CHANGE YOU PART 3 ไอ้ชั่ว!!

CHANGE YOU PART 3 ไอ้ชั่ว!!

“ทำไมแกถึงเลวระยำได้ขนาดนี้ห๊ะไอ้ดิน?!!”

“หึ!”

“พ่อแม่ฉัน ครอบครัวของฉัน

มีบุญคุณกับแกขนาดไหน แกสำนึกได้บ้างไหม?”

“บุญคุณ? เหอะ!”

“แกทำอย่างนั้นกับพวกเขาได้ยังไง

มันไม่โหดร้ายเกินมนุษย์ไปหน่อยหรือไงวะ?”

เสียงเข่นเขี้ยวลอดไรฟันของใครสักคน

ที่ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคือใคร คล้ายจะเอ่ยถามคู่สนทนา

และเหมือนคู่สนทนาของเขาจะไม่ตอบคำถาม

เพราะฉันได้ยินเพียงแค่เสียงหัวเราะอย่างเหยียดหยามในลำคอเท่านั้น

“สิ่งที่แกทำกับฉัน ที่ครอบครัวแกทำกับฉัน

มันไม่ระยำกว่าหรือไงวะ ยังจะมีหน้ามาถามฉันอีกนะ ว่าทำไปได้ยังไง ไอ้ตะวัน!!”

“...”

“ที่ฉันมีชีวิตรอดมาได้ทุกวันนี้

มันเป็นเพราะการดิ้นรนที่จะหน้าด้านอยู่ต่อของฉันเองทั้งนั้น

พวกแกไม่เคยมาช่วยเหลืออะไร ให้ฉันรู้สึกได้ถึงคำว่าบุญคุณเลย

หัดสำเหนียกกันซะบ้าง ไม่ใช่เอาแต่แหกปากถามหาถึงเหตุผล!!”

เริ่มได้กลิ่นความเกรี้ยวกราดลอยออกมาตามน้ำเสียง

ทำให้ฉันที่คล้ายกำลังกึ่งหลับกึ่งตื่น ค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นมองรอบกายช้าๆ

และก็พบว่าตัวเองมาโผล่อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้

ร่างของฉันนอนแผ่อยู่บนพื้นปูนสกปรก

ที่มีแต่ขี้ฝุ่นขี้ดินและเศษซากใบไม้ปลิวเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด

และเมื่อเอียงหน้ามองไปข้างๆ ก็พบเข้ากับถังแกลลอนน้ำมันเก่าๆ

และกองอะไรสักอย่างซึ่งมีผ้าใบปิดอยู่ วางกระจุกเป็นกลุ่มก้อนห่างกันไม่มาก

ด้านบนหลังคาสูงจนเกือบเท่าตึก 2 ชั้น

มีรูรั่วทั้งน้อยใหญ่ ทำให้แสงจากดวงอาทิตย์ ส่องเข้ามาภายในจนสว่างพอสมควร

ฉันเดาว่าที่นี่น่าจะเป็นโกดังร้างอย่างแน่นอน

ด้วยความงุนงง สมองยังประมวลผลอะไรไม่ทัน

ฉันจึงค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นยืน และปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าเล็กน้อย

ก่อนเดินเกาหัวอย่างสงสัยถึงสิ่งที่กำลังเป็นอยู่ ไปตามเสียงคนกำลังคุยกัน

ซึ่งอยู่อีกฟากของกำแพงปูนเกือบพังตรงหน้า

“จะตายอยู่แล้ว

แกยังไม่รู้สำนึกถึงสิ่งที่พวกแกทำไว้กับฉันอีกนะไอ้ตะวัน!”

ภาพตรงหน้าทำให้ฉันยืนตัวแข็งทื่อเบิกตาค้าง ผู้ชายรูปร่างสูงกำยำหน้าตาหล่อคม

กำลังแสดงความโกรธาออกมาอย่างเดือดดาล

แต่นัยน์ตาสีดำสนิทกลับเต็มไปด้วยความเศร้าโศก

มือใหญ่ถืออาวุธที่ใช้ยิงระยะไกลสีดำมันเงา

หันปลายกระบอกเล็งไปยังผู้ชายอีกคน ที่มีหน้าตาดีมากเหมือนกัน

แต่เขากลับอยู่ในสภาพค่อนข้างมอซอเปรอะเปื้อน

คล้ายไม่ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ามาสักระยะ

“อยากฆ่าฉันมากนักก็ทำเลยไอ้ดิน

ฉันเบื่อที่จะหนีแล้ว”

ร่างสูงผายมือออกทั้งสองข้างพร้อมหลับตาลง

ราวกับว่าเขาปลงกับชีวิต และรอรับกรงเล็บของมัจจุราชผู้หล่อเหลา

ตายด้วยน้ำมือของผู้ชายที่หล่อขนาดนี้เป็นฉันก็ยอมนะ

อย่างน้อยๆ ก่อนตาย ก็ได้เห็นหน้าหล่อๆ ของเขาเป็นรางวัลชีวิต แอร๊ย~

“...”

“...”

“วันนั้น...ทำไมถึงไม่คิดจะช่วยฉัน?”

หลังจากที่เอาแต่ยืนเงียบกันได้สักพัก

คนที่ถือปืนอยู่ในมือก็เอ่ยประโยคคำถาม ที่ดูบีบเค้นอารมณ์ทั้งคนถามและคนถูกถามได้ดีทีเดียว

คนที่ยืนหลับตาอยู่ในตอนแรก ค่อยๆ

ลืมตื่นขึ้นมองสบกับคู่สนทนา ดวงตาของเขามีน้ำใสๆ รื้นออกมาคลอเล็กน้อย

ก่อนที่จะหลุบมองต่ำลงบนพื้น คล้ายละอายแก่ใจไม่กล้าตอบคำถาม

ประโยคนี้คุ้นๆ แฮะ เหมือนฉันพึ่งจะอ่านมาเลย

แถมสถานการณ์แบบนี้

ก็โคตรคลับคล้ายคลับคลาว่าได้ผ่านตามาหมาดๆ

ตะวันเอย ดินเอย ชื่อคนสองคนนี้ก็ตรงสุดๆ

อะไรมันจะเป๊ะขนาดนั้น

อย่างกับฉันยืนอยู่ในฉากจบสุดแย่ ของนิยายที่พึ่งอ่านไปเลยอ่ะ

ฮ่าๆๆ ไม่น่าจะใช่หรอกมั้ง

มันเป็นเรื่องเหลือจะเชื่อจนเกินไป ไม่หรอกน่า...

ในขณะที่กำลังทะเลาะกับตัวเองอย่างกับคนบ้า

ฉันก็เหลือบไปเห็นร่างของบุคคลที่ 3 ซึ่งไม่ใช่ฉันอยู่ในฉากจบนี้ด้วย

หญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง

ยืนมองไปที่ชายหนุ่มหน้าคมแววตาโศกเศร้าคนนั้น ด้วยสายตาแข็งกร้าว เธอค่อยๆ

ล้วงหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าสะพายข้าง และเมื่อมันโผล่พ้นออกมาฉันก็เห็นได้อย่างชัดเจน

ว่าวัตถุนั้นมันคือ...ปืน!!

“ระวัง!!”

ปัง!!

ไม่ต้องรอให้แน่ใจแล้วว่าใช่หรือไม่ใช่กันแน่

ที่ฉันโผล่เข้ามาอยู่ในนิยายที่พึ่งอ่าน

จากระยะที่ยืนอยู่ไม่ได้ห่างจาก 2

คนนั้นเท่าไหร่นัก ฉันจึงรีบกระโดดข้ามกำแพงปูน ที่พังลงมาจนเหลือแค่ครึ่งหัวเข่าอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง

ไปผลักร่างสูงของคนที่คิดว่าน่าจะเป็นดิน ซึ่งกำลังหันหน้ามาตามเสียงตะโกนของฉัน

ให้หลบวิถีกระสุนที่กำลังวิ่งเข้าไปหาเขา

ร่างของเราทั้งคู่ล้มลงสู่พื้น

โดยมีฉันนอนทับเขาอยู่ด้านบน สถานการณ์ที่คาดเดาอะไรล่วงหน้าไม่ได้นี้

ส่งผลให้ริมฝีปากของเราแตะกันเบาๆ และฉันก็เป็นฝ่ายผละใบหน้าออกเล็กน้อย

คล้ายดินกำลังงงว่าฉันเป็นใคร เพราะบนหน้าเขามีแต่เครื่องหมายคำถามเต็มไปหมด

แต่จังหวะนี้มัวมานอนถามไถ่ที่มากัน

เห็นจะไม่สมควรสักเท่าไหร่นัก มือใหญ่รีบดันร่างฉันให้พลิกลงไปนอนราบบนพื้น ก่อนตัวเองจะลุกวิ่งหมอบเข้าหลังกองสิ่งของซึ่งอยู่ข้างๆ

ฉันนอนมองหลังคาตาปริบๆ

อยู่ที่เดิมในท่าเดิมราวกับถูกจับวาง ขณะที่ดินหนีไปหลบลูกกระสุนคนเดียว

ส่วนคนที่ฉันเดาว่าน่าจะเป็นแก้วตา ชู้รักของพ่อเขาก็เดินจ้ำออกมาหาตะวัน

และพากันหนีออกไปทางประตูใกล้ๆ

นี่ถ้าแก้วตาโมโหที่ฉันทะเล่อทะล่า

ออกมาขัดขวางแผนการของเธอ แล้วเดินมายิงฉันซ้ำอีกรอบ

ฉันว่าฉันคงได้นอนตายอยู่ตรงนี้ แทนดินที่หนีไปหลบแน่ๆ

“ไอ้ชั่ว!!”

เมื่อสติสตังกลับมาครบสมบูรณ์แบบ ปากหมาๆ

ของฉันก็ทำงานโดยอัตโนมัติ ตอนนี้อารมณ์ฉันขุ่นมัวอย่างสุดๆ พร้อมกัดพร้อมเห่าใส่อย่างไม่เลือกหน้า

ฉันยันตัวลุกขึ้นยืน

ก่อนตวาดด่าผู้ชายที่พึ่งช่วยชีวิตเขาเอาไว้หมาดๆ ดินที่หลบอยู่หลังกองสิ่งของ

ค่อยๆ ชะโงกหน้าออกมาตรวจดูความเรียบร้อย และเมื่อเห็นว่าปลอดภัยไร้อันตราย เขาจึงลุกเดินออกมาเผชิญหน้ากับฉัน

“เธอด่าฉัน?” ดินหรี่ตาพร้อมทั้งขมวดคิ้วถาม

“ด่าตัวเองมั้ง เหลืออยู่กันแค่สองคนเนี่ย” ฉันยังคงชักน้ำเสียงไม่พอใจใส่อย่างเหลืออด

ฉันยอมรับเลยนะว่าตอนนี้ฟิวส์ขาดสุดๆ

ไม่คิดเลยจริงๆ ว่าผู้ชายหล่อเหลาตรงหน้าจะเห็นแก่ตัว และแล้งน้ำใจได้ถึงขนาดนี้

ฉันพอเข้าใจได้ว่าเขากลัวตายเลยต้องรีบไปหลบ

แต่สักนิดหนึ่งไหม ช่วยดึงฉันให้วิ่งตามไปหลบหน่อยก็ได้

หรืออาจจะเรียกให้ฉันวิ่งตามเขาไปก็ยังดี แต่นี่อะไร? ผลักฉันทิ้ง

แล้วตัวเองหนีไปหลบคนเดียว!

“เธอเป็นใคร?”

“ฉันเหรอ? ก็คนที่พึ่งช่วยชีวิตนายไว้จากแม่สุดที่รักของนายไงล่ะยะ

อัลไซเมอร์กินสมองหรือไง?”

“เธอนี่...ดูท่าน่าจะอยากตายนะ” ดินยกอาวุธที่ยังคงถืออยู่ในมือขึ้น ก่อนใช้ปากกระบอกปืนเกาหัวตัวเอง

ท่าทางแบบนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาเองก็กำลังอารมณ์ขึ้นเหมือนกัน

“นายกล้าข่มขู่ผู้มีพระคุณเหรอ?” แม้จะอยู่ในเหตุการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้

แต่ปากของฉันก็ยังทำงานได้อย่างดีเยี่ยม แต่มันจะดีเกินไปไหม

เบาได้เบาก่อนก็ดีนะยัยอิม!

“ฉันไม่เรียกคนที่วิ่งเซ่อซ่าเข้ามาชนฉันจนล้มว่าผู้มีพระคุณหรอกนะ”

ร่างสูงใหญ่สาวเท้าเข้ามาใกล้มากขึ้น

ฉันจึงค่อยๆ ถอยหลังหนี แต่เพราะช่วงขาของเขายาวกว่าฉันมาก

ทำให้เพียงแค่ไม่กี่ก้าวเขาก็เข้ามาประชิดกาย ก่อนเดินวนรอบตัวฉันช้าๆ

โดยใช้สายตาคมกริบกวาดมองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

“แต่ถ้าฉันไม่วิ่งเข้ามาผลักนาย

ป่านี้นายซีม่องเท่งนอนจมกองเลือดอยู่ตรงนั้นไปและ” ฉันบุ้ยหน้าไปตรงพื้นที่ที่ฉันพึ่งลุกขึ้นมา และเขาเองก็มองตามอย่างให้ความสนใจ

“เธอรู้?”

“แน่นอนสิว่าฉันรู้” ก็ฉันอ่านเรื่องของนายมาตั้งแต่ต้นจนจบ จำได้แทบจะทุกรายละเอียดเกี่ยวกับเขา

“รู้ได้ไง?”

“ก็ฉันอะ...อะ...”

ฉันพยายามจะเล่าถึงเรื่องบ้าบอที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้เขาฟัง

ทว่าจะพูดแต่กลับพูดไม่ได้ คล้ายมีบางอย่างมาจุกตรงลำคอ

เสียงฉันถูกบล็อกเอาไว้ไม่ให้ดังออกมา ราวกับว่าฉันเป็นใบ้ไปชั่วขณะ

“…?”

“อะ...แค่กๆๆ อ่อกๆ อะไรวะเนี่ย?”

ฉันยกมือขึ้นกุมบริเวณลำคอด้วยความรู้สึกตกใจ

ก่อนพยายามเปล่งเสียงออกมาให้ได้ ทั้งโก่งคอ จกคอ ขากเสมหะเพื่อให้คอโล่ง

แต่ไม่ว่าจะบีบเคล้นสักเท่าไหร่ก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จ

หรือว่าฉันจะไม่สามารถพูดเรื่องนี้ให้เขาฟังได้นะ?

“เธอกำลังเล่นตลกอะไรให้ฉันดูอยู่?”

ดินตะแคงคอมองท่าทางประหลาดๆ ของฉัน

และดูเหมือนเขาจะเริ่มหงุดหงิดฉันแล้วด้วย ดูได้จากคิ้วเข้มที่ขมวดกันจนแทบจะผูกเป็นโบว์

“ฉันไม่ได้เล่นตลก

ฉันพยายามจะบอกความจริงกับนายว่า ฉันอะ...อะ...” ดูท่าแล้วน่าจะเป็นจริงดั่งที่ฉันคิดเอาไว้

เมื่อใดที่ฉันพยายามจะเล่าถึงเรื่องที่ฉันอ่านนิยายของเขามา

เสียงฉันก็จะหายไปในทันที

“หยุดทำตัวไร้สาระสักที เวลาฉันมีค่าเกินกว่าจะมาทำอะไรไร้ประโยชน์แบบนี้” พูดจบดินก็ยกปืนขึ้นและเตรียมลั่นไกใส่ฉัน

นั่นทำให้ฉันต้องรีบร้องห้ามรั้งปลายนิ้วเขาเอาไว้ ทั้งๆ

ที่ไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าจะทันหรือเปล่า

“เดี๋ยว!! ดะ ดะ เดี๋ยว

นะ นายกำลังจะทำอะไร จะยิงฉันเหรอ?”

สองมือเล็กๆ ของฉันยกขึ้นจับปากกระบอกปืน

ที่จ่ออยู่กลางหน้าผากตัวเองเอาไว้ คิดเอาว่ามือบอบบางนี้

จะบังกระสุนที่ถูกลั่นไกออกมาไม่ให้เจาะเข้ากบาลฉันได้

“เปล่า ฉันกำลังจูบหน้าผากเธออยู่ต่างหาก” เขาตอบด้วยใบหน้านิ่งๆ แต่ปืนที่ฉันจับอยู่ไม่นิ่งเลยสักนิด

ดินดึงอาวุธออกจากมือฉัน และยกขึ้นจ่อใหม่อีกรอบ

“นายเห็นฉันโง่หรือไง ก็เห็นๆ

อยู่ว่านายกำลังจะยิงฉัน!!”

“เอ้า! ก็ไม่ได้โง่นี่นา”

นะ นี่เขากำลังกวนประสาทฉันอยู่ใช่ไหม

คิดจะฆ่าฉันไม่พอ ยังมาปั่นประสาทกันอีก ฉันไม่น่านึกสงสารเขาเลย แง้~ อยากกลับบ้านแล้วนะ!

“ฉันไปทำอะไรให้นายห๊ะ?! ถึงอยากจะฆ่าจะแกงฉันขนาดนี้ นี่ฉันพึ่งช่วยชีวิตนายมาเองนะดิน”

“เธอเป็นสายให้มัน”

“สาย? สายอะไรอ่ะ สายไฟ

สายโทรศัพท์อะไรแบบนี้อ่ะเหรอ?” ยังๆ

ยังไม่เลิกติดตลกอีกนะยัยอิม! ได้ตายขึ้นมาจริงๆ จะตลกไม่ออก

ก็ฉันไม่เข้าใจที่เขาพูดจริงๆ นี่นา แง้~

“เธอเป็นพวกเดียวกับไอ้ตะวันใช่ไหม?” แต่ดูเหมือนเขาจะไม่เล่นกับฉันเลย สีหน้าเขาดูเอาจริงเอาจังมาก

อย่างกับว่ายังไงซะวันนี้ก็ต้องเป่ากระหม่อมฉันให้ได้

“นายเอาอะไรมาคิดห๊ะ?”

“ก็เธอรู้ว่าแม่ฉันอยู่ตรงนั้น

และกำลังจะยิงฉันไง”

ชั่วขณะที่เขาเอ่ยถึงเรื่องนี้

ดวงตาสีดำสนิทวูบไหวเล็กน้อย ก็พอจะเดาได้แหละว่ากำลังรู้สึกเสียใจ

และกำลังปกปิดความอ่อนแอนั้นไม่ให้ฉันเห็น

“ฉันรู้

แล้วมันหมายความว่าฉันต้องเป็นพวกเดียวกับคนพวกนั้นหรือไงเล่า

นายหัดคิดให้มันเยอะกว่านี้หน่อยได้ไหม? คิดอะไรตื้นเขินชะมัด”

“งั้นบอกฉันมาสิว่าเธอมาทำอะไรที่นี่ แล้วรู้ได้ยังไงว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฉัน?”

ดินมองจ้องอย่างคาดคั้นคำตอบ

และมันก็สร้างความอึดอัดให้ฉันได้ดีทีเดียว เพราะดูแล้วว่าหากฉันไม่ตอบ

หรือไม่มีคำตอบที่ดูสมเหตุสมผลให้กับเขา ฉันน่าจะโดนยิงจริงๆ แน่ในครั้งนี้

“ฉัน...เอ่อ...ฉัน...อ้อ! ฉันเป็นแฟนคลับของนาย” นี่ฉันตอบอะไรออกไปวะเนี่ย!! แฟนคลับบ้าบออะไรก๊อน~

ก็เค้าคิดไม่ออกอ่ะ ฮือ~

“แฟนคลับ? คล้ายๆ

พวกที่บ้าดารานักร้องอะไรพวกนั้นป๊ะ?” เหมือนคำตอบแบบไร้สาระของฉัน จะลดความตึงของรอยย่นระหว่างหัวคิ้วเขาลงได้นะ

เพราะดินกำลังทำหน้าเหมือนคิดตามฉันอยู่

แถมปืนในมือยังถูกลดระดับลงจนตกไปอยู่ข้างลำตัว

“อ่าห๊ะ ประมาณนั้น” และฉันก็เริ่มรู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดหน่อย เมื่อเห็นแสงสว่างของโอกาสรอดที่ดูริบหรี่รำไร

“อ่อ...” ดินลากเสียงยาวคล้ายว่ากำลังเข้าใจในสิ่งที่ฉันกำลังสื่อ

ก่อนจะเอ่ยต่อ “ฉันดูโง่ขนาดนั้นเลย?”

ปืนมันกลับมาอยู่ตรงหน้าฉันอีกแล้วค่า~ แถมครั้งนี้ไม่ได้ลอยอยู่ตรงหน้าเฉยๆ ด้วยนะ

มันจ่อประชิดลงกลางหน้าผากฉันเลยค่ะท่านผู้โชม~ หัวใจฉันตกตุ้บลงไปอยู่ตาตุ่มแล้ว

พ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยอิมด้วย~

“ดะ เดี๋ยวสิ ฉันพูดจริงนะ

ฉันเป็นแฟนคลับนายจริงๆ ไม่เชื่อนายลองถามอะไรก็ได้เกี่ยวกับตัวนายมาดูสิ

ฉันรู้หมดเลยนะ เพราะฉันเป็นแฟนพันธุ์แท้”

แฟนพันธุ์แท้ก็มา

อะไรทำให้ฉันรอดชีวิตได้ในตอนนี้ ฉันทำหมด!!

“…” ดินทำสีหน้าครุ่นคิด

เหมือนกำลังประเมินว่าจะลองเล่นกับฉันดูอีกนิดดีไหม และในที่สุดเขาก็เล่นด้วย “ฉันเกิดวันที่เท่าไหร่?”

“24”

“วันอะไร?”

“วันศุกร์”

“เดือน...”

“วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ ปีหมา เอ๊ย! ปีจอ เคยชอบสีฟ้าแต่ตอนนี้เปลี่ยนมาชอบสีดำแล้ว” ฉันรีบชิงพูดดักทางเขาไว้ก่อนเลย เพราะพอจะเดาได้ว่าดินกำลังจะถามอะไรต่อ

“…”

สีหน้าเขาดูอึ้งอย่างชัดเจน

และฉันก็จะไม่ยอมปล่อยโอกาส ที่จะได้แสดงความสามารถของรอยหยักสมอง

ในส่วนของการจดจำที่เป็นเลิศให้หลุดลอยไปเด็ดขาด

“นายชอบกินไข่เจียว แต่ว่านายแพ้น้ำมันถั่วเหลือง

นายจึงพยายามที่จะไม่กินมัน เพราะไม่อยากให้แม่ครัวมองว่านายเรื่องมาก”

“…”

“นายชอบอากาศเย็นจัด

เพราะนายเป็นคนเหงื่อออกง่ายและเยอะมาก จึงมักเปิดแอร์ให้อยู่ในอุณหภูมิประมาณ 15

องศา แต่เวลานอนจะห่มผ้านวม 2 ชั้น ซึ่งเหตุผลนี้ฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไร”

“…”

“ก่อนนอนต้องดื่มนมอุ่น

และหลังกินข้าวต้องดื่มน้ำส้มคั้นสดก่อนตามด้วยน้ำแร่

นายติดสเปรย์ปรับอากาศกลิ่นมะลิ จึงต้องซื้อเครื่องฉีดอัตโนมัติมาตั้งเวลาทุก 2

ชม.”

“…”

“นายชอบดอกเดซี แต่เพราะมันดูบอบบางมาก

นายจึงเลือกที่จะไม่ปลูกมันไว้ในพื้นที่บ้าน”

“...”

“นายติดลูกอมรสเปรี้ยวๆ

เวลาที่เครียดหรือคิดอะไรไม่ออก นายมักจะเอามันออกมาอม

และตอนนี้มันก็อยู่ในกระเป๋ากางเกงข้างซ้ายของนายด้วย”

ดินรีบล้วงมือเข้าไปสัมผัสสิ่งของ

ซึ่งอยู่ในกระเป๋ากางเกงทางด้านซ้ายมือของตน

และเหมือนใบหน้าของเขาจะฉายแววตกใจสุดขีด เมื่อนำออกมาแล้วพบว่ามันมีอยู่จริง

อาจเป็นเพราะเขาไม่ได้ใส่ใจ

เรื่องการเก็บกล่องลูกอมของตัวเองเท่าไหร่นัก มันเป็นความเคยชินเสียมากกว่า

ที่เขามักชอบเก็บมันไว้ทางกระเป๋ากางเกงด้านซ้าย

เนื่องจากด้านขวาดินจะใช้ใส่โทรศัพท์

เพราะมันหยิบขึ้นมาใช้งานได้สะดวกที่สุด ส่วนเสื้อที่เขาชอบสวม

ก็มักจะไม่มีกระเป๋า เป็นเพียงเสื้อเชิ้ตเรียบๆ

สีขาวบ้างดำบ้างตามโอกาสที่ต้องสวมใส่ แต่ส่วนใหญ่เขาจะชอบสีดำ

เรื่องพวกนี้ฉันไม่ได้มีญาณทิพย์ หรือจิตสัมผัสที่6 หรอก แต่ฉันรู้มาจากการอ่านนิยาย

ที่คนเขียนอธิบายและระบุความชอบของตัวละครไว้อย่างชัดเจน

“เธอรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง

บางเรื่องไม่เคยมีใครรู้ด้วยซ้ำ?” เขาเก็บกล่องลูกอมกลับเข้าไปในกางเกง

ก่อนถามฉันด้วยน้ำเสียงที่แสดงความไม่ไว้วางใจแบบสุดๆ

“ก็บอกละไง

ฉันเป็นแฟนคลับพันธุ์แท้ของนายเลยนะ”

“…”

หน้าตาเขาดูไม่เชื่อถือฉันยังไงก็ไม่รู้

ฉันจึงรีบกรอกข้อมูลให้เข้ารูหูเขาต่อ

“วันนี้ฉันแอบตามส่องนายอยู่

พอเห็นนายออกมาจากบ้าน ฉันก็รีบตามมาทันทีเลย แล้วตอนที่แอบเดินตามเข้ามา

ก็บังเอิญเห็นแม่นายกำลังจะยิงนาย แล้วหลังจากนั้นก็ตามที่นายเห็นนั่นแหละ”

“อย่ามาตอแหล...บอกความจริงฉันมา!!”

กรี๊ด!! เขาด่าฉันว่าตอแหลอ่ะ

ตั้งแต่เกิดมามีแต่ฉันที่ใช้คำนี้ด่าคนอื่น ไม่เคยคิดเคยฝันว่าจะต้องมาโดนด่าซะเอง

รับไม่ได้~

ดินแทบจะฝังปากกระบอกปืนเข้าหัวสมองฉันแล้ว

เขากดมันลงบนหน้าผากฉันอย่างแรง จนหัวฉันเอนไปทางด้านหลัง ตามระดับน้ำหนักที่ส่งมาจากมือใหญ่

“ฮือๆ ฉันบอกความจริงนายไปหมดแล้วนะไอ้บ้า! จะคาดคั้นเอาอะไรจากฉันอีก รู้งี้ปล่อยให้นายโดนยิงตายไปซะก็ดี”

ฉันทำเสียงเหมือนจะร้องไห้ ทั้งๆ

ที่น้ำตากลับไม่มีไหลออกมาสักหยด ไม่ใช่ว่าฉันกำลังแสดงละคร

เรียกร้องความสงสารเห็นใจจากเขานะ แต่เพราะว่าฉันกลัวมาก

จนน้ำตามันยังไม่กล้าไหลออกมาต่างหาก

“คิดได้ตอนนี้ก็สายไปแล้ว บาย...”

“เดี๋ยว!!”

“อะไรอีก มีเรื่องจะสั่งเสียหรือไง?” ดินชักจะหมดความอดทนกับฉันแล้ว เขาดูรำคาญเอาเสียมากๆ

และอยากส่งฉันกลับบ้านเก่าเต็มทน

“นั่นแม่นายไม่ใช่เหรอ?”

ฉันว่าพลางชี้นิ้วไปทางด้านหลังเขา

และเหมือนสิ่งที่ฉันเอ่ย จะดึงดูดความสนใจจากดินได้มากพอสมควร

ใบหน้าหล่อเหลารีบขวับไปตามทางที่ฉันชี้ พร้อมกับมือซึ่งถืออาวุธอยู่ค่อยๆ

ผ่อนระดับต่ำลง

ไม่รอช้า ฉันอาศัยจังหวะที่หลอกเขาได้

รีบปัดมือใหญ่อย่างเต็มแรง จนปืนหลุดออกจากมือดินและร่วงหล่นลงพื้น

ก่อนสไลด์ไปตามแรงที่ฉันปัด

สองขายาวๆ ของฉันรีบหมุนกายกลับหลังหัน

ก่อนจ้ำอ้าวด้วยความเร็วที่มีอยู่วิ่งออกมาจากโกดัง

เพื่อหวังจะหนีเอาชีวิตรอดจากผู้ชายด้านหลังให้ได้

ด้านนอกมีแต่ป่ารกร้าง

ต้นไม้ใบหญ้าขึ้นเต็มไปหมด จนมองแทบไม่เห็นถนนใหญ่เลย

แต่ฉันก็ยังเลือกที่จะวิ่งต่อไปบนถนนดิน ซึ่งมีต้นหญ้าเล็กๆ

โผล่พ้นขึ้นมาเป็นหย่อมๆ

ตึก ตึก ตึก ตึก

“หยุดเดี๋ยวนี้!! ไม่งั้นฉันฆ่าเธอแน่!!!”

เสียงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวดังตามหลังมาติดๆ

และเหมือนฉันจะได้ยินเสียงฝีเท้าของเขาวิ่งตามมาห่างๆ ด้วยแหละ

“หยุดก็โง่แล้ว ยังไงนายก็ฆ่าฉันอยู่ดี!!”

ฉันยังคงตั้งหน้าตั้งตาโกยแน่บ

ปากก็ตะโกนตอบเขากลับไปด้วย เสี่ยงวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด

ดีกว่าไปยืนเสวนาขอความเห็นใจจากเขาเป็นไหนๆ

“เธอเลือกเองนะ...”

ปัง!!

สองขาที่กำลังวิ่งหยุดชะงักกลางอากาศ

ก่อนร่างบอบบางของฉันจะเซถลาคว่ำหน้าลงกับพื้นหญ้าแห้งๆ

ฉันรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ ซึ่งกำลังเกิดขึ้นกับร่างกาย กลางลำตัวชาดิก

แขนขาเริ่มไร้เรี่ยวแรง จึงค่อยๆ พลิกกายขึ้นนอนหงายมองท้องฟ้า

ฉันเอื้อมมืออันสั่นเทาลงไปจับยังจุดที่รู้สึกว่าชาไม่หาย

สัมผัสเปียกชื้นเหนียวเหนอะหนะทำให้ฉันใจคอไม่ดี

และเมื่อยกขึ้นดูก็พบเข้ากับน้ำสีแดงฉานเปื้อนติดมือมาด้วย

มันคือเลือดแน่ๆ ไม่ต้องบอกก็รู้

ความรู้สึกกลัวจับจิตจับใจแผ่ซ่านไปทั้งร่าง หยดน้ำอุ่นๆ เริ่มไหลรินออกจากหางตา

และก่อนที่สติจะดับสิ้น ดินก็เดินเข้ามาอยู่ในภาพสุดท้ายที่ฉันเห็น หน้าหล่อๆ

ของเขาลอยอยู่ตรงหน้าก่อนเปลือกตาฉันจะปิดลง

ไง สมใจอยากไหม? ได้ตายด้วยฝีมือของคนหล่อ

แถมยังได้เห็นหน้าหล่อๆ เป็นรางวัลชีวิต เจริญ!!

เลือกตอน
1 INTRO…CHANGE YOU ความในใจของนักเขียน
2 CHANGE YOU PART 1 มิตรภาพจากคู่กัด
3 CHANGE YOU PART 2 ร้านหนังสือประหลาด
4 CHANGE YOU PART 3 ไอ้ชั่ว!!
5 CHANGE YOU PART 4 ยาไมเกรนต้องเข้าแล้วแหละ
6 CHANGE YOU PART 5 น้องมังคุดน้อย
7 CHANGE YOU PART 6 ภารกิจแม่นมอิม
8 CHANGE YOU PART 7 นาทีชีวิต
9 CHANGE YOU PART 8 ฉันเลือกนาย เจ้าทาส!
10 CHANGE YOU PART 9 ทาสหาย
11 CHANGE YOU PART 10 ช่วงชีวิตอันน่าสงสารของคุดน้อย
12 CHANGE YOU PART 11 เสี่ยงตายบ่อยไปนะ
13 CHANGE YOU PART 12 พาไปนั่งรถเล่น หรือว่าพาไปโชกเลือด
14 CHANGE YOU PART 13 สวัสดีความเป็นมนุษย์
15 CHANGE YOU PART 14 แฟน?
16 CHANGE YOU PART 15 การต่อสู้อันดุเดือด
17 CHANGE YOU PART 16 เธอคือ...สิ่งสำคัญ
18 CHANGE YOU PART 17 การพบกันครั้งแรก
19 CHANGE YOU PART 18 อยากเอาทาสไปปล่อยวัด
20 CHANGE YOU PART 19 หึง!!
21 CHANGE YOU PART 20 จ๊วบๆ
22 CHANGE YOU PART 21 รวยครับ ไม่พูดเยอะเจ็บคอ
23 CHANGE YOU PART 22 ถ้าไม่ไหวก็ต้องไปต่อ
24 CHANGE YOU PART 23 ถูกทิ้ง
25 CHANGE YOU PART 24 ความจริงที่มาพร้อมกับการสูญเสีย
26 CHANGE YOU PART 25 คนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก แต่กลับคุ้นเคย
27 CHANG YOU PART SPECIAL ความน่าจะเป็น
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 27

1
INTRO…CHANGE YOU ความในใจของนักเขียน
2
CHANGE YOU PART 1 มิตรภาพจากคู่กัด
3
CHANGE YOU PART 2 ร้านหนังสือประหลาด
4
CHANGE YOU PART 3 ไอ้ชั่ว!!
5
CHANGE YOU PART 4 ยาไมเกรนต้องเข้าแล้วแหละ
6
CHANGE YOU PART 5 น้องมังคุดน้อย
7
CHANGE YOU PART 6 ภารกิจแม่นมอิม
8
CHANGE YOU PART 7 นาทีชีวิต
9
CHANGE YOU PART 8 ฉันเลือกนาย เจ้าทาส!
10
CHANGE YOU PART 9 ทาสหาย
11
CHANGE YOU PART 10 ช่วงชีวิตอันน่าสงสารของคุดน้อย
12
CHANGE YOU PART 11 เสี่ยงตายบ่อยไปนะ
13
CHANGE YOU PART 12 พาไปนั่งรถเล่น หรือว่าพาไปโชกเลือด
14
CHANGE YOU PART 13 สวัสดีความเป็นมนุษย์
15
CHANGE YOU PART 14 แฟน?
16
CHANGE YOU PART 15 การต่อสู้อันดุเดือด
17
CHANGE YOU PART 16 เธอคือ...สิ่งสำคัญ
18
CHANGE YOU PART 17 การพบกันครั้งแรก
19
CHANGE YOU PART 18 อยากเอาทาสไปปล่อยวัด
20
CHANGE YOU PART 19 หึง!!
21
CHANGE YOU PART 20 จ๊วบๆ
22
CHANGE YOU PART 21 รวยครับ ไม่พูดเยอะเจ็บคอ
23
CHANGE YOU PART 22 ถ้าไม่ไหวก็ต้องไปต่อ
24
CHANGE YOU PART 23 ถูกทิ้ง
25
CHANGE YOU PART 24 ความจริงที่มาพร้อมกับการสูญเสีย
26
CHANGE YOU PART 25 คนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก แต่กลับคุ้นเคย
27
CHANG YOU PART SPECIAL ความน่าจะเป็น

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!