ตอนที่ 3

แทคกับทานตะวันเคยพบกันมาก่อน หากจะให้เล่า... มันก็นานมาแล้วตั้งแต่ตอนที่พวกเขาทั้งสองคนยังเป็นแค่เด็กวัยประถม

หลังจากที่ปู่ของทานตะวันเสียชีวิต ครอบครัวของเธอก็ได้ไปกู้เงินกับเจ้าสัวทองคำเพื่อนำมาปรับปรุงบ้าน ร้านอาหาร และซื้อรถกะบะเพื่อใช้ขนของ ด้วยความที่เงินมันต้องหมุนทุกวันทำให้ไม่สามารถหามาจ่ายดอกเบี้ยได้ทันเวลา ผลัดผ่อนอยู่อย่างนั้นหลายเดือน

แทนที่จะส่งคนมาตามหนี้เช่นทุกที เจ้าสัวที่ตอนนั้นยังหนุ่มแน่นกลับเดินทางมาด้วยตัวเองพร้อมกับลูกชายคนโตและคนรอง พูดคุยว่าจะเอายังไงต่อไปหากไม่ทำตามที่สัญญาเขียนไว้ก็คงต้องยึดบ้านและร้านอาหาร

เด็กทั้งสองทำได้แค่นั่งฟังเงียบๆ มีมองหน้ากันบ้างตามประสารุ่นราวคราวเดียวกัน

ณ ตอนนั้นไม่รู้ว่าพูดจริงหรือพูดเล่นที่ว่าถ้าหาเงินมาจ่ายดอกเบี้ยไม่ได้ภายในสองสัปดาห์จะให้คนมารับตัวลูกสาวไปขัดดอก

ทานตะวันไม่รู้หรอกคำว่าขัดดอกคืออะไร รู้แค่ว่าพ่อกับแม่เครียดมาก สถานการณ์สุ่มเสี่ยงเป็นอย่างมาก ท่านเจ้าสัวเองก็พูดจริงทำจริง เห็นหลายบ้านแล้วที่ลูกหลานถูกส่งไปทำงานขัดดอก

จากร้านอาหารไทยติดแอร์แปรเปลี่ยนเป็นร้านขายข้าวแกงแบบเปิด แต่เหมือนมาถูกทางเพราะลูกค้าไหลมาเทมาจนน่าตกใจ พ่อจึงใช้โอกาสนี้เปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเพิ่มและมีข้าวมันไก่เข้ามาในตอนหลัง

ซึ่งมีเงินพอจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นอีกนิดหน่อย แต่ก็ยังเป็นหนี้เขาอยู่ กว่าจะใช้หมดก็ตอนที่ทานตะวันอายุสิบห้า เพิ่งเข้าใจด้วยว่าขัดดอกคืออะไร เธอโล่งใจแบบสุดๆที่ครอบครัวไม่ต้องเป็นหนี้อีกต่อไปแล้ว

ถึงอย่างนั้นโชคชะตาก็ยังเล่นตลกกับชีวิตของเธออยู่เรื่อยๆ ขึ้นมอปลายเธอสอบได้ทุนจากโรงเรียนเอกชนชื่อดังซึ่งมารู้ทีหลังว่าเจ้าสัวทองคำเป็นเจ้าของทุนนั้น แถมลูกชายที่รุ่นราวคราวเดียวกันยังเรียนอยู่โรงเรียนนี้อีกต่างหาก

ด้วยความอายุเท่ากันกับลูกชายคนรอง ทุกช่วงเวลาของมอปลายก็จะได้เห็น ได้ยิน และรับรู้ตลอดมาว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง เขากับแก๊งเพื่อนของเขาก่อวีรกรรมอะไรไว้บ้าง ต่อยตียังพอว่าแต่นี่เล่นปล่อยเงินกู้ในโรงเรียน ใครไม่ใช้หนี้ก็ลากไปตี แบบนี้จะไม่ให้เธอกลัวได้ยังไง

เจริญรอยตามพ่อมาเสียขนาดนั้น!

