๐๒.คำสาป
ในฝันซากิฝันเห็นเด็กสาวปริศนาที่หล่อนมองเห็นหน้าไม่ชัดกำลังหัวเราะอยู่กับใครสักคน ดูมีความสุขจนหล่อนอดยิ้มตามไม่ได้
พริบตาก็เปลี่ยนเป็นเสียงกรีดร้อง บ้านเรือนถูกเผาทำลายผู้คนต่างมองมาที่เด็กอย่างหวาดระแวงพร้อมกับที่ตัวเด็กสาวคนนั้นมองมือของตนแล้วกรีดร้องออกมาและทุกอย่างกลายเป็นสีขาว
ภาพตัดไปที่เด็กสาวคนเดิมตอนนี้กลายเป็นหญิงสาวไปแล้ว หล่อนกำลังนั่งซ่อมเสื้อผ้าอยู่ในห้องนั่งเล่นทรงญี่ปุ่นขนาดใหญ่ก่อนจะถูกใครสักคนกอดจากด้านหลัง หล่อนหัวเราะออกมาก่อนที่ภาพจะตัดไปอีกครั้ง กลายเป็นหญิงสาวยืนกอดอยู่กับชายหนุ่มคนหนึ่งท่ามกลางซากศพกองเป็นภูเขา
หญิงสาวคนนั้นถูกลูกธนูปักเต็มหลัง เลือดสีแดงเปื้อนฮาโอริสีขาวจนไม่เหลือเค้าความสวยงามอีก
ซากิอ้าปากค้างอย่างตกใจเมื่อสังเกตุเห็นว่าชายหนุ่มคนนั้นมีสองหน้า สี่แขน
สุคุนะ ? แล้วกำลังกอดกับใครกัน ?
พริบตาหญิงสาวปริศนาก็เงยหน้าขึ้นสบตากับซากิ ทำให้หล่อนกรีดร้องออกมาอย่างตกใจ
นั่นคือหล่อน ! คือยูกิโนะ ซากิกำลังยืนกอดกับคำสาปอย่างเรียวเมนสุคุนะ
“ไม่ว่าจะอีกกี่ร้อยกี่พันปีข้าจะเป็นของท่าน ของภาชนะของท่านเจ้าค่ะเช่นนั้นแล้วอย่าได้แค้นเคืองมนุษย์เลย พวกเขาเพียงแค่หวาดกลัว”
“ได้โปรด หากข้าไม่ได้ใช้นามสกุลโกะโจอีกได้โปรดรักข้าได้หรือไม่ อย่าได้รังเกียจข้าอีกเลย”
บัดซบสิ ! ความหวาดกลัวไม่สามารถทำให้ใครก็ตามไปฆ่าคนอื่นได้อย่ามีอิสระหรอกนะ !
แล้วนั่นมันอะไร หล่อนขอความรักจากคำสาปหรอ ?!
หล่อนเสียสติไปแล้วล่ะ
ซากิส่ายหน้าก่อนที่ภาพจะตัดไปอีกครั้ง กลายเป็นหล่อนยืนอยู่ตรงหน้าหญิงสาวที่หน้าคล้ายกับหล่อน ท่ามกลางสวนซากุระ
“ถ้าข้าเสียสติเจ้าก็ไม่ต่างกัน”
“พูดกับฉันหรอคะ ?” ซากิชี้นิ้วมาที่ตนเองอย่างสงสัยก่อนจะได้รับเป็นรอยยิ้มบางกลับมา ซากิถอนหายใจก่อนจะกอดอกจ้องหญิงสาวอย่างไม่เข้าใจ
“ทำไมต้องให้ฉันรู้ด้วยคะ”
“เพราะเจ้าครอบครองคำสาปเช่นเดียวกับข้าและหน้าที่ของเราคือการเป็นคู่ชีวิตให้ราชาคำสาป”
“คำสาป ? หมายถึงน้ำแข็งนั่นหรอคะ”
หญิงสาวหัวเราะก่อนจะยิ้มแย้มให้ซากิอีกครั้ง
“ไม่หรอกนั่นไสยเวท แต่คำสาปของเราจะตื่นเมื่อภาชนะของสุคุนะได้กลืนนิ้วของสุคุนะ”
หญิงสาวเอ่ยก่อนจะแบมือมาตรงหน้าตนทันใดนั้นก็ปรากฎเกล็ดหิมะหมนุวนอยู่บนฝ่ามือสีซีดนั่น
“เพราะข้าผูกติดกับสุคุนะ คำสาปของเราจึงจะปรากฎต่อเมื่อสุคุนะมีชีวิตอีกครั้ง”
“แล้วเกี่ยวอะไรกับฉันคะ คุณจะยึดร่างของฉันไปหรอ”
หญิงสาวส่ายหน้ากับคำถามทันใดนั้นร่างของหญิงสาวค่อยๆสลายไปเป็นหิมะพร้อมกับสติของซากิที่กำลังจะหายไป มีเพียงเสียงกระซิบที่ไม่อาจทำให้ซากิเข้าใจอะไรได้เลย
“ข้าและเจ้าคือหนึ่งเดียวกัน เจ้ามีสิ่งที่ข้าไม่มีเพราะเช่นนั้นเจ้าจึงเหมาะสมที่จะเป็นเจ้าของพวกเขา”
ซากิลืมตาขึ้นมาอย่างง่วงงุน ดวงตาสีฟ้าสำรวจรอบตัวอย่างสงสัย
นี่หล่อน...ถูกล่ามโซ่ติดกับผนังท่ามกลางห้องที่มีแต่น้ำแข็งและหิมะหรอ ?
เดี๋ยวก่อนแล้วทำไมถึงไม่รู้สึกหนาวกันล่ะ ?
“รู้สึกตัวแล้วหรอครับ” เสียงของโกะโจดังขึ้นทำให้ซากิมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามหล่อน
“ค่ะ ทำไมถึงพาฉันมาห้องนี้กันคะ”
“นี่เป็นพลังของคุณต่างหากครับ ไม่รู้ตัวเลยหรอ ?”
โกะโจสังเกตุเด็กสาวที่กำลังส่ายหน้าก่อนจะเลิกคิ้วอย่างสงสัย
แปลก พลังไสยเวทหรือพลังคำสาปไม่น่าจะตื่นช้าแบบเด็กคนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกัน
“ยูจิอยู่ที่ไหนคะ เขาปลอดภัยไหม”
“ตอนนี้ก็ปลอดภัยนะ”
“ตอนนี้ ?”
“ครับ” โกะโจพยักหน้าก่อนจะขยับตัวมานั่งจ้องเด็กสาวผ่านผ้าปิดตา
เด็กสาวไม่มีริคุกัน แต่ทำไมถึงมีสีดวงตาคล้ายเขาต่อให้เป็นญาติห่างๆก็ไม่น่าจะมีดวงตาสีนี้ได้ ขนาดอคคตสึ ยูตะยังมีดวงตาสีถ่านด้วยซ้ำ
“เบื้องบนมีคำสั่งให้ประหารอิทาโดริ ยูจิแต่ผมไปต่อรองมาครับยูจิจะมีชีวิตจนกว่าจะรวบรวมนิ้วของสุคุนะครบ”
“........”
