...ป่วนรักมาเฟียร้าย...
...♾♾♾♾♾♾♾♾♾♾♾...
เวลาผ่านไปจากชั่วโมงเป็นสองชั่วโมง และสามชั่วโมง คนที่เดินหายเข้าไปในห้องกว้างก็ไม่มีวี่แววว่าจะออกมาจากในห้องเลย นั่นจึงทำให้คนที่นั่งรออยู่นั้นเริ่มเมื่อยและเผลอหลับไป
...♾♾♾♾♾♾♾♾♾♾♾...
พลั่ก!!!
“อ๊ะ...คุณคิมจะให้ข้าวตั้งโต๊ะเลยมั้ยคะ”ข้าวหอมที่สะดุ้งตื่นเพราะเสียงเปิดประตูของคนในห้องรีบเอ่ยขึ้นทันที
“เธอยังไม่กินข้าวอีกเหรอ?”
“เอ่อ...ข้าวรอคุณอยู่ค่ะ คุณกำลังจะออกไปข้างนอกเหรอคะ”ข้าวหอมเอ่ยถามขึ้นทั้งๆที่ยังงัวเงียอยู่เลย
“อืม...”คิมหันต์พยักหน้าตอบออกไปอย่างรู้สึกผิดไม่ได้ เพราะเขาคิดว่าเธอทานข้าวไปแล้ว เลยทำให้เขานั่งทำงานจนเพลินก่อนที่เพื่อนของเขาจะโทรตามให้ไปดื่มที่ผับของเขาเหมือนปกติ
“ค่ะ...”ข้าวหอมยิ้มแห้งๆออกมาเมื่อคนที่เธอรอตั้งโต๊ะให้กำลังจะออกไปข้างนอก ก่อนที่เธอจะหมุนตัวเดินเข้าไปในครัวแทนเพราะตอนนี้ท้องของเธอกำลังหิวประท้วงแล้ว
“ไปแต่งตัว...”
“คะ”
“ฉันบอกให้ไปแต่งตัว”
“แต่อาหารพวกนี้...”ข้าวหอมมองไปยังอาหารที่เธออุตส่าห์ตั้งใจทำ แต่เขากับไม่แม้จะชายตามองเลยด้วยซ้ำ
“เราจะออกไปข้างนอกกัน ฉันให้เวลาเธอสิบห้านาที”พูดจบร่างอิ่มก็เดินตรงไปยังห้องของเธอทันที เธอไม่แม้จะถามอะไรออกมาเพราะไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอารมณ์ดีอยู่รึเปล่าหรือเขากำลังคิดอะไรอยู่ เธอเลยได้แต่ทำตามคำสั่งของเขาเท่านั้น
“เอ่อ...คือว่าเราจะไปไหนกันคะ”ข้าวหอมที่อยู่ในชุดกระโปรงยีนส์สั้น รองเท้าผ้าใบและเสื้อครอปสีขาวกับกระเป๋าสะพายข้างใบเล็กเพียงหนึ่งใบ ก็ทำให้ดูน่ารักอย่างบอกไม่ถูก เธอไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าหนาจัดหรือประโคมแบรนด์เนมอื่นๆเลยด้วยซ้ำ
“ไปผับ...”คิมหันต์เอ่ยขึ้นกับบอดี้การ์ดสองพี่น้องที่ยืนรออยู่ที่รถ โดยไม่ได้ให้คำตอบแก่ร่างอิ่มที่ถามเขาก่อนหน้านี้
“ลงมาได้แล้ว”เพียงไม่นานรถยนต์คันหรูก็จอดลงหน้าสถานบันเทิงชื่อดังที่เหล่าไฮโซเซเลปมาเที่ยวกัน แต่ข้าวหอมกับยังนั่งนิ่งไม่ยอมขยับกายลงจากรถตามร่างใหญ่ที่ลงไปก่อนนี้ จนเขาต้องเอ่ยเรียกออกมา
“จะนั่งอยู่แบบนั้น?”
“อ๊ะ...”ข้าวหอมร้องขึ้นเมื่อเดินตามหลังร่างใหญ่เข้ามาแล้ว เธอได้ถูกนักเที่ยวที่กำลังเต้นอยู่นั้นเบียดเสียดร่างอิ่มของเธอ ก่อนที่วงแขนกว้างจะโอบเอวบางเข้าหาตัวเพื่อกันนักเที่ยวคนอื่นไม่ให้โดนตัวเธอ และพาเธอเดินไปยังโต๊ะโซนVIPที่เหล่าเพื่อนๆของเขานั่งรออยู่ก่อนหน้าแล้ว
“เฮ้ย!!!อะไรวะไอ้คิม มึงไปเอาเด็กที่ไหนมาด้วยเนี่ย”ไทป์พูดขึ้นและตามมาด้วยเสียงของเคนตะ
“แต่กูว่าเด็กมึงโครตน่ารักเลยว่ะ นี่ขนาดไม่ได้แต่งตัวอะไรเลยนะเนี่ย”
“แบบนี้เด็กที่กูจองไว้ให้มึงวันนี้ก็คงไม่ต้องแล้วสินะ”แดเนียลเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“นั่งลงตรงนี้...”คิมหันต์เลือกที่จะหันมาหาร่างอิ่มที่ยืนอยู่ข้างๆและพูดกับเธอแทนที่จะตอบคำถามของเพื่อนๆที่โต๊ะ
“พวกมึงตามกูมาเพื่อที่จะมาถามคำถาม?หรือชวนกูมาแดกเหล้ากันแน่”
“ก็ชวนเจ้าของผับแบบมึงมาแดกเหล้านี่แหละ แต่บังเอิญคนที่มึงพามาด้วยมันน่าสนใจกว่าก็เท่านั้น”เคนตะเอ่ยขึ้นพร้อมกับส่งสายตาแพรวพราวให้ร่างอิ่มที่นั่งอยู่ข้างๆเพื่อนของเขา
“พอเลยพวกมึงรู้มั้ยว่ากำลังทำให้เด็กนี่ตกใจกลัวอยู่”แค่คิมหันต์เอ่ยขึ้นเท่านั้นก็ทำให้เพื่อนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะรู้ทันทีว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ เพราะไม่เคยมีใครทำให้ผู้ชายเย็นชาอย่างคิมหันต์หวงได้ขนาดนี้ ไม่ใช่สิต้องบอกว่าไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่คิมหันต์ให้อยู่ใกล้ตัวได้เลยนอกจากเพียงฟ้าอดีตแฟนเก่าที่ทิ้งมันไป
“พี่ชื่อเคนตะครับ”
“พี่ชื่อไทป์ครับ”
“ส่วนพี่ชื่อแดเนียลนะครับ”สามหนุ่มพากันเอ่ยแนะนำตัวก่อนจะยิ้มให้กับร่างอิ่มอย่างเป็นมิตร และนั่นก็ทำให้ข้าวหอมยิ้มออกมาก่อนจะยกมือไหว้ทั้งสาม
“สวัสดีค่ะหนูชื่อข้าวหอมค่ะ”เสียงหวานเอ่ยออกมาพร้อมยิ้มตาหยีให้กับคนตรงหน้า
“ชื่อน่ารักเหมือนคนเลยว่ะ”เคนตะที่พยายามยั่วอารมณ์เพื่อนเอ่ยขึ้น
“เธอยังไม่ได้กินข้าวไม่ใช่เหรอ จะกินอะไรเดี๋ยวฉันสั่งให้”
“เอ่อ...อะไรก็ได้ค่ะ”ข้าวหอมเอ่ยออกมาเธอไม่รู้หรอกว่าสถานที่แบบนี้เค้ากินอะไรกัน เพราะตั้งแต่เกิดมานี่คือครั้งแรกที่เธอได้ก้าวเข้ามาที่แบบนี้
“งั้นเอาข้าวกับอาหารทานเล่นแล้วกัน”คิมหันต์เอ่ยขึ้นก่อนะจะพยักหน้าไปยังพนักงานที่มายืนดูพวกเขาอยู่ข้างๆ
“แล้วน้องข้าวจะดื่มอะไรดีครับ”ไทป์ถามขึ้นเมื่อหญิงสาวยังไม่ได้เครื่องดื่มเลย แต่ก็มีเสียงแทรกตามมา
“น้ำส้ม”คิมหันต์เอ่ยตอบออกมาแทนร่างอิ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ
“ฮะ...ไอ้คิมมึงพาน้องมาด้วยเพื่อให้น้องนั่งดื่มน้ำส้มกับข้าวนี่นะ”แดเนียลเอ่ยขึ้นบ้าง
“ไม่เป็นไรค่ะ ข้าวดื่มไม่เป็นอยู่แล้วค่ะอีกอย่างข้าวกลัวเมาด้วยค่ะ”ข้าวหอมเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม ก่อนอาหารที่คนข้างๆสั่งจะค่อยๆทยอยมาวางบนโต๊ะ และด้วยความหิวตั้งแต่เย็นยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเธอเลยจึงทำให้อาหารและของทานเล่นที่คิมหันต์สั่งมาให้ค่อยๆหมดลงทีละจาน ภายใต้สายตาที่มองมาด้วยความเอ็นดูของเพื่อนคิมหันต์
“มึงไม่ได้ให้น้องกินข้าวใช่เปล่าไอ้คิม”เคนตะถามขึ้นเมื่อเห็นร่างอิ่มก้มหน้าก้มตาทานอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นป่านนี้คงเตรียมพร้อมเมาและลากเพื่อนเขากลับแล้วป่านนี้
“ไม่กินเอง...”คิมหันต์ตอบพร้อมเหล่ตามองปากอิ่มที่เอาแต่เคี้ยวเฟรนด์ฟลายจนแก้มตุ้ยหมดแล้ว
(ก็เพราะคุณแหละ ถ้าข้าวไม่รอคุณข้าวก็คงไม่หิวจนไส้จะขาดแบบนี้หรอก)ข้าวหอมคิดในใจแต่ไม่สามารถพูดออกมาได้ นอกจากบ่นอยู่คนเดียวภายในใจ และระหว่างที่ข้าวหอมนั่งกินนู่นนี่นั่นไปเธอก็ยังได้รู้อีกว่า นอกจากผับที่เธอนั่งอยู่ตอนนี้เป็นของคิมหันต์และเพื่อนๆของเขา และเขายังมีธุรกิจอีกมากมายที่ทำร่วมกันจนเธอเองก็รู้สึกอึ้ง ไม่คิดมาก่อนว่าเขาจะรวยไม่ใช่สิเขาติดอันดับมหาเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดอีกด้วย
“คิมคะ...”เสียงหวานเอ่ยขึ้นหน้าประตู ก่อนที่ร่างอวบอัดจะปรากฏตัวต่อหน้าทุกที่โต๊ะ แต่นั่นไม่ได้สร้างความแปลกใจให้กับใครเลยนอกจากข้าวหอมที่มองมายังนางแบบสาว ด้วยแววตาเหลือเชื่อที่เธอกับคิมหันต์และเพื่อนๆของเขารู้จักกัน
ลิตาเดินนวยนาดเข้ามาก่อนจะชายตามองเธอที่นั่งอยู่ข้างๆคิมหันต์ด้วยแววตาที่ดูไม่ค่อยเป็นมิตรเอาเสียเลย
“หลบไป...”ปากสีแดงสดเอ่ยขึ้น
“เอ่อ...ค่ะๆ”ข้าวหอมรู้ทันทีว่าคนตรงหน้าต้องการอะไร เธอจึงจะลุกไปนั่งอีกด้านหนึ่ง แต่ก็มีเสียงเรียบเอ่ยขึ้นเสียก่อน
“ไม่ต้องนั่งรออยู่ตรงนี้”เป็นคิมหันต์ที่ลุกขึ้นเดินออกไปจากโต๊ะ และนั่นก็ทำให้นางแบบสาวรีบเดินตามเขาไปติดๆ ทุกอย่างอยู่ในสายตาของข้าวหอมตลอด
“เอ่อ...น้องข้าวไม่ต้องไปสนใจไอ้คิมหรอก น้องข้าวลองชิมนี่ดูดีกว่านะ”เคนตะเอ่ยขึ้นพร้อมกับส่งแก้วที่มีน้ำสีฟ้าอ่อนๆให้กับเธอ
