แผนการทดลองชีวิต Mary Time!!
แมรี่รู้สึกตัวขึ้นมาในบ้านของหล่อนท่ามกลางกองระเกะระกะในกองข้าวของมากมายที่ใช้ในพิธีศพเมื่อไม่นานมานี้ สายตาที่เหม่อลอยดวงตาคู่นั้นจับจ้องไปที่รูปถ่ายที่แขวนไว้อยู่มุมห้อง
ภาพถ่ายครอบครัวตามที่เธอเข้าใจในรูปคงจะเป็นสามีและลูกชายตัวน้อยน่าจะเป็นความทรงจำแสนอบอุ่นหัวใจ บรรยากาศในรูปท่ามกลางฟ้าสดใส
แต่เธอไม่อาจมองเห็นใบหน้าของคนสำคัญทั้งสองได้
สมองของเธอราวกับต้องการปิดการรับรู้ข้อมูลนี้ไว้ ไม่แน่ใจว่าทำไมหรืออาจเพื่อปกป้องจิตใจของหญิงสาวผู้สูญเสียคนนั้น
งานศพที่พึ่งผ่านมานั้นความจริงแล้วคืองานศพของลูกชายและสามีของเธอ
มันเจ็บปวดเกินไปรึเปล่าที่จะจดจำมัน นั้นอาจเป็นสาเหตุที่เธอนั้นลืมเลือน แต่มันก็ไม่ใช่แบบนั้นซะทีเดียว
เหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง
แมรี่รู้ว่าเธอเป็นใครแต่เธอไม่สามารถจำอดีตวัยเด็ก พ่อแม่ หรือความรักของเธอและสามี
เธอรู้ว่าเธอคือแมรี่แค่นั้นเอง
แมรี่ลุกขึ้นไปจัดการตัวเอง อาบน้ำแต่งตัว โดยปล่อยให้สิ่งของรกรุงรังไว้แบบนั้น
เธอใส่สูท เชิ้ตสีขาว กางเกงขายาวสีดำ สูทสีดำตัวนึง และ ผูกเนคไทสีแดง
หญิงสาวจำได้ว่าเคยได้รับจดหมายจากซิสเตอร์จากโบสถ์ในหมู่บ้าน
สถานะโลกในปัจจุบันอยู่ในภาวะสงคราม ในปี 2050+ หลังจากสงครามนิวเคลียร์
โลกก็กลายเป็นที่เหี่ยวแห้ง ไร้ชีวิตชีวา รกร้าง ถึงมีเมืองที่ล้ำสมัย แต่นั้นมีน้อยนิดจนนับนิ้วได้
ความต้องการพื้นฐานของมนุษย์นั้นหาได้ยาก ผู้ยากจนมากมาย
แมรี่อยู่ในเมืองที่ไม่มีในแผนที่ด้วยซ้ำ ตอนนี้แผนที่โลกไม่เหมือนเดิมอีกแล้วรัฐบาลต่างๆล่มสลาย ระบบรัฐชาติพินาศลง ทุกที่อยู่ในสถานะรัฐล้มเหลว มีแค่กลุ่มอำนาจต่างๆที่ปกครองตนเอง ผู้คนกลายพันธุ์ ไม่อาจเรียกที่ใดๆว่าสงบสุข
นั้นอาจจะไม่แปลกถ้าคนในหมู่บ้านเล็กๆนี้หายไปทั้งหมู่บ้านอย่างไร้ร่องรอย
“มันว่ายังไงนะ…อ่า..ใช่”
มือเรียวพลิกหน้ากระดาษสีหม่นไปมา
สถานี 42 ⅙ จาก 0 ไปที่นั้น เจอกันที่กลางเมืองที่1717
หมู่บ้านเล็กๆที่มีไม่ถึงสิบหลังคาเรือน ผ่านโบสถ์ที่ในขณะเดียวกันเป็นโรงเรียนประจำหมู่บ้าน
สองขาของผู้อาศัยคนสุดท้ายของที่นี้ก้าวออกไปข้างหน้ามุ่งไปยังสถานีรถไฟซึ่งอยู่ไกลออกไป
ท้องฟ้าเปลี่ยนจากมืดครึ้มกลายเป็นฟ้าวันใหม่เสียงรถไฟแล่นไปตามรางด้วยความเร็วคงที่ แมรี่เป็นคนเดียวที่อยู่ในรถไฟทั้งขบวน รถไฟอัตโนมัติ ที่ภายนอกเหมือนรถไฟเก่าๆในสมัยร้อยกว่าปีที่แล้วสีสนิมขึ้นตามผนังรถ และตะไคร้น้ำสีเขียวกับดอกไม้สีม่วงที่ไต่ตามภายนอก
แมรี่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรทำอะไร แต่เธอคิดว่าลองไปตามจดหมายน่าจะดีรึเปล่า ?
อะไรกันที่เธอตามหา คงเป็นความทรงจำที่มีกับคนสำคัญ
“ข้าวมีแค่นี้ ปลาแห้ง ไส้กรอก ผลไม้แห้ง น้ำดื่มสองขวด พอซะที่ไหนกัน”
แมรี่ตรวจของในกระเป๋าหวังว่าจะมีอาหารเพิ่มในนี้ซะก็ดี ว่าไหม?
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงไม่นานนัก รถไฟก็เทียบที่สถานีอันรกร้าง ปกติไม่มีใครเขาขึ้นรถไฟกันหรอก เป็นเป้านิ่งให้ฆ่าชัดๆ
ภาวะสงคราม การก่อร้ายลุกลามไปทั่วพื้นที่ แมรี่เดินไปในเมืองที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังของตัวอาคารต่างๆ บรรยากาศการสีเทาท่ามกลางแดดจ้านั้นดูน่าหดหู่ ผู้คนผอมแห้งเด็กๆไร้แววร่าเริง กลิ่นดินโคลนตามตรอกถนน
ตุบ!! โอ้ย!
เด็กชายวิ่งเข้าชนแมรี่อย่างจังก่อนวิ่งออกไปไม่รอช้า
“อะ!! กระเป๋า เอากระเป๋าคืนมานะ เด็กเวรนี่!!!”
พอรู้ตัวเธอก็รีบตามเด็กคนนั้นไป จากตรอกหนึ่งยังตรอกนึงสุดท้ายก็ลับสายตาหายไปในกลีบเมฆ
“เฮ้อ”
แมรี่ถอนหายใจ มองรอบตัวก็พบว่าตัวเองอยู่ที่ไหนไม่รู้ ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีอะไรเลย แถมยังเหนื่อยและหิวน้ำจนคอแห้งผาก
“พี่สาว พี่สาว ช่วยหนูด้วย”
เด็กสาวตัวเล็กแคระแกร็น วิ่งมาด้วยความเร็วเฉื่อยๆ
จะให้ช่วยอะไรเล่าตัวเองยังออกไม่รอดเลย ขอร้องเถอะ
“พี่ค่ะ พี่ค่ะ หนูหนู”
เธอวิ่งปรี่มากอดที่ขา น้ำตานองหน้า
“อะไร ไม่มี ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ ช่วยอะไรไม่ได้หรอ เห็นไหม? ฉันดูเหมือนคนใจดีรึไง?”
“หนูทำหาย ทำหาย ..
“รู้ได้ไง นี้ก็ทำหายเหมือนกัน กระเป๋านะ กระเป๋า โดนกระชากกระเป๋ามา หายเหมือนกันช่วยหาไม่ได้หรอกนะ”
แมรี่พูดแทรก เด็กสาวชะงักเล็กน้อยแต่เธอก็ไม่ยอมแพ้
“กล่องยาของคุณแม่หนูยาโรคประจำตัว…”
“ก็ได้ แถวไหนล่ะ?”
ด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย ตัวเธอบิดตัวยืดเส้นยืดสาย
เด็กสาวเดินนำออกไปจากตรอก แมรี่เดินตามไปดูท่าทางไม่รีบร้อน แต่ในใจกลับร้อนสุดๆ
“ยาเป็นกล่องแบบไหนหรอ อ๊ะ … ก็ว่าแปลกๆ โดนเข้าซะแล้ว ….
มีปืนลูกโม่ จ่ออยู่ที่ขมับซ้ายของแมรี่ เด็กสาวยืนมองอยู่ห่างๆ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นฝีมือใคร
ปล้น? ค้ามนุษย์? ฆาตกรรม? ทั้งที่เป็นภาวะสงครามแท้ๆ ก็ควรระวังให้มากกว่านี้ซักหน่อย
“อยู่นิ่งๆ ค่อยๆหันมา "
แมรี่ทำตามที่บอกอย่างว่าง่าย
แต่เหมือนพอจะมีโชคสำหรับเธออยู่บ้าง
“ยืนยันตัวตนช่วยทาเจ้านี้ที่มือซ้ายหน่อย”
ทหารชายในชุดลายพรางล้วงหยิบขวด อะลูมิเนียมขนาดเล็กมาจากกระเป๋ากางเกงท่ามกลางแดดร้อนๆมันสะท้อนแสงเล็กน้อย
อะไร สารอะไรก็ไม่รู้จะให้มาทาที่ตัวอันตรายเป็นบ้าในสายตาเธอ
ฟิ้ว!!!
เธอโยนขวดอะลูมิเนียม มันสะท้อนแสงจ้าเขาไปในดวงตาของทหารคนนั้น
แมรี่ใช้จังหวะนั้นเองพุ่งตัวไปชนตัวเขาอย่างเต็มแรงมุ่งยังผนังใกล้ๆ
ปัง!
ปืนลั่นออกมาด้วยความตกใจบวกกับพยายามจะยิงตัวเป้าหมายอย่างเธอมกระสุนเฉียดไหล่แมรี่ไปเล็กน้อย
ฉีก!!
โชคช่วยที่มีเหล็กแหลม โผล่มาจากกำแพงของตึกผุพัง เหล็กแทงนั้นเสียบทะลุคอของออกมาหลายนิ้ว ร่างหยุดนิ่งไม่ไหวติง เป็นไปอย่างที่แมรี่ตั้งใจ
เธอเดินไปเก็บปืนลูกโม่ที่หล่นที่พื้นเช็คจำนวนกระสุน ก่อนเล็งไปที่เด็กสาวที่กำลังจะหนีไปอย่างร้อนรน
“ฉันไม่สนหรอนะว่าเป็นเด็กหรือคนแก่ ฉันยิงแน่ บอกมาว่าทำไมถึงมีคนคิดจะจับฉัน?”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 7
Comments