ตอนที่ 3 เพียงออ

สารถีขับรถพาเจ้าหญิงคาไมล์มาจนถึงประตูหลังเป็นที่เรียบร้อยก่อนที่จะมีเหล่าบริวารเดอนมาต้อนรับพร้อมด้วยร่มคันใหญ่ที่บดบังแสงแดดจนมิด

หญิงสาววัยกลางคนในชุดกระโปรงสีฉูดฉาด รองเท้าสั่งทำพิเศษ ผมสั้นสีบลอนทองถูกดัดให้เป็นหยิกศกทั้งยังสวมใส่ไม้คาดผมที่ทำจากไม้พันธุ์งามเพื่อให้ดูสวยสะดุดตาโกงอายุ เธอบรรจงถอดแว่นดำออกก่อนจะส่งให้บริวารที่โน้มตัวลงมาเล็กน้อยรอรับอยู่ด้านหลังอย่างนอบน้อม

“พาฉันไปที่คอกมาซิ” เสียงแหลมวางอำนาจออกคำสั่งท่าทางเด็ดขาด พร้อมทั้งบริวารที่คอยกางร่มคันใหญ่ให้ก็คอยเดินตามระวังไม่ให้คาไมล์โดนแสงแดดแม้แต่น้อย

เจ้าหญิงคาไมล์พร้อมด้วยคนของเธอเดินไปตามทางเรื่อย ๆ จนกระทั่งผ่านต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งจะมีทางเป็นซอยเล็กให้เลี้ยวเข้าไป ทว่าทางตรงนั้นเป็นดินลูกรังเสียทั้งหมด ล้วนมีแต่กรวดหินแทบหาช่องว่างให้ย่ำเท้าไม่ได้เสียเลย

หญิงสาวผู้ทีอำนาจยืนสะอิดสะเอียนอยู่ตรงนั้นครู่ใหญ่ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยเสียงรังเกียจ

“อื้อหือ! นี่ยังไม่มีใครมาปรับปรุงตรงนี้อีกเหรอ” ชี้นิ้วต่อว่าบริวารทั้งหลาย กวาดสายตาสอดส่องไปมาบริเวรนั้นพร้อมเบะปากด้วยท่าทางรังเกียจ

“ยังเลยพะย่ะค่ะ” บริวารชายหนุ่มคนหนึ่งตอบขึ้น

“เฮอะ! แต่คิดไปคิดมาก็ดีแล้วเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องเปลืองงบ ใช้ทำอย่างอื่นคงมีประโยชน์กว่า” คาไมล์ยกแขนขึ้นกอดอกพร้อมทั้งมองทางลูกรังข้างหน้า ตอบกลับความคิดตัวเองเพียงลำพังด้วยน้ำเสียงหมั่นไส้ ก็แค่ทางเข้าคอกม้าทางหนึ่ง คงไม่ต้องดูแลอะไรให้มากความ

“งั้นไปอีกทางเถอะพะย่ะค่ะ เดินไกลสักหน่อย แต่ลู่ทางดีกว่า” บริวารชายคนสนิทคนเดิมเสนอแนวทางให้ ความจริงแล้วก็มีอยู่อีกทางที่สามารถไปได้ แต่ที่คาไมล์เลือกทางนี้ตั้งแต่แรก เพราะมันใกล้กว่านั่นเอง

“อืม ๆ” พยังหน้าตอบอย่างเสียอารมณ์ก่อนจะเปลี่ยนเส้นทางเดิน หากรู้ว่าเส้นทางตรงนี้ยังไม่ได้ปรับปรุง คงให้สารถีขับรถเข้ามาอีกหน่อย

เมื่อเดินตามทางไปเรื่อย ๆ ผ่านต้นไม้ทั้งน้อยใหญ่ พลางเงยหน้ามองนกกระจิบที่ร้องรำทำเพลงอยู่บนกิ่งไม้ด้วยความเพลินใจ กลิ่นรากดินลอยเข้าจมูกตามสายลมพัด รับรู้ได้ถึงธรรมชาจิอันสวยงามในวังแสนกว้างขวางแห่งนี้ ครั้นมองเยื้องไปไกลสุดลูกหูลูกตา ไม่อาจเห็นได้ว่าประตูหน้าวังอยู่ที่ใด เพราะมีพื้นที่กว้างขวางเหลือเกิน

ในที่สุดเจ้าหญิงคาไมล์ก็ถึงที่หมายเสียที เธอมองเห็นเด็กสาวที่ต้องการพบเจออยู่ไม่ไกลมากนัก

เธอผู้นั้นชื่อ ‘เพียงออ’ เป็นเด็กสาวชาวไทยที่ถวายตัวรับใช้พระราชวังแห่งซิสมานอส ด้วยเพราะเจ้าชายคิมเบิร์คซื้อตัวมา เพราะเห็นว่าหล่อนมีความรู้เรื่องม้าดีจึงอาจช่วยฝึกสอนให้โคลตี้ได้

แต่ก็ต้องอยู่ในสายตาของคาไมล์ทุกฝีก้าว..

ทางด้านเพียงออในชุดเสื้อยืดผ้าลื่น กางเกงผ้าวอมสวมใส่สบายพร้อมด้วยรองเท้าแตะ ทรงผมถูกมัดเกล้าขึ้นไปด้านบนเพื่อจะได้ไม่เกะกะการทำงาน

ครั้นเมื่อคาไมล์เดินเข้าไปเกือบถึงตัวอีกคน ก็จะเห็นว่าเธอผู้นั้นกำลังยืนทำความสะอาดให้ ‘ลีโอ’ ม้าสีขาวหมอกตัวโปรดของตนอยู่ โดยในมือเพียงออมีกราดเหล็กอันหนึ่ง กราดตามตัว ตามคอ เพื่อให้ขี้รังแคออกให้หมด และเธอจะดูแลเช่นนี้กับม้าทุกตัวในวังหลวง

ครั้นเด็กสาวเดินไปข้าง ๆ เพื่อทำความสะอาดบริเวรลำตัวขอฃลีโอ ก็จะเห็นหางตาว่าหญิงสาวยืนมองอยู่ไม่ไกล

เด็กสาวผมดำเงางาม ใบหน้าขาวสง่าไร้สิวหรือฝ้าใด ๆ สันจมูกโด่งได้ต้นแบบมาจากพ่อของตน ดวงตาสองชั้นแววตาคมคายแตกต่างจากผู้คนในซิสมานอสนัก

เพียงออเห็นเช่นนั้นก็หยุดชะงักการกระทำทุกอย่างลง ก่อนจะเดินเข้าหาเจ้าหญิงคาไมล์ด้วยท่าทางนอบน้อม แต่ก็ไร้ซึ่งรอยยิ้มที่คนไทยพึงมี

“มีอะไรให้รับใช้เพคะ” เสียงหวานก้มหน้าเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าเรียบเฉย เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้เห็นเจ้าหญิงคาไมล์อยู่ตรงนี้ เพื่อเฝ้าดูบุตรสาวคนกลางซ้อมขี้ม้า

คนโดนถามได้ยินดังกล่าวก็กวาดสายตามองไปยังสนามหญ้าแสนกว้างใหญ่ มีมีเหล่าเชื้อราชวงศ์คนอื่น ๆ ขี้ม้าเล่นกันตามประสา ทว่ากลับไม่มีลูกสาวของตนเสียอย่างนั้น มีก็แต่ลูกชายคนเล็กที่ยิ้มร่าอยู่บนหลังม้า

“โคลตี้ล่ะ วันนี้เจ้าหญิงโคลตี้ได้มาซ้อมที่นี่รึยัง” น้ำเสียงวางอำนาจเอ่ยขึ้น หลังตรงยืดอกด้วยท่าทางสง่างามพลางสบตาอีกคนไม่วาง

“เอ่อ…ยังเพคะ” เพียงออกกระอึกกระอีกที่จะตอบ หากแต่รู้ว่าอนาคตจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

“อะไรนะ! วันนี้ฉันไปข้างนอกมาทั้งวัน ยังไม่มาซ้อมอีกงั้นเหรอ รู้มั้ย ว่าโคลตี้ทำอะไรทั้งวัน?” สุ้มเสียงเริ่มหงุดหงิดที่รู้ว่าบุตรสาวคนกลางคนสำคัญไม่รู้จักหน้าที่เอาเสียเลย ทั้งที่คุยกันรู้เรื่องแล้ว ว่าให้รีบขยันซ้อมขี่ม้าเข้า อีกเพียงสามปีเท่านั้นที่โคลตี้จะต้องเข้าโรงเรียนในโรงเรียนประจำชื่อดังแห่งซิสมานอส ซึ่งมีแต่รัชทายาทหรือเชื้อราชวงศ์ไปเรียน การแข่งขันขี่ม้าประจำปีจองโรงเรียนจึงเป็นลู่ทางเดียวที่คิงและควีนจะเห็นความสามารถ

“หม่อมฉันก็ไม่รู้เพคะ” ก้มหน้าตอบกลับ มือทั้งสองประสานกันไว้ข้างหน้าด้วยท่าทางนอบน้อม

“หม่อมฉัน?” คาไมล์แสดงท่าทีสงสัย จ้องหน้าอีกคนแน่นิ่งพบางเดินเข้าหาเจ้าตัวอีกก้าวหนึ่ง บริวารที่ยืนกางร่มให้จำต้องขยับตามด้วยเช่นกัน

“ฉันบอกแล้วใข่มั้ย ว่าห้ามเอาวัฒนธรรมบ้านหล่อนมาใช้ที่นี่ เรียกชื่อแทนตัวเองซะ อย่าใช้คำว่าหม่อมฉันอีก จะต้องให้ฉันเตือนอีกกี่ครั้ง!” ชี้นิ้วต่อว่าอีกคนไม่ยั้ง แววตาสื่อความโทสะออกมาอย่างเห็นได้ชัดเมื่ออีกคนยังไม่ทำตามคำสั่งเสียที

เพียงออได้ยินดังกล่าวก็เงยหน้าขึ้นก่อนจะยืนยันจุดยืนของตน

“หม่อมฉันถนัดแบบนี้มากกว่านี่เพคะ อีกอย่างเจ้าชายคิมเบิร์คก็อนุญาตแล้ว..” พูดจบก็หลุบตามองต่ำทันทีอย่างรู้ตัว ไม่อยากจะโดนหาว่าปีกกล้าขาแข็งเข้าให้ แต่ก็..ไม่ทันเสียแล้ว

“ฮึ! อย่าคิดว่าเป็นคนของเจ้าชายแล้วจะทำอะไรตามอำเภอใจได้นะ คอยดูเถอะ โคลตี้ได้เป็นควีนเมื่อไหร่ ฉันจะให้หล่อนปลดเธอเป็นคนแรก!”

สิ้นสุดยทสนทนาคาไมบ์ก็เดินหันหลังกลับไปเพื่อขึ้นรถให้สารถีไปส่งยังหน้าวังของเธอต่อ ส่วนเพียงออได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น พลางจ้องมองคาไมล์ด้วยสายตาเหนื่อยหน่าย นึกสงสารโคลตี้จับใจ ว่าเธอต้องลำบากแค่ไหนที่มีแม่ซึ่งเปรียบเสมือนเจ้าชีงิตเช่นนี้

…โปรดติดตามตอนต่อไป…

เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 27

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!