My Doctor เผลอรักคุณหมอเถื่อน
" มาหายายมาลูก เอวา "
เด็กหญิงวัยสองขวบเดินกึ่งวิ่งไปหาผู้เป็นยายอย่างรู้ความ ใบหน้ากลมแป้นเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มดีใจเมื่อตัวเองเดินไปถึงจุดหมายได้อย่างสำเร็จ หญิงวัยกลางคนอ้าแขนกอดหลานแท้ๆ ของตัวเองไว้ในอ้อมกอด
" ยัย. . .ย้าย "
" เก่งมากลูก เดี๋ยวยายพาไปดูปลาทางนู้นนะ "
แล้วเธอก็เดินจูงหลานไปยังลานบ่อน้ำพุด้านในสวนที่เลี้ยงปลาคราฟหลากสีสันไว้หลายตัว หญิงสาวยืนมองภาพนั้นครู่ใหญ่ทำได้เพียงอมยิ้มกับภาพตรงหน้าแต่ภายใต้รอยยิ้มใครจะรู้ว่าในดวงตาของเธอแอบเก็บอารมณ์หม่นหมองเอาไว้ มันคงจะดีกว่านี้ถ้าหลานเธอมีครอบครัวที่สมบูรณ์ มีพ่อแม่อยู่กันพร้อมหน้า
" นี้เธอกำลังเศร้าหรือกำลังมีความสุขกันแน่ "
" เฮ้ย ! บ้าเอ้ย บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าโผล่มาแบบนี้ "
ชายร่างสูงในเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์สีซีดอ่อนห้อยหัวลงมาจากกิ่งไม้ตรงหน้าเธอ ใบหน้าหล่อเหลาขาวซีดจ้องมองเธออย่างไม่รู้สึกผิดกับสิ่งที่กำลังทำสักนิด
" ลงมาคุยดีๆ ให้มันเหมือนผู้เหมือนคนหน่อยได้ไหม แล้วนี้นายเข้าบ้านมาได้ยังไง "
" แล้วเราจะเหมือนคนได้ยังไง เราเป็นผีนะลืมแล้วเหรอ "
" เฮ้อ "
ฉันได้แต่ค้อนตามองผีหน้าตาดีที่กำลังสนทนากันอยู่ ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมแวบหายตัวลงมานั่งอยู่โคนต้นไม้แต่โดยดี
" เจ้าที่ที่นี้ก็ต้องยอมให้เข้าสิ ก็เธอพาเราเข้ามาเองนี้ "
เอิงเอยก้มมองกำไลข้อมือของพี่สาวเธอที่ใส่ไว้ดูต่างหน้า วิญญานตนนี้คือเพื่อนเธอเอง เพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่มัธยมจนเข้ามหาลัยหมอนี้เป็นเจ้าของกำไลนี้ เธอสัมผัสได้ถึงความรักที่สองคนมีให้กันได้เลย วิญญานเขาถึงผูกติดกับสิ่งของที่ให้พี่เธอไว้ไม่ยอมไปไหน
" วันนี้พอจะจำอะไรได้ขึ้นมาบ้างหรือยัง "
" น่ารัก ^^ ลูกสาวเราน่ารักมากเลย อยากกอดจัง "
" ที่ถามนี้ไม่ได้เข้าหูเลยมั้ง "
เธอนั่งลงตรงโคนต้นไม้ข้างวิญญานเพื่อนเธอ ทั้งคู่เสียชีวิตไปสองเดือนแล้วส่วนวิญญานเจ้านายก็จะผลุบๆ โผล่ๆ มาให้เห็นนานๆ ครั้ง เจ้าตัวแทบจะจำเรื่องราวอะไรไม่ได้เลย จำได้เพียงความทรงจำที่นานมากแล้วเรื่องราวของพี่สาวเธอและลูกของตัวเองแทบไม่หลงเหลือ นี้ถ้าฉันไม่บอกว่าเอวาคือลูกก็คงไม่รู้
" เราจำได้แต่เอยเหมือนเดิมแหละ แล้วเอยละเห็นอันดาบ้างไหม "
" . . . ถ้าเห็นก็ดีสิ "
