“นี่ลาน่า!ขยับไปด้านหน้าเวทีหน่อยสิลูก เดี๋ยวก็ไม่ทันกินหรอก!”
“ทัน…กิน?ท่านแม่!!”
ลาน่าหันไปปรามมารดาที่ยืนเคียงกายด้วยสีหน้าอับอายประชาชี แม้จะไม่มีใครได้ยินก็เถอะเพราะตอนนี้ต่างคนต่างก็เตรียมตัวยกไม้ยกมือเตรียมรับดอกไม้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็อับอายมให้กับตัวเองที่ได้ยินคำเหล่านั้นออกจากปากมารดา
ไม่รอช้าเจ้าหญิงลาน่าบุตรสาวคนโตผู้กตัญญูก็โดนฝ่ามือทั้งสองของมารดาดันเข้าไปแทรกเหล่าเจ้าหญิงที่ยืนอยู่ด้านหน้า จนกระทั่งบัดนี้เธอได้ยินอยู่ไม่ไกลจากหน้าเวทีมากนัก
แต่ทว่าสีหน้าลาน่ากลับไม่เต็มใจนัก แววตาขุ่นมัวเพราะมารดาบังคับตลอดเวลา ทั้งคำว่า ‘ไม่ทันกิน’ ยังติดตรึงใจอยู่
ทันใดนั้นเองดวงตาที่แสนขุ่นเคืองก็บังเอิญสบเข้ากับเจ้าชายอลันเข้าพอดิบพอดี แววตาเจ้าชายงุนงงไม่น้อย ในบรรดาเหล่าเจ้าหญิงซึ่งเป็นบุตรคนโตจากเมืองอื่นมากมายในครานี้ ต่างก็ทีสีหน้าตื่นเต้นอิ่มเอมไม่แพ้กัน มีเพียงแต่เจ้าหญิงผมบลอนทองผิวขาวนวลอย่างกับตุ๊กตาที่สวมชุดราตรีผู้นี้เท่านั้นที่ยังคงมีสีหน้าบอกบุญไม่รับ
“เอาล่ะทุกคน เรารู้ว่าพวกท่านคงรอมานาน” เสียงทุ้มอันแสนอบอวลไปด้วยความรักเอ่ยขึ้นบนเวที ในมือถือช่อดอกไม้ใหญ่ ส่วนอีกมือก็ถือไมโครโฟนจ่อไว้ที่ปากของตน สายตากวาดมองเจ้าหญิงทุกคนที่ต่างก็โห่ร้องต้อนรับเขาด้วยความยินดี
“เจ้าชายอาลันนน ทางเน้เพคะ!”
เสียงแหลมปรี๊ดของหนึ่งในเจ้าหญิงเปล่งขึ้น เธออยู่ด้านหลังลาน่าเพียงไม่กี่ก้าวจนคนที่ได้ยินถึงกับต้องยกมือปิดหูทันควัน ไม่งั้นคงได้หูดับกันไปข้างหนึ่ง
เจ้าชายอลันได้ยินเช่นนั้นก็กลั้วขำออกมาผ่านไมค์อย่างไม่รู้ตัว รอยยิ้มยิงฟันที่ลาน่าเพิ่งเคยเห็นครั้งแรกตั้งแต่เขาขึ้นเวทีช่างเหมือนอลาโน่ไม่มีผิดเพี้ยน …ทำไมพี่น้องถึงได้เหมือนกันอย่างนี้นะ
“วันนี้..เป็นวันสุดพิเศษ และเรารู้ดีว่าพวกท่านทั้งหลายล้วนมาที่นี่ด้วยความตั้งใจ” เสียงทุ้มอ่อนหวานนั้นเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ทุกถ้อยคำมักมีรอยยิ้มระบายบนใบหน้าเสมอ
และก่อนจะเอ่ยประโยคถัดไป อลันได้หันมาสบตาเจ้าหญิงลาน่าที่อยู่ไม่ไกลจากเวทีอีกครั้ง
“แต่วันนี้…เราคิดว่า เราเจอเจ้าหญิงที่ถูกใจแล้วล่ะ”
ทันทีที่เจ้าชายอลันกล่าวเช่นนั้น เสียงโห่ร้องเมื่อครู่ก็ได้เงียบลงกลายเป็นเสียงงึมงำในลำคอด้วยความเสียดายแทน ต่างก็คอห้อยคอตกไปตาม ๆ กัน เจ้าหญิงกลุ่มหนึ่งที่ยืนอยู่ปลายแถวต่างก็หลุบมองต่ำก่อนจะพากันเดินออกจากตรงนั้นไปทีละคนด้วยสีหน้าผิดหวัง
ลาน่าที่ได้ยินดังนั้น เธอชะเง้อมองรอบกายที่รายล้อมไปด้วยเจ้าหญิงแสนงดงามมากมายที่คิดว่าตัวเองไม่มีทางเทียบเท่า แม้นเธอจะเป็นบุตรคนโตแห่งซิสมานอสที่หนึ่ง แต่ประเทศดังกล่างวก็มีดีเพียงแค่เรื่องอัญมณีล้ำค่าอย่างเดียวก็เท่านั้น ยังคงเทียบไม่ได้กับรัฐใหญ่ ๆ
“ท่าน!เจ้าหญิงผมสีบลอนทองตรงนั้น รับดอกไม้เราด้วยล่ะ เอ้าา!!” เจ้าชายอลันพูดจบก็ไม่รอช้าโยนดอกไม้ช่อใหญ่ตรงไปยังลาน่าทันที เจ้าตัวมองสบตาเขาก่อนหน้านี้ก่อนจะกวาดสายตามองผู้คนโดยรอบอีกครั้ง แต่ทว่าสายตาเจ้าชายที่จับจ้องมายังเธอ ก็ยังไม่ชัดเจนเท่าดอกไม้ช่อใหญ่ที่กำลังลอยมาสู่อ้อมกอด ภายใต้สายตาอิจฉาริษยาจากเจ้าหญิฃโดยรอบ
และแล้ว…ดอกไม้ช่อใหญ่ที่สวยงามนั้น ก็ตกอยู่ในมือของลาน่าในที่สุด
“เอ๊ะ!อะไรกันเนี่ย” ว่าพลางมองดอกไท้สลับกับอลันด้วยสายตาฉงน จนกระทั่งคิ้วผูกกันเป็นโบว์ เขาตั้งใจโยนให้ลาน่าหรือคนข้างหลังเธอกันนะ
หลังจากที่เจ้าหญิงซึ่งอลันเป็นคนเลือก ได้รับดอกไม้อย่างที่เขาตั้งใจ เจ้าชายผู้เป็นเจ้าของงานก็เริ่มขยับฝีเท้าย่างก้าวลงจากเวทีในเวลาต่อมา ในเวลานั้นเองที่ลาน่าเหลือบไปเห็นเจ้าชายอลาโน่ที่ยืนอยู่ข้างเวที แต่เมื่อเธอสบตาเข้า เขาผู้นั้นเพียงแต่ยิ้มเจื่อนส่งให้ ก่อนจะหันหลังกลับเข้าไปภายใต้ผ้าม่านสีทึบในเวลาต่อมา
“ตอนนี้ ดอกไม้ช่อนี้เป็นของท่านแล้ว เราขอทำความรู้จักกับท่านมห้มากขึ้น ได้หรือไม่พะย่ะค่ะ” เจ้าชายอลันเอ่ยขึ้นเสียงหวาน พลางโน้มตัวโค้งคำนับให้กับหญิงตรงหน้าอย่างสุภาพ สายตาหยดย้อยจ้องมองแววตาลาน่าไม่หวั่นไหวไปมองผู้ใด จนผู้คนที่ยืนในบริเวณนั้นต่างก็ยกมือป้องปากปกปิดความอึ้งตะลึงของตัวเองกันยกใหญ่
“เอ่อ…”
“ตกลงไปสิลาน่า” เสียงปริศนาดังขึ้น นั่นไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นมารดาของเธอเอง คาไมล์หวังให้เป็นเช่นนี้มานาน เลือกเจ้าชายจากหลายเมืองให้บุตรสาวดูตัว แต่ก็ไม่เจอที่ลาน่าถูกใจเสียที เห็นทีคราวนี้คาไมล์คงจะได้เขยสมใจแล้วล่ะ อีกทั้งว่าที่เขยคนดังกล่าวยังมีศักดิ์เทียบเท่าดยุคอีกด้วย
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 27
Comments