจะให้คนแก่ๆอย่างข้าเข้าครัวทำให้พวกเจ้ากินหรือยังไง"

นางหลี่ที่อารมณ์ไม่ดีมาก่อนหน้าถึงกับตะคอกเสียงดังจนหลี่โจวตื่นขึ้นมาพร้อมกับบุตรชาย

"ท่านแม่ เอะอะกะไรแต่เช้ารึขอรับ"

"เช้าหรือเจ้าไม่แหกตาดูหน่อยหรือ ตะวันแยงตาแล้วเมียเจ้ายังไม่รีบไปทำครัวอีก"

"ทำครัวหรือขอรับ"

หลี่โจวที่ได้ยินเช่นนั้นก็งงงวยเพราะนั่นเป็นหน้าที่ของสะใภ้สองที่ทำเป็นประจำอยู่ทุกวัน แล้วเหตุใดท่านแม่ถึงได้มาบอกให้ภรรยาข้าไปทำเช่นนี้ด้วย

"นั่นมิใช่หน้าที่ของภรรยาน้องรองทำหรือขอรับ เหตุใดยังต้องให้ภรรยาข้าไปทำอีกเล่า มันจะไม่ขวางทางการทำงานของสะใภ้รองหรือขอรับ ภรรยาข้ายิ่งค่อยข้างทำงานได้ล่าช้าอยู่ด้วย"

หลี่โจวลุกขึ้นจากที่นอนในห้องใหญ่ที่เป็นสองรองจากห้องของท่านพ่อกล่าวอย่างสงสัย ภรรยาข้าไม่ชินกับงานครัวทำงานได้ชักช้าไม่ทันใจจึงถูกภรรยาน้องรองไล่ออกจากครัวครั้งนึง จากนั้นมานางก็ทำงานครัวเพียงลำพัง

"คนไม่อยู่แล้ว ทีนี้เจ้าจะไปทำได้หรือยัง"

"ไม่อยู่แล้วหรือ?"

หลี่โจวคิ้วขมวดด้วยความมึนงง หรือสะใภ้สองไปทำงานไร่กับน้องรองแต่เช้ามืดแล้วลืมทำงานครัวคงจักเป็นเช่นนั้น

"พวกเจ้าสองย้ายออกไปแล้ว จะเหลือก็แต่พวกเจ้าหรือพวกเจ้าจะให้แม่ชราหัวหงอกทำให้คนหัวดำกินหรือกะไร"

หลี่ไซ่หัวพูดจบก็เดินหน้ามุ่ยออกจากบ้านไปพร้อมยังตะโกนบอกให้สะใภ้ใหญ่ทำครัวเสร็จแล้วให้ไปให้อาหารสัตว์ด้วยส่วนตัวนางต้องเดินจ้ำเอาๆ ไปทางบ้านนางหวังเพื่อจ้างวานให้พวกเขาไปทำงานไร่นาให้ นางต้องกรีดเลือดเฉือนเนื้อตนเองออกมาใช้จ่ายมีหรือที่นางจะต้องเก็บความปวดใจไว้เพียงลำพัง หากได้ระบายมันนางถึงจะสบายใจขึ้นมาบ้าง

"ท่านพี่ ครอบครัวสองย้ายออกไปแล้ว ต่อไปงานทุกอย่างต้องเป็นข้าทำใช่หรือไม่"

ภรรยาของหลี่โจวโอดครวญ นางไม่ได้ทำงานหนักมานานแล้วนางอยู่สบายกินอิ่มมานานแต่มาบัดนี้งานทั้งหมดต้องตกมาที่นาง แล้วแบบนี้ชีวิตอันเรียบง่ายของนางจะต้องวุ่นวายอีกเพียงใด

"เจ้ารีบไปเข้าครัวทำงานบ้านเถิด อย่างไรเสียเจ้าก็เป็นสะใภ้จักให้ท่านแม่ทำก็กะไรอยู่ อีกไม่นานพอข้าสอบได้เจ้าก็จะสบายแล้วอดทนหน่อยนะเมียข้า"

หลี่โจวให้กำลังใจภรรยาจนนางเข้าใจและยอมทำงานบ้านแต่โดยดี พอครอบครัวสองไม่อยู่งานทั้งหมดคงตกมาที่ภรรยาข้า แต่ข้าก็ต้องอ่านหนังสือมิอาจไปช่วยนางได้ เรื่องงานไร่งานสวนก็ยิ่งแล้วกันไปใหญ่ ท่านแม่คงมิให้ข้าไปจัดการหรอกกระมังเพราะท่านคาดหวังไว้กับข้าสูงมาก ท่านคงไปจ้างวานให้คนอื่นมาทำแทนเป็นแน่

"หืมมม เกิดอะไรขึ้น ทำไมข้าถึงมาอยู่บนรถลากเช่นนี้ล่ะท่านพี่"

หลี่เฉินตื่นขึ้นเพราะรถลากเจอหลุมขรุขระระหว่างทางทำให้เขาตื่นขึ้นมาและพบว่าตนอยู่บนรถลากที่ท่านพ่อและพี่ชายสามกำลังเข็นไปข้างหน้าเรื่อยๆ และยิ่งกว่านั้นเส้นทางที่ไปกับไม่คุ้นตาเลย

"น้องเล็กเราจะมีบ้านเป็นของตัวเองแล้ว เจ้าดีใจหรือไม่"

หลี่หลิวเห็นน้องชายตื่นมาขยี้ตารัวๆด้วยความสงสัยนางจึงตอบไปว่าจะไปอยู่บ้านใหม่

"เรามีบ้านเป็นของตัวเองด้วยหรือขอรับ"

"ใช่สิ"

หลี่หงบอกบุตรชายที่พึ่งตื่นด้วยรอยยิ้มจางๆ ถึงบนใบหน้าจะมีเหงื่อไหลลินออกมาเพราะผ่านการเข็นรถลากมานานมากแล้วจึงเกิดความเหนื่อยล้า

"ท่านพ่อเรากำลังจะไปบ้านใหม่หรือขอรับ"

"มันก็ไม่เชิงว่าเป็นบ้านใหม่หรอก แต่เป็นกระท่อมหน่ะ"

"กระท่อมหรือขอรับ"

หลี่จงพี่ใหญ่มองหน้าท่านพ่ออย่างสงสัยที่แท้เราจะต้องไปอยู่กระท่อม ข้าก็ว่าแล้วเชียวท่านพ่อจะเอาอีแปะจากที่ไหนสร้างบ้านได้เล่า เงินแม้แต่สตางค์แดงเดียวท่านพ่อก็ยกให้ท่านย่าไปเสียหมด

"มันอาจจะลำบากบากหน่อยพ่อเชื่อว่าพวกเจ้าจะปรับตัวได้ในไม่ช้า"

หลี่หงหันไปมองบุตรชายที่ช่วยเข็นรถลากและภรรยาที่เดินข้างกายด้วยรอยยิ้มเอาใจใส่ การเริ่มใหม่อาจจะต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์แต่ข้าเชื่อว่ามันจะต้องดีกว่าเดิมในสักวัน ขอบคุณท่านพ่อที่เมตตาและยกที่แปลงนี้ให้ข้าได้ลืมตาอ้าปาก

"ท่านพ่อไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ ข้าอยู่ที่ไหนก็ได้ขอแค่ได้กินอิ่มท้องเป็นพอ"

หลี่หลิวตอบด้วยใบหน้ายิ้มล่ะลื่นชวนครอบครัวคุยอย่างสนุกสนาน ตลอดทางจะมีเสียงหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข เมื่อไปถึงกระท่อมปลายนาทุกคนถึงกับอ้าปากค้างนี่มันไม่ใช่กระท่อมแล้วเรียกว่าบ้านเลยก็ว่าได้ ถึงจะหลังไม่ใหญ่นักแต่ครอบครัวสองสามารถอยู่ได้อย่างสบายเลยล่ะ กระท่อมที่สร้างจากไม้หลังคามุงด้วยไม้ไผ่และหญ้าคาและยังมีชายคายื่นออกมาทำเป็นครัวขนาดใหญ่ มีโต๊ะไม้ไผ่สามารถนั่งทานอาหารได้พอดีกับห้าคน ลานบ้านค่อยข้างกว้างถึงจะมีหญ้าขึ้นดูลกลุงลังแต่ถ้าทำดีๆนี่แหละบ้านอันแสนสงบ

"ท่านพ่อ ไหนท่านบอกว่ากระท่อมไงขอรับ ดูข้างในนี้สิมีสองห้องนอนและมีห้องโถงอีกด้วย ห้องนึงกว้างพอๆกับห้องนอนเราเลยหรือบางทีมันอาจจะกว้างกว่าเสียด้วยซ้ำ"

หลี่เฉินลงจากรถลากก่อนใครและวิ่งสำรวจบ้านอย่างตื่นเต้นพร้อมอธิบายภายในบ้านให้ท่านพ่อที่ยังไปไม่ถึงได้ฟัง

"ท่านพี่"

หวังลู่มองหน้าสามีอย่างปิติยินดี ท่านพ่อได้มอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้ครอบครัวของเราแล้วทีแรกคิดว่าการได้มาอยู่กระท่อมโทรมๆคงไม่แย่นัก ทว่าท่านพ่อกับทำกระท่อมที่เป็นบ้านหนึ่งหลังไว้ให้เราท่านช่างเมตตาพวกเรามากมายจริงๆ

"มาเก็บของกันก่อนเถอะ"

หลี่หงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก่อนจะบอกให้บุตรชายคนโตมาช่วยตนและภรรยาขนของลงจากรถลากสี่ล้อขนาดใหญ่ที่มีของใช้เสื้อผ้าที่นอนหมอนมุ้งรวมทั้งถ้วยชามลามกอนที่เอามาจากครัวเล็กทั้งหมด สักพักก็มีคู่สามีภรรยามาที่กระท่อม จึงได้บอกกล่าวเรื่องราวเมื่อคู่สามีภรรยาที่เช่าอยู่ทราบเรื่องจึงบอกลาครอบครัวสองและไปทำไร่ในที่ของตนข้างๆกับแปลงของหลี่หงไม่ไกลนัก

"ท่านแม่ข้าหิวแล้ว"

หลี่เฉินที่วิ่งเล่นไปทั่วในแปลงมันสองแปลงเล็กๆกับหลี่หลิวพากันเดินกับมาพร้อมกับหอบหัวมันหวานมาเต็มทั้งสองมือแล้วยิ้มตาหยี่อย่างภูมิใจ

"ท่านแม่เราย่างมันหวานกันนะเจ้าคะ"

หลี่หลิวพาน้องชายนำมันไปล้างที่ลำธารที่เป็นคลองเล็กๆไหลผ่านข้างทางแล้วพากันก่อกองไฟเผามันจนใบหน้ามอมแมม เมื่อพี่ชายคนโตเห็นเข้าก็หัวเราะชอบใจแล้วบอกท่านพ่อท่านแม่ดูผลงานการเผามันที่หน้าดำเต็มไปด้วยขี้เถ้า ทุกคนมีความสุขและทานมันหวานด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

"ท่านพ่อข้าอยากปลูกผักเลี้ยงปลาเจ้าค่ะ ด้านหน้ากระท่อมมีพื้นที่ว่างอยู่มากข้าเอาเมล็ดผักติดมือมาด้วย ข้างๆบ้านมีบ่อน้ำแสดงว่าดินที่นี่อุ้มน้ำเราขุดบ่อเลี้ยงปลาไว้กินได้ด้วยนะเจ้าคะ"

