บทที่ 1 บุรุษผู้งดงาม

บทที่ 1 บุรุษผู้งดงาม

ณ เวลายามเว่ย แสงอาทิตย์เจิดจ้าท้องฟ้าปราศจากเมฆ

ขุนนางหนุ่มได้นั่งเกี้ยวมาถึงหน้าประตูเมืองฉือ

มือหนาแหวกม่านชำเลืองมองออกมานอกเกี้ยว

พลางกล่าว “นี่นะหรือเมืองฉือ?”

ณ โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง

บุรุษรูปงามค่อย ๆ

ก้าวลงจากเกี้ยวด้วยท่วงท่าที่สง่างาม รวมถึงรูปลักษณ์อันหล่อเหล่าของเขาที่ยากจะหาใครเปรียบ

ได้สะกดทุกสายตาให้จับจ้อง

เขาสวมอาภรณ์สีขาวทำจากผ้าเนื้องามราคาแพงเกินกว่าคนธรรมดาจะซื้อได้

เมื่อเห็นเช่นนั้น

ดวงตาเจ้าของโรงเตี๊ยมวัยราวห้าสิบได้ลุกวาว สาวเท้ารีบเร่งเดินเข้ามาต้อนรับ

“ยินดีต้อนรับคุณชาย ท่านมีอะไรให้ข้าช่วยหรือไม่?”

ทว่าก่อนที่เจ้าของโรงเตี๊ยมจะเดินเข้าประชิดตัว

บ่าวรับใช้ผู้หนึ่งซึ่งถือดาบแนบไว้ข้างกายพลันเดินเข้ามาขวาง

“คุณชายของข้าต้องการเข้าพัก โรงเตี๊ยมของเจ้ายังมีที่ว่างหรือไม่?”

สายตาเจ้าของโรงเตี๊ยมได้จับจ้องไปที่ดาบสีดำเล่มนั้น

ใบหน้าเขาซีดลงพร้อมปรากฏหยาดเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ

“ฮ่า ฮ่า โรงเตี๊ยมของข้ายังมีที่ว่างขอรับคุณชาย

เชิญด้านในก่อน” สิ้นเสียง เหลาปั่นไม่รอช้ารีบเร่งเดินนำทางให้ขุนนางหนุ่ม

และบ่าวใช้สองคน

จนมาถึงด้านใน

เจ้าของโรงเตี๊ยมได้ยกมือขึ้นเหนือศีรษะ

ปรบมือเรียกสาวงามมาบริการพร้อมผายมือไปที่เก้าอี้ไม้แกะสลักพลางกล่าว

“เชิญนั่งก่อนขอรับคุณชาย”

สีหน้าบุรุษผู้นี้นิ่งเฉย

แววตาคมเหลือบมองเจ้าของโรงเตี๊ยมก่อนเดินเข้าไปนั่ง

“ท่านจะรับอะไรก่อนหรือไม่ขอรับคุณชาย

โรงเตี๊ยมของข้ามีพ่อครัวฝีมือดีอยู่มาก

รับรองว่าอาหารและเครื่องดื่มของโรงเตี๊ยมแห่งนี้ต้องถูกใจท่านเป็นแน่”

ขุนนางหนุ่มหาได้สนใจไม่ เพียงกล่าว

“เจ้ารู้จักโรงน้ำชาอู่เฉวียนหรือไม่?”

“ขออภัยคุณชาย ข้าไม่เคยได้ยินชื่อโรงน้ำชานี้มาก่อน”

“หากเป็นเช่นนั้นเจ้ากับเสี่ยวเอ้อร์ไปได้แล้ว

ที่เหลือบ่าวของข้าจะจัดการเอง”

ทว่าเจ้าของโรงเตี๊ยมพร้อมกับสาว ๆ

พวกนั้นยังคงดื้อดึงที่จะบริการให้ขุนนางผู้นี้ต่อเพื่อหวังผลประโยชน์

บ่าวทั้งสองจึงชักคมดาบออกจากฝัก ปลายดาบแหลมพุ่งจี้จรดคอหอยของอีกฝ่าย

“คุณชายของข้าบอกให้พวกเจ้าไปได้แล้วไม่ได้ยินหรือ?”

