"ถึงแล้ว"ฟงชุนบอกกล่าว ที่ข้ารู้ชื่อคงเป็นเพราะระหว่างทางได้พูดคุยด้วยกันเล็กน้อย ข้ามองไปรอบๆก็พบเพียงแต่กระท่อมที่ไม่ได้แย่นักนับว่าดูดีเชียวละ พื้นที่รอบๆมีพืชนานาชนิด ข้ารู้จักว่าท่านผู้เฒ่าเป็นคนทำนายระหว่างข้ากับเขาแต่ข้าก็มิเคยพบเจอสักครานับว่านี่จะเป็นครั้งแรก
"ท่านผู้เฒ่ารออยู่ด้านใน"
"อืม" ข้าถอนหายใจเบาๆก่อนจะเปิดประตูเข้าไปก็พบว่า....
"ไหนละท่านผู้เฒ่า" ข้าหันไปถามฟงชุนด้วยความสงสัยเหตุใดภายในห้องถึงมิเหมือนมีผู้ใดอยู่มานาน?
"ท่านสงสัยใช่หรือไม่ ตัวข้าเป็นนักพยากรณ์เป็นศิษย์คนเล็กและคนสุดท้ายของท่านผู้เฒ่า ท่านผู้เฒ่าจากไปเมื่อหลายปีก่อน แต่ที่ข้าไปรับท่านคงเป็นเพราะข้าเห็นบางอย่าง" ฟงชุนร่ายยาว
"เหตุใดถึงมิบอกกล่าวข้าตั้งแต่แรก"
"หากข้าบอกท่านไปท่านจะเชื่อรึหากมิเห็นด้วยตาของท่าน"ฟงชุนแย้งกลับดูจากนิสัยแบบนี้แล้วสตรีเช่นนี้เดาใจยากจริงๆ
" แล้วเจ้าเห็นอันใด"ข้าที่เห็นว่าฟงชุนพูดก็มีเหตุผลจึงได้ถามเข้าประเด็นไปอย่างไม่รีรอ
"ข้าเห็น...ความเปลี่ยนแปลงของทิศทางด้ายแดงเส้นหนึ่งเหตุใดถึงมีถึงสองเส้น แต่ก็มิทราบว่าเป็นด้ายของผู้ใด" ฟงชุนทำท่าครุ่นคิด
"ข้ารู้ว่าของผู้ใด....ฮ่องเต้เช่นไรละ"ข้ายิ้มอ่อนเล็กน้อยฟงชุนเบิกตากว้างนางรู้รึ?
"ท่านมั่นใจได้เช่นไร"
"ก็เพราะตอนนี้เขา... เอาเถอะขอบใจเจ้ามาก วันหลังข้าจะมาหาอีกหรือถ้าเจ้าเห็นอันใดอีกเจ้าตัองรีบมาหาข้าทันทีที่วัง! " เป็นอีกครั้งที่ฟงชุนตาโตนางเป็นคนในวังหรือตำแหน่งอันใด?!
" ข้าเป็นพระสนมของเขา เจ้าอย่าทำเป็นตกใจเช่นนั้น" ข้ากล่าวอย่างใจเย็น
"พะ พระสนม... "ฟงชุนขาแขนอ่อนแรง
" เอาเถอะน่าาา ข้ากลับละฟงชุนเจ้าไม่จำเป็นต้องคุยกับข้าด้วยความเกรงกลัว โปรดคุยกับข้าแบบเดิม นี่คือคำสั่งหากคราวหน้าเจ้ายังทำตัวเป็นนกตัวสั่นเช่นนี้ข้าจะลงโทษเจ้าเอง"พูดจบข้าก็หันหลังเดินกลับไปยังทางที่เขาพามา ฟงชุนที่ยังไม่ได้พูดอันใดก็ได้แต่นิ่งค้างเหตุใดนางถึงมิเหมือนคนในวังที่จะชอบยึดถือตำแหน่ง
ที่ข้ากล่าวกับฟงชุนเช่นนั้นคงเป็นเพราะตอนนี้ฟงชุนเป็นนักพยากรณ์ที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวหากมิสอนให้เด็กหนุ่มเช่นนั้นรู้จักมิเกรงกลัวได้ยิ่งดี หากโดนใครทำร้ายนิดทำร้ายหน่อยก็อาจโดนนำไปเป็นเครื่องมือได้
.
.
.
ตลาด
"พระสนมหม่อมฉันเผลอหลับไปหรือเพคะ สับสนยิ่ง" อิงอิงที่ื่ตื่นมาอีกทีก็ได้แต่ถามคำถามวนไปวนมา ส่วนคนขับรถมาก็เช่นกัน เพราะอยู่ๆพระสนมก็มาปลุก เขาหลับไปตอนไหนกัน?
"หากเจ้ายังมิหยุดถามข้าจะไล่เจ้าออกไปจากรถม้าแล้วนะ" ข้ากล่าวออกไปด้วยสีหน้านิ่งเรียบ
"กะก็ได้เพคะ"อิงอิงรีบปิดปากด้วยความเกรงกลัว
"ดีมาก"
"แวะโรงเตี๊ยมด้วยข้าจะนั่งพักเสียหน่อย" ข้าเปิดม่านไปบอกกับคนขับรถม้า
"ขอรับ"
โรงเตี๊ยม....
" คนมุงอันใดกันเสียเยอะเลยเนี่ย"อิงอิงบ่นเบาๆแล้วพยายามแหวกทางให้ข้าเดินเข้าไปข้างใน
"เอ๊ะ!" ข้าโดนผู้คนเบียดจนมองหาอิงอิงไม่เจอ เกิดอันใดขึ้นในโรงเตี๊ยมกันแน่
" เอ่อ ท่านป้าเจ้าคะ มีอันใดในโรงเตี๊ยมหรือ?" ข้าเอ่ยถาม ผู้คนต่างจำข้ากันมิได้เพราะใส่ผ้าคลุมครึ่งหน้าเอาไว้เช่นไรละ
"นังหนูไม่รู้รึ! ก็ฝ่าบาทนะสิอยู่ๆก็พาสตรีมายังที่นี้ แถมยังหัวเราะกันอย่างยิ้มแย้มสนุกสนานกันอีกภาพแบบนี้หาได้ยากยิ่งเลยละ" ท่านป้าร่ายยาว ข้าเหมือนตกอยู่ในภวังค์อีกคราเขายังมิเคยพาข้าไปที่ใด มิเคยมีเวลาว่างให้ข้า...
"ใช่ๆ ข้าคิดว่าเหมาะสมกันยิ่งๆ" ชาวบ้านอีกคนกล่าวเสริม
" อัยหยา! พวกเจ้าอย่าพูดเสียงดังไป พวกเจ้าก็รู้ว่าฝ่าบาททรงมีพระสนมที่หมั้นหมายกันมาแต่เล็กแล้ว"
"พระสนมเอกที่หมั้นหมายเพียงคำทำนายเช่นนั้นข้าคิดว่าใครจะไปปฏิเสธได้ลงเล่า" คำพูดที่กล่าวๆมาจากชาวบ้านมันทำให้ข้านั้นลองที่จะกลับมาคิดกับตนเอง
"ขอบคุณเจ้าคะ..." ข้าเดินออกมาทามกลางผู้คนที่แตกตื่น จะให้ข้ารู้สึกเช่นไรดี ไม่สิข้าควรรู้สึกเช่นไรกับสถานการณ์เช่นนี้ สถานการณ์ที่คนที่ข้ารักกำลังจะไปรักอีกคนที่มิใช่ข้า หรือที่ผ่านมาเขา.... มิเคยรักข้าเลย....
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments