ฉันไม่ใช่ผี

ขณะ นี้ยามเช้าตรู่

         เสียงรํ่าไห้ดังระงมทั่วห้องหญิงสาววัยกลางคนหลายคนที่ต้องสูญเสียเจ้านางผู้อันเป็นที่รักและเคารพเป็นอย่างสูงจากไปโดยไม่อาจหวนคืนกลับมาได้   

"ถ้ารู้อย่างงี้ข้าเจ้าจะไม่ปล่อยให้เจ้านางเล่นน้ำคนเดียวข้าเจ้าผิดไปแล้วหญิงสมควรตาย " 

          หญิงพูดพร้อมทั้งนํ้าตาฟังแทบไม่รู้ความ

         " นอกจากอีหญิงสมควรตายแล้วแหลงก็สมควรตายเจ้าค่ะ "

หญิงสาววัยกลางคนทั้งสองต่างสบถวาจาอย่างเสียงดังทั่วห้องพร้อมทั้งนํ้าตาไหลพรากและมองดูร่างหญิงสาวผู้สูงศักดิ์นอนแน่นิ่งไร้ซึ่งลมหายใจหน้าซีดปากซีดถึงอย่างงั้นก็เถอะก็มิอาจทำลายความสวยบนใบหน้านั้นได้ หน้าทรงรูปไข่คิ้วโก่งเหมือนคันศรขนคิ้วที่ดำธรรมชาติปากกระจับสวยแต่พองามผิวพรรณดีผมดำเงางามแบบปล่อยผมไม่ได้มวยผม สวมชุดไตยเสื้อสีเหลืองนวลผ้าซิ่นไหมคำแบบชาวรัฐฉาน นอนอยู่บนเตียงไม้สักบนหัวเตียงถูกแกะสลักเป็นลวดลายดอกไม้อย่างสวยงามเสาเตียงทั้ง 4 มุม นั้นถูกเข้งตึงด้วยมุ้งสไตล์ยุโรปสีขาว

 ( ชุดไตย / ชุดไทใหญ่ \= ชุดประจำถิ่นของผู้คนใน รัฐฉาน ชอบใส่ชุดไตยในงานวันสำคัญต่างๆเช่นไปวัดทำบุญงานปอยต่าง ฯลฯ

 ลักษณะชุดไตยของผู้หญิง

\= เสื้อผ่าหน้าหรือเสื้อป้ายแขนกระบอก เอวสั้นตกแต่งลวดลายสวยงามด้วยการปักหรือฉลุผ้าตามขอบ

\= กระดุมที่กลัดเสื้ออาจจะใช้กระดุมผ้าหรือพลอยกลัดกับหูกระดุม 

\= ผ้าซิ่นที่ใส่นุ่งนั้นมีการต่อหัวซิ่นด้วยเนื้อผ้านิ่มสีดำพับแล้วเหน็บที่หัวซิ่นใช้เข็มขัดเงินคาดทับ

ลักษณะชุดไตยของผู้ชาย

\= สวมเสื้อคอกลมแขนยาวผ่าหน้าติดกระดุมผ้าคล้ายไส้ไก่ขมวดเป็นปมพร้อมตกแต่งลวดลาย

กางเกง \= สวมกางเกงขาก๊วยเป้าตํ่า

หรือเพื่อให้เห็นภาพได้ง่ายๆ คือ เหมือนชุดล้านนาทางภาคเหนือนั้นเอง )

(  ซิ่นไหมคำ หรือ ซิ่นบัวคำ  \=  เป็นผ้าซิ่นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทอจากเส้นไหม บ้างก็ทอจากเส้นทองคำ ตีนซิ่นมีลวดลายเป็นดอกบัวควํ่าบัวหงาย เป็นรูปของชาวไตยเขิล หรือ ไทเขิน เมืองเชียงตุง รัฐฉาน ประเทศพม่า และยังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในกลุ่มราชสำนัก ตลอดจนผู้สะสมผ้า เนื่องจากถูกจัดให้เป็นหนึ่งในกลุ่มผ้านางพญาซิ่นล้านนา หากเป็นเจ้าของราชสำนักจะทอด้วยเส้นเงินหรือทองคำ ปักลายด้วยเพชรพลอยและทองคำ แต่ถ้าเป็นชาวบ้านจะใช้เพียงไหมหรือฝ้ายธรรมดา  )

จู่ๆ ก็เกิดมีลมแรงพัดเข้ามาทางหน้าต่างที่ถูกเปิดอ้าค้างทิ้งเอาไว้ในห้องทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัวจนขนลุก หญิง แหลง และบ่าวใช้อีก 2 - 3 คน ก็รับรู้ด้วยเช่นกันพวกเขาทำได้แต่มองหน้ากันไปมาอย่างสงสัย แหลงได้พูดขึ้น

" เจ้านาง คำใส แน่เลย… เจ้านางคงจะรับรู้แล้วว่าตัวเองตายแล้วโธ่ ~ เจ้านางของอีแหลงไม่น่าเลย  " เมื่อพูดเสร็จก็ร้องไห้ต่อ

  ที่นี่คือที่ไหนกันนะ! ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ฉันจำได้ว่าฉันกำลังทะเลาะกับพี่เอื้องอยู่นี่นา ต่อจากนั้นฉันก็พลัดตกบันได! แต่ทำไมจู่ๆ ฉันถึงได้มาโผล่ที่นี้ได้ล่ะเนี้ย! แถมทุกคนในห้องนี้ก็แต่งตัวซะเหมือนอยู่ในยุคอดีตของเชียงตุง แสนหวี เหมือนอย่างกับในละครหลังข่าวที่ฉันเคยดูยังไง     ยังงั้นแหละซึ่งช่วงยุคนั้นเมืองทั้ง 2 กำลังรุ่งเรืองอยู่ฉันได้แต่ทำหน้าสงสัยก่อนจะพูดขึ้นเพื่อคุยกับทุกคน  

" นี่~ ทุกคนเห็นฉันมั๊ย "

         เดินเข้าไปหาทุกคนที่นั่งอยู่บริเวณรอบๆเตียงนอนพยายามทำให้ทุกคนเห็นตนแต่กลับไร้ซึ่งความหวังทุกคนไม่เห็นอินฟ้าเลย 

         " นี่~ ทุกคนมองไม่เห็นฉันจริงๆ เหรอเนี่ย! "   

ยกมือขึ้นกุมขมับทั้ง 2 ข้าง   

         " โอ๊ย~~~ จะบ้าตายฉันจะทำยังไงดี....."  ถึงแม้ว่าเธอจะตะโกนเสียงดังแค่ไหนก็ตามแต่กลับไม่มีใครได้ยินเสียงเธอแม้แต่คนเดียว  

 

         " เอ๊ะ!  นั้นใครอ่ะนอนอยู่บนเตียง "            

พร้อมเดินเข้าไปดูร่างที่นอนแน่นิ่งนั้นอย่างใกล้ๆแต่ทันใด      นั้นเอง " เอ๊ะ! น..นี่…มันฉันนี่...ไม่ ไม่ใช่ฉันแต่ทำไมหน้า…เหมือนฉันอย่างกับแกะฝาแฝดที่ว่าเหมือนยังต้องเรียกแม่! อะไรจะเหมือนขนาดนี้ "   

พอพูดเสร็จเธอพยายามยื่นมือไปจับแขนร่างของหญิงปริศนาที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงตรงหน้าจู่ๆ ก็ได้เกิดแสงสว่างวาบแสบตาขึ้นมาเหมือนมีอะไรมาฉุดดึงดวงวิญญาณของเธอเข้าไปในร่างของหญิงสาวปริศนาทันที ทันใดนั้นเองบ่าวทุกคนในห้องต่างพากันตกใจที่เห็นเจ้านาง คำใส ฟื้นขึ้นมานั่งพรวดพราด เสียงกรีดร้องลั่นบ้านทุกคนต่างพากันกลัวตัวสั่นระริกแหลงวิ่งเข้าไปหลบอยู่ในตู้เสื้อผ้า หญิงพยายามเอาหัวมุดใต้เตียงพร้อมสวดมนต์    บทสวดนะโมตัสสะ ส่วนคนที่เหลือวิ่งหนีออกจากห้องไปพร้อมหน้าตาแตกตื่นจนทำให้ผู้คนที่อยู่นอกห้องต่างพากันตกใจไปตามๆกันอย่างไม่รู้ว่าเกิดอะไรกันแน่

        " นี่ ฉันยังไม่ตาย " พร้อมนำมือทั้ง 2 ข้าง จับหน้าจับแขนของตนเอง 

       " ทุกคน~ ไม่ใช่ซิพี่ 2 คน อ่ะฉันยังไม่ตาย... ลองมาจับแขนฉันดูสิ " เธอยื่นแขนออกจากลำตัวเพื่อให้ทั้ง 2 มาแตะ

        เมื่อได้ยินดังนั้นทั้ง 2 คน จึงยอมออกมาจากที่ซ่อนเพื่อที่จะพยายามมาแตะมือของเจ้านางของตน 

" จริงด้วย...เจ้าหน้ายังไม่ตาย.."

         บ่าวทั้ง 2 จึงพากันดีอกดีใจกันยกใหญ่         

  " เดี๋ยว! ก่อนฉันไม่ใช่เจ้านางอะไรนั้น " ใบหน้างดงามทำหน้าอย่างจริงจัง

" อ้าววว! ถ้าเจ้านาง ไม่ใช่เจ้านางแล้วเจ้านางจะไปเป็นใครได้เจ้าคะ เจ้านาง! " หญิงพูดเสร็จทอดสายตาไปทางแหลง

" ไม่น่าเลยเจ้านางของข้าเจ้ากำลังสาวกำลังสวยอยู่แท้ๆ ไม่นึกเลยว่าหลังจากฟื้นจากการจมน้ำหยุดหายใจไปหลายชั่วยามจะทำให้เจ้านางของข้าเจ้าเป็นได้ถึงเพียงนี้" 

 

         พร้อมทำหน้าสงสาร " เพียงนี้คือ…เพียงไหนไหน " อินฟ้า ผู้ซึ่งอยู่ในร่างของเจ้านางคำใส ได้พูดถามกลับ " ก็…บ้า..งั้ยเจ้าคะ " ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อหูของตนเอง

          " แต่ยังเคราะห์ดีที่เจ้านางฟื้นคืนมาถ้าไม่อย่างนั้นข้าเจ้าทั้ง 2 คน คงรู้สึกผิดไปจนตายเป็นแน่แท้เลยเจ้าค่ะ " 

          แหลงพูดเสร็จก็ได้ถอนหายใจเสียงดังเพราะรู้สึกโล่งอกที่เห็นเจ้านางของตนฟื้นคืนมาอีกครั้ง   

    "ใช่แล้วเจ้าค่ะ อีแหลงมันพูดถูกเจ้าค่ะ " 

ทั้ง 2 จึงส่งยิ้มให้กับเจ้านางคำใสอย่างพร้อมเพียงกัน

 

              " ฉันไม่ได้บ้าจริงๆนะพี่ ฉันไม่ใช่เจ้านางอะไรนั้นที่พี่ 2 คนพูด ฉันไม่ใช่จริงๆ "

 

            พร้อมทั้งน้ำเสียงหนักแน่นเพื่อยืนยันว่าว่าตนไม่ใช่เจ้านางคำใสจริงๆแต่ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามอธิบายยังไงก็ตามแต่ก็ไม่มีใครเชื่อสักคนอยู่ดีแล้วพี่หญิงกับพี่แหลงก็ขอตัวออกไปบอกเจ้าฟ้าเมืองแสง กับ มหาเทวีฟ้าใส ซึ่งเป็นบิดาและมารดาของเจ้านางคำใสเรื่องที่เจ้านางยังไม่ตาย เธอได้แต่ครุ่นคิดในใจ

             นี่ฉันย้อนเวลามาโผล่ในยุคไหนเนี้ยแต่พอฉันลองตั้งสติและคิดทวบทวนทุกเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็ได้รู้ว่าฉันไม่ได้พูดภาษาไทยกับพี่เขาทั้ง 2 คน ฉันพูดภาษาไตย

(ภาษาไตย / ภาษาไทใหญ่ / ภาษาฉาน \= ภาษาตระกูลจร้า - ไท ภาษาจะคล้ายๆ คำเมือง ผสม อีสาน)

           โชคดีนะที่ตอนเด็กฉันเคยอยู่ จ.แม่ฮ่องสอน เพราะแม่ของฉันเป็นคนที่นั้นถ้าไม่อย่างงั้นฉันคงได้นั่งให้ใบ้รับประทานแน่เลยนอกจากจะฟังไม่ออกว่าเขาพูดว่าอะไรกันและที่สำคัญฉันคงไม่รู้จะสื่อสารยังไงกับพวกเขาฉันเดินสำรวจไปรอบๆภายในห้องนอนของเจ้านางคำใสมองดูข้าวของเครื่องใช้อย่างตื่นเต้น

             โดยเฉพาะเครื่องเขินล้านนากับเสื้อผ้าของเจ้านางแต่ละชุดช่างสวยงดงามอะไรเช่นนี้ที่ฉันพูดอย่างนี้เพราะเลือดของดีไซเนอร์สาวไฟแรงมันอยู่ในสายเลือดยังไงล่ะแต่ฉันอยากให้ กะทิ มาเห็นเสื้อผ้าเหล่านี้กับฉันจริงๆ ตอนนี้ฉันคิดถึงเพื่อนของฉันมากมากจนถ้าฉันสามารถส่งตัวเองกลับไปในปัจจุบันได้ฉันคงทำไปแล้วสำคัญไปมากกว่านั้นก็คือฉันคิดถึงพ่อกับแม่ด้วย

(เครื่องเขินล้านนาน \= ภาชนะเครื่องมือหรือของใช้ที่นำไม้ไผ่มาสานแล้วทาด้วยยางรักหลายๆ ชั้นโดยที่ชั้นแรกจะทำหน้าที่ยึดโครงสร้างให้เกิดความมั่นคงชั้นต่อๆ ไปเป็นการตกแต่งผิวภาชนะให้เรียบชั้นสุดท้ายเป็นการตกแต่งให้สวยงามเช่นการเขียนลวดลายการปิดทองหรือการขุดผิวให้เป็นร่องลึกแล้วฝังรักสีต่างกันเป็นลวดลายสวยงามมีนํ้าหนักเบาและนิยมใช้รักสีดำและสีแดงตกแต่ง)

             แค่คิดถึงพวกท่านทั้ง 2 เท่านั้นแหละน้ำตาฉันก็เอ่อล้นไหลออกมาจากตาแบบที่ฉันไม่รู้ตัวไม่รู้ว่าท่านทั้ง 2 คน จะเป็นยังไงบ้างจะรู้หรือหรือยังว่าฉันตายแล้ว...แล้วท่ารู้ท่านทั้ง 2 คน จะเป็นยังไงบ้างไม่น่าเลยชีวิตของฉันทำไมมันถึงได้ซวยซํ้าซวยซ้อนอะไรขนาดนี้เพิ่งโดนบอกเลิกจะพี่ชาวี ( แฟนเก่าของอินฟ้า ) ไม่ถึง2 วัน 

             ก็ยังมาโดนไอ้อัสดมไอ้พี่เขยสารเลวพยายามปล้ำอีกแถมทำให้พี่เอื้องฟ้าเข้าใจผิดไปอีกถ้าฉันกลับไปได้ในปัจจุบันนะฉันจะไปทำบุญล้างซวยสะเดาะเคราะห์สัก 9 วัดไปเลยจะได้ไม่เจอเรื่องอะไรแบบนี้อีกพอฉันหยุดร้องไห้แล้วเช็ดน้ำตาเสร็จฉันก็เดินกลับไปที่เตียงนอนเพื่อเอนกายลงนอน...นอนเพื่อให้หายเครียด..เครียดไปก็ทำให้กลับไปปัจจุบันไม่ได้อยู่ดี

ฮอต

Comments

เทพมายา

เทพมายา

เนื้อหาดี

2023-03-04

1

เดีย

เดีย

อัพพพพพ

2023-03-04

1

ทั้งหมด
เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!