สีหน้าเจ้าของโรงเตี๊ยมพลันเปลี่ยนสีซีดเซียว

“ข้าแก่แล้ว หูของข้าไม่ค่อยได้ยิน”

เขาสะบัดมือให้พวกเสี่ยวเอ้อร์ที่ยืนอยู่ด้านหลังถอยไป

พลางกล่าว “พวกข้าจะไปเดี๋ยวนี้”

เมื่อพวกเขาเดินห่างออกไป

บ่าวทั้งสองจึงเสียบเก็บดาบกลับเข้าฝักไว้เช่นเดิม

“พวกเจ้า อย่าทำอะไรนอกเหนือสิ่งที่ข้าสั่ง

การที่ข้าออกเดินทางมาครั้งนี้ เพียงเพื่อออกตามหาชาเท่านั้น อย่าได้ก่อเรื่อง”

ขุนนางหนุ่มกล่าวตำหนิบ่าวทั้งสองของตน

บ่าวทั้งสองพลันคุกเข่าประสานมือขึ้นเหนือศีรษะ

“ขออภัยคุณชาย โปรดลงโทษ” ทั้งสองกล่าวพร้อมกัน

“ลุกขึ้น แล้วออกไปตามหาโรงน้ำชาแห่งนั้น

หากได้เรื่องให้รีบแจ้งข้าโดยเร็ว ข้าจะรออยู่ที่นี่”

“ขอรับคุณชาย” บ่าวใช้ทั้งสองรับคำ

เวลาผ่านล่วงเลยมาเพียงครึ่งชั่วยาม ขุนนางหนุ่มที่กำลังนั่งพักอยู่บนชั้นสองของโรงเตี๊ยมรู้สึกเบื่อหน่าย

จึงได้เก็บของสำคัญพร้อมร่มหนึ่งคันติดตัวก่อนเดินออกจากห้องพัก เพื่อลงไปชั้นล่าง

เขาสวมใส่อาภรณ์สีขาวเนื้อผ้าละเอียด เพียงมองก็สามารถรู้ได้ทันทีว่าเป็นคนมีฐานะ

เจ้าของโรงเตี๊ยมเหลือบมองไปเห็นบุรุษรูปงามที่กำลังเดินลงมาจากบันได

จึงรีบสาวเท้าเข้าหาทันที “คุณชาย ท่านจะไปที่ใดหรือ?”

“ข้าจะออกไปข้างนอกสักพัก หากบ่าวของข้ากลับมา บอกพวกเขาให้รอข้าอยู่ที่นี่”

“รับทราบคุณชาย” เจ้าของโรงเตี๊ยมรับคำ

ในขณะออกตามหาโรงน้ำชาอู่เฉวียนอยู่นั้น

แสงจากดวงอาทิตย์ในตอนกลางวันที่ส่องลงมาโดยปราศจากเมฆขาวบดบัง

ทำให้อากาศร้อนเป็นอย่างยิ่ง

เขารู้สึกกระหายน้ำจึงได้แวะพักในเพิงร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองฉือ

“เถ้าแก่ ท่านรู้จักโรงน้ำชาอู่เฉวียนหรือไม่?” ขุนนางหนุ่มเอ่ยถามน้ำเสียงเรียบพลางหยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบ เพียงลิ้มลองรสของชา

คิ้วทั้งสองข้างก็พลันขมวดเข้าหากัน

“โอ้! คุณชาย ท่านเพิ่งมาเมืองฉือเป็นครั้งแรกอย่างงั้นหรือ?”

“เป็นเช่นนั้น ข้าพึ่งเดินทางมาถึงเมื่อยามเว่ย”

เขาวางถ้วยชาลงเบา ๆ

“ฮ่า ๆ หากเป็นเช่นนั้น ท่านสนใจใช้บริการใหม่ของร้านข้าหรือไม่

เพียงสองร้อยเหวิน ข้าจะให้ลูกชายของข้าพาท่านเดินชมรอบเมืองฉือ”

เถ้าแก่เอ่ยถามพลางยิ้มร่า

ขุนนางหนุ่มหาได้ใส่ใจ

เขามองเถ้าแก่ร้านด้วยสายตาเรียบนิ่ง

“ข้าเพียงถามท่านว่า

ท่านรู้จักโรงน้ำชาอู่เฉวียนหรือไม่”

เถ้าแก่เห็นว่าสถานการณ์ไม่เป็นอย่างที่คิด

รอยยิ้มกว้างพลันหุบลงทันใด “คุณชาย หากท่านไม่พอใจกับราคานี้

ข้าสามารถลดให้ท่านได้สี่สิบเหวิน ท่านคิดเช่นไร?”

ขุนนางหนุ่มค่อย ๆ เก็บของพลางลุกขึ้น

ทว่ากลับมีมืออันหนักแน่นของชายหนุ่มรูปร่างกำยำสองคนมากดทับไว้บนบ่าของเขาให้นั่งลง

“คุณชายท่านจะรีบไปไหนอย่างงั้นหรือ?” มุมปากของเถ้าแก่ยกยิ้มอย่างพอใจ

“ท่านจะทำสิ่งใด?” ขุนนางหนุ่มเอ่ยถามเสียงเรียบพร้อมใบหน้านิ่งเฉยไม่รู้ร้อนรู้หนาว

“ข้าเพียงเห็นว่าท่านพึ่งมาถึงเมืองฉือ

ข้าเลยกลัวว่าท่านจะเหนื่อย หากเพียงเพราะข้าเป็นห่วงท่านเสียมากกว่าจึงอยากให้ท่านนั่งพักเสียหน่อย”

“เจ้าคิดว่าข้ามองเจ้าไม่ออกอย่างงั้นหรือ?”

“ท่านหมายความว่าอย่างไรกันคุณชาย?”

“จากสิ่งที่ข้าเห็น

ตอนนี้พวกเจ้าพยายามรีดไถเงินจากข้าอยู่” ขุนนางหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบ พลางล้วงหยิบห่อขนมที่เก็บไว้ด้านในอาภรณ์ขึ้นมากิน

“มิกล้า มิกล้า

ข้าน้อยเป็นเพียงพ่อค้าขายอาหารธรรมดาข้างทาง มีเพียงเพิงร้านเล็ก ๆ เป็นที่พักพิง

ข้าจะกล้าทำสิ่งนั้นได้อย่างไรกัน” เถ้าแก่กล่าวพลางหรี่ตาลงพร้อมฉีกยิ้มกว้าง

“หากเป็นเช่นนั้น ข้าว่าเจ้าบอกให้ลูกทั้งสองของเจ้าเลิกเอามือสกปรกมาแตะต้องตัวข้าได้หรือไม่”

น้ำเสียงขุนนางหนุ่มยังคงนิ่งเรียบ

ลูกชายทั้งสองของเถ้าแก่ร้านต่างไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งกับคำพูดของขุนนางหนุ่มที่กล่าวออกมาเมื่อครู่

มือหยาบหนากำแน่นพร้อมง้างเข้ามาใกล้ใบหน้าอันหล่อเหลา หากทว่ากลับมีเสียงแหลมของสตรีนางหนึ่งดังขึ้นมาหยุดไว้เสียก่อน

“พวกเจ้าหยุดเดี๋ยวนี้! พวกเจ้ากำลังจะทำสิ่งใดกัน? เถ้าแก่ชาง เจ้าอธิบายให้ข้าฟังได้หรือไม่?”

“คุณหนูจางลี่!!!”

เถ้าแก่ชางเรียกชื่อของจางลี่พร้อมท่าทีตกใจ

“ฮ่า ฮ่า” เถ้าแก่ชางหัวเราะแห้ง

“เรื่องมันมีที่มาอย่างนี้ขอรับคุณหนูจาง

บังเอิญว่าคุณชายท่านนี้เขากินแล้วไม่ยอมจ่าย ข้าเลยบอกให้ลูก ๆ

ของข้าสั่งสอนเขาเพียงเล็กน้อย” เถ้าแก่ชางกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงและท่าทียำเกรง

“เป็นอย่างงั้นหรือ คุณชาย” จางลี่เอ่ยถามหนุ่มรูปงาม

เถ้าแก่ชางยิ้มหรี่ตามองขุนนางหนุ่ม

แววตาของเขาดุดัน พยายามข่มให้อีกฝ่ายคล้อยตามตน ทว่าขุนนางหนุ่มหาได้สนใจไม่

เขาเหลือบมองไปยังจางลี่ ก่อนเอ่ยถาม “แล้วแม่นาง คิดเช่นไร?”

“นี่ท่าน!!! ข้าถามท่าน

มิใช่ให้ท่านถามข้ากลับเช่นนี้ ครอบครัวสอนมาเช่นไรกัน”

ขุนนางหนุ่มนิ่งเงียบก่อนที่จะเก็บห่อขนมของเขากลับเข้าไปไว้ในอาภรณ์สีขาว

“เอาละ ในเมื่อเจ้าไม่มีอะไรจะกล่าว

ข้าจะถือว่าสิ่งที่เถ้าแก่ชางกล่าวมาทั้งหมดเป็นความจริง”

ขุนนางหนุ่มลุกขึ้นยืนก่อนที่จะล้วงมือเข้าไปในถุงอาภรณ์ของเขาเพื่อนำเงินออกมาหนึ่งตำลึงเงิน

กระแทกลงบนโต๊ะไม้อย่างแรงจนขาโต๊ะได้หักไปข้างหนึ่งแล้วเดินจากไป ขณะนั้น

เถ้าแก่ร้านและลูก ๆ ของเขารวมถึงจางลี่ ต่างพากันนิ่งเงียบเพราะความตกใจ

จางลี่เมื่อหาเสียงตนเจอก็พลันตะโกนกล่าวถามตามหลังขุนนางหนุ่มซึ่งเดินออกไปได้ครู่หนึ่ง

“นะ...นี่ท่าน ท่านจะไปที่ไหนกัน ทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร!? ”

ขุนนางหนุ่มเดินแวะเวียนตามซอกซอยต่าง

และไต่ถามผู้คนมากมายเพื่อตามหาร้านน้ำชาตามข่าวลือที่ตนได้รับมาจากเมืองฉินจนถึงยามที่พระอาทิตย์ใกล้จะลาลับขอบฟ้า

หากกลับไม่พบสิ่งใดที่เชื่อมโยงถึงโรงน้ำชาอู่เฉวียนเลยแม้เพียงน้อย

“ดูท่าข้าคงจะมาเสียเที่ยวเสียแล้ว นี่เป็นสิ่งผิดพลาด

ข้าไม่ควรหลงเชื่อคำพูดของคนเมา” ขุนนางหนุ่มกล่าวกับตนเอง

ระหว่างที่เขากำลังทอดถอนใจ

พลันได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของใบชาโชยเข้าจมูก ใต้แสงสีทองระยิบระยับของดวงอาทิตย์

“นี่มันกลิ่นชา? ช่างเป็นกลิ่นที่หอมอะไรถึงเพียงนี้”

ขุนนางหนุ่มไม่รอช้ารีบเดินตามกลิ่นหอมที่ลอยมาตามสายลมไปอย่างใจจดใจจ่อ

ยามนี้ขุนนางหนุ่มได้เดินมาถึงต้นตอของกลิ่นหอมละมุน

ภาพตรงหน้าของเขาคือโรงน้ำชาที่เพียงมองก็รู้ได้ทันทีว่าพึ่งเปิดมาได้ไม่นานนัก

มีเพียงป้ายขนาดเล็กที่มีเพียงตัวอักษรเขียนว่า ‘โรงน้ำชา’ ไร้สิ่งเติมแต่งใด ๆ ตั้งอยู่หน้าร้าน

“ที่นี่หรือ? ต้นตอของกลิ่นหอมนั้น

ถึงแม้จะพึ่งเปิดได้ไม่นาน ก็ไม่คิดว่าจะเรียบง่ายอะไรถึงเพียงนี้”

ขุนนางหนุ่มเลิกม่านไม้ไผ่ตรงหน้าขึ้น

พลางก้มหน้าก้าวข้ามวงกบประตูไม้ล่าง เมื่อเงยหน้าขึ้นมา

สายตาพลันกระจ่างจ้าดุจคนตาบอดได้พบแสง

แสงตะวันสาดส่อง สารทฤดูพัดโชย

กลีบใบต่างร่วงโรย ใจข้ามิอาจต้านทาน

บทกวีพลันผุดขึ้นมาในใจทันทีเมื่อได้เห็นผู้ที่ยืนอยู่เบื้องหน้า

คนผู้นั้นสวมอาภรณ์ขาวบริสุทธิ์ กำลังยืนทัดเกศาดำขลับยาวสลวย ซึ่งพลิ้วไหวด้วยสายลมที่พัดผ่านเข้ามา

ขับเน้นความงามเจ้าของโรงน้ำชาประหนึ่งเทพธิดาบนสรวงสวรรค์

ขุนนางหนุ่มคล้ายตกในห้วงภวังค์

มิอาจละสายตาจากรูปลักษณ์อันงดงามนั้น

“คุณชาย ท่านอยากดื่มอะไรหรือไม่? ร้านใกล้จะปิดแล้ว”

เสียงไพเราะดุจพญาหงส์เอ่ยถาม

พร้อมด้วยแววตาเคลือบความสงสัย

“คุณชาย ท่านได้ยินที่ข้าถามหรือไม่?”

“...”

เจ้าของโรงน้ำเห็นท่าทีอีกฝ่ายก็แปลกใจ

พลางเดินมายังเบื้องหน้าของบุรุษหนุ่มด้วยการทิ้งระยะห่างเพียงเล็กน้อย

“หากเอาแต่ยืนขวางประตูเช่นนี้ ข้าจะปิดร้านได้อย่างไร?”

ขุนนางหนุ่มพลันได้สติ

รีบปั้นหน้ากลับ

“ขออภัยแม่นาง มิทราบว่าท่านมีนามใดหรือ?”

“ข้ามีนามว่าอู่เฉวียน แต่ได้โปรดอย่าเรียกข้าว่าแม่นาง

เนื่องจากข้าเป็นบุรุษ”

ขุนนางหนุ่มเพ่งพินิจไปบนดวงหน้าของอีกฝ่ายซึ่งงดงามราวกับมิใช่คนบนโลกมนุษย์

พลางยิ้มขำ

“แม่นางรู้จักล้อเล่นนัก ในโลกไหนเลยจะมีบุรุษงามถึงเพียงนี้”

“ท่านมิเชื่อ” อู่เฉวียนเลิกคิ้วเล็กน้อย

ขุนนางหนุ่มยังคงยิ้มพลางส่ายหน้า“หากเจ้าของร้านน้ำชาเบื้องหน้าเป็นบุรุษ ในโลกก็ไม่จำเป็นต้องมีสตรีแล้ว”

“มิว่าผู้ใดต่างไม่เชื่อว่าข้าเป็นบุรุษ

แม้แต่ท่านก็ด้วย ช่างเถิด ข้าชินเสียแล้ว”

“แม่นาง ท่านโกรธหรือ?”

“ข้าจะโกรธท่านได้อย่างไร

ท่านมิใช่คนแรกที่เห็นข้าเป็นสตรี” อู่เฉวียนหลบสายตาอีกฝ่ายชั่วครู่

ก่อนหันมากล่าวต่อ “คุณชาย ร้านใกล้จะปิดแล้ว

ท่านต้องการสั่งสิ่งใดโปรดว่ามา”

“แม่นางจะไม่เชิญข้านั่งหน่อยหรือ?”

อู่เฉวียนได้ยินเช่นนั้นจึงเชิญอีกฝ่ายนั่งลง

ขุนนางหนุ่มเอ่ยขึ้น“ในเมื่อที่นี่เป็นโรงน้ำชา ก็ยกน้ำชามาให้ข้า”

“ตกลง” อู่เฉวียนรับคำพลางเลิกม่านเข้าหลังร้าน

ไม่นานก็มีกลิ่นหอมโชยมา ทำให้ผู้ได้รับกลิ่นรู้สึกสดชื่น

ความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางทั้งวันของขุนนางหนุ่มมลายสิ้น

เสียงฝีเท้าดังมาจากในครัว

อู่เฉวียนเลิกม่านยกถาดน้ำชาออกมา แสงตะวันสีทองซึ่งส่องมาทางหน้าต่าง

ย้อมอาภรณ์ขาวเปล่งประกายทอง สะกดสายตาขุนนางหนุ่มจนมิอาจกะพริบ

ถาดน้ำชาวางลงบนโต๊ะอย่างแผ่วเบา

พร้อมดวงตาที่งามซึ้งดุจดวงดาราจับจ้องมายังบุรุษเบื้องหน้า

รอยยิ้มงามปานบุปผาเผยออก

“คุณชาย ชานี้มีชื่อว่าอู่หลง เชิญดื่มแก้กระหาย”