แฮ่ม!

สวัสดีวันอาทิตย์!

ขณะนี้เป็นเวลาเกือบจะห้าทุ่ม ทานตะวันอยากจะร้องไห้รอบที่ล้านเพราะต้องไปรับคุณเจ้าหนี้ที่ผับ

เวลานี้เธอจะออกไปได้ยังไง! พ่อแม่ไม่ให้แน่!

แต่ถ้าแอบล่ะก็นะ... น่าจะได้ละมั้ง

ร่างสมส่วนค่อยๆย่องลงบันได ปกติเวลานี้พ่อกับแม่น่าจะเข้านอนกันแล้ว แต่ที่ไหนได้ทั้งสองคนยังนั่งดูละครกันอยู่เลย อยากจะร้องไห้รอบที่ล้านอีกหน!

ถึงอย่างนั้นมันก็ยังพอมีทางอื่นให้ไปได้อยู่ แอบย่องออกทางด้านหลังครัวเป็นไง มอเตอร์ไซค์ก็ต้องเข็นเอา สตาร์ทปุ๊บคนในบ้านรู้ปั๊บแน่นอน

หลังจากเป็นหนี้ชีวิตลำบากขึ้นแบบสามร้อยเปอร์เซ็นต์ ขี่รถไปน้ำตาไหลพราก ชอกช้ำระกำใจเหลือเกิน...

ผับชื่อดังอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย เจ้าของไม่ใช่ใครอื่นที่ไหน เพื่อนคุณเขาที่ชื่อจอชยังไงล่ะ

ทานตะวันเดินวนอยู่ด้านหน้าไม่กล้าเข้าไปด้านใน มือก็กดพิมพ์ข้อความส่งให้อีกฝ่ายรู้ว่ามาถึงแล้ว แน่นอนว่าชีวิตลูกหนี้มันไม่ง่าย นอกจากอีกฝ่ายจะไม่ออกมาแล้วยังสั่งให้เธอเข้าไปรับถึงด้านใน

สุดท้ายขัดอะไรไม่ได้ กลั้นใจเดินเข้าไป เธอไม่ชอบสถานที่แบบนี้เลยจริงๆ ทั้งผู้คน เสียงเพลง ของมึนเมา และการถูกแตะเนื้อต้องตัว หรือไม่ก็พวกสายตาที่จับจ้องอย่างจาบจ้วง ถึงไม่ใช่หญิงสาวสวยหุ่นดีก็ตามที

เอ่ยบอกพนักงานว่ามาพบใครพร้อมขอให้เขานำทางให้ เดินขึ้นบันไดมายังชั้นบนสุด ซึ่งเป็นทั้งดาดฟ้าและห้องทำงาน

พนักงานหญิงท่าทางใจดีเคาะประตูก่อนเปิดเข้าไปรายงานชายผู้เป็นเจ้านาย พออีกฝ่ายอนุญาตร่างสมส่วนจึงเดินเข้าไป ปะทะกับสายตาหลายคู่รวมถึงคุณเจ้าหนี้ที่นั่งไขว่ห้างแขนข้างหนึ่งพาดโซฟาไว้ในขณะที่อีกข้างคีบบุหรี่ยกขึ้นดูด

"ดูซิใครมาเอ่ย" จอชพูดขึ้นพลางยิ้มสนุก

ทานตะวันไม่รู้จะทำหน้ายังไงนอกจากยิ้มแห้ง ตัวค่อยๆลีบเล็กลงด้วยความกลัว

"นั่งก่อนสิ" เสียงทุ้มดุของแทคเอ่ยบอกพลางส่งสัญญาณให้รู้ว่าเธอต้องนั่งตรงไหน

ภายในห้องทำงานเงียบเฉียบราวกับไม่มีคนอยู่ทั้งที่ก็นั่งกันเต็มห้องครบองค์ประชุมขนาดนี้ ร่างที่กำลังเล็กลีบกลืนน้ำลายแล้วค่อยๆขยับเดินไปนั่งข้างๆคุณเจ้าหนี้ที่ตอนนี้ใบหน้าเรียบนิ่งเสียยิ่งกว่าแผ่นกระดาน

พอนั่งลงภาพที่เห็นมันก็จะคลายกับเธอกำลังถูกเขาโอบไหล่ ทานตะวันพยายามนั่งหลังตรง โซฟายาวไม่ได้มีแค่เธอกับเขายังมีเฉียงนั่งอยู่ด้วยอีกคน โซฟาเล็กด้านขวาติดกับโต๊ะทำงานคือจอชส่วนด้านซ้ายคือทีปต์

"กินอะไรหน่อยไหม เดี๋ยวให้คนเอาขึ้นมาให้" จอชที่ในฐานะเป็นเจ้าของเอ่ยถาม เพื่อไม่ให้บรรยากาศมันเงียบไปก็กว่านี้

ทานตะวันส่ายหน้าตอบ อยากกลับบ้านมากกว่า นี่ก็มารับถึงที่แต่คนข้างๆไม่คิดจะลุกเลยสักนิด หาเรื่องแกล้งกันอยู่นั่นแหละ

"ไม่ต้องกลัว คนกันเองทั้งนั้น" จอชยิ้มขำ จะว่าเอ็นดูก็คงใช่ ปกติไม่เคยสนใจว่าเพื่อนจะทำอะไรกับใครที่ไหน แต่กับคนนี้เพื่อนมันแปลกมาตั้งแต่แรก ผิดวิสัยอย่างที่เคยเป็น

"คนกันเองก็แย่ละ" เฉียงปรายตามองคนพูด ดูก็รู้ว่าคนฟังหาได้เห็นด้วย เอาอะไรมาคนกันเองก่อน

"แหมมมม ของเพื่อนก็เหมือนของเรา..."

"ก็แย่ละ" คราวนี้เป็นคนที่เอาแต่นั่งพ่นควันบุหรี่พูดขึ้นบ้าง สายตาพิฆาตปาดมองคนพูดอย่างเย็นชา ซึ่งรู้กันว่าของเพื่อนก็เหมือนกับของเรานั้นมักใช้ได้ในกรณีไหนและกรณีไหนที่ใช้ไม่ได้บ้าง

"กวนมากเข้าเดี๋ยวได้โดนจริงๆ" ทีปต์ว่า

"ล้อเล่นค้าบ เห็นบรรยากาศมันตึงเลยช่วยให้ครื้นเครง" จอชยกสองมือยอมแพ้

"จะกลับก็กลับ ดึกมากแล้ว" เฉียงหันบอกเพื่อน ตัวเองก็จะกลับแล้วเหมือนกัน

ทานตะวันเองก็อยากกลับแต่คนข้างๆยังไม่มีทีท่าว่าจะลุก ทั้งที่บอกให้มารับแท้ๆ ดึกมากมันยิ่งกลับลำบากนะคะคุณ

"กลับเลยไหมคะ" เธอตัดสินใจเอ่ยถามเสียงเบา

แทคทิ้งก้นบุหรี่ลงที่เขี่ยก่อนลุกขึ้นยืน เขาวางมือไว้บนหัวของอีกคนเพื่อบอกให้เธอรู้ว่าจะกลับแล้ว ทานตะวันเด้งตัวลุกขึ้นยืน ในใจลิงโลดเพราะจะได้กลับบ้านไปนอนเสียที อย่าลืมนะว่าพรุ่งนี้มีเรียน

ร่างสมส่วนเดินตามร่างสูงใหญ่ออกมาทางด้านหลังซึ่งเป็นลานจอดรถสำหรับวีไอพี

"มามอเตอร์ไซค์ใช่ไหม" เสียงทุ้มเอ่ยถาม

"ค่ะ"

"งั้นจอดไว้ที่นี่ก่อน"

