นางเอกกับพลังทุนนิยม

“ ขอโทษค่ะ ”

 

     ตอนนี้ผมกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่คับขัน ไม่สิ เรียกสถานการณ์หายนะเลยจะดีกว่าเพราะ ตอนนี้ตัวประกอบอย่างผมกำลังได้รับคำขอโทษที่ไม่สมควรจะได้รับจากนางเอกหลักเสียแล้ว อีกทั้งด้วยการเล่นนอกบทของคุณเธอจึงทำให้ตอนนี้เหล่า ‘ผู้ชม’ หันเหความสนใจมาที่พวกเรามากขึ้น แม้จะไม่ได้เยอะแต่มันก็พอที่จะเปลี่ยนชีวิตตัวประกอบอย่างผมอยู่ดี

 

     สงสัยสินะว่าสิ่งที่ผมเรียกว่า ‘ผู้ชม’ คืออะไร?

 

     อย่างที่ผมได้เคยบอกไปว่า หลังจากการตื่นรู้ผมก็สามารถสัมผัสได้ถึงเหล่าผู้เฝ้ามองเรื่องราว และได้รู้หน้าที่แท้จริงของตัวเอง ซึ่งผู้ชมก็คือผู้เฝ้ามองเรื่องราวนั่นแหละ เจ้าพวกนี้ผมไม่แน่ใจว่าจะระบุให้เป็นสิ่งมีชีวิตประเภทไหนกันแน่ เนื่องจากว่าตัวตนของพวกมันไม่เป็นที่รับรู้จากบุคคลทั่วไป อีกทั้งยังทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ

 

      นั่นจึงทำให้พวกมันถือเป็นสิ่งลึกลับและสิ่งที่ต้องระวังสำหรับผม เชื่อเถอะพวกคุณไม่อยากรู้แน่ว่า หากเปิดเผยว่าผมเป็นผู้ตื่นรู้จะเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันน่าสยดสยองมากเชียวละ

 

      แต่นั่นไม่สำคัญเพราะ ตอนนี้ผมต้องหาวิธีการที่จะทำให้คุณนางเอกหลักตรงหน้าผมกลับเข้าสู่เส้นทางเดิมให้ได้ก่อนที่จะสายเกินไป

 

“ ไม่เป็นไรครับ ถึงจะเจ็บไปหน่อยแต่ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี แบบนี้ผมจะอวดให้เพื่อน ๆ ฟังได้ด้วย ”

 

“ ประสบการณ์ที่ดี? อวดเพื่อน? ไม่ใช่ว่า A คุงไม่มีเพื่อนเหรอค่ะ ”

 

     เฮือก โคตรเจ็บคุณนางเอกหลักกล่าวออกมาได้หน้าตาเฉยเลยนะครับ ให้ตายสิทำไมนางเอกที่เย็นชาถึงพูดขวานผ่าซากแบบนี้กันเนี่ย

 

“ อ๊ะ ขอโทษค่ะ ฉันลืมไปว่า A คุงเป็นพวกโลกส่วนตัวสูง อีกทั้งยังเฉื่อยชาและเหม่อลอยอีกต่างหาก...ไม่สิ นายนะเป็นคนที่โดดเดี่ยวมากเลยสินะ มันอาจจะเป็นแบบนั้นเนื่องจากอดีตของนายเอง แต่รู้อะไรมั้ยฉันเองก็ไม่มีเพื่อนเหมือนกัน เพราะเข้าสังคมไม่เก่ง เพราะถูกกดดันจากคนรอบข้าง จึงกลายเป็นว่าฉันทำตัวเย็นชาใส่พวกเขาเสียอย่างนั้น ตลอดเวลานะฉันอยากขอโทษพวกเขามาโดยตลอด แต่เพราะว่ามีเรียวยะคุงอยู่ใกล้ ๆ จึงทำให้ฉันไม่กล้าพูดออกไป ฉันนี่ไม่ได้เรื่องเลยสินะ ขอโทษค่ะ ขอโทษด้วยนะคะที่กัดหน้าท้องของคุณเพราะคิดว่าเป็นขนมปัง ขอโทษที่ถือวิสาสะขึ้นเตียงคนป่วยแบบคุณ ขอโทษจริง ๆ นะคะ ”

 

“ พูดยาวไปแล้วเว้ย!! ไหงเปลี่ยนเป็นคนละคนแบบนี้กันฟะ คุณอลิเซีย คุณอลิเซีย ฟอนเบรินตัวจริงอยู่ไหน คายออกมา คายออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ ”

 

      ผมกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงวิตกกังวลพ่วงด้วยความประหม่าที่ได้เห็นด้านที่ไม่เคยเห็นของเธอมาก่อน ไม่สิ ยัยนี่กำลังหลุดคาร์แรคเตอร์ของตัวเองไปไกลแล้ว นั่นจึงทำให้ผมต้องเรียกตัวตนจริง ๆ ของเธอกลับมา ไม่อย่างนั้นทั้งผมและเธอจะต้องซวยกันหมดแน่

 

      เห็นไม่นั่น เจ้าผู้ชมคนหนึ่งกำลังแสดงท่าทีไม่พอใจออกมาแล้ว มันจะยิงลำแสงแล้วนะนั่น

 

      ในขณะที่อลิเซียซังยังคงพูดไปเรื่อย ๆ อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ทางฝั่งของผมนั้นกำลังเห็นเคียวมันจจุราชที่กำลังง้างใกล้หัวของอลิเซียเรื่อย ๆ แต่ทว่าในตอนนั้นเองน้ำเสียงของอลิเซียซังก็เปลี่ยนไป

 

“ รู้อะไรมั้ย A คุง? ฉันนะชอบเรียวยะคุงมาโดยตลอด แต่ทว่าไม่เคยมีโอกาสได้พูดเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทุก ๆ ครั้งที่ฉันจะพูดกับเขาเหมือนอะไรบางอย่างมาฉุดรั้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง อุบัติเหตุ หรืออะไรก็ตามที่จะขัดขวางการพูดคุยของฉันกับเขาได้...นี่ A คุงฉันจะพูดคุยกับเรียวยะได้รึเปล่า? ”

 

       น้ำเสียงของเธอนตอนนี้แสดงออกให้เห็นถึงความท้อแท้และหมดหวัง อันที่จริงผมก็อยากอธิบายเรื่องนี้ให้เธอฟังอยู่เหมือนกันแต่ว่า ถ้าผมทำอย่างนั้นเรื่องแย่ ๆ จะต้องเกิดขึ้นกับเธออย่างแน่นอน

 

“ มันยังไม่ถึงเวลามั้งครับ? ”

 

“ ไม่ถึงเวลาเหรอ? ”

 

“ ใช่ครับ บางทีมันก็มีไม่ใช่รึไงครับ เวลาเราลงมือทำแต่กลับไม่เกิดผลในทันที มันจะต้องใช้เวลาอยู่สักพักกว่าผลพวงที่ได้จะสุกงอม ถ้าให้เทียบแล้วตัวของคุณนะเป็นพวกที่ทำมากกว่าพูด ดังนั้น ผมคิดว่าคุณควรจะแสดงให้เขาเห็นด้านของคุณมาก ๆ เข้าไว้จนถึงเวลานั้นมาถึง...ผมคิดว่าเขาจะรับรู้ความสึกของคุณได้อย่างแน่นอน ”

 

      โกหก ผมโกหกเธอ โกหกนางเอกหลักของเรื่องราวนี้

 

      ถึงแม้ผมจะบอกไปว่าให้แสดงด้านดี ๆ ของเธอออกมาให้ซากาจิเห็น แต่ในความเป็นจริงแล้วการทำแบบนั้นไปก็แทบจะเปล่าประโยชน์อยู่ดีเพราะ เจ้านั่นเป็นพระเอกฮาเร็มที่หัวทึบ โดยเฉพาะกับความรู้สึกของผู้หญิงหมอนั่นจะหัวทึบเป็นพิเศษ ดังนั้น การจะรับรู้ถึงความรู้สึกของเหล่านางเอกนะเป็นไปไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว

 

     เจ้าหมอนั่นจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะมีตัวกระตุ้นทำให้ระลึกถึงสิ่งต่าง ๆ ที่นางเอกหลักได้ทิ้งไว้ในใจของหมอนั่นจนในที่สุดมันก็ระเบิดออกมา แล้วกลายเป็นฉากจบเล่มหนึ่งของนิยายนั่นเอง

 

      แต่นั่นแหละถึงจะเป็นความจริง ผมก็ไม่อยากให้เธอมารับรู้อะไรแบบนี้หรอกนะ สู้ให้เธอพยายามต่อไปจนกว่าเวลาที่เหมาะสมจะมาถึงจะดีกว่าแม้ไม่รู้จะใช้เวลานานแค่ไหนก็เถอะ

 

“ อย่างงั้นเหรอ? แล้วต้องทำอะไรบ้างละ? ”

 

“ อย่างที่บอกเพราะคุณพูดกับคนอื่นไม่ค่อยเก่งถึงจะพูดกับผมมากเกินไปก็เถอะ คุณควรแสดงผ่านความการกระทำมากกว่าคำพูด ”

 

    นั่นถึงจะเหมาะกับนิสัยของนางเอกที่เย็นชาละนะ พวกตัวเอกแนวนี้มักจะแสดงออกผ่านการกระทำเสมอ ให้เธอทำแบบนี้น่าจะดีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

 

“ เช่นอะไรเหรอคะ? ”

 

“ ทำอาหาร ทำข้าวกล่อง ทำช็อกโกแลต ชวนหมอนั่นเดท พาไปเที่ยว หรือไม่ก็ไปซื้อชุดว่ายน้ำด้วยกัน อะไรประมาณนี้ครับ ”

 

      ผมกล่าวออกมาแต่ทว่าสายตาเจ้ากรรมดันไปเห็นว่า อลิเซียซังแสดงสีหน้าเศร้าสร้อยออกมา นี่คงไม่ได้เป็นอย่างที่ผมคิดใช่มั้ย?

