ชัยเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์หลังจากเขาได้เดินเล่นอยู่ในสวนอยู่สักพัก เขาเดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อจะนำขวดเครื่องดื่มที่ตนดื่มหมดแล้วไปเก็บใส่ลังในครัว ชัยหาลังใส่ขวดเท่าไหร่ก็ไม่เจอเขาจึงเดินหาทั่วห้องครัว
“ มีอะไรให้ช่วยเปล่าคะ? “
ชัยหันไปตามเสียงที่ถามออกมา เขาพบว่าผู้หญิงคนนั้นคนที่เขาคอยแอบมองอยู่เรื่อยๆเดินเข้ามาหาพร้อมกับใบหน้าที่สงสัยแต่ยังคงมีรอยยิ้มที่เป็นมิตรอยู่บนใบหน้า เมื่อเธอเดินเข้ามาอยู่ใกล้ๆ ใจของเขาเต้นสั่นๆ เขามองใบหน้าที่สวยงามหน้าตาน่ารัก ดวงตาคมแบบหญิงไทยกับรอยยิ้มอันแสนเป็นมิตรและอบอุ่นของเธอ เมื่อมองแล้วเหมือนราวกับว่าตัวเองต้องมนต์สะกดอีกครั้ง ชัยยืนนิ่งขณะจ้องมองเธอพร้อมกับอมยิ้มเล็กๆ มันกลับทำให้เธอมีอาการงุนงงขึ้นกว่าเดิมกับท่าทางของเขา
“ เอ่อ...คุณคะ “
“ ค..ครับ “
“ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ? “
“ อ่อ เปล่าครับ ผมแค่จะหาลังใส่ขวดน่ะ ผมไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน “
“ อยู่ข้างๆอ่างล้างจานค่ะ เดี๋ยวฉันเอาไปใส่ให้นะคะ “
เธอค่อยๆหยิบขวดเปล่าจากมือของชัยอย่างเบาๆแล้วเดินนำขวดไปใส่ที่ลังขวดเปล่าที่อยู่ข้างๆอ่างล้างจาน ชัยมองตามเธอด้วยรอยยิ้ม
“ คุณเป็นแม่บ้านที่นี่หรอครับ? “
“ ก็ประมาณนั้นค่ะ ฉันพึ่งมาทำงานที่นี่ได้เดือนกว่าๆน่ะ แล้วคุณจะรับอะไรเพิ่มอีกไหมคะ? “
“ ไม่ล่ะครับ ขอบคุณ “
“ ค่ะ ถ้างั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ “
ชัยพยักหน้าเล็กๆขณะที่เขายังคงยิ้มอยู่ เธอจึงเดินออกไปจากห้องครัว ชัยที่ยืนอยู่ในห้องครัวเพียงลำพังเขาอมยิ้มเล็กๆที่แสดงถึงการมีความสุขอย่างมาก
.
.
.
