๑๖.เจ้าสาวสีชาด
ซากิเหวี่ยงเคียวของตนไปทางอคคตสึก่อนมือสีซีดจะปามีดสั้นที่ทำจากไสยเวทของตนไปทางเข้าด้วย
“กะเอาตายเลยหรอครับ” อคคตสึเอ่ยถามขณะวิ่งหลบเด็กสาวที่พุ่งเข้ามาฟันเขาอย่างไม่ลดละ
นับถือพละกำลังเลยจริง ๆ ใครจะไปคิดว่าเด็กสาวที่ทดสอบร่างกายได้คะแนนต่ำจนน่าเป็นห่วงจะมีแรงมาฟาดหัวเขาได้เร็วขนาดนี้ล่ะ
“ฉันไม่ได้กะเอาตายสักหน่อยค่ะ”
ซากิเอ่ยก่อนจะกระโดดหลบอคคตสึที่ฟาดกระบองลงมา นึกหวาดเสียวในใจถ้าหากหล่อนไม่หลบล่ะก็
ป่านนี้หล่อนสลบบนพื้นไปนานแล้วล่ะ
“รุ่นพี่ต่างหากที่จะฆ่าฉันเนี่ย” เด็กสาวค่อนขอดก่อนจะเหวี่ยงโซ่ไปทางเสาของอาคารก่อนตัวหล่อนจะพุ่งไปตามสายโซ่นั่น
“ฉันออกจากวงแล้ว เกมจบค่ะ”
“อย่ามาขี้เกียจนะซากิ !” มากิตะโกนขณะละสายตามาดูเด็กสาวฝึก ก่อนจะถอนหายใจเมื่อเห็นว่ามือที่ควรจะเป็นสีซีดของซากิ บัดนี้กลับแดงจนคล้ายหิมะกัดอีกแล้ว
“ไม่ไหวอีกแแล้วหรอ”
ซากิพยักหน้าก่อนจะโค้งหัวเป็นเชิงขอโทษให้แก่รุ่นพี่อคคตสึ เขาส่ายหน้ายิ้ม ๆ ก่อนจะเดินมาดูอาการของหล่อนบ้าง
“แสบมากไหม ?”
“ค่ะ แต่ทนได้อีกสักพักก็น่าจะหายแล้ว” หล่อนตอบก่อนจะสวมปลอกแขนทับ ตัดสินใจนั่งลงที่บันไดก่อนจะมองเพื่อนและรุ่นพี่ของหล่อนที่ฝึกกัน…
“อ๊ากกกกกกกกก”
“กรี๊ดดดดดดดดด”
“ปลาโอแห้ง !”
“อย่าหนีนะอินุมากิ !”
อย่างเอาเป็นเอาตาย….
ซากิทำหน้าว่างเปล่าเมื่อได้ยินเสียงโหยหวนนั้นก่อนจะเปิดขวดชาเขียวขึ้นมาดื่ม
“ซากิพอรู้เรื่องครรภ์คำสาปไหม” อคคตสึเอ่ยถามขณะที่สายตาก็มองไปที่เพื่อนของตนที่ช่วยรุ่นน้องฝึก
ซากิพยักหน้าก่อนจะลดขวดน้ำลงถือไว้ก่อนจะหันไปมองเขาอย่างสงสัย
“ค่ะ เธอคนนั้นน่าสงสารตั้งท้องเก้าครั้ง เด็ก ๆ ทั้งหมดล้วนกลายเป็นคำสาปและไม่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์”
“เธอรู้จักเขาหรอ” ซากิแสดงสีหน้าลำบากใจก่อนจะเอ่ยไปตามตรง
ข้อมูลหล่อนมีมากเกินกว่าจะเรียงมันออกมา แต่สามารถบอกพวกเขาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ฉันสามารถบอกได้ไม่มากไม่น้อยไปกว่าที่พี่รู้เพราะครรภ์คำสาปเกิดหลังจากฉันคนก่อนตายไปนานมากเพิ่งจะเกิดมาเมื่อร้อยห้าสิบปีนี้เอง” ซากิเอ่ยก่อนจะหมุนขวดน้ำไปพลาง หล่อนถอนหายใจก่อนจะหันไปมองอคคตสึด้วยสีหน้าว่างเปล่า
“ฉันในตอนนี้ก็อยู่ไม่ถึง ฉันในชาติก่อนก็ตายไปก่อนหลายร้อยปีแล้วค่ะตายในวันเดียวกับที่สุคุนะถูกผนึก”
“ถ้าอย่างนั้น...เจ้าสาวของคำสาปล่ะครับ ?” หล่อนชะงักก่อนจะยิ้มให้อคคตสึอย่างใจดี เด็กคนนี้ต้องรู้อะไรมาบ้างไม่มากก็น้อยล่ะ
“พี่รู้มากนะคะพี่อคคตสึ”
“ม ไม่หรอกครับ...ผมแค่ได้ยินพวกเบื้องบนพูดกันตอนประชุมครั้งนั้น….” ครั้งที่หล่อนไปโวยวายใส่พวกเบื้องบนสินะ
เด็กสาวพยักหน้าก่อนจะเอ่ยตอบอีกฝ่ายตามข้อมูลที่รู้ไปให้
“พวกพี่อาจจะเรียกว่าเจ้าสาวคำสาป แต่เมื่อพันปีก่อนจะเรียกกันว่าเจ้าสาวสีชาด”
“เจ้าสาวสีชาดหรอครับ ?”
“ค่ะ เพราะทุกครั้งที่เจ้าสาวเดินไปที่ไหน ทุกที่ที่เท้าของเธอเหยียบย่างมักมีรอยเลือด มีซากศพตลอด”
“ฟังดูน่ากลัวนะ” มากิที่ซ้อมเสร็จแล้วมายืนฟังอยู่ข้างซากิ เด็กสาวพยักหน้านัยน์ตาสีฟ้าส่อประกายเศร้าสร้อยมาชั่ววูบก่อนจะหายไปก่อนใครจะสังเกตุ
“เพราะว่าเจ้าสาวสีชาดจะถูกสังเวยให้คำสาป เพื่อสะกดมันเธอจะใช้คำสาปจัดการคำสาปด้วยกันเองแต่แลกมาด้วยการที่หล่อนจะจดจำทุกอย่าง รับรู้อดีต ปัจจุบัน อนาคตของตนเอง”
“แปลว่าคนนั้นจะเห็นว่าตัวเองตายยังไงหรอ”
ซากิพยักหน้ารับเมื่อโนบาระเอ่ยถาม ดูท่าว่าทุกคนจะสนใจเรื่องเล่านี้มากกว่าฝึกซ้อมแล้วกระมัง
เจ้าสาวสีชาด ไม่ใช่คำที่เอ่ยออกมาเพื่อบอกว่าเธอคนนั้นเป็นตัวซวยที่จะทำให้คนอื่นตายแต่เป็นชุดเจ้าสาวของหล่อนชุ่มไปด้วยสีแดงเลือดของตนเองในวันแต่งงาน
เจ้าสาวสีชาดมักตายในวันแต่งงานเพราะคำสาปไม่ยอมรับ ทุกคนจึงเรียกว่าการสังเวยเพื่อคำสาป
มีเพียงคนเดียวที่มีชีวิตรอดในงานแต่ง แต่สุดท้ายก็ต้องตายในอ้อมกอดของคำสาปอยู่ดี
หล่อนในชาติก่อนนั่นแหละ แถมตายคาอ้อมกอดสุคุนะเลยด้วยซ้ำ
“แล้วแก้ไม่ได้หรอ”
“แก้ได้ค่ะ แต่ก็ฝันแบบเดิมอยู่ดีแค่เปลี่ยนการตาย”
ซากิโคลงหัวอย่างไม่ใส่ใจ คราวก่อนถ้าหล่อนไม่โดนโกะโจพาไปทำภารกิจข้างนอกล่ะก็หล่อนได้ตายพร้อมยูจิไปแล้ววันนั้น
คราวนี้ก็ฝันอีกครั้ง รอบนี้น่ากลัวจนหล่อนไม่รู้จะแก้ไขได้หรือไม่
“แย่เป็นบ้า ส่วนใหญ่เขาฝันว่าตัวเองตายยังไงหรอ” โนบาระเอ่ยก่อนจะนั่งข้างซากิ เด็กสาวทำท่านึกก่อนจะเอ่ยตอบไปด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“ตายในอ้อมกอดของคำสาปแล้วก็เสียงหัวเราะน่ะ ขนาดคนที่มีชีวิตรอดก็ตายในอ้อมกอดพร้อมเสียงกรีดร้องของราชาคำสาป”
“หา ?”
“ทำไมเธอถึงรู้ล่ะ” เมงุมิเอ่ยขณะที่เด็กสาวกำลังจิบชาเขียวอยู่ ซากิเลิกคิ้วอย่างสงสัยเพราะคิดว่าพวกเขารู้อยู่แล้วเสียอีก
“ก็…”
“ซากิในชาติก่อนไง” สุคุนะโผล่ขึ้นมาที่แก้มของยูจิก่อนจะแสยะยิ้มออกมา ชวนขนลุกเป็นที่สุด
“อะไรนะ ! / สาหร่าย !”
ซากิยกมือปิดหูเมื่อทุกคนตะโกนออกมาอย่างตกใจ เด็กสาวลดมือลงก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ก็ฉันคิดว่าทุกคนน่าจะเดาได้นี่คะ ฉันเล่าละเอียดแล้วนะ”
“เหอะ พวกเด็กนี่มันโง่”
เพี้ยะ !!
“ขอโทษครับ”
มากิโบกมืออย่างไม่ใส่ใจขณะที่คนอื่นก็ดูไม่ใส่ใจกับคำพูดของราชาคำสาปเท่าไหร่เช่นกัน
“เอ้ะ แต่หมายความว่าซากิเป็นเจ้าสาวของสุคุนะงั้นหรอ”
“ค่ะ เป็นคนสุดท้ายล่ะ” ซากิเอ่ยตอบโนบาระขณะที่เด็กสาวผมส้มหันไปมองหน้ามากิเหมือนจะสื่อสารอะไรสักอย่างก่อนทั้งสองจะตัดสินใจแบกเด็กสาวผมสีดำประกายม่วงลากออกมาห่าง ๆ พวกผู้ชาย
“ต่อไปนี้ห้ามยูจิแตะตัวซากิ ห้ามเข้าใกล้ในระยะสองเมตร”
“หา ? แต่นั่นแฟนฉันนะ”
“ไม่สน อย่ามาแตะลูกฉัน !”
“รุ่นพี่อย่าเป็นแบบโนบาระเลยค่ะ…”
“ไม่ ฉันไม่ฟัง !”
“แบบฉันมันทำไมยะ ! แล้วไอ้กระโปรงนี้ไม่ให้ใส่แล้วล่อเสือลอตะเข้ !”
“แต่มันเป็นเครื่องแบบ…”
“เงียบไปเลยอคคตสึ ! ฉันจะเปลี่ยนเครื่องแบบลูก !!”
“แต่….อย่ามาถอดกระโปรงฉันตรงนี้นะคะ ! ยูจิช่วยด้วย !! เมงุมิมาลากโนบาระไปที !!”
“แพนด้าอย่ามาห้ามฉัน !! / อย่ามาแตะฉันนะไอ้หัวเม่น !!!”
ซากิวิ่งไปอยู่หลังยูจิ โผล่หน้าไปมองพวกโนบาระที่กำลังทำตัวแปลก ๆ อย่างระแวง
“ไม่เป็นไรนะซากิ ไปหาอะไรกินไหม”
“อื้อ รุ่นพีอคคตสึกับรุ่นพี่อินุมากิไปหาอะไรทานกันไหมคะ”
“ครับ / แซลม่อน”
“ซากิ อย่าไปกับพวกผู้ชาย ! อยากเห็นมัมหมีอกแตกตายรึไง”
อะไรคือมัมหมีนะ ?
