CHANGE YOU PART 4 ยาไมเกรนต้องเข้าแล้วแหละ

CHANGE YOU PART 4 ยาไมเกรนต้องเข้าแล้วแหละ

จ้อกแจ้ก จ้อกแจ้ก

“อื้อ...”

เสียงคนหลายๆ คนคุยกันดังอยู่รอบกาย ทำให้ฉันรู้สึกหงุดหงิดจนต้องลืมตาตื่น

ทั้งๆ ที่กำลังนอนหลับอย่างสบายอุรา คล้ายกับว่าอดหลับอดนอนมาหลายคืน

แล้วได้พักผ่อนอย่างเต็มที่

ภาพแรกที่เข้ามากระทบจอประสาทตาของฉัน

คือผู้ชายใส่แว่นวัยกลางคนหน้าตาดูจิตใจดี

ถ้าไม่มีหน้ากากอนามัยปิดครึ่งล่างของใบหน้าเอาไว้ ฉันเดาว่าเขาน่าจะหล่อมากแน่ๆ

เขาอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนกับกางเกงสแล็คสีครีม

สวมทับด้วยเสื้อกาวน์สีขาวสะอาดตา

ในมือถือคลิปบอร์ดพร้อมปากกากำลังจดบันทึกอะไรบางอย่างอยู่

และเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าฉันกำลังมองอยู่

เขาจึงน่าจะยิ้มตอบให้กับฉัน สังเกตได้จากดวงตาที่หยีลงเล็กน้อย

และรอยย่นบริเวณหางตาซึ่งขึ้นริ้ว

“คนไข้ตื่นแล้วเหรอครับ?” น้ำเสียงอบอุ่นเอ่ยถาม พร้อมขยับเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น

“คะ?”

ฉันยังรู้สึกงุนงงและสับสน

จึงไม่ได้ตอบอะไรเขากลับ ทำเพียงแค่ยันกายลุกขึ้นนั่งช้าๆ สายตากวาดมองรอบๆ กาย และรับรู้ได้ว่าตอนนี้ตัวเอง

กำลังนั่งอยู่บนเตียงคนป่วยในโรงพยาบาลสักแห่งหนึ่ง และคนตรงหน้าฉันคือหมอแน่ๆ

ชุดที่ฉันสวมใส่ยังคงเป็นชุดเดิม

ซึ่งอยู่บนร่างกายมาตั้งแต่ตอนออกจากบ้าน ทว่าบริเวณหน้าท้องของฉัน

ซึ่งควรจะมีบาดแผลจากการถูกไอ้ดินคนชั่วยิง กลับไร้ซึ่งร่องรอยใดๆ ปรากฏ

เลือดที่ควรจะเปื้อนเสื้อผ้าหายไป ความเจ็บก็ไม่มีหลงเหลืออยู่แม้แต่น้อย

ถึงฉันจะพยายามจับสัมผัสแรงๆ ก็ตามที

ฉันรีบถกเสื้อยืดของตัวเองขึ้นดูบาดแผลภายใต้ร่มผ้า

จนคุณหมอต้องรีบเบือนหน้าหนีเพราะไม่กล้ามอง แต่ฉันกลับไม่พบแม้ร่องรอยขีดข่วนใดๆ

บนร่างกาย มันยังคงขาวเนียนและไร้ซึ่งไขมันเหมือนเดิม

สร้างความฉงนให้กับฉันเป็นที่สุด

“เอ่อ...คนไข้ครับ ช่วยสำรวมหน่อย

ที่นี่ที่สาธารณะครับ”

คุณหมอกล่าวเตือนเสียงดุ

ทำให้ฉันระลึกได้ว่ากำลังทำตัวประเจิดประเจ้ออยู่

จึงรีบดึงเสื้อลงให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยเหมือนเดิม และกวาดสายตามองคนไข้และบรรดาญาติๆ

คนอื่นๆ ซึ่งกำลังมองจ้องมาที่ฉันเป็นตาเดียว

เห็นของขาวๆ กันไม่ได้เลยนะ

มองตาเป็นมันกันเชียว!

“ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ?” ฉันรีบเอ่ยคำถามที่กำลังคาใจทันที

“คุณเป็นลมหมดสติอยู่หน้าโรงพยาบาลครับ” เมื่อเห็นว่าฉันกลับมาอยู่ในสภาพปกติ คุณหมอจึงหันกลับมาตอบคำถามซึ่งๆ

หน้า

“เป็นลม? ไม่ใช่ถูกยิงเหรอคะ?”

มันควรจะต้องถูกยิงสิ

เพราะฉันพึ่งจะโดนยิงมาหมาดๆ เลือดก็ไหลออกจะเยอะขนาดนั้น

ฉันมั่นใจมากว่าไม่ได้ตาฝาดแน่ๆ

“ถูกยิง? คนไข้พูดเรื่องอะไรเหรอครับ

คุณถูกยิงตรงไหน?” คุณหมอพยายามกวาดสายตามองตามร่างกายฉัน

แต่เมื่อเขาไม่พบถึงสิ่งผิดปกติ จึงกลับมาทำหน้าสงสัยใส่ฉันแทน

ฉันนั่งทำหน้างงงวยพร้อมครุ่นคิดอย่างไม่ตก

หรือความจริงแล้วเรื่องที่ฉันเข้าไปในฉากจบนิยาย เป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น

ตอนนี้ฉันอาจตื่นขึ้นมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงแล้วก็ได้

แต่แปลกนะ

ความรู้สึกทุกอย่างในตอนนั้นมัน...สมจริงมาก โดยเฉพาะตอนที่…ถูกยิง

“ช่างมันเถอะค่ะ ฉันน่าจะเข้าใจผิดไปเอง

ว่าแต่ฉันกลับได้หรือยังคะ?” เพราะรู้สึกอยากกลับบ้านไปพักผ่อนเต็มที่ ฉันจึงเลือกที่จะตัดบท

“ไม่นอนให้น้ำเกลือสักคืนเหรอครับ

ร่างกายคุณยังดูอ่อนเพลียอยู่เลย”

“ไม่ค่ะ ตอนนี้ฉันรู้สึกแข็งแรงดีมาก”

เพราะไม่อยากอยู่ในที่คนเยอะๆ เสียงดังวุ่นวาย ไม่มีความเป็นส่วนตัวแบบนี้

แม้จะยังรู้สึกอิดโรยเหมือนที่คุณหมอบอกจริงๆ แต่ฉันเลือกที่จะกลับบ้านดีกว่า

“งั้นแล้วแต่คนไข้นะครับ”

สุดท้ายแล้วฉันก็ได้ลงจากเตียงผู้ป่วย และเดินทอดน่องออกมาตามทางเดิน

ที่มุ่งสู่ประตูทางออกของโรงพยาบาลจนได้

แต่ในระหว่างทางที่ยังไม่ทันออกสู่ภายนอกโรงพยาบาล

สายตาฉันก็ไปสะดุดเข้ากับร่างของใครสักคน

ผู้หญิงอายุรุ่นราวคราวเดียวกับฉัน เธออยู่ในชุดคนไข้ของโรงพยาบาลแห่งนี้

และกำลังยืนเกาะกระจก มองอะไรสักอย่างภายในห้องนั้น ด้วยแววตาแข็งกร้าวเจ้าเล่ห์

คล้ายมีแผนการบางอย่าง

ฉันเพ่งพินิจใบหน้าของเธอดูดีๆ เพราะรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาราวกับว่าเคยรู้จัก

และในที่สุดฉันก็ถึงบางอ้อ

แม้ช่วงอายุที่เคยเห็นตอนก่อนหน้า เธอจะเป็นหญิงวัยกลางคนที่มีผิวเนื้อเหี่ยวย่นตามกาลเวลา

แต่โครงหน้าที่ดูร้ายกาจอย่างชัดเจน และมีแววตาอาฆาต

จนดูเหมือนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบนี้ ต่อให้เจอในช่วงวัยไหน

ฉันก็มั่นใจว่าจำเธอได้อย่างแน่นอน…แก้วตา

และเธอ...เป็นตัวตอกย้ำความจริงให้ได้รับรู้ว่า...ฉันยังอยู่ในโลกของนิยาย

มันจะอะไรกันนักกันหนา ทำไมเรื่องบ้าๆ

นี่มันต้องเกิดขึ้นกับฉันด้วย

พระเจ้าอยากลงโทษเรื่องที่ฉันปากหมาด่ากราดคนอื่นเขาไปทั่วหรือไงกัน

แต่วิธีมันก็มีตั้งร้อยแปดพันเก้า

ทำไมต้องส่งฉันเขามาในนิยายที่ฉันรู้สึกเฟลกับตอนจบแบบนี้ด้วยนะ

ฉันอยากกลับบ้านอันแสนสุขของฉัน ฮือ~

ไม่ได้! ฉันต้องหาวิธีกลับโลกความเป็นจริงให้ได้

ฉันจะไม่ยอมตายอยู่ในนิยายเรื่องนี้แน่ มันจะต้องมีสักวิธีหนึ่งสิ

ที่จะปลุกให้ฉันตื่นจากฝันร้ายนี้ แต่ที่แน่ๆ วิธีการตายไม่ช่วยให้ฉันกลับไป!

