แด่เธอผู้จากไป
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นในช่วงใกล้ปิดเทอมฤดูร้อนปี 2564 ประมาณเดือน กุมภาพันธ์ ผมได้รับข้อความจากคนคนหนึ่ง เธอคนนั้นเป็นหญิงสาวชาวญี่ปุ่นที่มีความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาไทยมาก เพราะเธอเป็นคนที่รักประเทศไทย ชื่นชอบวัฒนธรรมไทย และประเพณีไทยมากกว่าประเทศไหน ๆ ที่เธอรู้จักและเคยไปเที่ยวมา เธอจึงลงคอร์สเรียนภาษาไทย เธอเป็นคนน่ารัก อยากรู้อยากเห็น และเป็นคนขี้อายแต่ชอบตั้งคำถามมาก ๆ เราคุยกันในฐานะเพื่อนต่างชาติเป็นระยะเวลา 2 เดือน เราทั้งสองพูดคุย เรียนรู้และแลกเปลี่ยนเรื่องราวในชีวิตประจำวันกันทุกวัน ผ่านทางข้อความและวีดีโอคลอ เรื่องราวตลอด 2 เดือนนั้นก่อให้เกิดความใกล้ชิดและผูกพันกันระหว่างสองเรา ถึงแม้เราจะห่างไกลกันมากแค่ไหนก็ตาม เราทั้งสองก็เลยตกหลุมรักกันในที่สุด แม้เราจะเป็นแฟนกันแล้วแต่สถานะของเราก็ยังคงปิดเป็นความลับและเราก็ยังคงเป็นเพื่อนที่คอยคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวในชีวิตประจำวันของกันและกันเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน จะมีเพิ่มก็แค่บอกรักกันในตอนเช้า ๆ บอกฝันดีในตอนค่ำ คอยอยู่เคียงข้างกันในตอนที่รู้สึกเหงา หรือจะอยู่คุยด้วยกันจนหลับในตอนกลางคืน
แต่แล้ววันเวลาที่มีความสุขนั้นมักจะผ่านไปไวยิ่งกว่าเรื่องโกหก พอถึงช่วงปิดเทอมตัวผมก็ติดเกมอย่างหนักจนทำให้ช่องว่างระหว่างผมกับเธอนั้นกว้างขึ้นไปอีก ทุกครั้งที่เธอทักมามันมักจะตรงเวลาเดียวกันกับตอนที่ผมเล่นเกม พอผมเล่นเกมแพ้ผมก็จะโกรธให้เธอว่าเธอทักมากวน ทั้ง ๆ ที่เวลานั้นมันเป็นเวลาประจำที่เราจะคอยอยู่คุยด้วยกัน แล้วทุกอย่างมันก็เป็นอย่างนั้นเรื่อยมาจนวันหนึ่งโชคชะตาก็ไม่เข้าข้างผม หลังจากที่ผมเล่นเกมแพ้ติดต่อกัน 5 ครั้งรวด เธอก็ได้โทรมาบอกฝันดีตามปกติแต่ผมกลับโมโหอย่างหนักจนพรั้งปากบอกเลิกกับเธอ คำพูดนั้นหลุดออกจากปากของผมไปโดยที่ผมไม่ได้ยั้งคิด ในตอนนั้นผมยังไม่ได้เอ่ยปากขอโทษเธอเพราะความหัวร้อนของผม เสียงที่ผมได้ยินนั้นมีเพียงเสียงร้องไห้ของเธอก่อนที่เธอจะวางสายไปโดยไม่พูดอะไร พอสิ้นเสียงของเธอผมก็นอนคิดทบทวนสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งคืนท่ามกลางความรู้สึกผิดและความเงียบ หลังจากคืนนั้นผ่านไปเธอคนนั้นก็หายไปจากชีวิตของผมโดยที่ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัว
จนถึงช่วงเปิดเทอม ช่วงเดือนมิถุนายนแต่ติดสถานการณ์ Covid19 ทำให้โรงเรียนของผมเปิดการสอนแบบออนไลน์โดยที่ไม่ต้องไปโรงเรียน ตั้งแต่วันที่ผมทำตัวแย่ ๆ และบอกเลิกเธอ ผมก็ใช้ชีวิตอยู่เงียบ ๆ ตามลำพังมาตลอด เลิกเล่นเกมและหันกลับมาตั้งใจเรียนเหมือนตอนแรก ๆ ที่เรารู้จักกัน ตอนเย็นของทุก ๆ วันผมจะเล่าเรื่องราวในชีวิตประจำวันของผมผ่านตัวอักษรส่งเข้าไปในแชทของเรา เพื่อหวังว่าเธอจะตอบกลับมา แต่เธอทำเพียงแค่เปิดอ่านมันเป็นบางครั้ง และผมแทบจะไม่เห็นเธอออนไลน์เลยสักครั้งตั้งแต่เราเลิกกัน ผมไม่ได้หวังให้เธอคนนั้นยกโทษให้ผมเพราะผมรู้ว่าผมเป็นคนผิด แต่สิ่งที่ผมต้องการคือให้เราทั้งสองกลับมาเป็นเพื่อนกันอีกครั้ง และผมก็อยากจะขอโทษเธอกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่มันก็เป็นเพียงความต้องการลม ๆ แล้ง ๆ ของผม เธอขาดการติดต่อตั้งแต่วันที่เราบอกเลิกกันนั่นคือเดือน กรกฎาคม เธอเปิดอ่านข้อความของผมเป็นบางครั้ง แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็หายเงียบไปเมื่อช่วงเดือน กันยายน เธอไม่เคยเปิดอ่านข้อความของผมเลยสักครั้งสรุปคือหายไปโดยไร้วี่แววว่าเธอจะเปิดอ่านข้อความของผม จนกระทั่งวันที่ 31 ธันวาคม 2564 เวลา 22.30 นาที (เวลาประเทศไทย) ในตอนนั้นผมนั่งรอนับเวลาถอยหลังเพื่อก้าวเข้าสู่ปีใหม่ผมได้แต่หวังว่าปีใหม่นั้นทุกอย่างต้องดีกว่าที่เคยผ่านมา แต่ในเวลาเดียวกันผมก็ได้รับข้อความที่ทำให้ตัวผมต้องร้องไห้ออกมา ข้อความที่มาพร้อมภาพถ่ายของครอบครัวที่กำลังร้องไห้กับการจากไปของเธอคนนั้น คนที่ส่งข้อความเข้ามาในแชทของเรานั้นไม่ใช่เธอแต่เป็นพี่ชายของเธอที่เป็นคนส่งข้อความเข้ามา ในข้อความนั้นเป็นภาษาญี่ปุ่นซึ่งแปลออกมาได้ว่า "*ต่อไปนี้น้องสาวของฉันจะไม่ไปรบกวนคุณอีกแล้วนะ เพราะตอนนี้เธอไปสบายแล้ว ฉันดีใจนะที่น้องสาวของฉันได้เจอคนดี ๆ แบบคุณ" "ขอบคุณ ที่อยู่เป็นเพื่อนกับเธอ*" นั้นเป็นข่าวร้ายที่สุดที่ผมเจอก่อนเริ่มปีใหม่ หลังจากที่ผมรู้ข่าวการจากไปของเธอผมก็ไม่อยู่รอเค้าท์ดาวน์กับครอบครัว ตัวผมในคืนนั้นเอาแต่นอนร้องไห้ทั้งคืน เข่าอ่อนจนลุกยืนไม่ขึ้นผมเอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่ในบ้านไม่ออกไปไหน ไม่คุยกับใครเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์เต็ม ๆ ในระหว่างนั้นผมเอาแต่โทษตัวเองที่เป็นคนบอกเลิกเธอและไม่ยอมพูดขอโทษเธอออกไป ผมได้แต่นอนนึกถึงอดีต ทั้งความฝันที่เคยวาดไว้ในอนาคต ทั้งรอยยิ้มทั้งเสียงหัวเราะ ทั้งสิ่งที่เราอยากทำด้วยกันเมื่อมีโอกาส และเรื่องราวต่าง ๆ อีกมากมายของเธอคนนั้น ภาพวันวานมันไหลย้อนกลับเข้ามาในหัวพร้อมกับความเศร้าและความอ้างว้างยิ่งกว่าสายน้ำที่ไหลเชี่ยว พอผมหลับตาลงก็มองเห็นแต่หน้าของเธอคนนั้น หลังงานศพพี่ชายของเธอก็มาเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เธอคนนั้นปิดเป็นความลับไม่ยอมบอกผมมาตลอดเวลาที่เรารู้จักกัน พี่ชายของเธอรู้เรื่องที่พวกเราคบกันและรู้มาตลอดว่าน้องสาวของเขากับผมทะเลาะกัน พี่ชายของเธอเล่าว่าน้องสาวของเขาป่วยเป็นโรคมะเร็งตับอ่อน อาการป่วยจะไม่แสดงออกดูแล้วก็เหมือนคนปกติทั่วไปแต่ต้องเข้ารับการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเป็นประจำ และไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดได้ ได้แต่ยื้อเวลาไปวัน ๆ ก่อนหน้านี้เธอก็ดูสดใสปกติ หรืออาจจะสดใสมากกว่าเมื่อก่อนเยอะ ในตอนที่เรากำลังคบกัน แต่เมื่อช่วงเดือน กรกฎาคม เธอไม่ค่อยสดใสร่าเริงเหมือนเมื่อก่อนแถมยังดูเศร้า ๆ ไม่ค่อยพูดจากับใครแม้แต่กับเขาและคุณยาย หลังจากนั้นอาการป่วยของเธอก็แย่ลงมากจนต้องเข้านอนโรงพยาบาลช่วงเดือน กันยายน และมาจากไปหลังหมดเสียงพลุฉลองปีใหม่ ในวันที่ 1 มกราคม 2565 เวลา 00.20 นาที (เวลาประเทศญี่ปุ่น) ผมยังมีโอกาสได้อ่านบทความส่วนหนึ่งของไดอารี่ที่เธอเขียนถึงผมก่อนเธอจะสิ้นลมหายใจ เธอคนนั้นเขียนไว้ว่า
"*ถึง (ชื่อของผม) ขอบคุณมาก ๆ นะที่มาคุยกับคนขี้อายอย่างฉัน ฉันหนะเป็นคนไม่ค่อยกล้าแสดงออกแต่พอมาเจอกับนายฉันพบว่า ตัวเองไม่จำเป็นต้องนั่งอยู่อย่างเหงา ๆ คนเดียว ขอแค่กล้าแสดงออกหลาย ๆ อย่างรอบตัวเราก็จะเปลี่ยนไป ฉันหนะได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมายจากนาย ฉันดีใจมาก ๆ ที่ได้มีเพื่อนเป็นคนไทย ก่อนหน้านี้มีแต่คนว่าฉันโกหกไม่มีใครเชื่อฉันว่าฉันเป็นคนญี่ปุ่นจริง ๆ แต่พอได้พบกับนาย ฉันก็รู้ได้เลยว่าเราต้องเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้แน่นอน*
*ขอโทษนะที่ไม่ได้มาบอกลาด้วยตัวเอง และก็ขอโทษด้วยที่ไม่ได้บอกเรื่องอาการป่วยของฉัน ฉันกลัวว่านายจะเป็นห่วง แล้วก็ขอบคุณมากนะที่อยู่เคียงข้างกันเสมอ ความจริงแล้วที่ฉันเลิกคบกับนายเพราะว่าฉันไม่อยากให้นายมาผูกติดกับคนใกล้ตายอย่างฉัน ฉันไม่ได้โกรธให้นายที่บอกเลิกกับฉันเลยสักนิด เพราะฉะนั้นอย่าโทษตัวเองเด็ดขาดไม่ว่าฉันจะจากไปยังไงก็ไม่เกี่ยวกับนาย จำไว้ซะจะช้าหรือเร็วฉันก็ต้องตายอยู่ดี* ^\_^ "
สิ่งนี้คือข้อความสุดท้ายที่เธอเขียนถึงผมและให้พี่ชายของเธอส่งมาให้ผมหลังจากที่เธอจากไป พอผมได้อ่านไดอารี่นี้ผมก็เลิกโทษตัวเองตามที่เธอได้เขียนบอกไว้ แต่ผมก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดีที่ไม่มีโอกาสได้ขอโทษเธอด้วยตัวของผมเองและก็จะยังคงรู้สึกผิดอย่างนี้ตลอดไป หลังจากนั้นผมก็เริ่มต้นชีวิตใหม่กับปีใหม่ที่ผ่านพ้นไป 1 สัปดาห์ 1 สัปดาห์ที่ผมปล่อยให้มันหมดไปกับความทรงจำเก่า ๆ ผมจึงเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้เหมาะกับปีใหม่ที่จะต้องพบเจอสิ่งใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิต
และนี่คือเรื่องราวชีวิตของผมที่เกิดกับตัวผมจริง ๆ ถึงแม้มันอาจจะฟังดูเหมือนนิยาย แต่มันก็เป็นนิยายที่เขียนขึ้นจากชีวิตจริงของผมเอง เขาว่ากันว่า "***ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย***" นั้นสินะ
สุดท้ายนี้ "อดีตก็เป็นเพียงแค่อดีต มันผ่านไปแล้วก็ต้องปล่อยให้มันผ่านไป คนที่จากไปแล้ว ก็ต้องจากไป ส่วนคนที่ยังอยู่ก็ต้องอยู่ต่อไป ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดจะได้ไม่ต้องมาเสียใจทีหลัง" นะครับ
แด่เธอผู้จากไป
for
Shikira Neneko
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments