พลังลับของตระกูล

เนโค้ "มันก็เพราะถ้าคนในตระกูลคนไหนมีอายุเกิน 150 ปีจะมีพลังที่สามารถควบคุมกความคิดของใครก็ได้เเม่เเต่คนในตระกลูก็ตาม" ปิ่น "เเล้วใครล่ะที่มีอายุ 150 ปี!!?" เนโค้ "ก็คุณยายไงท่านมีอายุ 155 ปีเเล้ว ปีนี้อายุครบ 156 ปี" ปิ่น "ห๊ะ??" เนโค้ "คุนยายใช้พลังทำให้ท่านปิ่นคิดว่าปีนี้ท่านยายอายุ 100 ละสิ" ปิ่น "มันมีอีกหลายเรื่องใช่มั้ยที่ฉันยังไม่รู้" เนโค้ ;พยักหน้า; (กริ่งบ้านดัง) ปิ่น"มาเเล้วค้าาา" (เปิดประตู) ปิ่นทำสีหน้าตกใจเพราะเจอหญิงชราคนที่เห็นเมื่อตอนเช้ามายืนอยู่น่าบ้าน ด้วยความตกใจปิ่นเลยไม่ได้ตอบอะไรได้เเต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น หญิงชรา "ขอเข้าไปในบ้านได้มั๊ยจ๋ะเเม่หนูน้อย" ปิ่นไม่ได้ตอบอะไรเลยได้เต่พยักหน้าเเบบงงๆ หญิงชรา "เนโค้คูงง ได้ได้เจอกันมา 500 ปีเลยนะเนโค้คิดถึงมากๆเลยละ"

เนโค้ "ชิวานจางง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ยังไงชอบใส่กิโมโนสีม่วงอยู่อีกหรอ??"

|ตั้งเเต่นี้ขอเรียกหญิงชราว่าชิวานนะคะเพื่อจะได้ไม่งงเนอะ|

ชิวาน "อื้ม ชั้นยังชอบใส่อยู่นะ" ปิ่นที่ยืนอยู่ที่หน้าประตูป้านด้วยความงง เลยเดินมาถามเนโค้ว่า "คืออ ทั้ง 2 คนรู้จักกันหรอ" เนโค้ "ช้ายย นี้คือเพื่อนของชั้นตั้งเเต่ชั้นเด็กเลยอ่ะ"

ปิ่นพยักหน้าเเล้วก็เข้าไปเตรียมขนมให้ชิวานเเละเนโค้ ปิ่น "เสร็จเเล้วน่ากินจังเลยอ้าา ไม่ได้ ๆนี้มันของเนโค้นะ" ปิ่น (วางขนมบนโต๊ะ) "ทานให้อร่อยนะคะ" ชิวาน "มาทานด้วยกันสิปิ่นจัง"

ปิ่น "ออ...คือ...รู้ชื่อหนูด้วยหรอค่ะ" ชิวาน "ก็รู้สิชั้นคือพี่ของยายเธอนะทำไมจะไม่รู้ละจ๋ะ"

ปิ่น "ออ....ค่ะ" เนโค้ "นี้จ๋ะ เครื่องราง กับ กระพรวนญี่ปุ่น พกติดตีวไว่นะ" ปิ่นรับมาด้วยความดีใจเพราะปิ่นเป็นคนที่ชอบพวกของเครื่องรางมากเรียกได้ว่าไปวัดที่ไหนต้องซื้อติดตัวมา 1-2 อันเเน่นอนเลย ปิ่น "ขอบคุณมากๆเลยค่ะ" ชิวาน "ไม่เป็นไรจ๋ะ ของเล็กๆน้อยๆ"

จู่ๆเนโค้ก็เอาเเพ่นวิดีโอของปิ่นของปิ่นตอนช่วง ป.1 ตอนที่วิ่งวันกีฬาสีปิ่นได้ที่ 1 ทุกปีเลยเลยเธอยังเป็นหัวน่าธีมบาสหญิงตั้งเเต่ ม.2 อีก ชิวาน "เก่งจริงๆเลยนะเนี้ยปิ่นจังเก่งมากๆเลยนะ"

ปิ่น "ขอบคุณค่ะคุณชิวาน" เนโค้ "ไปซื้อไอติมกันได้ป่ะขนมหมดเเล้ว" ปิ่น "อื้มไปสิ" ชิวานดีเลยตอนนี้ฤดูร้องพอดีเลย" เนโค้ "เย้ไปกันเลย" ปิ่น "ไปเอากระเป๋าตังค์ก่อนนะ" เนโค้" ได้เลย" ปิ่นกำลังจะหยิบกระเป๋าตังค์เธอก็ได้เห็นเครื่องรางที่ชิวานให้มาปิ่นจึงเอาไปด้วย

ปิ่น "มาเเล้วไปซื้อไอติมกัน" ชิวาน "ไปกันจ๋ะ" ตอนที่ปิ่นกำเดินตามเนโค้กับชิวานก็

[มีรถขับมาด้วยความเร็ว!!]

☆ความรู้ประดัปสมอง ep4☆ 《เครื่องราง หรือ โอมาโมริ (Omamori) เป็นของฝากที่หาซื้อได้ง่ายในประเทศญี่ปุ่น ราคาไม่แพง และพกพาสะดวก ที่เราเห็นปกติจะเป็นถุงผ้า ตัวเครื่องรางจริงๆ คือวัตถุที่อยู่ข้างใน ซึ่งก็แล้วแต่วัดว่าจะใส่อะไรลงไป บ้างก็เป็นยันต์ บ้างก็เป็นแผ่นไม้ หรือโลหะที่เป็นวัตถุมงคล ด้านในนี้ปรกติแล้วจะไม่เปิดออกมาดูกัน (เชื่อว่าจะทำให้โชคไม่ดี)

     เครื่องรางญี่ปุ่นนั้นมีสรรพคุณหลายอย่าง แบ่งออกเป็นคร่าวๆ ได้ 6 หมวด คือความปลอดภัย สุขภาพ การเรียน การเงิน คลอดลูก และการเสริมโชคต่างๆ เราจะเห็นชาวญี่ปุ่นพกเครื่องรางติดตัวไว้เสมอ อาจผูกไว้กับกระเป๋าหรือพกไว้ในกระเป๋าเงินก็ได้

    กระพรวนทอง หรือกระดิ่งทอง อีกหนึ่งเครื่องรางที่ชาวญี่ปุ่นนิยมแขวนไว้หน้ารถหรือหน้าบ้าน ด้วยความเชื่อว่าเสียงของกระดิ่งสามารถขับไล่สิ่งชั่วร้ายได้ และยังนำโชคเรื่องเงินทอง ร่ำรวย และขอพรสมปรารถนา และสีทองของกระพรวนยังหมายถึงโชคลาภ เงินทองอีกด้วย โดยกระพรวนญี่ปุ่นยอดนิยมจะมีขายที่วัดอาซากุสะ วัดเก่าแก่แห่งโตเกียวนั่นเอง

เมื่อ 500 ปีที่เเล้วคือยุคามากูระ (ค.ศ. 1185–1333)แก้ไข

ดูบทความหลักที่: ยุคคามากูระ

มินาโมโตะ โนะ โยริโตโมะ เป็นผู้ก่อตั้งรัฐบาลโชกุนคามากูระใน ค.ศ. 1192 นี่เป็นรัฐบาลทหารชุดแรกที่โชกุนพร้อมกับซามูไรเป็นผู้ปกครองญี่ปุ่นโดยพฤตินัย

หลังจากการเก็บสะสมรวบรวมอำนาจของมินาโมโตะ โนะ โยริโตโมะ เขาเลือกที่จะปกครองญี่ปุ่นร่วมกับราชสำนักเกียวโต แม้ว่าโยริโตโมะจะตั้งรัฐบาลของเขาขึ้นที่คามากูระในภูมิภาคคันโตทางตะวันออกของญี่ปุ่น อำนาจของเขาจะต้องผ่านความเห็นชอบตามกฎหมายโดยราชสำนักเกียวโตในหลายโอกาส ใน ค.ศ. 1192 จักรพรรดิประกาศให้โยริโตโมะเป็น "เซอิไทโชกุน" (征夷大将軍, seii tai-shōgun, "จอมทัพปราบอนารยชน") หรือย่อเหลือเพียง "โชกุน"[69] รัฐบาลของโยริโตโมะถูกเรียกว่าเป็น "รัฐบาลบากูฟุ" (幕府, bafuku, "สำนักพลับพลา") ซึ่งหมายถึงกระโจมที่ทหารของเขาตั้งค่าย ญี่ปุ่นอยู่ภายใต้ระบอบการปกครองทหารเป็นส่วนใหญ่จนถึง ค.ศ. 1868