ฉันเดาว่าการตายของฉันในฉากนั้น ส่งให้ฉันย้อนกลับมาในฉากเริ่มต้นเรื่องราว

ที่นี่คือโรงพยาบาล แก้วตาอยู่ในชุดคนไข้ ถ้าคำนวณไม่ผิด

เธอพึ่งคลอดลูกพร้อมกับนับดาวแน่ๆ

มันต้องมีเหตุผลที่ฉันได้ย้อนเวลากลับมาจุดเริ่มต้น

ฉันหยุดยืนดูอยู่ห่างๆ สักพัก ไม่นานแก้วตาก็เดินจากไป

ฉันรีบปรี่เข้าไปดู ว่าสิ่งที่เธอยืนมองนานสองนานนั้นคือสิ่งใดกันแน่ และก็พบเข้ากับทารกตัวเล็กจิ๋ว2 คน กำลังนอนร้องกระจองอแง

อยู่ในตู้อบขนาดใหญ่กว่าตัวเองเกือบเท่า ซึ่งตรงกับที่ฉันคิดเอาไว้ไม่มีผิด

คนหนึ่งจะต้องเป็นตะวัน ส่วนอีกคนต้องเป็นดินแน่ๆ

ฉันผละออกจากกระจก

ตัดสินใจเดินตามร่างของแก้วตาไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มาถึงห้องพักพิเศษของเธอ

แก้วตาเดินเข้าไปได้สักพัก ก็มีผู้หญิงอีกคนที่ดูอายุมากกว่าเธอไม่กี่ปี

สวมใส่เสื้อผ้าพื้นๆ ราคาถูกเดินตามเข้าไปทีหลัง

ฉันค่อยๆ ขยับกายเข้าไปใกล้

และเงี่ยหูฟังพร้อมแอบดูผ่านบานประตู ซึ่งแง้มอยู่จากการถูกปิดไม่สนิท

บทสนทนาเข้มข้นดำเนินไปเรื่อยๆ โดยหารู้ไม่ว่า

มีคนแปลกหน้าอย่างฉันแอบฟังอยู่ด้านนอก

ปกติฉันไม่ใช่คนขี้เสือกนะ

แต่สถานการณ์นี้แบบมันจำเป็นจริงๆ อิอิ

“คุณผู้หญิงคลอดลูกเป็นผู้ชายเหมือนกัน

คุณแก้วตาจะเอายังไงต่อดีคะ?”

“ฆ่ามันสิ

จะรอให้มันโตขึ้นมาแย่งสมบัติลูกชายฉันหรือไง?” คำพูดโหดร้ายกับแววตาเยือกเย็น ทำให้ผู้หญิงคนนี้ดูชั่วช้าสามานย์ขึ้นเป็นกอง

“แต่...มันจะไม่กลายเป็นเรื่องใหญ่เหรอคะ

ถ้าหากถูกจับได้เราจะซวยกันหมดนะคะ” คนเอ่ยถามมีสีหน้าวิตกกังวลอย่างชัดเจน

ในขณะที่คนถูกถามกลับนิ่งเฉย คล้ายไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไร

“แล้วแกจะโง่ทำให้คนอื่นจับได้ทำไม?” แก้วตาตวัดดวงตาคมดุไปจ้องคู่สนทนา

ที่กำลังยืนตัวสั่นงันงกอยู่ข้างเตียงคนไข้

“แต่น้อยกลัวค่ะ ฆ่าคนเลยนะคะคุณแก้วตา

ถึงจะเป็นเด็กก็เถอะ”

“แล้วแกจะทำหรือไม่ทำ?”

“เอ่อ...”

“ถ้าแกไม่ทำ ฉันทำเอง!!” ประกาศกร้าวอย่างหมายมาด ไม่สนใจคำเตือนของคนที่ชื่อน้อยเลยสักนิด

ปกติหน้าตาก็ชั่วอยู่แล้ว

จิตใจเธอยังอำมหิตอีกนะแก้วตา เกิดเป็นคนได้ไงวะเนี่ย เลือดเย็นชะมัด!!