“ว่าแต่อะไรคือมัมหมีหรอคะ” เด็กสาวเอ่ยถามขณะที่พวกหล่อนกำลังเลือกเครื่องดื่มกันอยู่ ยูจิส่ายหน้าขณะที่คนอื่นก็ส่ายหน้าเช่นกัน
“อาจจะเป็นคล้ายอาจารย์โกะโจรึเปล่าครับ ?” อคคตสึพยายามหาคำจำกัดความที่ดีให้แต่ดูเหมือนจะได้อะไรที่แย่มาแทนนั่นแหละ
“ประสาทน่ะหรอคะ..”
“อืม….คงงั้น”
โกะโจก็เหมาะกับคำว่าประสาทจริง ๆ นั่นแหละ
“ฮัดเช้ย !”
“สกปรกครับ”
“แหม โทษทีนานามิผมว่านะต้องมีคนคิดถึงผมแน่เลย”
“น่าจะด่ามากกว่าครับ”
“ใจร้ายยยย”
“นี่เกะโท”
“ว่าอย่างไรมาฮิโตะ ?”
“ทำไมเราต้องขอให้เธอมาเป็นพวกล่ะ จับมาบังคับให้สุคุนะทำสัญญาไม่ง่ายกว่าหรอ”
“ไม่ได้หรอก” เกะโทเอ่ยพร้อมรอยยิ้มนุ่มนวล มาฮิโตะยักไหล่ก่อนจะทอยลูกเต๋าไปที่กระดาน
“เจ้าสาวสีชาดยอมตายถ้าหากถูกบังคับ เหมือนเมื่อพันปีก่อนน่ะ”
“เมื่อพันปีก่อนหรอ ?”
เกะโทยิ้มก่อนจะทอยลูกเต๋าบ้าง การจะให้คำสาปเกิดใหม่อย่างมาฮิโตะอยู่นิ่งได้ก็ต้องเล่นเกมด้วยกันนั่นแหละ เขาเองก็ไม่ได้ลำบากกับการเลี้ยงเด็กหรอก
“ตามบันทึก บอกไว้ว่าเจ้าสาวยอมตายหากถูกบังคับให้ควบคุมคำสาปดังนั้นเมื่อพันปีก่อนเจ้าสาวคนสุดท้ายถึงยอมตายในอ้อมกอดของราชาคำสาป เพราะเธอถูกบังคับให้ฆ่าเขา”
“แล้วใครเป็นเจ้าสาวสีชาดตอนนี้ล่ะ”
ซากิยิ้มรับกับคำถามของโนบาระ เมงุมิถอนหายใจก่อนจะเอ่ยถามหล่อนอีกครั้ง
“เธอสินะ”
“พูดให้ถูกคือฉันเมื่อพันปีก่อนค่ะ” ซากิพยักหน้าก่อนจะหัวเราะเมื่อเห็นหน้าทุกคนว่าทำหน้าไม่อยากเชื่อทั้งนั้น
“นางเป็นคนสุดท้าย และจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป” สุคุนะเอ่ยก่อนจะหายไปเพื่อหลบมือของยูจิที่จะพุ่งมาตบแก้มตัวเองอีกครั้ง
เพี๊ยะ !
“โทษที”
ทุกคนส่ายหน้าอย่างไม่ใส่ใจ ชักจะชินกับการกระทำของราชาคำสาปเข้าไปทุกที
แต่ไอ้นิสัยชอบโผล่มาอธิบายแล้วหายไปเนี่ย มันน่าต่อยสักหมัดจริง ๆ
“เพราะอะไรทำไมถึงเป็นคนสุดท้ายนะ…”
ซากิชะงักกับคำพูดของเมงุมิก่อนจะเบิกตากว้างอย่างตกใจ
“เพราะเป็นที่รักหรอคะ” เด็กสาวเอ่ยก่อนจะทำหน้านิ่งเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะลั่นของสุคุนะ
“ฮ่า ๆๆ เจ้ายังฉลาดเช่นเมื่อพันปีก่อน”
ซากิกลอกตาก่อนจะโค้งหัวลารุ่นพี่และพวกโนบาระ หล่อนเดินออกจากลานกว้างเพื่อไปที่ห้องพัก
ตอนนี้หล่อนต้องการคำอธิบายจากคำสาปของตนมากกว่า
TBC.
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 28
Comments