Pair : Sukuna x Saki
Rate : PG-15
Note : อดีตของราชาคำสาปกับเจ้าสาว
Warning : Blood / Character Death / เผยสาเหตุของคำสาปของซากิ
เด็กสาวลืมตาตื่นในห้องขนาดเล็กอันไร้แสงสว่างจากเทียน นัยน์ตาสีฟ้าฉายแววง่วงงุนก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นนั่งกับพื้นอย่างงัวเงีย
ในช่วงชีวิตที่ผ่านมา ไม่มีวันไหนเลยที่เด็กสาวจะใช้ชีวิตดั่งบุตรสาวของตระกูลมั่งมีอย่างตระกูลโกะโจ
เธอเป็นที่รักของบิดาและมารดา แต่ไม่ได้เป็นที่รักของพวกคนในบ้าน
มารดามิทันได้ตั้งชื่อให้ ก็ด่วนจากไปก่อนและบิดาเองก็ไม่อยากผิดสัญญาที่จะให้มารดาตั้งชื่อบุตรสาวให้เท่านั้นทำให้หล่อนกลายเป็นคนไร้ชื่อของตระกูลโกะโจ ทิ้งเด็กสาวไร้ชื่อและเด็กชายที่เพิ่งคลอดออกมาให้ใช้ชีวิตในนรกที่มีชื่อว่าตระกูลโกะโจ
นางแพศยา
พวกเขาเรียกเด็กสาวแบบนั้นแต่เธอไม่เคยเข้าใจมันเลยสักครั้ง หล่อนเกิดมาด้วยความรักของบิดาแต่เกิดมาท่ามกลางความเกลียดชังของคนในตระกูล
พวกเขาคิดว่าดวงตาริคุกันไม่ควรมาอยู่ในตัวของเด็กสาว เพราะมารดาของหล่อนไม่ใช่คนที่พวกเขาจัดหามาให้ครองคู่กับบิดา
ลูกเมียน้อยอย่าริอาจมาตีตนเสมอบ้านใหญ่
เด็กสาวได้ยินมันเสมอ และไม่ตอบโต้อะไรกลับไปขณะเดียวกันไสยเวทของเด็กสาวก็ตื่นขึ้น
ไสยเวทของมารดา เด็กสาวรักมันที่สุด
จนกระทั่งหล่อนอายุสิบหกปี ถึงเวลาออกเรือนของเด็กสาวทั้งหลาย
แน่นอนว่าเวลาเดียวกับการบูชายันเจ้าสาวของคำสาป
“ข้าขอเสนอนางแพศยานี่” เด็กสาวเงยหน้ามองชายหนุ่มที่เป็นพี่ชายต่างมารดาของตนขณะที่หล่อนจับแขนของน้องชายเอาไว้ พลางส่ายหน้าไม่ให้เขาก่อเรื่องอะไร
“ไหนๆเจ้าเองก็ออกเรือนได้แล้ว หน้าตาเองก็ไม่ได้แย่ตอบแทนบุญคุณที่ตระกูลโกะโจให้เจ้ามีชีวิตหน่อยก็แล้วกัน”
เด็กสาวก้มหน้าไม่เอ่ยอะไร เสียงของหล่อนและน้องชายคล้ายฝุ่นผงในบ้าน ไม่มีใครสนใจและให้ความสำคัญ ต่อต้านไปก็เท่านั้น
หลังจากคืนนั้น เด็กสาวไร้ชื่อเริ่มฝันแปลกประหลาด หล่อนเริ่มฝันถึงตนเองที่อยู่ในอ้อมกอดของอะไรสักอย่าง
ภาพเลือดที่อาบชุดกิโมโนสีขาวจนชุ่มลูกธนูเต็มหลังของหล่อนและเสียงกรีดร้องของชายหนุ่มที่ไม่รู้จัก เสียงตะโกนก้องของใครสะคนที่เรียกหล่อนว่าพี่ และภาพทั้งหมดที่กลายเป็นสีดำพร้อมกับเด็กสาวที่ตื่นขึ้นมาในห้องนอนอีกครั้ง
ความตายกำลังรออยู่สินะ ทำให้ฝันอะไรแบบนี้
“ท่านพี่…” เด็กชายกลั้นเสียงสะอื้นเมื่อเห็นพี่สาวของตนในชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์ ข้าวของทั้งหมดล้วนเป็นสีขาวเพื่อสื่อให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ของเจ้าสาว
ทุกอย่างล้วนพรั่งพร้อม ยกเว้นเพียงแต่หัวใจของบิดาและน้องชายที่กำลังหลากสลายเมื่อเด็กสาวผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจก้าวขาออกห่างจากเขาไปเรื่อยๆ
มันไม่ต่างอะไรกับการไปตายพวกนั้นถึงส่งหล่อนมา เด็กสาวเงยหน้ามองท้องฟ้าที่ตอนนี้มีเพียงดวงจันทร์ที่ส่องแสง
“ลาก่อนนางแพศยา” เด็กสาวหันกลับไปมองพี่ชายต่างมารดาที่ยิ้มเยาะอย่างสะใจ หล่อนยิ้มก่อนจะเอ่ยประโยคที่คิดว่าควรจะพูดไปนานแล้ว
“อิจฉาหรือ ที่ข้ามีดวงตาริคุกัน” นัยน์ตาสีฟ้าแววระยับอย่างขบขันเมื่อเห็นคลื่นความโกรธจากตัวเขา
หล่อนไม่กลัวอะไรอีกแล้ว เพราะตอนนี้หล่อนยืนอยู่บนปากเหวแห่งความตายอย่างไรเล่า
“อิจฉาไปเถิด จงอิจฉาไปและข้าขอสาปแช่งให้ลูกหลานของเจ้ามิมีดวงตานี้ตลอดกาล เจ้าจะอิจฉาที่ลูกหลานของพี่ชายเจ้ามีริคุกันแต่เจ้าทำมิได้และชาติใดๆก็มิอาจได้” สิ้นเสียงหล่อนก็ถอยหลังไปทางปากเหวเรื่อยๆ จนหยุดเมื่ออีกเพียงก้าวเดียวก็จะกลายเป็นอากาศ
“นัง!!”
เด็กสาวแสยะยิ้มก่อนจะกระโดดลงไปเอง ท่ามกลางเสียงด่าทอของตนที่ดังก้องไปทั่วหุบเขา
“ข้าขอสาปแช่ง!! ขอให้พวกเจ้าทุกคนที่ชิงชังข้าต้องตายด้วยคำสาป มิอาจลืมความทรมาณที่ถูกฆ่าได้ไม่ว่าจะชาติไหน!!!!”
ตูม!
ร่างของเด็กสาวจมลงในบึงกว้างก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อถูกกระชากขึ้นมาจากน้ำ
หล่อนไอออกมาก่อนจะเงยหน้ามองคนที่ช่วยหล่อนไว้อย่างสงสัย
ไม่น่าจะมีคนอยู่ที่นี่….
“ข้าเป็นมนุษย์”
“มนุษย์มิมีสี่กร สองหน้า” เด็กสาวเอ่ยตอบก่อนจะพยุงตัวขึ้นยืนพลางสำรวจอีกฝ่ายอย่างสนใจ
“เจ้าเป็นคำสาปหรือ”
“ใช่แล้วอย่างไร มิใช่แล้วอย่างไร”
“ข้ามาเป็นเจ้าสาวให้ราชาคำสาป”
“เต็มใจหรือ?” คำสาปตรงหน้าเอ่ยถามขณะโอบเอวให้หล่อนเดินตามเข้าไปด้านในถ้ำ เด็กสาวส่ายหน้าก่อนจะเอ่ยตอบไปตามจริง
“มิใช่ว่าเต็มใจ แต่หากทำพันธะด้วยแล้วข้าจะล้างแค้นผู้ใช้คุณไสย”
“หืม? เจ้าเป็นผู้ใช้คุณไสยหรือ” เด็กสาวพยักหน้าก่อนจะแบมือมารองไว้ด้านหน้า ทันใดนั้นหิมะสีขาวก็ปรากฎขึ้น
“ไสยเวทในวันเหมายันต์และดวงตาริคุกัน” เด็กสาวเอ่ยก่อนจะหันไปมองคำสาปที่ยกยิ้มอย่างพอใจ หล่อนไม่เข้าใจเท่าไหร่แต่ไม่ได้ตอบสิ่งใดออกไป
“งั้นเจ้าอยู่กับข้าได้”
“แล้วเจ้าชื่ออะไร” เด็กสาวเอ่ยถามก่อนจะชะงักเมื่อเห็นเด็กคนหนึ่งในชุดพระสงฆ์กำลังมองหล่อนอย่างสงสัยเช่นกัน
“ท่านสุคุนะ...นี่..อาหารหรือขอรับ?”
“นี่เจ้าสาวข้า แม่นางนี่อุราอุเมะคนสนิทของข้า” เด็กสาวหันไปมองอุราอุเมะอีกครั้งก่อนจะโค้งหัวให้เขา
“ท่านเจ้าสาว! มิต้องโค้งหัวให้ข้าหรอกขอรับ”
“ข้ามิต้องทำหรือ คนที่บ้านข้าบอกให้ทำเพราะข้านั้นต้อยต่ำที่สุดในบ้าน” เด็กสาวเอียงคออย่างสงสัยขณะที่คำสาปทั้งสองนิ่งไปทันที
“มิต้อง”
“งั้นหรือ” เด็กสาวพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะเดินตามสุคุนะไปประหนึ่งลูกเป็ดเดินตามแม่ของมัน
“ท่านเจ้าสาว….ท่านชื่ออันใดหรือขอรับ”
“ไม่มี…”
“ขอรับ?”
“ข้าไม่มีชื่อหรอก” เด็กสาวในชุดกิโมโนสีขาวเอ่ยขณะที่อุราอุเมะชะงักอย่างไม่เข้าใจ เพราะขนาดที่เขาและท่านสุคุนะเป็นคำสาปยังมีชื่อแล้วเหตุใดมนุษย์ตรงหน้าถึงไม่มีชื่อล่ะ
“ท่านพ่อรอให้ท่านแม่กลับมาตั้งชื่อให้ข้า แต่ท่านจากไปแล้ว”
“แล้วปกติพวกมันเรียกเจ้าว่าอะไร”
เด็กสาวหลุบตามองพื้นก่อนจะยกตะเกียบขึ้นมาททานเพื่อตัดบทสนทนา ทั้งคำสาปและคนสนิทต่างไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป
เด็กสาวนึกแปลกใจที่ถ้ำแห่งนี้มันเชื่อมกับบ้านทรงญี่ปุ่นหลังโต แต่หล่อนไม่ได้สนใจเท่าใดนัก
เรียกว่าไม่สนใจอะไรนอกจากรอความตายดั่งที่พวกตระกูลโกะโจคาดหวังนั่นแหละ
“แพศยา”
“หา?” สุคุนะเลิกคิ้วเมื่อเด็กสาวเอ่ยขึ้นมาหลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว อุราอุเมะชะงักก่อนจะรีบเก็บข้าวของทั้งหมดทันทีเมื่อรับรู้ได้ถึงความหงุดหงิดที่ก่อตัวขึ้นจากเจ้านาย
“เจ้า! นี่เจ้า--”
“พวกเขาเรียกข้าว่านางแพศยา”
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบเมื่อมนุษย์คนเดียวในห้องเอ่ยออกไปแบบนั้น เด็กสาวเก็บจานของตนอย่างเชื่องช้าก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นพร้อมสำรับที่ตนทานไปแล้ว
“ข้าชินกับมันแล้ว เจ้าจะเรียกข้าเช่นนั้นก็ได้”
หลังจากเห็นว่าสุคุนะไม่ได้ตอบอะไรเด็กสาวก็โค้งหัวน้อยๆและเดินออกจากห้องไปทันทีโดยไม่ได้ยินประโยคถัดมาของพวกเขาแม้แต่น้อย
“อุราอุเมะ”
“ขอรับ?”
“ไปตัดลิ้นไอ้เวรพวกนั้นเสีย”
“ขอรับท่านสุคุนะ”
เพราะเด็กสาวอยู่ในบ้านหลังโตนี้มาได้ราวสองปี ทำให้หล่อนสำรวจบ้านแทบจะทั้งหมดแถมไปช่วยอุราอุเมะทำอาหารด้วยซ้ำ
ถึงจะชอบโดนไล่ออกมาก็เถอะ แต่อยู่เฉยๆมันเบื่อนี่นะ
แถมสุคุนะก็ไม่ค่อยจะอยู่บ้านเท่าไหร่ด้วย เด็กสาวถอนหายใจก่อนจะยืนจ้องต้นซากุระที่อยู่บริเวณสวนอย่างเหม่อลอยก่อนจะยิ้มกว้างออกมาเมื่อนึกได้ว่าตนจะทำอะไรต่อไปดี
สุคุนะเลิกคิ้วก่อนจะหันไปมองอุราอุเมะอย่างต้องการคำตอบว่าเด็กสาวที่อยู่ด้วยกันมา่วมอาทิตย์นั้นหายไปไหนเสียแล้ว
“ข้ามั่นใจว่านางยังคงอยู่แถวสวนขอรับ”
“อืม”
เขาพยักหน้าก่อนจะเดินไปหน้าต้นซากุระที่กำลังบานสะพรั่ง
“แม่หนู”
“สุคุนะ ดูนี่นะ” เด็กสาวยิ้มกว้างก่อนจะโปรยดอกซากุระที่นั่งรวบรวมไว้ลงตรงหน้าราชาคำสาปก่อนจะกระโดดลงมาหาเขา
ภาพเด็กสาวร่างสะโอดสองค์ รอยยิ้มแสนสดใส นัยน์ตาที่เป็นประกายเสมอยามมองเขา และภาพที่หล่อนก้าวลงจากต้นซากุระพร้อมกลีบดอกไม้ที่ปลิวลงมานั้นทำให้สุคุนะก้าวขารับเด็กสาวมาไว้ในอ้อมกอดอย่างเผลอตัว
งดงาม ดั่งพวกเทพี
น่าทะนุถนอมแต่ก็น่าทำลายด้วยมือของตน
“ไปซนอะไรอีก”
“ข้าเบื่อนี่ นอนอยู่เฉยๆมันจะสนุกตรงไหนกัน” เด็กสาวเบะปากก่อนจะเลิกคิ้วอย่างสงสัยเมื่อสุคุนะเอ่ยอะไรบางอย่างที่ทำให้หล่อนไม่เข้าใจ
“เดี๋ยวจะไม่ว่างแล้ว อีกสองวันจะมีมนุษย์มาสอนเจ้า”
“สอนอะไรหรือ?”
“อ่านเขียนและมารยาท”
“ข้าจะอ่านหนังสือได้แล้วหรือ” เด็กสาวยิ้มกว้างก่อนจะกอดสุคุนะที่อุ้มหล่อนไปทางห้องนอนอย่างออดอ้อน ราชาคำสาปถอนหายใจก่อนจะวางเด็กสาวลงบนฟูกอย่างนุ่มนวล
“ได้”
เด็กสาวยิ้มกว้าง นัยน์ตาสีฟ้าแวววาวอย่างชอบใจ สุคุนะยิ้มบางก่อนจะลูบหัวเด็กสาวอย่างเบามือ
“ซากิ”
“หือ” เด็กสาวเอียงคอก่อนจะน้ำตาจะไหลออกมาจากนัยน์ตาคู่สวยเมื่อราชาคำสาปเอ่ยประโยคนั้นออกมา
“ต่อไปนี้เจ้าชื่อซากิ”
“จริงหรอ ข้าใช้ชื่อนั้นได้หรือ”
“ได้ เพราะข้าตั้งชื่อให้เจ้า”
“ขอบน้ำใจเจ้ามากสุคุนะ”
“เป็นพันธะว่าเจ้าจะเป็นของข้าแต่เพียงผู้เดียว” เด็กสาวเงยหน้ามองราชาคำสาปก่อนจะลูบแก้มอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา
“ไม่ว่าตอนนี้หรือตอนไหน ข้าก็เป็นของท่านนอกจากท่านจะโดนปัดเป่าแล้วสิงในร่างภาชนะ”
“เจ้าแช่งข้า?”
“ข้าเปล่า ข้าฝันต่างหาก”
“ฝันบอกเหตุหรือ”
“อาจจะเป็นเช่นนั้น ข้าชอบฝันแปลกๆอย่างเช่นตอนก่อนที่ข้าจะเข้ามาที่นี่”
เด็กสาวนอนหลับใหลในอ้อมกอดของคำสาป ขณะที่คำสาปมองเด็กสาวในอ้อมกอดอย่างอ่อนโยนผิดกับทุกครั้งที่เด็กสาวได้เห็น
ซากิแปลว่าดอกไม้แห่งความหวัง
เรียวเมน สุคุนะก็หวังว่าดอกไม้นี้จะทำให้เขารู้จักคำว่ารักไม่มากก็น้อย
เด็กสาวเส้นผมสีดำอมม่วงนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นอย่างสง่างาม นัยน์ตาสีฟ้ากำลังจดจ้องที่แจกันดอกไม้อย่างขมักเขม้น ตรงข้ามกันมาหญิงสาววัยกลางคนนั่งมองหล่อนอย่างพอใจ
เด็กสาวจากตระกูลโกะโจนั้นงดงามและเพียบพร้อมไปด้วยความสามารถ นึกแปลกใจที่ตระกูลผลักไล่ไสส่งหล่อนมาอยู่ในตระกูลอันลึกลับนี้ หากแต่ไม่ใช่กงการอะไรที่หญิงสาวผู้เป็นครูจะต้องใส่ใจ พัฒนาการของลูกศิษย์ต่างหากที่น่าสนใจเสียยิ่งกว่า
“ข้ามิมีสิ่งใดที่จะสามารถสอนท่านได้อีกแล้วเจ้าค่ะท่านซากิ” อาจารย์เอ่ยอย่างภูมิใจก่อนจะยิ้มอย่างอ่อนโยนเมื่อเด็กสาวโค้งหัวขอบคุณหล่อน
“ข้าเองก็ขอบคุณท่านอาจารย์เป็นอย่างสูงเจ้าค่ะ”
เด็กสาวยืนส่งอาจารย์ผู้มีพระคุณอยู่หน้าบ้านไปจนลับสายตาก่อนจะหันหลังเดินไปที่สวนในตัวบ้านอย่างเชื่องช้า
อุราอุเมะก็ไม่อยู่ สุคุนะเองก็ไม่อยู่แล้วแบบนี้หล่อนควรจะทำอะไรกันนะ
เด็กสาวที่ได้รับชื่อซากิมาเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว และหล่อนชอบมันมากถึงขั้นขอร้องให้คำสาปพอหล่อนไปอวดชื่อกับบิดาและน้องชาย
ถึงจะได้รับเสียงนินทาที่พวกคนตระกูลใหญ่นั้นพูดถึงหล่อนว่านรกนั้นอาจมิต้อนรับทำให้หล่อนยังคงมีชีวิตอยู่
ซากิไม่สนใจ เพราะไม่นานพวกนั้นก็ถูกสุคุนะฆ่าไปกินอยู่ดี
เรียกได้ว่าหล่อนกลายเป็นคนที่มีอำนาจทัดเทียมกับผู้นำตระกูล เพราะสามารถควบคุมราชาคำสาปให้เชื่องได้
หล่อนไม่ได้ทำอะไรนอกจากยืนอยู่ข้างกายคำสาป เพียงแค่เอ่ยขอเขาก็จัดการให้
สิ่งเดียวที่มิเคยได้รับคงเป็นคำบอกรัก ซากิคิดในใจขณะนั่งอยู่บนต้นซากุระอย่างเคยชิน
ครั้งที่หล่อนเริ่มเรียนมายาท ทำให้ซากิ้องปรับการเรียกขานสุคุนะอยู่หลายครั้ง แต่ไม่เห็นเขาจะแสดงอาการแปลกใจเลยแม้แต่น้อย มีแค่อุราอุเมะที่หันมาพูดกับหล่อนว่าบางทีสุคุนะอาจจะเขิน
ใช่ที่ไหนกัน….
เด็กสาวเข่นเขี้ยวก่อนจะโปรยไสยเวทออกไปทั่วพื้น ให้คล้ายกับอากาศนอกบ้านในตอนนี้
สุคุนะบอกว่าหิมะมันเกะกะเลยทำให้ไม่มีเสียจะได้จบเรื่อง แต่มาลำบากซากิที่ต้องโปรยมันให้แนบเนียนโดยไม่ให้อาจารย์ของหล่อนสงสัย โชคดีที่วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ได้เรียนหล่อนเลยมิต้องป้องกันอะไรมากนัก
“ท่านเจ้าสาว….”
“ไม่ต้องทำความสะอาดนะอุราอุเมะ”
“ขอรับ” อุราอุเมะโค้งหัวก่อนจะเดินกลับเข้าไปด้านใน เด็กสาวส่ายหน้ายิ้มๆก่อนจะหันไปมองทิวทัศน์ด้านนอกด้วยดวงตาเป็นประกาย
“เจ้าอยากออกไปข้างนอกหรือ?”
“ข้าอยากได้กิโมโนตัวใหม่เจ้าค่ะ”
“จากพวกคนที่ข้ากินไง”
ซากิขมวดคิ้วก่อนจะก้มมองราชาคำสาปที่กอดอกมองหล่อนอย่างไม่เข้าใจว่าหล่อนจะอยากได้ของใหม่ไปทำไมกัน
“ท่านฉีกมันจนไม่เหลือชิ้นดีแถมบางอันมีเลือดของพวกเขาติดอีกต่างหากมันซักยากเจ้าค่ะ ข้าทำใจไม่ได้”
“เจ้าเป็นเมียราชาคำสาป เจ้าคาดหวังว่าข้าจะพาเจ้าไปซื้อในที่ที่มีมนุษย์เรอะ”
“ข้าอยากได้สีแดงเจ้าค่ะ”
“เรื่องมาก” สุคุนะบ่นก่อนจะโยนกิโมโนสีขาวที่ถือออกไปไกล ท่ามกลางสายตาตกใจของพนักงานในร้าน
ซากิหัวเราะเบาๆก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นกิโมโนสีขาว ลวดลายดอกพลับพลึงแมงมุมสีแดงสดตั้งอยู่กลางร้าน
นัยน์ตาสีฟ้าจ้องมันนานจนสุคุนะในร่างมนุษย์เอ่ยให้เจ้าของร้านขายมันเสีย
กิโมโนลวดลายแปลกตาและหลากสีก็ได้มาอยู่บนตัวเด็กสาวในเวลาต่อมาและกลายเป็นสัญลักษณ์ของเด็กสาวไปเสียแล้ว
“กำจัดเรียวเมน สุคุนะเสีย”
หญิงสาวเงยหน้ามองผู้นำตระกูลโกะโจ เซนอิงและคาโมที่เอ่ยประโยคนี้กับหล่อนมาสามครั้งแล้ว
“ข้าปฏิเสธเจ้าค่ะ” ซากิเอ่ยก่อนจะนั่งมองผู้นำตระกูลเซนอิงเริ่มพูดจาหว่านล้อม แต่มิค่อยจะได้ผลกับหล่อนที่เป็นสตรีเสียเท่าไหร่
“หากเจ้าปัดเป่ามันได้ ข้าจะให้เจ้าแต่งงานกับบุตรชายในตระกูลเซนอิง แต่งงานกับพวกไร้ไสยเวทก็คงมิแย่หรอกหนา , กับนางแพศยาเช่นเจ้าที่ทอดกายให้ราชาคำสาปน่ะ”
ฉับพลันอากาศในห้องก็เย็นยะเยือกขึ้นมา ซากิยกมือห้ามอุราอุเมะก่อนจะจ้องผู้นำตระกูลทั้งสามด้วยสายตารังเกียจและเหยียดหยาม
“ตระกูลทั้งสามตกต่ำถึงขนาดที่ต้องมาขอนางแพศยาเช่นข้าเลยหรือ? , หรือมีเพียงเซนอิงที่ตกต่ำอยากได้สตรีถึงมาระริกระรี้ขอข้าที่มีสามีอยู่แล้วน่ะ”
“แก!! อย่าคิกว่าควบคุมราชาคำสาปได้แล้วจะจองหองกับพวกข้าได้ เป็นเพียงสตรีก็จงเจียมตัวดั่งสตรีเสีย!”
ซากิถอนหายใจก่อนจะแย้มยิ้มอย่างอ่อนหวาน บรรยากาศในห้องล้วนครุกกรุ่นไปด้วยโทสะไม่เว้นแม้แต่หญิงสาวเพียงคนเดียวในห้อง
“สตรีแล้วเป็นเช่นไร? ท่านมิได้เกิดมาจากสตรีหรือกระไรถึงได้ดูถูกพวกข้าเช่นนี้ พวกท่านนั้นจิตใจสกปรกยิ่งกว่าสามีข้าที่เป็นราชาคำสาปเสียอีก”
“!!!”
“ข้าขอยืนยันว่าข้าจะมิเข่นฆ่าสามีของข้าเจ้าค่ะ หมดธุระกงการของข้าแล้วข้าขอตัวเจ้าค่ะ”
หญิงสาวเอ่ยก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจาห้องไปอย่างสง่างาม ก่อนจะยิ้มแย้มอย่างพอใจเมื่อได้ยินเสียงโครมครามและเสียงก่นด่าของพวกเขาลอยมา
“จะดีหรือขอรับ”
“ดีแล้ว” หล่อนเอ่ยตอบคำสาปข้างกายก่อนจะส่ายหน้าเมื่อได้ยินคำถามของอุราอุเมะ
“ให้ข้าตัดลิ้นพวกมันไหมขอรับ ท่านสุคุนะเองก็สั่งมาว่าหากใครพูดไม่ดีกับท่านก็ตัดลิ้นมันเสีย”
เลิกบ้ากันก่อนเถิด ทั้งสุคุนะทั้งอุราอุเมะเลย
สงคราม เริ่มแล้ว
หญิงสาวยืนอยู่ท่ามกลางซากศพ ชุดกิโมโนลายดอกพลับพลึงแมงมุมยังคงสวยงามดังทุกครั้งไม่มีแม้แต่รอยเลือดหรือรอยเปื้อนแม้แต่น้อย
ด้านข้างมีชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ มีสี่แขนสองหน้ากำลังแสยะยิ้มเหี้ยมเกรียมใส่ผู้ใช้คุณไสยจากตระกูลเซนอิงอยู่
“อย่าฆ่าเขา” ซากิเอ่ยก่อนจะแตะแขนของราชาคำสาปแผ่วเบา ชายหนุ่มคนนั้นโค้งหัวขอบคุณก่นจะวิ่งหนีไป
“แม่หนู ความเป็นมนุษย์ของเจ้ากำลังทำข้าเสียแผน”
ซากิไม่ได้เอ่ยอะไรกลับไปก่อนจะหันหน้าหนีอย่างไม่อยากต่อล้อต่อเถียง
ช่วงนี้หล่อนหงุดหงิดง่ายเกินไป ไม่เข้าใจตัวเองแม้แต่น้อย
สงสัยต้องให้น้องชายตรวจแล้วกระมัง….
“ท่านพี่”
ซากิยิ้มรับเมื่อน้องชายของตนเดินเข้ามาหาในบ้านอย่างเกรงกลัว
ผู้ใช้คุณไสยเหตุใดจะมิกลัวรังของราชาคำสาปเล่า
“ขอโทษที่ต้องให้สุคุนะลากมาที่นี่กลางดึกนะซาโตรุ”
“มิเป็นไร มันบอกท่านพี่ไม่สบายข้าเลยมิได้ว่าอะไรมากนัก” ซากิยิ้มเมื่อน้องชายของตนเริ่มไถ่ถามอาการทั้งหมด โดยมีอุราอุเมะยืนอยู่ห่างๆ
ซาโตรุเป็นน้องชายต่างแม่ของซากิเขารักหล่อนเหมือนพี่สาวแท้ๆ ส่วนน้องชายสายเลือดเดียวกันอย่างฮารุโตะนั้นออกไปปฏิบัติภารกิจอยู่
ซาโตรุเองก็มีริคุกันเช่นเดียวกัน ทำให้พวกคนในบ้านไม่ได้ผลักไล่ไสส่งเด็กหนุ่มเช่นเดียวกับหล่อนที่เป็นสตรี
นับว่าเป็นเรื่องที่ดีกับน้องชายของตน
“ท่านพี่ ข้าจะปรับเปลี่ยนโลกของผู้ใช้คุณไสยให้ได้”
“เอาไว้อีกสักพันปีไหม”
“โถ่ท่านพี่” หญิงสาวหัวเราะเบาๆก่อนจะจับมือน้องชายที่อยากจะออดอ้อนหล่อนดังเช่นครั้งที่เรายังเป็นเด็ก
“เริ่มจากลูกชายเจ้า แล้วลูกหลานเจ้าจะสานต่อเจตนารมณ์นั้นก่อนที่เจ้าจะกลับมาอีกครั้ง”
“เข้าใจแล้ว ท่านเองก็ดูแลร่างกายตนเองให้ดีท่านมิได้ตัวคนเดียวแล้วหนา” ซากิพยักหน้ารับก่อนจะโบกมือลาน้องชายที่มีอุราอุเมะออกไปส่ง
มิได้ตัวคนเดียวหรือ….นั่นสินะ
“หากข้าตายจงดูแลเขาด้วย”
“ขอรับ” อุราอุเมะโค้งหัวเมื่อหญิงสาวเอ่ยขึ้นท่ามกลางสงคราม ท้องฟ้าสีแดงฉาน บ้านเรือนพังทลาย เสียงกรีดร้องดังก้องไปทั่ว
ซากิจ้องมองรอบตัวที่มีแต่เสียงกรีดร้องก่อนที่ร่างกายของหล่อนจะกลายเป็นเกล็ดหิมะและพุ่งตรงไปหาราชาคำสาปที่ตอนนี้กำลังเสียท่าอย่างมาก
ช่วย ขอแค่ช่วยเขา
สุคุนะเบิกตากว้างเมื่อเกล็ดหิมะพุ่งเข้ามาขวางไม่ให้เขาถูกลูกธนูอาบไสยเวทนั้น
ไม่นานเกล็ดหิมะก็กลายเป็นหญิงสาวในชุดกิโมโนสีขาว ที่ตอนนี้หลังของหล่อนเต็มไปด้วยลูกธนูชุดสีขาวเต็มไปด้วยเลือด ลายพลับพลึงแมงมุมกลืนไปกับเลือดจนดูไม่ออกว่าเป็นลายอะไรมาก่อน
“ซากิ!”
“ไม่ว่าจะอีกกี่ร้อยกี่พันปีข้าจะเป็นของท่าน ของภาชนะของท่านเจ้าค่ะเช่นนั้นแล้วอย่าได้แค้นเคืองมนุษย์เลย พวกเขาเพียงแค่หวาดกลัว”
“ได้โปรด หากข้าไม่ได้ใช้นามสกุลโกะโจอีกได้โปรดรักข้าได้หรือไม่ อย่าได้รังเกียจข้าอีกเลย”
หญิงสาวพึมพำในอ้อมกอดของราชาคำสาปด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง มือเรียวยกขึ้นลูบใบหน้าของเขาอย่างคะนึงหาก่อนจะจับมือของเขามานาบกับท้องของหล่อนอย่างแผ่วเบา
“อย่ารักษาข้า จงรักษาเด็กคนนี้จงเลี้ยงดูเขา”
“ข้าสัญญากับท่าน...ไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะมิมีวันลืม ข้าจะไม่ลืมท่านในวันที่ท่านลืมตาตื่น”
“แม่หนู หากใจสิ้นใจตอนนี้ข้าจะเลี้ยงดูมนุษย์ได้อย่างไร” สุคุนะพึมพำ ก่อนจะมองใบหน้าของผู้ใช้คุณไสยที่ต่างดีใจที่หญิงสาวผู้เป็นที่รักของเรียวเมน สุคุนะกำลังจะสิ้นใจ
พวกมันมิใช่มนุษย์อีกแล้ว พวกมันล้วนเลวยิ่งกว่าเขาที่เป็นถึงราชาคำสาปเสียอีก
“ข้าขอสาปแช่งเจ้าซากิ เจ้าจะเป็นของข้าและภาชนะตลอดไปมิมีสิ่งใดมาพรากเจ้าไปจากข้าได้อีกและจงจดจำทุกช่วงเวลาที่เจ้าได้ประสบพบเจอ จงจดจำอดีต ปัจจุบันและอนาคตที่มีข้าและเจ้า”
หญิงสาวยิ้มก่อนเสียงหวานจะเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา และหายไปพร้อมกับลมหายใจของนาง
“ข้าเอง ก็สาปแช่งให้ท่านมิอาจเทิดทูนให้ใครเป็นยอดดวงใจได้อีกนอกจากข้า…..เจ้าสาวสีชาดมีแค่ข้าก็พอแล้ว”
วันนั้นเรียวเมน สุคุนะถูกผนึกจากสามตระกูลใหญ่พร้อมการจากไปของเจ้าสาวสีชาดคนสุดท้าย และการล้างบางผู้ใช้คุณไสยบริเวณรอบทั้งหมดมำให้ผู้ใช้คุณไสยลดลงจนน่าใจหาย
โกะโจ ฮารุโตะแยกตัวออกจาตระกูลหลักตั้งตระกูลยูกิโนะขึ้นมาใหม่ตั้งให้โกะโจ ซากิเป็นต้นตระกูล
รับเลี้ยงบุตรสาวของราชาคำสาปเอาไว้อย่างลับๆด้วยความช่วยเหลือจากโกะโจ ซาโตรุ
อุราอุเมะหายตัวไปหลังจากบุตรสาวของนายเหนือหัวจากไปดั่งมนุษย์ปกติ
เจ้าสาวสีชาดหายไปจากความทรงจำของทุกคน
หนึ่งพันปีต่อมา
สุคุนะแสยะยิ้มเมื่อตนเองมองเห็นแสงจันทร์อีกครั้ง ครานี้ถึงเวลาที่เขาจะได้ตามหายอดดวงใจของตนหลังจากรอมานับพันปี
“นี่แหละความรู้สึกของการมากายเนื้อ!! ไหนเด็ก ไหนผู้หญิง!!”
“ยูจิ…” เสียงพึมพำแผ่วเบาแต่คุ้นเคยทำให้ราชาคำสาปหันไปมองเด็กสาวที่คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นคนในตระกูลโกะโจ
“แม่หนู” ทันทีที่เด็กสาวเงยหน้าขึ้นทำให้สุคุนะรู้สึกเหมือนคราแรกที่ได้พบเจอกับยอดดวงใจของเขา
“เอายูจิคืนมานะ!”
“ใจเย็นก่อนแม่หนู หากเจ้าทำเช่นนี้เด็กนี่จะตายเอาหนา”
“ดีใจที่ได้พบเจ้าอีกครั้งซากิ”
“ไอ้หนูมาทำข้อตกลงกัน”
“หา?”
“แม่หนูนั่นจะเป็นของข้าและเจ้า ห้ามให้ใครมาครอบครองนางนอกจากเรา”
“ตกลง”
แม่หนูของข้า
พันปีที่หลับใหล พันปีที่เฝ้าคอยดอกพลับพลึงแมงมุมแสนรัก
จะมิปล่อยให้หลุดมืออีกแล้วหนา
END
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 28
Comments