ทานตะวันเข้าใจว่าให้ขับรถไปส่งอีกฝ่ายที่คอนโดก่อน จากนั้นตัวเองค่อยวนกลับมาเอามอเตอร์ไซค์ที่นี่แล้วถึงกลับบ้านนอนได้

"เดี๋ยวให้คนเอาไปส่งที่บ้าน"

"อะ! อ๋อ... ค่ะ"

ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องวนไปวนมา ทานตะวันยกยิ้มโล่งใจอย่างลืมตัว รู้อีกทีก็มีสายตาคมดุจ้องมองมา เธอเลยยิ้มแห้งๆเพราะไม่รู้จะแก้ตัวยังไง

"ยังไงซะเธอก็เป็นผู้หญิง" จะให้มาตะลอนตอนกลางคืนคนเดียวมันก็ใช่เรื่อง เขาไม่ใช่เจ้าหนี้ใจไม้ไส้ระกำขนาดนั้น

กว่าจะผ่านไปแต่ละวันทำเอาทานตะวันแทบขาดใจ มานั่งไล่นับดูเพิ่งผ่านไปแค่สัปดาห์กว่าๆเองกับการเป็นเบ๊ของใครของบางคน

ยังเหลือตั้งอีกสองเดือนกับอีกสองสัปดาห์กว่าจะสิ้นสุดทางสายนี้ ต้องเสียน้ำตาอีกกี่ลิตรกันถึงจะพอใจ! ว่าไปนั่น...

เหมือนว่าพักนี้เพื่อนอีกสามคนจะยุ่งจนไม่มีเวลาเหลือมาพบหน้ากัน ทั้งเรื่องเรียน เรื่องงาน และเรื่องส่วนตัว กับทานตะวันเองก็หัวหมุนไม่แพ้ใคร

ไม่แปลกหรอกที่คนเราจะผูกติดชิวิตไว้กับใครสักคน แต่สำหรับทานตะวันต้องไม่ใช่กับคุณเจ้าหนี้จอมดุที่วันๆสรรหาแต่เรื่องมาให้เธอทำ

อย่างเช่นตอนนี้ยังไงล่ะ

"เด็กคนนี้เหรอที่พ่อบอกว่าช่วงนี้ลูกติดเขามาก"

"ใช่ที่ไหนล่ะครับแม่"

"แต่ถึงขั้นพามาด้วยแม่ว่าไม่ธรรมดาแล้วนะ"

"เรื่องมันค่อนข้างซับซ้อนน่ะครับ"

ทานตะวันมองซ้ายทีขวาที สงสัยว่าทำไมตัวเองจะต้องมาอยู่ที่นี่ด้วย ทั้งที่ขอรอในรถแล้วแท้ๆ

"หนูชื่ออะไรจ๊ะ" คุยกับลูกชายแล้วไม่ได้ดั่งใจจึงหันมาคุยกับเธอแทน นอกจากยิ้มสู้แล้วก็ไม่รู้จะทำตัวยังไง

"ทานตะวันค่ะ เรียกสั้นๆว่าตะวันก็ได้"

"ชื่อน่ารัก หน้าตาก็น่ารักนะเนี้ย"

นานๆทีจะมีคนชมก็แอบรู้สึกเขินอยู่เหมือนกัน ยกมือขึ้นเกาแก้มพลางอมยิ้มเอียงอาย ขณะที่สายตาอีกคู่หนึ่งมองอย่างไม่เห็นด้วย

"ไม่เห็นจะน่ารักเลย" คนปากร้ายว่า เย็นชาถึงขนาดโดนแม่ตีก็ไม่สะทกสะท้าน ทานตะวันเองก็ไม่ได้รู้สึกแย่หรืออะไรกับคำพูดนั้นเพราะรู้ดีว่าตัวเองไม่ได้น่ารักอย่างที่เขาว่าจริงๆ

"แหะๆ ก็จริงค่ะ"