หลี่หงเห็นความกระตือรือร้นจากบุตรสาวจึงตอบตกลง แต่ก่อนอื่นต้องไปหาไม้ไผ่มาทำรั้วบ้านก่อนถึงที่นี่ดูจะปลอดภัยแต่การมีรั้วบ้านนั้นจะทำให้สบายใจมากกว่า

"ท่านพ่อท่านจะไปตีนเขาตัดไม้ไผ่หรือเจ้าคะ ข้าขอไปด้วยได้หรือไม่ข้าจะไปเก็บเกาลัดมาเก็บไว้เป็นกินเป็นของว่างเจ้าค่ะ"

หลี่หลิวยิ้มแก้มปริเมื่อท่านพ่ออนุญาตให้ไปด้วย ถึงเจ้าเล็กอยากไปด้วยทว่าได้หลี่หลิวทักท้วงไว้

"หากเจ้าก็มาด้วยแล้วท่านแม่จะอยู่กับใคร มีแต่เจ้าแล้วที่เป็นชายชาตรีคอยดูแลท่านแม่ได้"

เมื่อได้ยินเช่นนั้นด้วยความเป็นลูกผู้ชายเขาจึงยื่นอกรับหน้าที่คอยปกป้องผู้เป็นมารดา เมื่อหลี่หลิวหลี่จงถึงตีนเขาก็พากันไปดื่มน้ำที่ลำธาร ส่วนบิดาไปตัดต้นไผ่ หลี่หลิวและหลี่จงจึงพากันขึ้นเชิงเขาไปเก็บเกาลัดเมื่อได้มามากกว่าห้าโลจึงพากับกลับลงมา หลี่จงช่วยหลี่หงตัดไม้ไผ่จนล้นรถลากจากนั้นใช้เถาวัลย์มัดให้แน่นเพื่อไม่ให้มันล่วงระหว่างทาง ส่วนหลี่หลิวที่พกเสียมมาด้วยเดินออกมาจากป่าไผ่มาเรียกท่านพ่อไปช่วยเก็บหน่อไม้ที่นางหาไว้จำนวนนึง

"นี่เจ้าจะเอาไผ่ไปปลูกหรือแต่แบบนี้มันปลูกไม่ขึ้นหรอกนะ"

หลี่หงมองบุตรสาวอย่างสงสัยนางใช้เวลาที่ข้าและหลี่จงตัดไม้ไผ่มาหาต้นอ่อนของไผ่มาพอควร แต่ก็ใช่ว่าจะมีน้อยเพราะคนส่วนใหญ่ไม่มีใครเอาต้นไผ่เล็กนี่กัน ต้องใช้ใช่ลำใหญ่แข็งแรงเพื่อที่จะเอาไปทำรั้วหรือสานเป็นตระกร้าส่วนต้นอ่อนก็ปล่อยให้มันได้เติบโต

"ฮ่าๆๆ ท่านพ่อนี่ก็ตลกนะเจ้าคะ มันจักปลูกได้เช่นไรรากมันก็ไม่มีเสียด้วยซ้ำ"

หลี่หลิวหัวเราะในมุกตลกของหลี่หงจนท้องแข็ง ทำไมข้าต้องเส้นตื้นด้วยนะมุกไม่ฮาแต่ขำกลิ้งถึงได้เพียงนี้

"แล้วเจ้าจะเอาไปทำอันใดเล่า"

พี่ใหญ่ที่เห็นน้องร้องหัวเราะจนเหนื่อยหอบ จึงถามขึ้นพร้อมเอามือลูบหลังให้น้องรองใจเย็นลงหน่อย ตั้งแต่ที่นางหายป่วยก็ชอบหยิบจับสิงแปลกๆมาเสมอ สิ่งที่ทุกคนมองข้ามกันนางก็เอามาทำอาหารแถมมันยังกินได้และอร่อยด้วย ไม่ว่าน้องรองจะทำอันใดข้าผู้เป็นพี่คงทำได้แค่สนับสนุนเจ้าต่อไป