พอพูดถึงผู้เป็นพี่สาวน้ำตาก็พาลรื้อขึ้นมาที่ขอบตาเสียดื้อๆ จนต้องหันหน้าหนีมองไปทางอื่น ถ้าเธอเห็นวิญญานพี่เธอบ้างก็คงดีสินี้เธอไม่แม้แต่จะฝันถึงเลยด้วยซ้ำ
" เราเองก็จำอะไรไม่ได้เลย เราไม่รู้ว่าอุบัติเหตุตอนนั้นมันเกิดขึ้นได้ยังไง "
" คงต้องใช้เวลาแหละ แต่เอยสัญญานะว่าจะทวงคืนความยุติธรรมให้เจ้านายกับพี่อันดาให้ได้ "
" ขอบคุณนะ . . . "
เจ้านายหันหน้ามาสบสายตาเพื่อนสนิทด้วยความรู้สึกขอบคุณ เอิงเอยได้แต่นั่งเหม่อจมอยู่กับความคิดสิ่งเดียวที่ทำให้มั่นใจว่าทั้งคู่ไม่ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุคือสภาพซากรถที่เกิดอุบัติเหตุในวันนั้น เธอจ้างคนไปค้นหาร่องรอยในซากรถ พบว่ารถคันนั้นถูกตัดสายเบรค เป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุรถคันดังกล่าวชนอัดก็อปปี้กับรถพ่วงเต็มแรง แต่น่าแปลกที่ตำรวจกลับลงสาเหตุว่าเกิดจากคนขับหลับใน เรื่องนี้มันไม่ชอบมาพากล สิ่งที่เธอรู้เกี่ยวกับเพื่อนเธอก็น้อยมากรู้แค่เพียงบ้านเจ้านายทำธุรกิจโรงแรม เขามีพี่ชายอยู่หนึ่งคน ส่วนเรื่องที่พี่เธอท้องทางผู้ใหญ่บ้านเจ้านายไม่มีใครรู้ รู้แค่เพียงว่าทั้งคู่คบกันแต่โดนทางบ้านเจ้านายกีดกันซึ่งเรื่องนี้แม่ก็เล่าให้ฟังอีกทีซึ่งก็ไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบาง เพราะพูดจากเวลาที่พี่อันดามาระบายให้ฟังเท่านั้น เธอนึกโมโหตัวเองนักที่เอาแต่เรียนไม่สนใจคนรอบข้างบ้าง ถึงได้ไม่รู้เรื่องอะไรเลยแบบนี้
" นายจำพี่ตัวเองได้ไหม "
" จำได้สิ เราสนิทกับพี่มากเลยละ "
" ดีเลย ขอข้อมูลหน่อย "
" เขาชื่อ ขุนเขา อายุ 28 ปี เป็นหมออยู่ รพ.รัฐ xxx อ๋อ ตอนนี้เขาน่าจะอยู่คอนโด z ที่เราเคยอยู่ "
" คอนโด z หรอ . . . "
" ใช่เพราะทีแรกเรากลับไปที่นั้นหลังจากเราตายเราไม่รู้จะไปไหน พี่ขุนอยู่ที่นั้นแต่เราพูดคุยกับเขาไม่ได้ เขาไม่เห็นเรา "
เอิงเอยหยิบสมุดโน็ตขึ้นมาจดข้อมูลทุกอย่างไว้อย่างตั้งใจ โดยมีวิญญานเจ้านายคอยเล่าเรื่องราวของพี่ชายตัวเองให้ฟัง นี้มันเหมือนกับการงมเข็มในมหาสมุทรอุบัติเหตุที่เกิด ข้อมูลที่เธอมีเพียงน้อยนิดมันทำให้เธอไม่รู้จะเริ่มจับจุดจากตรงไหนเลย หากจะมีใครที่รู้เรื่องราวดีที่สุดคงต้องเป็นคนใกล้ตัวของผู้ตายทั้งคู่ ฝั่งครอบครัวเธอไม่มีอะไรให้น่าสงสัยอยู่แล้วหากต้องการรู้ข้อมูลของฝั่งทางบ้านเจ้านาย เธอก็ต้องเข้าหาพี่ชายเขาอย่างไม่มีทางเลือก
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 46
Comments