แม้จะรู้สึกไม่พอใจและโกรธจัด

แต่ฉันก็ไม่สามารถโผล่หัว ออกไปยืนด่ากราดนังสารเลวนั่นได้อย่างที่คิดเอาไว้

เมื่อเห็นว่าบทสนทนาชั่วร้ายนั้นจบลง ฉันจึงรีบพุ่งตรงกลับไปยังห้องกระจก

ที่พึ่งผละออกมาเมื่อสักพัก

เมื่อมาถึงก็ยังไม่รู้จะเอาไงต่อ

ทำได้แค่ยืนมองเด็กทั้งคู่ ที่น่าจะพึ่งคล้อยหลับไปได้ไม่นาน

ฉันควรทำยังไงดี?

ในนิยายที่อ่านมามันไม่มีบทที่แก้วตาจะฆ่าเด็ก แล้วทำไมอยู่ๆ

เธอถึงมีความคิดนี้ขึ้นมาได้ ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนั้น

นิยายเรื่องนี้ก็จะถูกดำเนินต่อโดยไม่มีดินอยู่ในเรื่องราว แล้วมันจะได้เหรอวะ?

ในเมื่อเรื่องนี้มันเป็นเรื่องของเขา ที่มันจะต้องมีเขาเป็นตัวเอก

ฉันยืนปวดประสาทมองจ้องเด็กทั้งคู่

ก่อนความคิดหนึ่งจะแว๊บเข้ามาในหัว ทำไมฉันไม่ทำให้เนื้อเรื่อง

มันดำเนินต่อไปในทิศทางที่มันควรจะเป็น?

ฉันมีแผนการผุดขึ้นในใจ

และไม่รอช้าให้เวลามันผ่านไปเสียเปล่า เพราะไม่รู้ว่าแก้วตาจะเริ่มลงมือตอนไหน

ฉันจึงต้องชิงลงมือก่อน

เวลาผ่านไปสักพักใหญ่ๆ

ฉันกลับมายืนอยู่หน้าห้องอบด้วยชุดนางพยาบาล ที่แอบไปหยิบฉวยเอามาจากแถวนี้

มันไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างในนิยายที่ได้อ่าน

หรือในละครที่ได้ชมมา กว่าจะขโมยมาได้ฉันยืนยักแย่ยักยันอยู่เกือบชั่วโมง

เกือบถูกจับได้นับครั้งไม่ถ้วน เดินเฉี่ยวไปโฉบมา กว่าจะได้มาครบชุดลำบากไม่ใช่น้อย

ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน

ว่าจะลงทุนทำอะไรลำบาก และเสี่ยงถูกจับแบบนี้ไปทำไม ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอก

ประสบพบเจอมากับตัวเองแท้ๆ ว่าคนที่ฉันคิดจะช่วยเหลือ ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2

แล้ว เขาได้ลงมือฆ่าฉันอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้เอง

แต่พอคิดว่าเขากำลังจะตาย

หัวใจฉันกลับรู้สึกแป้วอย่างบอกไม่ถูก และอดสงสารเขาไม่ได้

ที่ยังไม่ทันได้ใช้ชีวิต ก็กำลังจะต้องสิ้นลมหายใจซะแล้ว

ทำไมฉันถึงได้มีจิตใจที่ประเสริฐขนาดนี้นะ

ชื่นชมตัวเองจริงๆ เลย

“กำลังจะเอาเด็กไปเข้าเต้าใช่ไหม?” ในขณะที่กำลังยืนชื่นชมตัวเองในใจ ก็ได้มีพยาบาลอีกคนเดินมาสะกิดแขนฉัน

“คะ? อ่อค่ะ” ฉันไม่รู้จะตอบอะไรออกไป เพราะกลัวความแตกว่าเป็นพยาบาลปลอม

ก็เลยเออออห่อหมกไปตามน้ำ

“งั้นเข้าไปเตรียมเด็กรอฉันเลย

เดี๋ยวขอไปล้างมือก่อน” พูดจบเธอก็เดินจากไป ฉันที่กำลังงุนงงจึงตั้งสติ

และเปิดประตูห้องอบเข้าไปภายใน

เมื่อเข้ามาแล้ว ฉันยืนเล็งป้ายชื่ออยู่สักพัก

เด็กคนแรกชื่อแผ่นดิน ภูริสิทธิโชค คนนี้ต้องเป็นลูกตัวจริงของแก้วตาแน่ๆ

ส่วนอีกคนชื่อ ตะวัน วรโชติเมธี ส่วนคนนี้...คือไอ้ชั่วดินในอนาคต

ที่ลั่นไกใส่ฉันอย่างแน่นอน

บีบคอให้ตายซะตั้งแต่ตอนนี้เลยดีไหม

อนาคตจะได้ไม่ต้องเที่ยวไปฆ่าใครมั่วซั่วอีก ไอ้คนใจทราม!!

ฉันก็ทำได้แค่คิด เด็กตาดำๆ

ดูใสซื่อบริสุทธิ์แบบนี้ ฉันคงใจยักษ์ใจมารทำเขาไม่ลงหรอก

ฉันรีบแกะป้ายห้อยชื่อเด็กสลับกันทันที ก่อนอุ้มตะวันตัวปลอมใส่รถเข็น

และอุ้มดินตัวปลอมที่นอนน่ารักน่าฆ่าใส่รถเข็นอีกคัน

พอดีกับที่พยาบาลคนนั้นเดินเข้ามาด้านใน

“เดี๋ยวเราต้องแยกกันไป เธอจะเอาคนไหน?” เธอให้สิทธิ์ฉันเลือกก่อน และแน่นอนว่าฉันต้องเลือกไปห้องของแก้วตา

“คนนี้ค่ะ” ฉันว่าพลางเดินไปประจำหลังราวจับ เธอพยักหน้าให้ฉันเล็กน้อย

และเข็นรถของตะวันเดินนำออกจากห้องอบ

เราสองคนแยกย้ายกันไปคนละห้อง

และในที่สุดฉันก็มายืนอยู่ในห้องพักของแก้วตา เธอมองฉันด้วยสายตาที่ดูไม่ค่อยชอบขี้หน้าสักเท่าไหร่นัก

ก่อนจะรับเด็กที่ฉันกำลังอุ้มส่งให้กับเธอไปโอบกอด

ใบหน้าบึ้งตึงมีรอยยิ้มอ่อนโยนทันทีที่อุ้มเด็กแล้ว

แต่เพียงชั่วครู่เดียวเท่านั้น หน้าตาเธอกลับดูขึงขังขึ้น ดวงตาที่จ้องมองจนแทบถลน

กวาดมองเด็กซึ่งอยู่ในอ้อมแขนจนทั่ว ก่อนส่งคืนให้กับฉัน

ราวกับรู้ว่าเขาไม่ใช่ลูกของเธอ

ไม่นะ! อย่าบอกนะว่าหล่อนรู้ว่าเด็กถูกสลับตัว ฉันว่าหน้าตาพวกเขามันก็คล้ายๆ

กันอยู่นะ เด็กแรกเกิดมันก็พิมพ์เดียวกันทั้งนั้นแหละ เธอรู้ได้ไงกัน?

“...!!”

แก้วตานิ่งเงียบสีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง

ก่อนลุกพรวดเดินดิ่งออกจากห้องพักไปเสียดื้อๆ เล่นเอาฉันใจร่วงลงไปกองอยู่บนพื้น เพราะกลัวเธอจะไปชิงลูกตัวเองกลับมา

ฉันรีบเดินตามไปด้วยความสงสัย

ว่าเธอกำลังจะไปไหนกันแน่ แต่ก็ทิ้งระยะไม่ให้เธอรู้สึกตัวว่ากำลังโดนตามอยู่

และสุดท้ายเธอก็เปิดประตูเดินเข้าไปในห้องพักอีกห้อง ซึ่งอยู่ถัดมาเพียงไม่กี่ห้องเท่านั้น

“เข้ามาทำไม!?” เสียงของผู้หญิงอีกคนแหวถามดังลั่น จนฉันที่ยังไม่ทันถึงหน้าห้องยังได้ยิน

ฉันที่ยังคงอุ้มดินซึ่งหลับสนิทอยู่ในวงแขน

ค่อยๆ กระดึ๊บเข้าไปให้ใกล้ประตูห้องที่สุด และยืนแอบดูแอบฟังอย่างเงียบๆ

อยู่ข้างบานประตู ซึ่งถูกเปิดอ้าออกจนกว้างอย่างตั้งใจ ด้วยฝีมือของแก้วตาเอง

“ก็แค่มายินดีกับเธอน่ะ

เห็นน้อยบอกว่าเธอได้ลูกชายเหมือนกัน”

แก้วตากวาดตาอย่างสำรวจมองเด็ก

ที่อยู่ในอ้อมอกของหญิงสาวอีกคน ฉันเดาว่าคนนี้คือนับดาว

แม่ของเด็กที่อยู่กับฉันตอนนี้แน่นอน

“ไม่ต้องมาเสแสร้ง ฉันรู้ว่าผู้หญิงอย่างเธอคิดอะไรอยู่?

