ทานตะวันไม่รู้จะอธิบายยังไงเลยบอกพ่อกับแม่ไปว่าเขาเป็นเพื่อน(?)ที่เรียนคณะเดียวกัน...
"ใช่เพื่อนแน่นะ"
"แม่ว่าต้องมีซัมติง"
ขวาพ่อซ้ายแม่ประกบเบียดเสียดจนคนถูกถามแทบจะตัวลีบแบน สายตาบ่งบอกว่าสงสัยอย่างแรงกล้า
แล้วจะไม่ให้ทั้งสองคนสงสัยได้ยังไงในเมื่อชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีวันนี้อยู่ๆก็โผล่มาถึงร้านข้าวแกง นั่งยืดอกหลังตรงแผ่บารมีจนคนไม่กล้าเข้าร้าน
"ไปๆ ไปรับออเดอร์คุณเขาสิ นั่งรอนานแล้ว"
แม่ดันหลังลูกสาวสุดกำลัง พอรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ความทรงจำมากมายเมื่อในอดีตก็ทำให้พวกเขานึกกลัว
ก็นะ...พ่อเป็นยังไงลูกเป็นอย่างนั้น ถอดแบบกันมาเป๊ะๆตั้งแต่ท่าทางยันรูปร่างหน้าตา
ในส่วนของทานตะวันที่ถูกแม่ดันหลังก็รีบมารับออเดอร์จากคุณเจ้าหนี้ที่แสร้งว่าเป็นเพื่อนร่วมคณะเดียวกันอย่างหน้าตาเฉย
"รับอะไรดีค่ะ"
วันเสาร์แวะเวียนมาอีกหน
แป๊บเดียวก็ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์
"มีอะไรแนะนำบ้างล่ะ"
"ถ้าพูดแบบไม่อวยก็อร่อยทุกอย่าง แต่ถ้าจะให้แนะนำเอาเป็นพะโล้กับคะน้าหมูกรอบไหมคะ"
"ฉันไม่ชอบกินพะโล้ เครื่องเทศมันฉุน หมูกรอบก็มันเกินไป มีอะไรที่มีดีต่อสุขภาพกว่านี้ไหม"
"งั้นเป็นผัดผักกับปลานึ่ง ไข่ตุ๋นก็มีนะคะ"
"ปลาก็ไม่ชอบมันคาว ปกติฉันกินแต่สลัดสดน่ะ"
"อ่า... แล้วคุณมีเมนูที่อยากกินไหมล่ะ"
"ถ้ามีฉันจะให้เธอแนะนำทำไม"
อ่า... รู้เลยว่ากำลังกวนประสาทกัน ทานตะวันถอนหายใจแผ่วเบาขณะที่อีกฝ่ายยังคงนั่งวางท่าใหญ่โต
"ก็คุณไม่ชอบอะไรสักอย่าง"
"แล้วเธอชอบกินอะไรล่ะ เผื่อเมนูที่ว่าจะน่าสนใจ"
"ที่ตะวันชอบก็จะมีสามชั้นทอดน้ำปลา ไข่ลูกเขย ต้มเลือดหมู... อ้อ! ก๋วยเตี๋ยว ข้าวมันไก่ที่ร้านก็มีนะคะ"
ผายมือเชิญชวนไปที่เคาน์เตอร์ฝั่งของพ่อซึ่งยืนประจำการอยู่ แทคหันมองก็ต้องผงกหัวให้คนอายุมากกว่าที่ฉีกยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร พ่อกับลูกยิ้มเหมือนกันเลยแฮะ
"งั้นเอาข้าวมันไก่กับเกี๊ยวน้ำแล้วกัน"
ในที่สุดก็ตัดสินใจได้แต่ใครจะรู้ว่าเขาก็แค่หาเรื่องกวนให้อีกคนหงุดหงิดเล่น เห็นทำปากมุบมิบถอนหายใจแล้วตลกดี พอเขาสั่งอาหารไอ้อาการดีใจจนออกนอกหน้านั่นก็ยิ่งทำให้พอใจเป็นอย่างมาก
ร่างสมส่วนวิ่งดุ๊กดิ๊กไปบอกพ่อให้ทำข้าวมัน(ไม่เอาหนัง)กับเกี๊ยวน้ำตามที่ลูกค้ากิตติศักดิ์สั่ง จากนั้นก็กลับมาเสิร์ฟน้ำ แนะนำอีกว่ามีหวานเย็น มีขนมเบเกอรี่ น้ำชงน้ำปั่นน้ำผลไม้มีหมด ฟังแล้วช่างเป็นกิจการที่รุ่งเรืองเหลือเกินนะ
"จริงสิ วันนี้ต้องให้ตะวันขับรถพาไปไหนไหม"
"ฉันว่าจะไปดูที่ที่xxx ถ้าถูกใจก็คงซื้อ"
คราวนี้ทานตะวันไม่ต้องหาข้ออ้างในการออกไปข้างนอก เพราะคุณเจ้าหนี้เขาจัดการให้เรียบร้อย โดยการบอกพ่อกับแม่ด้วยตัวเองว่าจะพาเธอไปเที่ยว
แน่นอนว่าคนทั้งสองนอกจากจะอนุญาตแล้วยังบอกว่ากลับดึกได้อีกต่างหาก ขอแค่ช่วยดูแลลูกสาวเพียงคนเดียวให้ดี ส่วนคุณเจ้าหนี้รับปากเป็นมั่นเหมาะ ท่าทางน่าเชื่อถือเชื่อใจพึ่งพาได้อะไรอย่างนี้
ทานตะวันคนดีเตรียมขึ้นนั่งประจำที่แต่มีมือมาห้ามไว้ แทคบอกจะขับเองให้เธอไปนั่งอีกฝั่ง อาจเพราะไม่อยากให้พ่อกับแม่สงสัย ...จึงขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้
กระทั่งมาถึงยังสถานที่ที่ว่า นายหน้าค้าที่ดินมารออยู่ก่อนแล้ว กลายเป็นว่าในทุกๆวันแทคจะมีทานตะวันคอยไปไหนมาไหนด้วยตลอด
ใช้เวลาดูที่ดินไม่นานแต่การพูดคุยตกลงนั้นนานยิ่งกว่า เพราะแทคต้องการซื้อในราคาที่ตนเองตั้งไว้ในขณะที่นายหน้าเองก็มีราคาบอกชัดเจน สุดท้ายก็ตัดสินใจซื้อในราคาที่พอไปต่อได้ ทางฝั่งนายหน้าเองก็ลดให้สุดกำลัง เรียกว่าปาดเหงื่อกันเลยทีเดียว
การไปเที่ยวของทานตะวันคือการทำหน้าที่ขับรถพาไปทวงหนี้ยังสถานที่ต่อไป ทุกครั้งแทคจะเข้าไปคนเดียว ให้เธอรออยู่ข้างนอก ...ไม่นานก็เดินออกมาพร้อมซองเงิน
"เอาล่ะ งานของวันนี้เสร็จละ"
"ที่เดียวเองเหรอคะ"
"อืม ที่เหลือมีคนคอยจัดการอยู่แล้ว"
"ถ้าอย่างนั้นจะให้ไปที่ไหนต่อดี"
"เธอมีที่ที่อยากไปหรือเปล่าล่ะ"
"ไม่รู้สิคะ ปกติวันหยุดก็ไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว"
"งั้นไป xxx รู้จักไหม"
"รู้จักค่ะ"
รถยนต์คันหรูแล่นตรงไปยังสถานที่ที่คุณเจ้าหนี้ว่า
ทานตะวันพอรู้อยู่บ้างว่าสถานที่แห่งนี้เกี่ยวกับอะไร วัยรุ่นคนหนุ่มสาวมักพากันมาทำกิจกรรมต่างๆ อย่างเช่น ลองปั้นเครื่องปั้นดินเผาอย่างพวกแก้วน้ำ แจกัน จาน และชาม(คู่รัก) ประดิษฐ์เครื่องประดับแทนใจ(คู่รัก) วาดรูป(คู่รัก) ทำขนม ทำอาหาร ตลอดจนดูหนังฟังเพลง(คู่รัก) สรุปที่ว่ามาทั้งหมดคือสถานที่ที่มีไว้ให้คู่รักมาเดทกันนั่นเอง
เลี้ยวรถมาจอดยังลานจอด แม้ในหัวจะเต็มไปด้วยความสงสัยก็หาได้ถามออกไป บางทีคุณเจ้าหนี้อาจนัดสาวคนไหนไว้ก็ได้
เดินเข้ามายังด้านใน มีพนักงานพาไปยังจุดที่ต้องลงทะเบียน ให้เขียนชื่อที่อยู่และจ่ายค่าบริการ ให้โบชัวร์แนะนำสถานที่มาคนละแผ่น
"เธออยากทำอะไรก่อน" เสียงทุ้มเอ่ยถาม
"เอ่อ..." สรุปแล้วเขาไม่ได้นัดใครไว้สินะ ทานตะวันเงยหน้ามองเขทสลับกับโบชัวร์ในมือ "คือ... มันคือกิจกรรมที่คู่รัก..."
