ขณะเดียวกัน เจ้าหญิงคาไมล์และเจ้าชายคิมเบิร์คที่พร้อมทั้งลูกสาวคนโตอย่างเจ้าหญิงล่าน่า นั่งอยู่ตรงเบาะหลัวของรถยนต์สุดหรูสัญชาติอังกฤษสีน้ำตาลเข้ม เป็นรุ่นลิมิเต็ดที่มีเพียงสามคันในโลก แต่เจ้าหญิงคาไมล์ผู้เป็นพระชายาของเจ้าชายคิมเบิร์คลูกชายคนสุดท้องของราชินีก็สรรหามาจงได้
รถที่ทั้งสองนั่งอยู่โดยมีสารถีเป็นคนนำทาง พลางชะเง้อมองทางข้างหน้าที่กำลังเคลื่อนไปด้วยความเร็วปกติด้วยสีหน้าเป็นกังวล ห่วงใยบุตรสาวคนกลางยิ่งกว่าอะไร
วันนี้ทั้งสามมีภารกิจที่จะต้องออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อที่จะพาบุตรสาวคนโตไปแนะนำให้กับท่านดยุกแห่งซิสมานอสที่สองรู้จัก ซึ่งถือว่าเป็นประเทศแฝดน้องที่เพิ่งแยกตัวออกจากซิสมานอสที่หนึ่งไปได้สักระยะหนึ่งแล้ว
โดยเจ้าหญิงลาน่าผมสีบลอนทองเช่นเดียวกับบิดามารดา เธอมีอายุใกล้ครบ 20 ปีบริบูรณ์เต็มที จึงต้องรีบมองหาเจ้าชายที่มีชนชั้นสูงกว่าหรือเท่ากันโดยเร็ว
ทว่าลาน่ากลับไม่พอใจเท่าใดนัก ที่บิดามารดาเอาแต่บังคับชีวิตของเธอ ทั้งที่ตนมีอะไรอยากจะทำอีกมากมายในวังหลวง จะอิจฉาก็แต่น้องสาวคนกลางที่ตอนนี้อายุ 17 ปีเข้าไปแล้ว แต่ก็ยังได้อยู่ในวังใหญ่สบายใจเฉิบ ไม่เหมือนเธอ ที่จะต้องจากบ้านไกลในอีกไม่นาน
“ท่านพ่อ ท่านแท่เพคะ ลูกไม่ชอบเจ้าชายแห่งซิสมานอสที่สองเลย หนวดเคราก็พะรุงพะรัง อายุก็ห่างจากลูกเป็นไหน ๆ”
ลาล่าซึ่งนั่งระหว่างกลางคนทั้งสองลองงัดลูกไม้อ่อนอ้อนบิดามารดาอีกคราหวังว่าท่านทั้งสองจะใจอ่อนอีกครั้ง
“ลาน่า นี่มันครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่ลูกบอกปัด หืม?” บิดาหันมาโต้ตอบด้วยใบหน้ารู้ทัน
“นั่นสิ อีกไม่กี่เดือนลูกก็จะครบ20ปีแล้วนะ ต้องรีบแล้ว” มารดาก็หันเติมเสริมประโยคของเจ้าชายคิมเบิร์คเช่นกัน
“หึ! แต่ลูกไม่ชอบคนแก่กว่านี่นา” ลาน่าดึงสีหน้าทำทีเป็นงอน ยังคงหาข้ออ้างต่าง ๆ นานาเพื่อให้การหาคู่เลื่อนออกไป
“แก่กว่าลูก 3 ปีเนี่ยนะ? ลูกรู้มั้ย ว่าท่านพ่อกับแท่ อายุห่างกันเท่าไหร่” มารดาตอบกลับด้วยคำถาม
ลาน่าได้ยินดังกล้าวก็หันมองซ้ายขวาไปยังบิดามารดาสลับกันด้วยสายตาพิจารณา ดูแล้วทั้งสองคงอายุห่างกันมากกว่าห้าปีเป็นแน่ คิดเช่นนั้นแล้วเธอก็ได้แต่กลับมานั่งพิงเบาะรถถอนหายใจอย่างหน่ายใจดังเดิม
ในเวลาไม่ช้า สารถีก็เริ่มชะลอรถ เมื่อราชวงศ์ทั้งสามชะเง้อมองทางด้านหน้าก็พบว่าราขวังอยู่อีกไม่ไกล
“นี่ ไปจอดส่งฉันประตูหลังก่อนนะ แล้วค่อยไปส่งเจ้าชายคิมเบิร์คกับเจ้าหญิงลาน่าที่วัง” คาไมล์ออกคำสั่งก่อนที่สารถีจะหันหัวรถกลับทันควัน
ดูแล้วเจ้าหญิงคาไมล์จะมีอำนาจมากกว่าเจ้าชาวคิมเบิร์คอยู่บ้าง เพราะเธอมาจากรัฐอื่นและเนื้อแท้แล้วยศถาบรรดาศักดิ์ก็สูงกว่า แต่ก็ยอมลดตัวมาอภิเสกสมรสกับเจ้าชาย เนื่องด้วยมองเห็นว่าซิสมานอสมีในสิ่งที่รัฐของตนไม่มี โดยเฉพาะอัญมณีต่าง ๆ จึงต้องการที่จะกอบโกยสมบัติเหล่านั้นมาเป็นของตน
ทว่าของพวกนั้นคาไมล์ไม่สามารถทำเพียงลำพังได้ จึงต้องใช้บุตรสาวคนกลางเข้าช่วย เพราะซิสมานอสนั้นมีวัฒนธรรมแปลกประหลาด ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวไหน หากผู้นั้นเป็นบุตรคนกลางก็จะทีสิทธิพิเศษหลายอย่าง โดยเฉพาะการได้รับเลือกเป็นคิงหรือควีนเมื่อถึงเวลา
ส่วนบุตรคนสุดท้อง ถือว่าต่ำเตี้ยเรี่นดินที่สุด แทบจะไม่มีใครมองเห็นเลยด้วยซ้ำ ซึ่งเจ้าชายคิมเบิร์คก็เป็นหนึ่งในนั้น คาไมล์จึงต้องขึ้นมาเบ่งอำนาจแทนเขาในหลาย ๆ เรื่อง เพราะถือว่าตนมีบุตรมากกว่าสองคนแล้ว ก็ถือได้ว่าตนมีคนกลางที่จะสืบทอดเจตนารมณ์แทน
“ทำไมล่ะเพคะท่านแม่” ลาน่าเอ่ยถามเสียงฉงนพลางมองทางข้างหน้าสลับกันไป จำได้เพียงว่า ทางประตูหลังจะมีคอกม้าหลังใหญ่โตขอฃวังอยู่ไม่ไกล
“นั่นสิ น้องจะไปทำอะไรทางนั้น ตรงเข้าทางหน้าเลยไม่ดีกว่าหรอกเหรอ” คิมเบิร์คเอ่ยท้วงเช่นกัน แต่มีหรือที่จะเปลี่ยนใจคาไมล์ได้
“น้องอยากจะไปดูนังคนชั้นต่ำนั่นให้แน่ใจเพคะ ว่ามันขัดคำสั่งน้องบ้างรึเปล่า” ดวงตาคมกริบแฝงแววความร้ายกาจอยู่ภายใน ตอบกลับผู้เป็นสวามีด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก
สิ้นสุดคำตอบดังกล่าวภายในรถก็ถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบอีกครั้ง ก่อนที่ทั้งสองจะพยักหน้าอย่างเข้าใจ ว่าคาไมล์ต้องการจะไปดูอะไรเพื่อให้แน่ใจ
จะว่าไป นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ลาน่าเพิ่งนึกจะสงสารโคลตี้เป็นครั้งแรก เพราะถึงแม้หล่อนจะเป็นบุตรคนกลางที่ได้รับอภิสิทธิ์หลากหลาย แต่ชีวิตก็เหมือนนกตัวหนึ่งที่ถูกขังอยู่ในกรงไม่ต่างจากเธอ หากจะมีเพื่อนสักคนก็ต้องโดนสั่งห้าม จะทำจะเล่นอะไรสักหน่อยก็ต้องโดนจับตามอง เพราะหากทำอะไรผิดพลาดไปก็อาจโดนตัดสิทธิ์เข้าชิงตำแหน่งควีนในอนาคตได้
ทว่าความสงสารนั้นกลับมีได้ไม่ถึงเสี้ยวของความอิจฉาริศษยาที่มีมาเสมอ..
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 27
Comments