นับฟ้ามองหลังเพื่อนสนิทที่วิ่งหายไปชั้นบน กลิ่นทรายยังคงร่าเริง เด็ดเดี่ยว และเข้มแข็งเหมือนตอนเด็ก ๆ ไม่มีผิด หากเธอเข้มแข็งได้สักครึ่งนึงของกลิ่นทราย ชีวิตเธอคงจะมีความสุขมากกว่านี้
‘ไม่ต้องห่วงนะฟ้า พอโตขึ้นฉันจะเป็นหมอมารักษาเธอเอง เธอไม่ต้องกลัวนะ’ นับฟ้านึกถึงคำพูดของกลิ่นทรายเมื่อตอนที่ทั้งคู่ยังเป็นเด็ก
เมื่อตอนที่เธอไปเรียนต่างประเทศเธอกับกลิ่นทรายพักอยู่ห้องเดี๋ยวกัน พอกลิ่นทรายรู้ว่าเธอเป็นโรคหัวใจตั้งแต่กำเนิดเพราะเห็นยาที่เธอกินก็สัญญาที่จะเป็นหมอเพื่อมารักษาเธอ และกลิ่นทรายก็ทำตามสัญญา ทิ้งความฝันที่อยากเป็นดีไซเนอร์ชื่อดัง แต่เลือกที่จะเรียนหมอเพื่อที่จะมารักษาเธอแทน อีกทั้งยังช่วยเธอเก็บไว้เป็นความลับตามที่เธอขออีกด้วย
“ข้าวกล่องค่ะพี่ดิน ส่วนนี่แซนด์วิช ฟ้าทำไว้ให้” ฟ้าวางข้าวกล่องและอาหารเช้าที่เตรียมไว้ลงตรงหน้าไอดิน
“บอกให้ทรายกลับบ้านไปได้แล้ว เธออย่าคิดนะว่ามีทรายช่วยหนุนหลังอยู่แล้วฉันจะเกรงใจเธอ” ไอดินบอกกับนับฟ้า ซึ่งนับเป็นกันคุยกันในรอบหลายเดือน
“ฟ้าไม่ได้คิดแบบนั้นเลยนะคะ ทรายเป็นเพื่อนของฟ้า จะให้ฟ้าไล่ทรายได้ยังไงกัน”
“ช่างเถอะ อยากอยู่ก็อยู่ไป อ่อ! ฉันจะเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็นประกายดาว บอกให้เธอรู้ไว้ก่อนจะได้ไม่ต้องมาโวยวายทีหลัง”
“ค่ะ” นับฟ้ารับคำ น้ำใส ๆ รื้นขึ้นบริเวณรอบดวงตา แม้แต่ชื่อบริษัทที่พ่อแม่ตั้งให้ เขาก็ยังไม่ต้องการให้มีชื่อเธออยู่สินะ
“ไม่ได้ ทรายไม่ยอม”
“แกมีสิทธิอะไรมาไม่ยอม”
“ก็สิทธิที่ทรายเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทไง”
“หุ้นแค่นั้นคิดว่าจะทำยังไงได้เหรอ”
“งั้นถ้าทรายบอกกับบริหารว่าตอนนี้นับฟ้าไม่ได้ถือหุ้นของบริษัทอยู่เลย ซึ่งถ้ามีการตรวจสอบขึ้นมาจะทำให้บริษัทขาดความน่าเชื่อถือ และอาจส่งผลต่อความเชื่อถือของลูกค้าได้ พี่ดินคิดว่าทางบอร์ดเข้าจะว่ายังไงคะ แล้วยิ่งถ้าพี่ดินเปลี่ยนชื่อบริษัทอีกแน่นอนว่าเรื่องนี้ต้องโดนตรวจสอบแน่ ๆ ถ้าพี่ดินยอมให้ความรู้สึกส่วนตัวมีผลต่อกำไรของบริษัทก็ลองดู”
“อย่ามาขู่พี่นะ”
“ทรายไม่ได้ขู่...”
“ช่างเถอะทราย..ถ้าพี่ดินอยากเปลี่ยนก็แล้วแต่พี่ดินเถอะค่ะ ฟ้าไม่มีปัญหาอะไร”
“หึ อวดดี! เจ้าตัวเขายังไม่มีปัญหาอะไรเลยแกจะเดือดร้อนแทนทำไมกัน”
“ก็ลองดูสิ ถ้าพี่ดินกล้าเปลี่ยนละก็เจอดีแน่” กลิ่นทรายตะโกนตามหลังพี่ชายที่เดินออกจากบ้านไป
“พอเถอะทราย ก็แค่ชื่อบริษัท ไม่เห็นจะเป็นไรเลย” นับฟ้าปรามเพื่อนที่ยังคงตะโกนอยู่
“เป็นสิเป็นมากด้วย ฟ้าเธอไม่จำเป็นต้องยอมพี่ดินทุกเรื่องแบบนั้นนะ ยังไงเธอก็เป็นเมียเขา เขาต้องนึกถึงความรู้สึกเธอบ้าง”
“ฉันไม่เป็นไรจริง ๆ กินโจ๊กดีกว่าเมื่อกี้บอกว่าหิวไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวโจ๊กชืดหมดจะไม่อร่อย”
“ก็ได้แต่ฉันไม่ยอมให้พี่ดินเปลี่ยนชื่อบริษัทแน่ ๆ” กลิ่นทรายพูดพลางตักโจ๊กใส่ปากอย่างเอร็ดอร่อย
“แล้วทำไมเธอไม่กินด้วยกันละ”
“ฉันยังไม่หิวนะ”
“ไม่ได้ ไม่หิวก็ต้องกิน มาเดี๋ยวฉันตักให้” กลิ่นทรายเดินไปตักโจ๊กมาให้นับฟ้าก่อนที่ทั้งคู่จะนั่งทานข้าวไปคุยกันไปอย่างสนุกสนาน
“ไม่เห็นคุณฟ้ายิ้มแบบนี้มานานแล้วเนอะแม่”
“ใช่! ตั้งแต่คุณดาวเสียไป ถ้าคุณทรายไม่กลับมาเราก็คงไม่เห็นคุณฟ้ายิ้มได้แบบนี้แน่ ๆ” นิดเห็นด้วยกับน้อย
“เดี๋ยวฉันไปเอาน้ำส้มมาให้คุณ ๆ ก่อนนะแม่” น้อยบอกผู้เป็นแม่ก่อนไปหยิบน้ำส้มในครัวมาเสิร์ฟ
“ขอบใจจ้ะ เอ่อ! น้อยกับป้านิดออกไปก่อนนะ ฉันมีเรื่องจะคุยกับฟ้าหน่อยนะ”
“อะไรอีกทราย” นับฟ้าถามขึ้นเมื่อสาวใช้ทั้งสองออกไป
“บอกฉันมาซะดี ๆ เธอคิดจะทำอะไรของเธอทำไมถึงให้พี่ดินโอนหุ้นของบริษัทแกให้ฉัน แล้วทำไมถึงยอมโอนบริษัทให้พี่ดิน”
“ก็ไม่มีอะไรนี้ เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน ฉันเชื่อว่าถ้าเป็นเธอต้องดูแลบริษัทได้ดีแน่ ๆ”
“งั้นหมายความว่าเธอไม่ไว้ใจพี่ดิน”
“ไม่ใช่ไม่ไว้ใจ แต่ฉันแค่อยากตอบแทนเธอบ้าง เธอดีกับฉันมากนะทราย”
“ฉันรู้ แต่เธอก็ควรที่จะถือหุ้นไว้บ้าง”
“ฉันจะถือไม่ถือก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอทราย เธอก็รู้นี้ว่าฉัน...”
“ไม่เอา ไม่ต้องพูดออกมานะ นี่ใคร นี่กลิ่นทราย ฉันจะไม่ยอมให้เพื่อนรักของฉันเป็นอะไรไปแน่ ๆ”
“ทราย เธอเป็นหมอ เธอรู้ดี”
“เพราะฉันรู้ดีไง ฉันเลยเชื่อว่าฉันจะรักษาเธอได้ ฉันเรียนแพทย์ทั่วไป แล้วไปต่อเฉพาะทางด้านโรคหัวใจเพื่อมารักษาเธอโดยเฉพาะเลยนะ มาให้ฉันดูหน่อยสิ รู้ไหมว่าคนไข้ที่จองคิวกับหมอทรายยาวเป็นหางว่าวเลยนะ นี้เธอได้ลัดคิวแบบไม่ต้องจองคิวเลยนะ” กลิ่นทรายอมยิ้มพลางฟังเสียงหัวใจของเพื่อนสาวก่อนแสดงสีหน้ากังวลออกมา
“มันแย่มาเลยใช่ไหม”
“ป...เปล่า แค่นี้บอกอะไรมากไม่ได้หรอก ต้องไปตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลอีกที”
“อย่ามาโกหกกันเลย ฉันรู้ตัวดีนะ”
“นี่นับฟ้า เธอเถียงฉันเหรอ นี้ฉันหรือเธอที่เป็นหมอกันแน่หะ” กลิ่นทรายหยิกแก้มเพื่อนอย่ามันเขี้ยว
“ก็ได้ ๆ ฉันเชื่อเธอก็ได้ แล้วนี่คุณหมอกลิ่นทรายจะไปทำงานหรือยังค่ะ”
“กำลังจะไปแล้วค่า คุณเพื่อนสุดที่รัก แต่เธอต้องไปกับฉันด้วยนะ”
“ไปทำไม ไม่ไปฉันยังต้องเตรียมข้าวเย็นไว้ให้พี่ดิน ไปไม่ได้หรอก”
“นี่นับฟ้า ตอนนี้มันยังเช้าอยู่เลยนะ เธอจะเตรียมข้าวเย็นอะไรตอนนี้ อีกอย่างเธอไม่เห็นจำเป็นต้องทำเลยทำไปเขาก็ไม่กินอยู่ดี เอ่อ...ฉันขอโทษ” กลิ่นทรายเอ่ยขอโทษเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนสาวไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่
“ช่างเถอะ มันก็จริง แต่ยังไงฉันก็ต้องทำ มันเป็นหน้าที่ของฉัน เธอเข้าใจฉันเถอะนะทราย”
“ก็ได้ แต่เธอต้องสัญญากับฉันก่อนว่าต่อไปนี้เธอจะต้องยอมให้ฉันรักษาเธอ”
“แต่ค่าใช้จ่ายมัน...”
“ฉันรู้ ฉันจะรับผิดชอบทั้งหมดเอง ถ้าเอไม่อยากให้ฉันบอกเรื่องนี้กับทุกคนเธอก็ต้องยอมรักษาแต่โดยดี สายแล้วเจอกันตอนเย็นนะเพื่อนรัก” กลิ่นทรายหอมแก้มเพื่อนสาวก่อนเดินออกจากบ้านไป
“ไม่มีทางหรอกทรายฉันรู้ตัวดี” นับฟ้าคิดถึงครั้งล่าสุดที่เธอไปหาหมอเพื่อซื้อยา หมอที่เคยรักษาเธอตอนเด็ก ๆ บอกว่าอาการของเธอทรุดลงมากเพราะขาดการรักษามาเป็นเวลานาน จากการตรวจของเขาเธออาจมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินปีนี้
“ป้านิด ป้านิดค่ะ วันนี้พี่ดินลืมข้าวเที่ยง ฟ้าว่าจะเอาข้าวไปให้พี่ดินหน่อย ฝากป้านิดเก็บตรงนี้ด้วยนะคะ”
“ค่ะ ว่าแต่คุณฟ้าจะไปยังไงเหรอคะ ให้เรียกคนขับจากบ้านใหญ่มาไหม”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฟ้าไปแท็กซี่ได้” นับฟ้าหยิบข้าวกล่องที่เตรียมไว้เพื่อเดินออกไปเรียกแท็กซี่ที่น่าปากซอย
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 14
Comments