ขุนนางหนุ่มพยักหน้าอย่างลืมตัว

เขาเอื้อมมือไปที่กาน้ำชา ทว่าอู่เฉวียนกลับคว้าไปเสียก่อน

“ท่านคือลูกค้าคนสุดท้ายของวันนี้

ให้ข้าได้ดูแลท่านเถิด” เขารินน้ำชาลงถ้วยอย่างช้า ๆ ด้วยกิริยาอ่อนละมุน

นิ้วเรียวงามดุจดอกกล้วยไม้ มือขาวผ่องดั่งผ้าขาวซึ่งราวกับไม่เคยแปดเปื้อนเศษธุลี

สะกดขุนนางหนุ่มให้หลงใหลจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว

เลือกตอน
1 บทนำ สาเหตุของการพบพาน
2 บทที่ 1 บุรุษผู้งดงาม
3 บทที่ 2 บุรุษ? ท่านหมายความว่าอย่างไร
4 บทที่ 3 ติดค้าง
5 บทที่ 4 Nc พิเศษ(ชายหญิง) นางในฝัน
6 บทที่ 5 ปล่อยเก้อ
7 บทที่ 6 ความโง่เขลาของแม่นาง
8 บทที่ 7 พันจอก
9 บทที่ 8 ตระกูลนักรบแห่งดินแดนเหนือ
10 บทที่ 9 ความเป็นมา
11 บทที่ 10 สาเหตุของการย้านถิ่นฐาน
12 บทที่ 11 ขุนนางผู้ปราดเปรื่อง
13 บทที่ 12 กลุ่มนักแสดงหงส์เหินบรรเลงรัก
14 บทที่ 13 ปิ่นงามคู่หญิงงาม
15 บทที่ 14 แม่นางท่านเป็นบุรุษอย่างงั้นหรือ?!
16 บทที่ 15 สุราลิขิตรัก
17 บทที่ 16 nc สุราราคะ
18 บทที่ 17 หนีกลับจวนเฟย
19 บทที่ 18 ตัดสินใจ
20 บทที่ 19 Nc กลางโรงน้ำชา
21 บทที่ 19 Nc กลางโรงน้ำชา (2) จัดเต็ม++++
22 บทที่ 20 บอกลา
23 บทที่ 21 Nc เดินทางกลับเมืองหลวง
24 บทที่ 22 แม่สามี
25 บทที่ 23 สะใภ้ตระกูลเฟย
26 บทที่ 24 หลอกล่อ
27 บทที่ 25 สารภาพ
28 บทที่ 26 เดินทางเข้าวังหลวง
29 บทที่ 27 ฮ่องเต้เคียงฮองเฮา
30 บทที่ 28 ประทานสมรส
31 บทที่ 29 งานแต่งงาน
32 บทที่ 30 Nc พิเศษงานแต่งงาน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 32

1
บทนำ สาเหตุของการพบพาน
2
บทที่ 1 บุรุษผู้งดงาม
3
บทที่ 2 บุรุษ? ท่านหมายความว่าอย่างไร
4
บทที่ 3 ติดค้าง
5
บทที่ 4 Nc พิเศษ(ชายหญิง) นางในฝัน
6
บทที่ 5 ปล่อยเก้อ
7
บทที่ 6 ความโง่เขลาของแม่นาง
8
บทที่ 7 พันจอก
9
บทที่ 8 ตระกูลนักรบแห่งดินแดนเหนือ
10
บทที่ 9 ความเป็นมา
11
บทที่ 10 สาเหตุของการย้านถิ่นฐาน
12
บทที่ 11 ขุนนางผู้ปราดเปรื่อง
13
บทที่ 12 กลุ่มนักแสดงหงส์เหินบรรเลงรัก
14
บทที่ 13 ปิ่นงามคู่หญิงงาม
15
บทที่ 14 แม่นางท่านเป็นบุรุษอย่างงั้นหรือ?!
16
บทที่ 15 สุราลิขิตรัก
17
บทที่ 16 nc สุราราคะ
18
บทที่ 17 หนีกลับจวนเฟย
19
บทที่ 18 ตัดสินใจ
20
บทที่ 19 Nc กลางโรงน้ำชา
21
บทที่ 19 Nc กลางโรงน้ำชา (2) จัดเต็ม++++
22
บทที่ 20 บอกลา
23
บทที่ 21 Nc เดินทางกลับเมืองหลวง
24
บทที่ 22 แม่สามี
25
บทที่ 23 สะใภ้ตระกูลเฟย
26
บทที่ 24 หลอกล่อ
27
บทที่ 25 สารภาพ
28
บทที่ 26 เดินทางเข้าวังหลวง
29
บทที่ 27 ฮ่องเต้เคียงฮองเฮา
30
บทที่ 28 ประทานสมรส
31
บทที่ 29 งานแต่งงาน
32
บทที่ 30 Nc พิเศษงานแต่งงาน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!