"อาฮะ คงไม่คิดว่าฉันกับเธอเป็นคู่รักกันหรอกใช่ไหม"
"มะ ไม่ใช่! ไม่ใช่นะคะ ตะวันแค่รู้สึกแปลกใจเฉยๆ ...ใครจะไปอยากเป็นคู่รักกับคุณกัน"
ละล่ำละลักปฏิเสธเสียงสั่นแถมประโยคหลังยังบ่นงึมงำเสียงเบาราวกับไม่อยากให้อีกฝ่ายได้ยิน
"หึ! งั้นก็เลือกมาสิว่าอยากทำอะไร"
"เรียงตามนี้ก็ได้ค่ะถ้างั้น"
"อืม"
เริ่มต้นวันหยุดสุดหรรษาด้วยการทำดินเผา ทั้งสองคนเลือกปั้นแก้ว แน่นอนว่าภายในห้องมีคู่รักหลายคู่นั่งปั้นกันอยู่ พอเห็นว่าพวกเขานั่งกันยังไงทานตะวันถึงกับถอนหายใจขณะที่อีกคนนิ่งมาก
"เชิญทางนี้ค่ะ"
พนักงานนำไปยังที่ว่าง หนึ่งแป้นปั้นกับหนึ่งเก้าอี้ ทานตะวันนั่งก่อนตามด้วยแทคนั่งซ้อนด้านหลังอีกที แบบนี้ค่อยเหมือนคู่รักขึ้นหน่อย... ซึ่งทั้งห้องนั่งแบบนี้กันหมด
"อึดอัดไหม" เสียงทุ้มเอ่ยถามข้างใบหู ท่อนแขนแข็งแรงยันแป้นปั้นพร้อมกับวางคางไว้บนไหล่เล็ก ทำให้ดูเหมือนว่าเขากำลังโอบกอดเธออยู่
"นิดหน่อย" ถึงอย่างนั้นก็นั่งหลังตรงพลางมองดูคู่รักใช้เวลาร่วมกัน มีทั้งชายชาย หญิงหญิง และชายหญิง หลากหลายมาก ณ จุดนี้
"ฉันว่ามันน่าสนุกดีนะ เธอคิดว่าที่นี่เข้าได้แค่คนที่มีแฟนเหรอ คนโสดอย่างเราก็เข้าได้น่าขอแค่มาเป็นคู่"
"อ่า... แต่มันก็แปลกอยู่ดี" เพราะคนอย่างแทคไม่เหมาะจะมาทำอะไรมุ้งมิ้งในสถานที่แบบนี้เลยน่ะสิ
.