“ข้าวกินไม่เป็นจริงๆค่ะ”
“ลองดูนะครับ จิบๆดูแค่นิดๆไม่เมาหรอก เดี๋ยวไอ้คิมไปจัดการธุระกับยายนั่นเสร็จก็กลับมาพอดี น้องข้าวยังไม่ทันเมาหรอก”เคนตะเอ่ยขึ้นอีกด้วยรอยยิ้ม และเพียงแค่เขากระตุ้นเอ่ยถึงความสัมพันธ์ของคิมหันต์และนางแบบสาวก็ทำให้ร่างอิ่มยกแก้วค็อกเทลขึ้นมาดื่มทันที
“เฮ้ย...ไอ้เคนไหนมึงบอกให้น้องเค้าแค่จิบๆไงวะ แล้วนี่อะไรวะเนี่ย”ไทป์เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นร่างอิ่มที่บอกว่าดื่มไม่เป็น แต่พวกเขาไม่คิดว่าเธอจะดื่มไม่เป็นขนาดนี้ และเธอก็เล่นยกค็อกเทลทีเดียวหมดแก้วนี่สิ
“อร่อยจังเลยค่ะ ขอข้าวอีกนะคะ”ข้าวหอมเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มหวานยิงฟันสวยให้กับเพื่อนๆของคิมหันต์ ก่อนจะมีเสียงดังแทรกขึ้นมาจากด้านหลังจนเธอและคนที่โต๊ะต้องสะดุ้ง
“ข้าวหอม!!!”คิมหันต์เรียกคนที่นั่งยิ้มหวานให้กับเพื่อนของเขาด้วยความโมโห แถมตอนนี้เธอไม่ได้แค่ยิ้มหวานแต่เธอยังเมาอีกด้วย
“พวกมึง!!!เอาอะไรให้ยายนี่กิน”
“กูก็แค่สงสารเห็นน้องข้าวโดนมึงทิ้งไว้กลัวว่าจะรอมึงนานไง ก็เลยให้น้องเค้าลองจิบๆค็อกเทลดู”
“ไอ้เคนตะ...กูแค่ไปบอกยายนั่นกลับไปเฉยๆ พวกมึงนี่มันเกินคนจริงๆ”
“ใครจะไปรู้ล่ะวะว่ามึงไปไล่กลับ พวกกูคิดว่ามึงทิ้งน้องไปกินยายนั่นเหมือนทุกครั้ง”แดเนียลเอ่ยขึ้นบ้าง
“เออ...กูไปไล่ยายนั่นกลับ ไม่มีอารมณ์จะทำอะไรหรอก แต่พวกมึงนี่สิทำไมไม่ห้ามยายนี่วะ”
“ห้ามได้ที่ไหน มึงดูสิ...”ไทป์บอกพร้อมเหล่ตามองแก้วค็อกเทลที่วางเรียงกันอยู่ตรงหน้าของข้าวหอมด้วยรอยยิ้มเอ็นดู
“ข้าวหอม...”
“ขาาา...คนใจร้าย คุณทิ้งข้าวหอมไว้ที่นี่ ใจร้าย!!!”ข้าวหอมที่เมานั้นเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นใบหน้าของคิมหันต์ตรงหน้า
“ฉันไม่ได้ทิ้ง ฉันแค่ไปจัดการธุระ กลับได้แล้วเมาขนาดนี้ไม่ต้องดื่มแล้ว”
“ม่ายยยย...ข้าวจะดื่มค่ะ เอาน้ำสีสวยๆอีกนะคะพี่เคนตะ”ข้าวหอมเอ่ยขึ้นก่อนจะหันหน้ามายิ้มให้เคนตะ
“ฉันบอกว่ากลับ!!!”คิมหันต์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียที่ดังกว่าเดิม เมื่อเห็นร่างอิ่มยกแก้วค็อกเทลขึ้นดื่มต่อหน้าต่อตาจนหมด
“อื้มมม...อร่อยยยย!!!”เสียงหวานเอ่ยขึ้นพร้อมหันมายิ้มตาหยีให้กับเขา และนั่นก็ทำให้คิมหันต์แทบจะหัวเสียเลยทีเดียว
พรึ่บ!!!