ราชสำนักให้ความชอบธรรมของการจัดตั้งรัฐบาลโชกุน แต่รัฐบาลโชกุนเป็นผู้ปกครองโดยพฤตินัยของประเทศ ราชสำนักทำหน้าที่ทางราชการและศาสนา ขณะที่รัฐบาลโชกุนให้การต้อนรับการเข้าเยี่ยมของสมาชิกชนชั้นขุนนาง สถาบันเก่าแก่ยังคงอยู่ไม่เสื่อมถอยในสภาพที่อ่อนแอโดยมีเกียวโตเป็นเมืองหลวง ระบบนี้ตรงกันข้ามกันกับ "กฎนักรบอย่างง่าย" ของยุคมูโรมาจิในยุคถัดไป

โยโรโตโมะจู่โจมโยชิสึเนะที่ตอนแรกได้รับการอุปถัมภ์โดย ฟูจิวาระ โนะ ฮิเดฮิระ หลานชายของคิโยฮาระ และผู้ปกครองดินแดนทางตอนเหนือของฮนชูโดยพฤตินัย ใน ค.ศ. 1189 หลังการเสียชีวิตของฮิเดฮาระ ผู้สืบทอดของเขา ยาซูฮิระ พยายามประจบสอพลอโยริโตโมะโดยการโจมตีบ้านพักของโยชิสึเนะ แม้ว่าโยชิสึเนะจะถูกฆ่า โยริโตโมะยังคงบุกครองดินแดนของตระกูลฟูจิวาระเหนือภายหลัง โยชิสึเนะกลายเป็นบุคคลตำนานที่ปรากฏในผลงานทางวรรณกรรมนับไม่ถ้วนในฐานะวีรบุรุษในอุดมคติที่เสียชีวิตอย่างเศร้าโศก

หลังการเสียชีวิตของโยริโตโมะใน ค.ศ. 1199 รัฐบาลโชกุนเริ่มอ่อนอำนาจลง โดยภรรยาของโยริโตโมะ โฮโจ มาซาโกะ เป็นผู้กุมอำนาจที่แท้จริงของรัฐบาลอย่างลับ ใน ค.ศ. 1203 บิดาของเธอ โฮโจ โทกิมาซะ ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้สำเร็จราชการแทนโชกุนในขณะนั้น บุตรของโยริโตโมะ มินาโมโตะ โนะ ซาเนโตโมะ ด้วยเหตุนี้ โชกุนจากตระกูลมินาโมโตะกลายเป็นหุ่นเชิดให้กับผู้สำเร็จราชการแทนจากตระกูลโฮโจที่ครองอำนาจแท้จริง

ผู้สืบทอดของโยริโตโมะได้ยกเลิกระบอบที่โยริโตโมะได้ริเริ่มนั้นเป็นการกระจายอำนาจจากศูนย์กลางและมีความเป็นศักดินาในเชิงโครงสร้าง ซึ่งแตกต่างจากระบอบรัฐริตสึเรียวก่อนหน้า โยริโตโมะเป็นผู้เลือกอำมาตย์เพื่อปกครองแคว้นภายใต้ตำแหน่งที่เรียกว่า "ชูโงะ" หรือ "จิโต"จากข้าราชบริพารใกล้ชิดของเขา (โกเกนิง) รัฐบาลโชกุนคามากูระอนุญาตให้ข้าราชบริพารมีกองทัพและบังคับใช้กฎหมายในแคว้นของตนตามอัธยาศัย

ใน ค.ศ. 1221 จักรพรรดิโกะ-โทบะที่ทรงสละราชสมบัติยุยงให้เกิดสงครามปีโจกีว การกบฏต่อรัฐบาลโชกุนเพื่อนำอำนาจทางการเมืองห้วนกลับสู่ราชสำนัก การกบฏไม่สำเร็จและนำไปสู่การขับไล่ของโกะ-โทบะไปเกาะโอกิพร้อมกับจักรพรรดิสององค์ที่เหลือ จักรพรรดิสึจิมิกาโดะ และ จักรพรรดิจุนโตกุ ที่ถูกขับไล่ไปแคว้นโทซะและเกาะซาโดะตามลำดับ รัฐบาลโชกุนยังคงเก็บสะสมอำนาจทางการเมืองมากขึ้นไปอีกเพื่อให้เทียบเท่ากับราชสำนักเกียวโต

มีการเรียกระดมพลกองทัพซามูไรทั่วประเทศใน ค.ศ. 1274 และ ค.ศ. 1281 เพื่อเผชิญหน้ากับการรุกรานเต็มรูปแบบสองครั้งนำโดย กุบไล ข่าน จากจักรวรรดิมองโกล แม้ว่าข้าศึกที่เพียบพร้อมด้วยอาวุธที่เหนือกว่าจะมีจำนวนมากกว่า ซามูไรสู้รบกับกองทัพของมองโกลจนไม่สามารถเดินหน้าต่อได้จนถูกพายุไต้ฝุ่นที่เรียก "คามิกาเซะ" ทำลายกองทัพมองโกล แม้รัฐบาลโชกุนจะได้รับชัยชนะจากการรุกราน ความเสียหายทางการเงินที่เกิดขึ้นจากการป้องกันนั้นมากเกินจนไม่สามารถมอบค่าตอบแทนให้ข้าราชบริพารสำหรับบทบาทของพวกเขาในชัยชนะครั้งนี้ นี่เป็นผลที่ตามมาอย่างถาวรด้านความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลโชกุนและชนชั้นซามูไร ความไม่พึงพอใจของซามูไรเป็นข้อพิสูจน์จุดจบของรัฐบาลโชกุนคามากูระ ใน ค.ศ. 1333 จักรพรรดิโกไดโงะก่อการกบฏโดยหวังว่าจะช่วยคืนอำนาจเต็มรูปแบบคืนสู่ราชสำนัก รัฐบาลโชกุนส่งนายพล อาชิกางะ ทากาอูจิ ในการคลี่คลายสถานการณ์ แต่ทากาอูจิและผู้ติดตามของเขาตัดสินใจร่วมมือกับกำลังของจักรพรรดิโกไดโงะและโค่นล้มรัฐบาลโชกุนคามากูระ

แม้ว่าญี่ปุ่นจะเข้าสู่ยุคแห่งความเจริญรุ่งเรืองและการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของประชากรที่เริ่มขึ้นในช่วง ค.ศ. 1250ในพื้นที่ทุรกันดาล การใช้เครื่องมือเหล็กและปุ๋ยส่งผลให้เกิดการพัฒนาเทคนิคการชลประทานและการปลูกพืชเหลื่อมฤดูซึ่งทั้งสองนำไปสู่ความสามารถในการผลิตที่เพิ่มขึ้นและเพิ่มจำนวนหมู่บ้านในถิ่นทุรกันดาลเมืองต่าง ๆ เติบโตจากทุพภิกขภัยและโรคระบาดที่น้อยลงเช่นเดียวกันกับศาสนาพุทธซึ่งเป็นศาสนาหลักของขุนนางมูลนาย ถูกนำมาเผยแผ่ในวงกว้างโดยพระที่มีชื่อเสียงอย่างโฮเน็ง (ค.ศ. 1133–1212) ผู้ก่อตั้งนิกายสุขาวดีในญี่ปุ่น และ พระนิจิเร็ง (ค.ศ. 1222–1282) ผู้ก่อตั้งนิกายนิจิเร็ง ขณะที่มีการเผยแพร่นิกายเซนอย่างกว้างขวางในหมู่ชนชั้นซามูไร 》

ม้วนภาพการบุกครองของมองโกล (โมโกชูไรเอโกโตบะ)

ภาพวาดโบราณแสดงกองกำลังรบซามูไรของจักรวรรดิมองโกล

 

ซามูไร มิตสึอิ ซูเกนางะ (ขวา) เอาชนะ กองทหารบุกครองมองโกล (ซ้าย)

ตระกูลชิราอิชิ

ฮอต

Comments

ppxm.05

ppxm.05

สาระเยอะสุด

2023-04-03

0

Onanong🌵

Onanong🌵

รถวิ่งมาแล้วเป็ยงัยต่อ...ลุ้นๆ

2023-04-03

0

ทั้งหมด
เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!