เอกที่กำลังพยุงผู้หญิงคนที่เขาขับรถเกือบชน แววตาเธอนั้นมีแต่ความอาฆาตแค้นใจเมื่อเห็นเอกพจน์มายืนอยู่ตรงหน้าเธอ เธอจ้องมองอย่างไม่ละสายตาด้วยที่ใบหน้าของเธอมีรอยยิ้มเล็กน้อย แต่ในความรู้สึกขณะเดียวกันมันไม่ใช่อย่างนั้น เธออยากจะล้างแค้นซะตอนนี้ แต่ถ้าเธอทำลงไปเธอจะหาอีก 5 คนไม่ได้ ทำได้แค่แสร้งทำไหลตามน้ำไป
“ คือผมขับรถเกือบจะชนเธอครับ เลยทำให้เธอได้รับบาดเจ็บ ว่าจะพาเธอมาทำแผลน่ะครับ
“ ได้สิ ลูกทำผิดแล้วรับผิดชอบ นี่แหละลูกผู้ชาย “
“ ครับพ่อ “
“ แล้วเธอชื่ออะไรล่ะ? “
เอกยืนนิ่งแล้วหันไปมองเธอเพราะว่าเขาเองก็ไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไร
“ สุธาราค่ะ “
“ เป็นชื่อที่ไพเราะมากเลยนะเนี้ย “
“ พ่อกับแม่ตั้งชื่อตามมณีในตำนานของศกุนีที่ชื่อว่ามณีสุธารา “
“ แล้วพ่อแม่- “
“ พ่อแม่หนูท่านเสียไปตั้งแต่หนูยังเป็นเด็ก ด้วยน้ำมือคนชั่วที่โลภมากอยากได้ในสิ่งที่ไม่ใช่ของตัวเอง จนทำให้ชีวิตที่บริสุทธิต้องดับสิ้น “
เอกพจน์ยังไม่ทันพูดจบประโยคสุธาราก็พูดขึ้นในทันทีด้วยอารมณ์ที่โกรธเล็กน้อย เอกพจน์ยืนนิ่งไปครู่หนึ่งเมื่อได้เห็นอารมณ์ที่โกรธเกรี้ยวของสุธาราที่แสดงออกมาเล็กๆเมื่อพูดถึงพ่อแม่ของเธอ
“ เดี๋ยวผมขอพาเธอไปทำแผลก่อนนะครับ “
เอกเห็นท่าไม่ค่อยดีจึงรีบพูดขัดไว้แล้วพาสุธาราไปที่ห้องของตน เอกพจน์ยืนงุนงงเล็กๆกับท่าทีของเธอที่จู่ๆก็มีอารมณ์โกรธขึ้นมา เขาทำได้เพียงยักไหล่แล้วเดินไปหามณีรัตน์ที่กำลังจัดเตรียมสถานที่อยู่อีกฝากของคฤหาสน์
เอกพาสุธาราไปนั่งลงบนปลายเตียงนอนภายในห้องนอนของเขาก่อนที่จะเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลที่วางไว้ที่ชั้นวางของที่หน้ากระจกพร้อมยกเก้าอี้มานั่งข้างหน้าเธอ
“ ขอโทษนะครับ “
สุธารามีใบหน้าที่งุนงงที่จู่ๆเขาก็พูดขอโทษเธอทั้งที่เขายังไม่ได้ทำอะไรผิด เอกยื่นมือมาจับแขนเธอแล้วนำยาล้างแผลมาค่อยๆเช็ดที่แผลเธอและรอบๆแผลอย่างเบาๆและนุ่มนวล เธอนั่งดูแล้วเงยหน้าขึ้นมองเอกที่ตั้งใจทำแผลให้กับเธอ เธอมีแววตาซาบซึ้งเล็กน้อยกับการกระทำของเขาที่ทำให้เธอ
“ ผมขอโทษคุณด้วยนะครับ ที่พ่อผมถามคุณในเรื่องที่ทำให้คุณไม่สบายใจ “
“ ไม่เป็นไรค่ะ ท่านไม่รู้ ท่านไม่ผิด “
เอกเงยหน้าขึ้นมามองเธอเล็กน้อย เธอส่งรอยยิ้มให้แก่เขา เอกอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าลงทำแผลให้เธอจนเสร็จเรียบร้อย
“ เสร็จแล้วครับ “
“ ขอบคุณค่ะ “
เอกพยักหน้าด้วยรอยยิ้มแล้วลุกออกจากเก้าอี้พร้อมถือกล่องปฐมพยาบาลไปเพื่อที่จะเก็บไว้ที่เดิม
“ เอ่อ...ผมรู้ว่าไม่ควรถาม คุณจะไปไหนหรอครับ? มีกระเป๋าเสื้อผ้าด้วย “
สีหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นความเศร้าหมองลงทันทีที่เขาเอ่ยถามขึ้น เธอจึงเล่าให้เอกฟังเรื่องราวก่อนหน้าและทำให้เขาได้รู้ว่าเธอพึ่งตกงาน คนที่จ้างเธอเขาจ้างแค่ชั่วคราว และเธอเองก็ไม่รู้ว่าจะไปไหนดี บ้านที่เธออยู่อาศัยก็โดนธนาคารยืดไป ญาติพี่น้องเธอก็ไม่มี พ่อแม่ก็เสียไปตั้งแต่เด็กๆ เธอจึงคิดว่าจะเดินไปเรื่อยๆ เหนื่อยตรงไหนก็นอนพักตรงนั้น เมื่อทันทีที่เอกได้ยินเขารีบเดินมาหาเธอทันทีพร้อมกับท่าทีที่รู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ
“ ว่าไงนะครับ!? “
เธอก้มหน้าลงและมีน้ำตาไหลออกมา เอกเห็นอย่างนั้นทำให้เขารู้สึกเศร้าใจและสงสารเธอเอามากๆ เขามีใบหน้าที่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะมีสีหน้าที่คิดอะไรขึ้นมาได้
“ ถ้างั้นเอาแบบนี้ไหม? คุณมาทำงานที่บ้านผม เป็นแม่บ้านให้กับผม ส่วนเรื่องที่พักเรื่องการกิน ผมจะดูแลเอง คุณไม่ต้องห่วงครับ “
“ แล้ว..พ่อแม่คุณ..ท่านไม่ว่าเหรอคะ? ที่คุณรับคนอื่นมาโดยพลการ.. “
“ ไม่หรอกครับ ท่านสองคนให้ผมกับน้องเป็นคนตัดสินใจเอง พวกท่าน...ไม่ค่อยบังคับเราสักเท่าไหร่..ก็บางเรื่องน่ะ “
เอกพูดด้วยรอยยิ้มพลางหัวเราะไปด้วย สุธารายกมือพนมมือไว้ขึ้นมาขอบคุณเอก เขารีบจับมือเธอทันที
“ คุณจะทำอะไรครับ? “
น้ำตาเธอไหลออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ขอบคุณ
“ ฉันอยากขอบคุณ ที่คุณให้การช่วยเหลือฉัน ฉันซาบซึ้งน้ำใจคุณจริงๆ “
“ ไม่เป็นไรครับ ไม่เห็นต้องขอบคุณเลย “
เอกพูดด้วยรอยยิ้ม ทั้งคู่สบตากันครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะหลบสายตาและค่อยๆดึงมือตัวเองออกจากมือเอกทำให้เอกมีอาการเขินเล็กน้อย
“ จริงสิ คืนนี้เราจะจัดกิจกรรมกันน่ะครับ ผมต้องไปเตรียมงานก่อน ส่วนคุณก็เริ่มงานได้เลยนะครับ “
“ ได้ค่ะ “
ทั้งคู่ยิ้มให้กันและกันก่อนที่เอกจะเดินออกจากห้องไป สุธาราที่นั่งอยู่บนปลายเตียงนอนในห้องนอนของเขา เธอยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาตัวเองพร้อมกับรอยยิ้มที่ชอบใจในความใสซื่อของเอก
“ มันจะง่ายดายอะไรขนาดนี้ กับการที่เข้ามาในครอบครัวคนพวกนี้ ดูๆไปแล้วเจ้าก็ช่างเป็นคนโง่เขลายิ่งนัก แค่บีบน้ำตาก็ใจอ่อนซะแล้ว ไม่สมเป็นลูกของคนชั่วเลย “
เธอลุกขึ้นและมองตัวเองในกระจกด้านข้างของเธอ ใบหน้าที่เป็นความโศกเศร้ากลับกลายเป็นความดุดันหน้าเกรงขามขึ้นมา
“ เอกพจน์งั้นเหรอ ข้าจะจัดเตรียมหลุมฝังศพไว้ให้เจ้าและพวกของเจ้าอีก 5 คน “
ดวงตาเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปากของเธอ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments