Life Is Distorted: ชีวิตบิดเบี้ยว
บทที่ 0: ความฝันที่เป็น
……
ผม ริน ชายปกติทั่วไปเทียบได้ว่าถ้าหากโลกนี้เป็นเกมส์ละก็ผมก็คือ NPC ที่ไม่มีบทบาทสำคัญอะไรในเนื้อเรื่องหลัก, หลังจากที่ได้เรียนจบไปผมก็ได้ทำงานเป็นพนักงานทั่วไปเงินที่ได้ก็ไม่พอใช้ในชีวิตประจำวันเลย ไม่ว่าผมจะพยายามมากเท่าไหร่อะไรมันก็ไม่เคยดีขึ้น ตอนที่ผมยังเรียนมอปลายอยู่นั้น ชีวิตครอบครัวของผม สำหรับมุมมองจากผู้คนภายนอกมันอาจจะดูเป็นครอบครับที่อบอุ่นและเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ แต่ในความเป็นจริงมันกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น มีทั้งการทะเลาะกันอย่างรุนแรง ปัญหาทางการเงิน ตอนนั้นผมถูกส่งออกไปเรียนต่างประเทศเพื่อจะหารายได้มาช่วยครอบครัว ทุกวันที่ผมเรียนไม่มีวันไหนที่มีความสุขเลย ทุกๆวันผมต้องทำงานพร้อมกับเรืยนไปด้วยและความเครียดจากการแข่งขันเพื่อชิงทุนมหาวิทยาลัยต่างประเทศนั้นก็ยิ่งทวีคูณความกดดันมมากยิ่งขึ้นไปอีก มีแต่ความทุกข์ใจ มีเรื่องค้างคาในใจตลอด ทุกๆครั้งที่เหล่าเพื่อนฝูงชักชวนไปเล่นด้วยกัน ผมได้แต่แสดงสีหน้าจอมปลอม และ การโกหก เมื่อยามที่เจ็บปวดผมก็โกหกตนเองว่าไม่เป็นไรเสมอมา ทุกๆครั้งที่เห็นคุณพ่อที่กลับบ้านหลังดื่มเหล้าพอเมาแล้วก็เริ่มทำร้ายแม่ ผมก็เจ็บปวดยิ่งขึ้นไปอีก สิ่งที่ผมอยากได้ก็ไม่สามารถที่จะไขว่คว้ามันมาได้ไม่ว่าจะความสุขหรือความหวังที่จะมีชีวิตที่ดีเหมือนกับคนอื่นๆ. ตลอดชีวิตที่ผ่านมาผมไม่เคยได้อะไรที่อยากได้ ไม่เคยได้กินของที่อยากกิน ทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องราวเหล่านี้ก็เจ็บปวดใจ. จนตอนที่วันเกิดอายุครบ 30 ให้ตายสิ…เมื่อไหร่วงจรบัดซบนี่จะจบลงนะ.
ผมก็ได้แค่ก้าวเดินกับชีวิตที่ไม่มีจุดหมายอะไร แค่ทำงานหาเงิน แล้วก็ต้องมีชีวิตรอดไปวันๆ ผมเป็นคนที่เกรดเรียนก็ไม่ได้สูงมาก แต่ก็จัดอยู่ในคนที่พอจะเรียนเก่งอยู่ ถ้าให้เทียบแต่ละวิชานั้นผมจะมีคะแนนที่ 7-9/10. ผมสร้างกำลังใจให้ตัวเองอยู่ตลอด เช่น:"สักวันฉันจะต้องทำได้, ต้องผ่านไปได้…" ผมทำอะไรแบบนั้น และ คิดแบบนั้นมาจนถึงตอนนี้ แต่พอเริ่มมาถึงจุดที่เป็นขีดจำกัดมันก็เริ่มจะท้อขึ้นมาล่ะน่ะ. ตอนนี้ทุกครั้งที่ลืมตาตื่นขึ้นทุกเช้าไม่เคยสดใสเลย เป็นเหมือนวันเดิมๆ ไม่อยากตื่นขึ้นมาเลยด้วยซ้ำ ผมเคยคิดว่าจะฆ่าตัวตายไปแล้วหลายครั้งจนนับไม่ถ้วน แต่พอนึกถึงน้องสาว และ น้องชายที่ยังไม่ทันโตแล้วผมก็หนีไม่พ้นวงจรนี้อยู่ดี รู้แค่ต้องพยายามทำไปเรื่อยๆ. ตัวผมเป็นคนที่ชอบอนิเมะและเกมส์เป็นชีวิตจิตใจ ครั้งหนึ่งผมเคยคิดถ้าหากมันมีสักทางที่จะทำให้เราไปต่างโลกเหมือนกับในนิยายได้ก็คงดี โลกที่ผมจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ โลกที่ผมจะได้ใช้ความสามารถได้อย่างเต็มที่ โลกที่ผมสามารถที่จะมีความสุขได้ แต่ว่าโลกแบบนั้นมันเป็นได้แค่ฝัน. ผมเป็นได้แค่คนที่คิดจะหนีจาก ความเป็นจริงแห่งนี้ คิดแล้วน้ำตาของผมไหลออกมา มันทั้งเจ็บปวด และ ทรมาน การที่อยากมีชีวิตที่ดีมันยากขนาดนั้นเลยหรอ ผมไม่ได้ขาดความสามารถ แต่ขาดแค่โอกาสที่จะได้รับมันมา. แต่ว่านะในโลกนี้ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวหรอกที่เป็นแบบนี้ ยังมีคนที่ต้องทุกข์ทรมารแบบนี้อีกมากมาย เพาะการเกิดมาที่ไม่ยุติธรรมของโลกใบนี้ ถ้าคุณคิดว่าการใช้ความพยายามแล้วจะได้มันมาแล้วละก็ ต้องพยายามเท่าไหร่ละ หากว่าการรอโอกาสนั้นมาถึงแล้ววันไหนละ… เราไม่สามารถระบุได้เลยว่า วันนั้นที่เราฝันนั้นมันจะมาถึงเมื่อไหร่วันที่ได้มีความสุข.
แต่ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวผมมันกลับไม่น่าเชื่อ มันเป็นเรื่องที่ผมเองก็ยังไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึง วันที่ผมจะเริ่มชีวิตใหม่ได้อีกครั้ง. ในคืนหนึ่งหลังจากทำงานทั้งวัน ผมอาบน้ำแล้วพรุ่งตรงไปที่นอนหลังจากนั้ก็หลับไปโดยไม่คิดอะไร เนื่องจากเหนื่อยล้าจากงานมากๆ ผมได้ยินเสียงเหมือนกับลมที่ผัดอย่างรุนแรงเหมือนกับว่าคืนนั้นเกิดพายุไต้ฝุ่นเข้าโจมตีแต่ผมไม่สามารถลืมตาตื่นขึ้นได้ มันเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างไม่ยอมให้ผมเปิดตามอง ผมพยายามดิ้นสุดแรงแต่ร่างกายไม่ยอมทำตาม จนกระทั่งเสียงทั้งหมดหายไปเหลือแค่ความเงียบงัน แล้วก็มีเสียงพูดเหมือนมันดังมาจากในหัว เป็นเหมือนเสียงของผู้หญิง เสียงนั้นแค่ได้ยินก็รู้สึกเหมือนว่าตัวตนของคนพูดนั้นช่างงดงาม สูงส่งกว่าสิ่งอื่นใด เสียงนั้นบอกผมว่า " ความปารถนาของเจ้าข้าได้รับรู้แล้ว " หลังจากเสียงนั้นเงียบลง ผมรู้สึกเหมือนนอนอยู่กลางทุ่งหญ้า มีลมอ่อนไปพัดมาเป็นระยะ ผมลืมตาตื่นขึ้นทันที เพราะยังไม่เข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเลยสักนิด ภาพที่อยู่ข้างหน้าผมไม่ใช่ห้องนอนของผม แต่เป็นเหมือนทุ่งหญ้ากว้างขวาง และ มีเงาจางๆจากที่อันไกลพอสมควรเป็นเงาของ เมืองไม่ก็อาณาจักรที่แปลกตาเอามากๆ ผมมองไปรอบๆ ข้างหลังของผมเป็นป่าใหญ่ แล้วด้านหน้าเป็นทุ่งกว้าง จุดที่ผมอยู่เป็นเหมือนต้นไม้ต้นเล็กสูงประมาณสี่เมตร ส่วนด้านข้างขวาและซ้าย จะเป็นเหมือนจะเป็นภูเขาหลายลูกจนสุดสายตา. แต่ทำไมละ….. เหตุการณ์นี้มันเหมือนกับกำลังฝันอยู่เลย เหมือนกับตัวผมได้ถูกใครสักคนส่งมาที่แห่งนี้ ที่ที่เชื่อว่ามันคือต่างโลกที่ไม่มีใครเคยได้รู้มาก่อนว่ามันมีอยู่จริง.
ผมตรวจสอบร่างกายว่ามีตรงไหนบ้างที่บาดเจ็บ หรือ มีอะไรที่ผิดปกติบ้าง แต่ดูเหมือนจะไม่ ผมเริ่มคิดแล้วว่าไม่มีอาหาร หรือ น้ำผมคงได้ตายก่อนที่จะออกเดินทางแน่ แล้วเดินทางหมายถึงเดินไปไหนกันละ อันนั้นก็ยังคิดไม่ได้เลย หากถามว่ารู้ได้ไงว่าที่นี่คือต่างโลกผมบอกเลยว่าผมมะโน และ คิดเองเออเองล้วนๆ ถ้าหากที่เป็นต่างโลกจริงๆ ผมก็คงไม่อยากกลับโลกเดิมอีกแน่นอน ไม่ต้องห่วงเรื่องอะไรเลยละ แฟนก็ไม่มีอยู่แล้ว ผมทำงานราชการถ้าตายไปก็ยังมีเงินให้กับครอบครัวได้อยู่พ่อเองก็ทำงานได้อยู่เพาะงั้นการที่ไม่มีเราอาจจะทำให้พวกเขาสบายไปอีก ความคิดนี้เหมือนเห็นแก่ตัวจังเลยนะ คิดแล้วก็สมเพศตัวเองไม่น้อยเลยละ แต่ก็ผมรู้ว่าตัวเองคิดอะไรอยู่เพราะงั้นยอมรับซะเลยว่าตัวเองนั้นเห็นแก่ตัวและไม่เป็นลูกผู้ชายเลย.. ผมเดินไปเรื่อยๆ คิดเรื่องนี้ไปตลอดทาง ผมเดินไปข้างหน้าทางที่มีเงาของเมืองลางๆ แต่เดินไปเท่าไหร่ก็รู้สึกว่ามันใกล้ขึ้นเลย ได้แค่หวังว่าคงมีเรื่องบังเอิญไปเจอคนแล้วให้เขานำทางไปที่หมู่บ้านใกล้สุดให้ล่ะน่ะ หรือ ที่แย่สุดคือผมคงต้องเข้าไปในป่าเพื่อหาอะไรกินไม่ก็ ไปเป็นอาหารให้กับสัตว์ร้ายซะเองดีไม่ดีโลกนี้อาจจะมีมอนสเตอร์ก็ได้ แต่ยังไม่รู้ชัดเลยว่าที่นี่คือต่างโลก สุดท้ายแล้วผมก็หาเบาะแสอะไรไม่เจอได้แค่เดินเรื่อยๆ.
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 4
Comments