วงแขนกว้างตวัดอุ้มคนที่เมาอ้อแอ้นั้นไว้ทันที
“พวกมึงนะ เดี๋ยวกูจะมาคิดบัญชีทีหลัง”
“มึงอาจจะขอบคุณกูก็ได้นะเว้ย รีบพาน้องกลับดีกว่าก่อนที่จะ....”เคนตะเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มร้าย และนั่นก็ทำให้ไทป์และแดเนียลพอจะรู้ว่าเคนตะให้ร่างอิ่มดื่มอะไรในแก้วสุดท้าย
ร่างอิ่มที่ซุกหน้ากับอกแกร่งถูกอุ้มเข้ามาวางในรถ โดยที่สองแฝดบอดี้การ์ดต่างมองร่างที่เมาอ้อแอ้สลับกับใบหน้าเรียบตึงของคนเป็นนายด้วยความงง และเพียงรถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวมาได้สักพักร่างอิ่มที่ดูเหมือนเมาไม่รู้เรื่องก็เริ่มขยับตัวไปมาราวกับกำลังอึดอัด
“อื้มมม...ร้อนจัง!!!”เสียงหวานเอ่ยออกมาและนั่นก็ทำให้คิมหันต์เหลือบไปมองดวงหน้าหวานที่แก้มใสนั้นแดงราวกับสีของมะเขือเทศ แต่เขาก็ต้องตกใจเมื่อมือน้อยตอนนี้กำลังจะถอดเสื้อของตัวเอง และดิ้นกระสับกระส่ายไปมาโดยไม่ระวังตัวเอาเสียเลย
“เฮ้ย...อย่าถอด”
“อื้อ...ข้าวร้อนค่ะ ทำไมมันร้อนแบบนี้คะ”เสียงหวานครางออกมาเมื่อร่างกายของเธอเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ และนั่นก็ทำให้คิมหันต์รู้ทันทีว่าที่เธอดื่มเข้าไปไม่ใช่แค่ค็อกเทลแน่นอน
“ต่อสายหาไอ้เคนตะ”คิมหันต์เอ่ยขึ้นและนั่นก็ทำให้บอดี้การ์ดของเขาต่อสายหาเพื่อนของเจ้านายทันที
“ว่าไง....”
“ไอ้เคนตะ...มึงเอาอะไรให้เด็กนี่กินกันแน่”
“อื้อออ...ข้าวร้อน ปล่อยข้าวนะคะข้าวจะถอด”ข้าวหอมเอ่ยขึ้นด้วยเสียงสั่นพร้อมกับดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดแกร่ง มือน้อยสะเปะสะปะจนตอนนี้ก็กำลังปลดกระดุมเสื้อของเขาออกด้วย
“กูว่ามึงไม่ต้องสนใจหรอกว่ากูเอาอะไรให้เด็กมึงกิน ทางที่ดีมึงรีบพาเด็กมึงกลับเซฟเฮาส์จะดีกว่านะ แล้วอีกหน่อยมึงจะต้องขอบใจกู”เคนตะเอ่ยขึ้นด้วยก่อนจะกดวางสายไป
“ฉันให้เวลาไม่เกินสิบห้านาทีต้องถึงเซฟเฮาส์”คิมหันต์เอ่ยขึ้นและนั่นก็ทำให้บอดี้การ์ดเร่งรถขึ้นทันที และก็โชคดีที่ตอนนี้รถไม่ติดแล้วจึงทำให้รถมาจอดที่หน้าเซฟเฮาส์ทันตามเวลาที่คนเป็นนายเอ่ยขึ้น
ร่างอิ่มถูกอุ้มเข้ามาในลิฟต์ทั้งๆที่มือน้อยนั้นอยู่แทบไม่สุข ไม่รู้ว่าจับตรงไหนแกะตรงไหนเขาไปบ้างแล้ว
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 20
Comments
manisa
riu yu
2023-05-28
0