"ได้ๆ ข้าจะบอกให้นะ นี่หน่ะคือหน่อไม้ของดีๆ"

"ต้นอ่อนของไผ่เจ้าเรียกว่ากะไร หน่อไม้งั้นหรือ"

หลี่หงผู้เป็นพ่อฟังที่บุตรสาวพูดออกมาแล้วก็เกิดความสงสัย มีใครเคยบอกนางเข่นนั้นงั้นรึ แต่ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามันเป็นของดีอะไรเลยนักหรอกนะ

"โถ่ ท่านพ่อ นี่เป็นสุดยอดอาหารเช่นกันก่อนหน้านี้มันยังไม่โผล่พ้นดินข้าก็เลยไม่ทันสังเกตเห็น แต่ตอนนี้มันโผล่ออกมามากข้าเลยต้องมาเก็บเกี่ยวมัน พวกท่านช่วยข้าเก็บมันหน่อยข้าพึ่งได้แค่เจ็ดแปดหน่อเอง"

หลี่หงมองหน้าหลี่จงบุตรชายแล้วจึงพยักหน้าหากนางว่ากินได้คงกินได้จริง ก่อนหน้านี้บุตรสาวยังเก็บลูกหนามไปมากมายและเอามาให้ครอบครัวได้กิน ของที่คนอื่นมองไม่เห็นค่าใช่ว่าจะไม่มีประโยชน์ บางทีมันก็อาจกินได้จริงๆก็เป็นได้

"นี่ก็มากมายแล้วนะทั้งเห็ดโคนสามกลุ่มที่เจอตอนหาหน่อไม้ของเจ้า อีกทั้งหน่อไม้มากกว่าสามสิบหน่อ เรากลับกันเถอะหากนานกว่านี้ท่านแม่ของเจ้าจะเป็นกังวล"

เมื่อมองดูเวลาพระอาทิตย์ก็ขึ้นเหนือศีรษะเสียแล้วหลี่หงจึงถามบุตรสาวว่ามันเพียงแล้วหรือยัง หากกลับไปช้าก็กลัวเมียจะเป็นห่วงเอาได้

"ยังหรอกเจ้าค่ะ ดูนี่สิเจ้าคะข้าได้ไส้เดือนมาด้วย"

ใส้เดือนที่นางขุดได้มาดิ้นทุรนทุรายเพราะถูกสับด้วยเสียม นางขุดพวกมันมาทำไมกันหลี่หงมองไม่ออกเลยว่าบุตรสาวต้องการทำอะไรกันแน่

"ท่านพ่อตัดไม้ไผ่ลำเล็กนี่ให้ข้าสักสองอันหน่อยเจ้าค่ะ"

หลี่หลิวเขย่าแขนผู้เป็นพ่อเบาๆแล้วบอกให้ผู้เป็นพ่อทำเบ็ดตกปลาตามที่นางบอก เมื่อได้ไม้ไผ่ยาวสองเมตรมาสองอันที่ขนาดเท่านิ้วนางก็เอาเข็มที่นำมาจากบ้านท่านย่าสองอันออกมาแล้วร้อยด้วยด้ายเย็บผ้าที่ยาวหนึ่งเมตรครึ่งที่ทับกันสองเส้นเพราะกลัวดายจะเปาะเกินไป จากนั้นงอเข็มให้โค้งสุดท้ายใส่ใส้เดือนติดกับเข็มทั้งสองอันเป็นอันมัดกับไม้ไผ่ก็เสร็จสิ้น จากนั้นย่อนใส้เดือนที่ดิ้นไปมาลงในน้ำ ฝูงปลาน้อยใหญ่เห็นของกินที่ชอบก็แย่งกันงับหลี่หลิวบอกพี่ใหญ่และท่านพ่อคอยจังหว่ะให้ปลากินเหยื่อแล้วรีบดึงคันเบ็ดขึ้นโดยเร็ว สองพ่อลูกเมื่อเห็นว่าทำเช่นนี้ก็ได้ปลาแล้วจึงสนุกกับการตกปลาอยู่พักใหญ่จนได้ปลามาสิบกว่าตัวจึงได้พากันร้อยปลาโดยใช้เถาวัลย์ร้อยตรงเงือกปลาทะลุออกทางปากทำเป็นสองพวงมัดรวมกันแล้วไว้วางบนรถลาก ได้ทั้งปลาเห็ดหน่อไม้และเกาลัดเจ้าเล็กที่กินจุได้อิ่มท้องสมใจอย่างแน่นอน หลี่หงมองบุตรสาวที่ฉลาดเฉลียวรู้จักคิดประดิษฐ์สร้างสันสิ่งแปลกใหม่ให้เขาได้เปิดหูเปิดตาอย่างประหลาดใจ ลูกสาวข้าเก่งกาจขนาดนี้ตั้งแต่ยังเล็กภายภาคหน้าต้องได้ดิบได้ดีเป็นแน่ พ่อคนนี้จะสนับสนุนเจ้าเอง หลี่หงยิ้มแก้มแทบปริจนเห็นฟันครบสามสิบสองซี่ และเอ่ยชมบุตรสาวและบุตรชายไม่ขาดปากในขณะที่ลากรถลาก โดยมีเด็กสาวเดินตามพรางเล่นเด็ดดอกไม้ดอกหญ้าทำมุงกุฎไปตามทาง

"นี่ก็เลยเที่ยงวันมาแล้วเหตุใดพวกพี่ๆของเจ้ากับพ่อของเจ้ายังไม่กลับมาอีกเล่า"

หวังลู่ที่ยังไม่เปลี่ยนนามสกุลตามสามีเอ่ยปากขึ้นอย่างร้อนรน ได้ข่าวว่าบนเขามีสัตว์น้อยใหญ่อยู่มากมายคงไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอกนะ ยิ่งคิดนางยิ่งหวั่นวิตก

"นั่นไงๆ ท่านแม่ใช่รถลากท่านพ่อหรือไม่ มีไม้ไผ่เต็มรถเลยขอรับ"

"ไหนดูซิ ใช่แล้วๆนั่นคือท่านพ่อและพี่ๆของเจ้า ปลอดภัยก็ดีแล้ว ปลอดภัยก็ดี"

เมื่อเห็นสามพ่อลูกกลับมาอย่างปลอดภัยนางก็โล่งอกคลายกังวน

"ท่านพ่อ!! ทางนี้ขอรับ ทางนี้"

หลี่เฉินที่ช่วยท่านแม่ถางหญ้าที่รกและหนาทึบออกจนโล่งกว้างโบกมือกระโดดไปมาเหมืนลิงค้าง

"ดูน้องเล็กเจ้าสิดีใจอย่างกับรู้ว่าจะได้กินของอร่อยฮ่าๆๆ"

หลี่หงภูมิใจที่สามารถทำให้ครอบครัวได้อิ่มท้อง พวกเด็กๆจะไม่ต้องทนหิวอีกต่อไป พอคิดถึงอาหารการกินพรุ่งนี้ต้องไปซื้อข้าวสารของใช้มาเพิ่มเสียแล้ว ตอนออกมาจากบ้านใหญ่ข้าวสักเม็ดเขาก็มิกล้าที่จะนำติดไม้ติดมือมาด้วย ได้นำมาแค่ของในครัวเล็กที่ท่านพ่อยกให้เท่านั้น

"ท่านพ่อให้ข้าช่วยทำอาหารนะเจ้าคะ ข้าทำอร่อยนะฮิฮิ"

คราก่อนข้าโชว์ฝีมือไปหวังว่าท่านพ่อจะให้ข้าได้ทำมัน เพราะดูท่าแล้วท่านแม่คงทำเมนูที่ข้าอยากกินไม่เป็นอย่างแน่นอน

"ได้ๆ พ่อรู้แล้วเจ้าทำออกมาได้ดีทีเดียว"

หลี่จงหัวเราะเสียงดัง แน่นอนว่าอาหารที่น้องสาวของเขาทำนั้นถูกปากถูกใจเขาเป็นอย่างมากอร่อยกว่าท่านแม่ทำเสียอีก ดีจริงๆที่รสมือของน้องสาววัยหกขวบอร่อยได้เพียงนี้

เลือกตอน
1 1 ที่นี่มันที่ไหนกันเนี่ย!
2 2 แกงเห็ดโคลน
3 3 บ้านใหม่
4 4 เจ้าคือตัวนำโชค 1
5 5 เจ้าคือตัวนำโชค2
6 6 การค้าแบบใหม่
7 7 พรุ่งนี้ไม่ขาย
8 8 เจ้าบอกพี่ได้ไหม
9 9 พวกอกตัญญู
10 10 ข้าสบายใจแบบนี้มากกว่า
11 11 พี่ชายกางปีก
12 12 พวกเจ้าอย่าสร้างปัญหา
13 13 รูปลักษณ์ภายนอก
14 14 ถึงเสียที
15 15 อาหารถูกปาก
16 16 ใช้ไม่ได้
17 17 ปลูกผัก
18 18 เปิดร้าน
19 19 ท่านชอบข้ารึ
20 20 ขบวนรถลาก
21 21 ปฏิเสธ
22 22 ซอสหอยนางรม1
23 23 ซอสหอยนางรม2
24 24 ซอสหอยนางรม3
25 25 ซอสหอยนางรม4
26 26 ซอสหอยนางรม5
27 27 การวางแผนของหลี่หลิว
28 28 วานหาคน
29 29 บ่อปูน
30 30 เก็บหอยหลอดสนุกเพียงนี้เชียว
31 31 ถูกใจ
32 32 ตัดสินใจ
33 33 เตรียมพร้อม
34 34 ขึ้นเขา
35 35 ออกเดินทาง
36 36 ทำข้อตกลง
37 37 เปิดใจ
38 38 ไปกันเถอะ
39 39 ลงตัว
40 40 แต่งงานกันเถอะ
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 40

1
1 ที่นี่มันที่ไหนกันเนี่ย!
2
2 แกงเห็ดโคลน
3
3 บ้านใหม่
4
4 เจ้าคือตัวนำโชค 1
5
5 เจ้าคือตัวนำโชค2
6
6 การค้าแบบใหม่
7
7 พรุ่งนี้ไม่ขาย
8
8 เจ้าบอกพี่ได้ไหม
9
9 พวกอกตัญญู
10
10 ข้าสบายใจแบบนี้มากกว่า
11
11 พี่ชายกางปีก
12
12 พวกเจ้าอย่าสร้างปัญหา
13
13 รูปลักษณ์ภายนอก
14
14 ถึงเสียที
15
15 อาหารถูกปาก
16
16 ใช้ไม่ได้
17
17 ปลูกผัก
18
18 เปิดร้าน
19
19 ท่านชอบข้ารึ
20
20 ขบวนรถลาก
21
21 ปฏิเสธ
22
22 ซอสหอยนางรม1
23
23 ซอสหอยนางรม2
24
24 ซอสหอยนางรม3
25
25 ซอสหอยนางรม4
26
26 ซอสหอยนางรม5
27
27 การวางแผนของหลี่หลิว
28
28 วานหาคน
29
29 บ่อปูน
30
30 เก็บหอยหลอดสนุกเพียงนี้เชียว
31
31 ถูกใจ
32
32 ตัดสินใจ
33
33 เตรียมพร้อม
34
34 ขึ้นเขา
35
35 ออกเดินทาง
36
36 ทำข้อตกลง
37
37 เปิดใจ
38
38 ไปกันเถอะ
39
39 ลงตัว
40
40 แต่งงานกันเถอะ

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!