"ไม่ต้องไปฟังคนนิสัยไม่ดีพูดนะลูก หนูน่ารักค่ะเชื่อป้า"

ทำเพียงแค่ยิ้มรับแต่ถึงอย่างนั้นก็รู้สึกดีมาก คุณแม่ของคุณเจ้าหนี้ใจดีกว่าเยอะเลย

วันพุธกลางสัปดาห์ในที่สุดแทคก็หาเวลามาเจอคุณแม่ได้เสียที โดยมีเบ๊ประจำตัวอย่างทานตะวันคอยขับรถให้ นี่ก็สั่งให้เข้ามานั่งในร้านอาหารด้วยกัน

"เอาล่ะๆ สั่งอาหารกันเถอะ หนูตะวันอยากทานอะไรสั่งตามสบายเลยนะลูก"

แน่นอนเรื่องกินทานตะวันเอนจอยสุดๆ หนึ่งในข้อดีของการเป็นเบ๊ก็คือเรื่องกินนี่แหละ คุณเจ้าหนี้ไม่เคยใช้งานแบบไม่ลืมหูลืมตาถึงเวลากินก็ให้กินอย่างดี

ระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟก็นั่งฟังสองแม่ลูกคุยกัน ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องส่วนตัวทั่วไป คุยเรื่องงานบ้างนิดหน่อย กระทั่งอาหารมาก็ทานไปด้วยคุยไปด้วย

เสร็จจากตรงนี้ก็ไปต่อที่ห้างสรรพสินค้า ทานตะวันเดินตามคนทั้งคนสองช่วยถือของที่คุณลูกชายซื้อให้คุณแม่สลับกับที่คุณแม่ซื้อให้คุณลูกชาย รักใคร่กลมเกลียวกันมากทีเดียว

ใช้เวลาอยู่ที่ร้านเครื่องเพชรนานพอสมควร นานจนทานตะวันเผลอนั่งหลับแล้วเอนซบแทคที่นั่งอยู่ข้างๆอย่างเบื่อหน่าย

นอกจากจะไม่ว่าแล้วยังปล่อยเธอหลับซบอยู่อย่างนั้น แม่น่ะชอบพวกเครื่องประดับอย่างเพชรมากที่สุด ให้ดูทั้งวันยังได้ แต่กับคนอื่นคือเบื่อและอยากออกไปจากที่นี่เต็มที

"อีกนานแค่ไหนครับแม่" เสียงทุ้มเอ่ยถาม

"อะ อ้าว! ขอโทษทีลูก แม่ดูเพลินไปหน่อย ลูกพาหนูตะวันกลับเลยก็ได้ ดูสิขนาดหลับยังน่ารัก"

ดูท่าว่าคุณมายาพรจะเอ็นดูหนูทานตะวันมากถึงได้ให้จี้เพชรรูปดอกทานตะวันเป็นของขวัญ แทครับถุงมาถือไว้ก่อนจะปลุกอีกคว

"กลับกันเถอะ"

คนง่วงงุนเดินตามร่างสูงใหญ่ออกมาจากร้าน จนมาถึงรถเพิ่งสังเกตเห็นว่าไม่มีคุณแม่ของคุณเจ้าหนี้แล้ว ท้องฟ้าด้านนอกเองก็เริ่มมืด สงสัยจะแยกกลับไปแล้วแน่ๆ

ลูกหนี้คนดีขับรถมาส่งคุณเจ้าหนี้ถึงคอนโด เลิกขี่มอเตอร์ไซค์ชั่วคราวเพราะต้องทำหน้าที่เป็นคนขับรถให้กับอีกคน แถมยังต้องกลับบ้านเย็นทุกวัน

"เอาไปสิ" แทคยื่นถุงเครื่องประดับให้หญิงสาวที่เตรียมจะแยกกลับบ้านหลังจากขับรถมาจอดในโซนวีไอพีของคอนโด

"คืออะไรเหรอคะ"

"สร้อยคอ แม่ฉันซื้อให้เธอ"

"อ่อ..."