 

      ขอละ ขอร้องเถอะ อย่าให้เป็นแบบที่ผมคิดเลย

 

“ ทำอาหารเป็นใช่มั้ยครับ? ”

 

“ ไม่ค่ะ ”

 

“ แล้วชวนเดทละถึงจะพูดไม่เก่ง...ก็น่าจะชวนได้อยู่นะครับ ”

 

“ ไม่ไหวค่ะ ”

 

     อา จบสิ้นแล้ว ชีวิตของคุณนางเอกหลักจบสิ้นแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ถึงจะจบเล่มหนึ่งไปแล้วคุณเธอก็ยังไม่มีทักษะมัดใจติดตัวเลยไม่ใช่รึไง? มีหวังนางเอกคนอื่นได้เข้าตำแหน่งก่อนแหง ๆ แต่ด้วยฐานะของผมคงช่วยอะไรไม่ได้แล้วละนะ

 

     ยังไงซะตัวประกอบก้คือตัวประกอบอยู่วันยันค่ำ ต่อให้อยู่ในสถานการณ์แบบไหนก็คือตัวประกอบอยู่ดีนั่นแหละ เอาเป็นว่าหลังจากนี้ก็คงได้แต่ปล่อยเธอฝึกฝนทักษะของตัวเองไปก็แล้วกัน ยังไงซะบ้านเธอก็รวยพอที่จะจ้างเชฟดัง ๆ อยู่แล้วละนะ

 

“ เรื่องที่กล่าวมาทั้งหมดฉันทำไม่ไหวแน่นอนค่ะ ”

 

     ไฮหยาจิตตกไปแล้ว ดูเหมือนผมจะคิดนายไปหน่อยละนะ เอาเถอะปลอบคุณนางเอกหลักเสียหน่อยก็คงไม่มีผลกระทบอะไรหรอกมั้ง

“ อย่าเศร้าสิครับ ผมเชื่อว่าคุณจะต้อง- ”

 

“ ฉันทำไม่ไหวแน่นอนค่ะ แต่ว่า...ถ้าเกิดว่า A คุงช่วยละก็ฉันคิดว่ามันต้องสำเร็จแน่นอนค่ะ!!! ”

 

“ ห่ะ!! ”

 

     นี่หล่อนพูดเรื่องอะไรของหล่อนกันฟะ ตูข้าเป็นตัวปรกอบนะโว้ย ไม่มีทางช่วยนางเอกหลักอย่างคุณเธอได้อยู่แล้ว!!

 

“ เลิกเถอะครับยังไงซะผมก็- ”

 

      ทันใดนั้นอลิเซียซังก็ชูนิ้วขึ้นมาสามนิ้วแล้วกล่าวขึ้นมา

 

“ สามล้านค่ะ ฉันขอให้คุณช่วยด้วยเงินทั้งหมดนี้ ”

 

      ไม่อะ ไม่ไหวต่อให้มีสักสิบล้านก็ไม่เอา ผมไม่ได้เป็นพวกที่ซื้อได้ด้วยเงินหรอกนะ แล้วดูเหมือนอลิเซียจะเดาสีหน้าของผมออกเธอก็พุดขึ้นมาอีกครั้ง

 

“ สามร้อยล้านค่ะ ฉันจะจ่ายให้คุณ เพียงแค่คอยช่วยเหลือฉันตามที่ฉันขอคุณก็จะได้มันไปค่ะ ”

 

“ คุณคิดว่าผมเห็นแก่เงินหรือยังไงกันครับ ”

 

“ แต่ว่าค่าเงินไม่ใช่เยน แต่เป็นเครดิตนะคะ ”

 

“ โอเคตกลงครับ ”

 

“ ยินดีเช่นกันที่ได้ทำธุรกิจกันนะคะ ”

 

     พวกเราทั้งสองส่งยิ้มเป็นมิตรให้แก่กันและกันพร้อมกับพูดคุยกันอีกเล็กน้อย ก่อนที่จะเซ็นสัญญากันอย่างสมบูรณ์

 

     ให้ตายสิทุนนิยมนี่มันน่ากลัวจริง ๆ

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!