เธอมันนังแพศยา แย่งสามีคนอื่นได้อย่างหน้าด้านๆ” นั่นไง

เธอเป็นภรรยาหลวงจริงๆ ด้วย

“เปล่าซะหน่อย ฉันอยู่เฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรเลย

คุณเดชาเขาเข้ามาหาฉันเอง และก็เป็นคนเชิญให้ฉันเข้าบ้านเองด้วย ฉันไม่เคยร้องขอ”

“ไม่จริง!! เธอมันมารยาสาไถย

ทำให้เขาหลงผิดเป็นชอบ ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ ไป๊!!”

หมอนที่นับดาวใช้อิงหลัง

ถูกคว้าขึ้นมาเหวี่ยงใส่แก้วตาซึ่งยืนอยู่ไม่ห่าง มันเฉี่ยวหน้าสวยๆ

ของหล่อนไปนิดเดียว นั่นทำให้แก้วตารู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่

“เจียมกะลาหัวไว้บ้างก็ดีนะ จะถูกเฉดออกไปเมื่อไหร่ก็ยังไม่รู้เงาหัวของตัวเอง

น่าสมเพช!!”

ร่างระหงปรี่เข้าไปบีบลำคอเล็กๆ ของคู่สนทนา

แต่สายตาคมกริบ กลับก้มลงกวาดมองร่างเด็กที่อยู่ในอ้อมแขนของอีกฝ่าย

และเหมือนเธอจะรู้สึกพึงพอใจอะไรสักอย่าง

เพราะมีรอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏบนกลีบปากอิ่ม ก่อนจะปล่อยมือออกและเดินสะบัดออกมาจากห้อง

จนบังเอิญมาเจอเข้ากับฉันที่ยังไม่ทันได้หนีเต็มเปา

“เอ่อ...เห็นคุณแม่เดินลิ่วออกมาจากห้องน่ะค่ะ

กลัวคุณลูกหิวนมก็เลยเดินตามมา ไม่ได้ตั้งใจมาแอบฟังนะคะ” ฉันรีบหาข้ออ้างทันที เพราะเห็นสายตาจับผิดจ้องมองมาอย่างไม่กะพริบ

“ก็ปล่อยให้มันหิวตายไปสิ”

พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาจบ

แก้วตาก็สาวเท้าเดินกลับห้องพักของตัวเองไปเสียอย่างนั้น

ทิ้งฉันกับดินที่ตอนนี้ตื่นลืมตาใสแจ๋ว นอนมองหน้าฉันอย่างบ้องแบ๋วอยู่ในอ้อมแขน

“ทำไงล่ะทีนี้ หิวเปล่าเราอ่ะ?” ฉันคงบ้าไปแล้วที่คุยกับทารกแรกเกิด

เมื่อไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิตดี

ฉันจึงเลือกที่จะพาเขากลับห้องอบตามเดิม ดินถูกใส่กลับเข้าตู้อบแล้ว

เขาไม่ร้องไห้งอแงเลยสักแอะ ทั้งๆ ที่นมยังไม่มีเข้าปากเลยสักหยด

ด้วยความเวทนา

ฉันจึงเลือกที่จะอุ้มเขาออกมาจากตู้อบอีกครั้ง และแบกหน้ามายังห้องพักของนับดาว

ยืนชั่งใจอยู่สักพักว่าจะเข้าไปดีไหม คิดแล้วคิดอีกว่าจะโดนไล่ตะเพิดหรือเปล่า

และก็ตัดสินใจรวบรวมความกล้าเปิดประตูเข้าไปในห้อง

นับดาวกำลังกล่อมเด็กที่เธอไม่เอะใจเลยสักนิด

ว่าไม่ใช่ลูกของตัวเองให้หลับอยู่ และเมื่อได้ยินเสียงประตูห้องพักเปิดออก

เธอจึงเงยหน้าขึ้นมาดูด้วยสายตาแปลกใจ

“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณพยาบาล?” เธอถามทันทีที่เห็นฉันก้าวเท้าเข้าไปใกล้

“เอ่อ...จะเป็นการรบกวนคุณแม่ไหมคะ

ถ้าจะขอน้ำนมให้กับเด็กคนนี้” ฉันเอ่ยอย่างกล้าๆ กลัวๆ

พร้อมกับอุ้มดินเข้าไปใกล้นับดาว ให้เธอมองเห็นได้สะดวกมากขึ้น

“เด็กคนนี้?” เธอทวนซ้ำอย่างไม่เข้าใจ

“เขาเป็นลูกชายของคุณผู้หญิงที่อยู่ถัดไปไม่กี่ห้อง

เกิดวันเดียวกับลูกชายของคุณเลยค่ะ แต่พอดีเธอไม่ยอมให้นมลูกกินเลย

ดิฉันกลัวเขาเป็นอันตราย เพราะยังไม่มีนมตกถึงท้อง”

“ลูกชายของนังแก้วตาสินะ หึ! สมน้ำหน้า เกิดมาผิดที่ผิดทางเอง” คำที่ใช้เรียกจิกหัวขนาดนี้

แถมสายตายังดูรังเกียจเดียดฉันท์อย่างไม่ปิดบัง

ดูท่าแล้วดินคงไม่ได้กินนมของเธอแน่นอน

นี่มันลูกเธอนะนับดาว! ไม่มีเยื่อใยสักหน่อยเหรอ ถึงจะจำไม่ได้ก็เถอะ

แต่ช่วยมีความรู้สึกสงสารสักนิดได้ไหม?

“ฉันว่าฉันออกไปดีกว่า ขอโทษนะคะที่มารบกวน” เพราะดูแล้วความหวังติดลบ ฉันจึงเลือกที่จะขอตัวเตรียมเดินออกมา ทว่า...

“อ้าว ไม่ต้องการน้ำนมแล้วเหรอ?”

“คะ? ต้องการค่ะ” ฉันรีบหันขวับกลับไปมองนับดาวอีกครั้ง สายตาเดียดฉันท์ที่จ้องมองดินในตอนแรกอ่อนลง

มันเจือไปด้วยความเวทนาสงสาร

“งั้นก็ส่งเขามา แล้วคุณพยาบาลก็ช่วยอุ้มลูกชายฉันให้หน่อย”

“ได้ค่ะ” ฉันยิ้มอย่างดีใจ ก่อนแลกตัวเด็กในอ้อมแขนกับเธอ ตะวันมาอยู่กับฉัน

ในขณะที่ดินถูกส่งไปให้นับดาว

“น่าเสียดายนะ

เธอน่าจะเกิดเป็นลูกชายของฉันอีกคน ไม่น่าไปเกิดในท้องของผู้หญิงระยำคนนั้น”

มือบางลูบไล้สัมผัสพวงแก้มบอบบางของดิน สายตานับดาวดูเป็นประกายเล็กน้อย

เหมือนเธอกำลังรู้สึกเอ็นดูเขา

เธอเงยหน้าขึ้นมาส่งสายตาเรียบนิ่งให้กับฉัน

เหมือนต้องการจะสื่ออะไรบางอย่าง แต่ไม่ยอมพูดอะไรออกมา และสุดท้ายฉันก็ถึงบางอ้อ

เมื่อเธอเริ่มกระตุกเชือกชุดคนไข้บริเวณหน้าอกออก ฉันจึงรีบหันหลังให้กับเธอทันที

ภายในห้องพักของนับดาวเงียบสงบไร้เสียงรบกวนใดๆ

ฉันได้ยินเพียงแค่เสียงลมหายใจผ่อนเข้าออกของตะวันในอ้อมแขน

กับเสียงจ๊อบแจ๊บของดินที่กำลังดูดนมจากอกของผู้เป็นเจ้าของห้อง

“อย่าบอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด

ไม่งั้นฉันจะฟ้องร้องคุณ”

ไม่นานนักนับดาวก็เอ่ยประโยคแนวบังคับข่มขู่ออกมา

และเมื่อฉันหันหน้ากลับไป ก็พบว่าเธอหยุดให้นมดินแล้ว

และอยู่ในสภาพเรียบร้อยไม่ได้ล่อแหลม

“ค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ

ฉันคงไม่กล้าไปเล่าให้ใครฟังหรอก”

เพราะฉันเองก็กลัวคนอื่นจะรู้เหมือนกัน

เกิดเรื่องแดงขึ้นมาฉันนี่โดนหลายกระทงเลยนะ ตั้งแต่ขโมยชุด

ปลอมเป็นบุคลากรทางการแพทย์ และไหนจะสลับตัวเด็ก โอย...ติดคุกกี่ปีคะเนี่ย?

“ก็ดี อ่ะ เอาไป แล้วก็เอาลูกฉันคืนมา”

เราทำการสลับตัวเด็กอีกครั้ง

ดินกลับมาอยู่กับฉัน ส่วนตะวันก็ไปอยู่กับนับดาว เมื่อหมดธุระที่จะอยู่ต่อแล้ว

ฉันจึงเดินออกจากห้องมาเงียบๆ อย่างสุภาพ เพื่อพาเขากลับไปห้องอบ

และหลังจากวันนั้น ดินก็ได้อานิสงส์จากน้ำนมของนับดาว

โดยมีฉันเป็นคนเทียวอุ้มส่งอุ้มกลับตลอด จนกระทั่งวันที่พวกเขาได้ออกจากโรงพยาบาล

นั่นคือวันที่ฉันต้องปวดหัวอีกครั้ง ว่าจะเอายังไงต่อกับชีวิตตัวเอง

เลือกตอน
1 INTRO…CHANGE YOU ความในใจของนักเขียน
2 CHANGE YOU PART 1 มิตรภาพจากคู่กัด
3 CHANGE YOU PART 2 ร้านหนังสือประหลาด
4 CHANGE YOU PART 3 ไอ้ชั่ว!!
5 CHANGE YOU PART 4 ยาไมเกรนต้องเข้าแล้วแหละ
6 CHANGE YOU PART 5 น้องมังคุดน้อย
7 CHANGE YOU PART 6 ภารกิจแม่นมอิม
8 CHANGE YOU PART 7 นาทีชีวิต
9 CHANGE YOU PART 8 ฉันเลือกนาย เจ้าทาส!
10 CHANGE YOU PART 9 ทาสหาย
11 CHANGE YOU PART 10 ช่วงชีวิตอันน่าสงสารของคุดน้อย
12 CHANGE YOU PART 11 เสี่ยงตายบ่อยไปนะ
13 CHANGE YOU PART 12 พาไปนั่งรถเล่น หรือว่าพาไปโชกเลือด
14 CHANGE YOU PART 13 สวัสดีความเป็นมนุษย์
15 CHANGE YOU PART 14 แฟน?
16 CHANGE YOU PART 15 การต่อสู้อันดุเดือด
17 CHANGE YOU PART 16 เธอคือ...สิ่งสำคัญ
18 CHANGE YOU PART 17 การพบกันครั้งแรก
19 CHANGE YOU PART 18 อยากเอาทาสไปปล่อยวัด
20 CHANGE YOU PART 19 หึง!!
21 CHANGE YOU PART 20 จ๊วบๆ
22 CHANGE YOU PART 21 รวยครับ ไม่พูดเยอะเจ็บคอ
23 CHANGE YOU PART 22 ถ้าไม่ไหวก็ต้องไปต่อ
24 CHANGE YOU PART 23 ถูกทิ้ง
25 CHANGE YOU PART 24 ความจริงที่มาพร้อมกับการสูญเสีย
26 CHANGE YOU PART 25 คนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก แต่กลับคุ้นเคย
27 CHANG YOU PART SPECIAL ความน่าจะเป็น
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 27

1
INTRO…CHANGE YOU ความในใจของนักเขียน
2
CHANGE YOU PART 1 มิตรภาพจากคู่กัด
3
CHANGE YOU PART 2 ร้านหนังสือประหลาด
4
CHANGE YOU PART 3 ไอ้ชั่ว!!
5
CHANGE YOU PART 4 ยาไมเกรนต้องเข้าแล้วแหละ
6
CHANGE YOU PART 5 น้องมังคุดน้อย
7
CHANGE YOU PART 6 ภารกิจแม่นมอิม
8
CHANGE YOU PART 7 นาทีชีวิต
9
CHANGE YOU PART 8 ฉันเลือกนาย เจ้าทาส!
10
CHANGE YOU PART 9 ทาสหาย
11
CHANGE YOU PART 10 ช่วงชีวิตอันน่าสงสารของคุดน้อย
12
CHANGE YOU PART 11 เสี่ยงตายบ่อยไปนะ
13
CHANGE YOU PART 12 พาไปนั่งรถเล่น หรือว่าพาไปโชกเลือด
14
CHANGE YOU PART 13 สวัสดีความเป็นมนุษย์
15
CHANGE YOU PART 14 แฟน?
16
CHANGE YOU PART 15 การต่อสู้อันดุเดือด
17
CHANGE YOU PART 16 เธอคือ...สิ่งสำคัญ
18
CHANGE YOU PART 17 การพบกันครั้งแรก
19
CHANGE YOU PART 18 อยากเอาทาสไปปล่อยวัด
20
CHANGE YOU PART 19 หึง!!
21
CHANGE YOU PART 20 จ๊วบๆ
22
CHANGE YOU PART 21 รวยครับ ไม่พูดเยอะเจ็บคอ
23
CHANGE YOU PART 22 ถ้าไม่ไหวก็ต้องไปต่อ
24
CHANGE YOU PART 23 ถูกทิ้ง
25
CHANGE YOU PART 24 ความจริงที่มาพร้อมกับการสูญเสีย
26
CHANGE YOU PART 25 คนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก แต่กลับคุ้นเคย
27
CHANG YOU PART SPECIAL ความน่าจะเป็น

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!