รับมาถือไว้ แบรนด์ร้านเพชรชื่อดังหลาอยู่หน้าถุงขนาดนี้ ราคาคงไม่เบา ทันใดนั้นความคิดชั่วร้ายก็ผุดขึ้นมาในหัว

"ขายน่าจะได้หลายตังค์" แล้วเอาเงินที่ได้มาใช้หนี้

"คิดงั้นจริงดิ?"

เสียงทุ้มดุฉุดรั้งให้คนที่กำลังก้าวขาเข้าด้านมืดได้สติ ทันทีที่รู้สึกตัวใบหน้ากลมเหรอหราเบิกตาตกใจไม่คิดว่าเขาจะได้ยินและไม่คิดว่าตัวเองจะมีความคิดเช่นนี้

การเป็นหนี้ทำให้คนเราจนตรอกได้ถึงขนาดนั้นเลย

"ขอโทษค่ะ แต่คุณไม่ต้องห่วงตะวันไม่ทำแบบนั้นแน่นอน แบบว่า... แค่เผลอคิดชั่ววูบไปน่ะ"

กลัวอีกฝ่ายโมโหเหลือเกิน นี่ยืนเงียบจ้องมาที่เธอหลายนาทีไม่ละไปไหนเสียที ก็นะ...เป็นของที่คุณแม่ของคุณเขาซื้อให้ด้วยตัวเอง ยังจะมีหน้ามามีความคิดแย่ๆแบบนี้อีก

ทานตะวันคนขี้ขลาดเบะปากพยายามกลั้นความเสียใจเอาไว้อย่างสุดกำลัง น้ำตาไม่ช่วยให้อีกฝ่ายหายโกรธหรอก

พรึ่บ!

"ถึงเอาไปขายก็ไม่ได้เงินเยอะหรอก มันเป็นเศษเพชรที่เขาเอามาทำใหม่เพื่อขายในราคาที่พวกนักศึกษาเอื้อมถึง"

มือหนาวางแหมะลงบนหัวกลมๆของคนที่ใกล้จะร้องไห้เต็มที เขาไม่โกรธเธอเลยสักนิดเพราะเขาไม่ใช่คนจ่ายเงินซื้อ หรือถึงเป็นคนซื้อถ้าอีกฝ่ายจะเอาไปขายก็ตามใจ ถือว่าให้แล้วให้เลย

เสียงของคนพูดทุ้มไม่ถึงกับนุ่มแต่ความดุดันหายไป ทำให้คนฟังอย่างทานตะวันน้ำตาไหลลงอาบแก้มโดยอัตโนมัติ

แน่นอนว่าแทคปลอบคนไม่เก่งฉันใดก็ยังคงไม่พัฒนาฝีมือฉันนั้น

มือหนาที่วางอยู่บนหัวค่อยๆลูบขึ้นลงช้าๆ ครั้งที่สองแล้วนะที่ทำอีกฝ่ายร้องไห้ คนอย่างเขาไม่ต้องแคร์ก็ได้กับแค่ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นเบ๊อีกต่างหาก

"พอได้แล้วน่า"

"ตะวันไม่ได้คิดจะทำแบบนั้นจริงๆนะคะ"

"เออ ฉันรู้..."

ถึงจะเป็นเบ๊แต่ก็เป็นเบ๊ที่ไม่ใช่ว่าใครก็เป็นได้

"อยู่กับฉันก็ไม่แย่เท่าไรหรอก"

เพราะเลือกเอง อนุญาตเอง ยอมเองตั้งขนาดนี้

"ฮึก คุณขึ้นไปพักเถอะค่ะ"

"เธอก็หยุดร้องซะทีสิ เดี๋ยวใครมาเห็นก็คิดว่าฉันรังแกผู้หญิงแล้วทิ้งให้อยู่คนเดียว"

"ไม่ใช่ซะหน่อย"

//

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!