"งั้นลองเป็นคนรักกันวันนึงไหมล่ะ"
"ห๋า! ...ก็แย่ละ"
"โอเคตามนั้น"
"อื้อออ ไม่เอานะคะ"
กลายเป็นว่าแทคสนุกที่ได้แกล้งทานตะวันมากกว่าทำกิจกรรมตรงหน้าเสียอีก เขายิ้มขำกับท่าทางระแวดระวังของเธอ ยิ่งพนักงานเข้าใจว่าทั้งสองคือคนรักยิ่งสนุก
หาอะไรทำแก้เบื่อเพื่อฆ่าเวลาก็ไม่เลวเหมือนกัน
"ทางเราไม่ได้สอนเทคนิคอะไรมากนะคะ เอาตามสะดวกเลยว่าอยากได้รูปทรงแก้วแบบไหน แต่การขึ้นทรงแบบมาตรฐานคร่าวๆจะเป็นแบบนี้"
แทคหาได้สนใจในสิ่งที่พนักงานกำลังสอน เขาเอาแต่วอแวคนที่นั่งซ้อนอยู่ข้างหน้า มือหนาจิ้มเอวให้จั๊กจี้บ้าง ดึงติ่งหูเล่นบ้าง หนักสุดก็โอบกอดพลางวางคางไว้บนไหล่ แถมยังฮัมเพลงอารมณ์ดีสุดๆ
ทานตะวันคนดีก็นั่งให้เขาทำทั้งที่ในใจอยากจะร้องไห้ เมื่อไหร่จะครบสามเดือนเสียที อย่างน้อยก็ขอให้หมดเดือนนี้เร็วๆหน่อยได้ไหม นับวันยิ่งหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ เธอเหนื่อยใจไม่ไหวแล้ว
"พอทำได้ไหมคะ ลองทำกันดูนะ ถ้าติดขัดตรงไหนยกมือเรียกได้เลยเดี๋ยวพี่ช่วยดูให้"
หมดหน้าที่พี่พนักงานจึงย้ายไปดูคู่อื่นต่อ ถึงคราวต้องลงมือทำเองจริงๆทานตะวันกลับถอนหายใจอีกครั้ง
"เหนื่อยใจขนาดนั้นเลยเหรอ" จอมรังแกเอ่ยถาม มือทั้งสองข้างกำลังถักผมยาวสลวยเล่น
"ก็คุณน่ะ! เอาแต่แกล้งกันอยู่นั่นแหละ" ถ้าเป็นช่วงแรกๆคงร้องไห้ไปแล้ว(แต่จริงๆก็ยังอยากร้องอยู่) ช่วงนี้เห็นทีจะชินเลยพอบ่นกลับได้บ้าง แน่นอนว่าอีกฝ่ายไม่มีทางสะทกสะท้าน
"คนรักกันกอดหอมเป็นธรรมดา"
"แต่เราไม่ใช่นี่คะ อย่าให้ถึงขั้นนั้นเลย"
"ใครว่า วันนี้ทั้งวันสามารถทำอะไรก็ได้ที่คนรักเขาทำกัน"
"หืม? งั้นเหรอ..."
"อือ"
ทานตะวันน่ะกลัวแทคยิ่งกว่าใคร แต่พอโดนแกล้งมากเข้าก็แอบอยากเอาคืน รอยยิ้มร้ายผุดขึ้นบนใบหน้า วันนี้เป็นวันพิเศษ... ที่คนรักกัน(?)สามารถทำอะไรก็ได้อย่างนั้นใช่ไหม
"แค่วันนี้เท่านั้นใช่ไหมคะที่คุณจะไม่โกรธ"
"ปกติฉันก็ไม่เคยโกรธอยู่แล้วนะ"
ไม่เคยโกรธแต่ชอบทำเป็นหงุดหงิดใส่ ชอบทำเสียงเข้มให้ดูดุเพราะรู้ว่าอีกคนกลัว มาพูดว่าไม่เคยโกรธใครเขาจะเชื่อหนอพ่อคุณ
"แต่วันนี้จะไม่โกรธจริงๆใช่ไหมล่ะ"
"เออ ถามย้ำซ้ำซากเพื่อ?"
"แค่ให้แน่ใจเฉยๆหรอก"
"เหอะ! มีแผนจะเอาคืนฉันงั้นสิ"
อ้าว... รู้ทัน
"วันนี้จะยอมให้เป็นพิเศษก็แล้วกัน"
ทานตะวันไม่ได้ตอบกลับอะไร แต่ใจน่ะเต้นตุบตับนำหน้าไปไกลแล้ว หมายความว่าวันนี้เธอไม่ใช่ลูกหนี้อีกต่อไป! ยอดเยี่ยมกระเทียมดอง!!
"ยิ้มน่าเกลียดชิบหาย"
คนกำลังแอบยิ้มได้ยินรีบหุบยิ้มฉับ ทั้งที่นั่งหันหลังให้แท้ๆแต่เห็นได้ยังไงว่ากำลังยิ้มดีใจ
คนคนนี้นะนอกจากฉลาดมากแล้วบางทียังเหมือนกับคนที่รู้เห็นอะไรไปเสียหมด แบบนี้ไม่มีทางชนะเขาได้แน่นอน
Tbc.
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments
ฟิวแห่งแสงจันทรายามค่ำคืน☆
อัพ
2023-04-18
0