“และคุณเองยูกิโนะ ซากิ เจ้าของไสยเวทยูกิฮิเมะคุณเองก็จะถูกประหารครับแต่ผมก็ไปขอร้องมาเหมือนกันล่ะ”
“อย่างคุณน่าจะข่มขู่มากกว่าค่ะ”
“ครับ…”
“แล้วขอร้องว่าอะไรคะ” เด็กสาวเอ่ยถามก่อนโซ่ที่พันธนาการไว้จะกลายเป็นน้ำแข็งและแตกออก
ดูเหมือนหล่อนจะไม่ใส่ใจกับพลังของตนแม้แต่น้อย ซากิสนใจแค่ได้ใช้ชีวิตกับยูจิเพียงเท่านั้น
“ต้องเข้าเรียนโรงเรียนไสยเวทโดยอยู่ในความดูแลของผมครับ แน่นอนว่ายูจิเช่นกัน”
“ค่ะ แค่ยูจิมีชีวิตรอดก็ดีแล้ว” ซากิพยักหน้าก่อนจะทำหน้านิ่งเมื่อโกะโจเอ่ยประโยคถัดมา
“ไหนๆเราก็เป็นญาติกันแล้ว ลองเรียกผมว่าคุณอาซาโตรุหน่อยสิครับ”
“ไร้สาระค่ะ”
“ใจร้ายยยย”
ซากิมีไสยเวทและคำสาปอยู่กับตัว
หนึ่งคือไสยเวทอนันต์ เช่นเดียวกับตระกูลโกะโจทุกคนถึงซากิจะไม่อยากยอมรับ แต่หล่อนมีบรรพบุรุษมาจากตระกูลโกะโจจริง ๆ
สองคือไสยเวทเหมันต์ คำสาปนี้ทำให้หล่อนควบคุมหิมะและน้ำแข็งได้ตามความต้องการ
จะว่าไปวิธีการใช้ก็เหมือนตัวละครจากค่ายการ์ตูนค่ายหนึ่งเลยนี่หว่า
ส่วนเรื่องคำสาป นี่คือสิ่งที่หล่อนยังไม่ได้คำตอบว่าหล่อนมีคำสาปอะไรกันแน่
ซากิครุ่นคิดก่อนจะเดินตามโกะโจไปห้องอาจารย์ใหญ่พร้อมยูจิ
“แกไม่ใช่คนใหญ่ที่สุดหรอวะ ตำแหน่งของพวกแกไม่ได้วัดจากพลังเรอะ”
“.....” ซากิชะงักก่อนจะมองแก้มยูจิที่ปรากฎริมฝีปากของสุคุนะ
เพี๊ยะ !
“โทษทีมันชอบโผล่มาน่ะ”
“ไม่เป็นไร เป็นร่างกายที่น่าสนุกจังนะ” ซากิส่ายหน้าอย่างไม่อยากเชื่อกับคำพูดของโกะโจก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อสุคุนะเริ่มพูดอะไรบางอย่างที่เธอไม่เข้าใจ
“ไว้ข้าจะฆ่าเจ้าก่อนแล้วจะช่วยนางออกมาจากพวกโสโครกแบบเจ้า”
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ แค่อยู่กับยูจิก็พอ”
“เหอะ ! เมื่อพันปีก่อนเจ้าเป็นคนมาขอร้องข้าเองด้วยซ้ำตอนนี้มาปฏิเสธเรอะ”
“ฉันไม่ใช่คนคนนั้นหรอกค่ะ พันปีมาแล้วฉันจำอะไรไม่ได้หรอก”
“เหอะ”
หล่อนสิควรจะป็นคนร้องเหอะน่ะ คำสาปเฮงซวย !
“ทำไมถึงอยากเป็นจูจูสึ”
“ฉันแค่มาปกป้องยูจิค่ะ”
“แค่นั้นเรอะ”
“ค่ะ ฉันจะปกป้องคนสำคัญของฉันต่อให้พวกเขาปลอดภัยฉันก็จะปกป้องตลอดไป”
ซากิเอ่ยก่อนจะยกมือขึ้น พริบตาหุ่นเชิดตรงหน้าก็กลายเป็นน้ำแข็งและแตกสลายไปต่อหน้าต่อตาทุกคน
หล่อนไม่สนใจหน้าอาจารย์ใหญ่ที่ยกยิ้มอย่างพอใจกับพลังหรืออาจารย์โกะโจที่ตัวแข็งทื่อเพราะอะไรก็ไม่ทราบ
หล่อนไม่สน ขอแค่คนสำคัญของหล่อนรอดก็พอ
“ถ้าพวกเบื้องบนจะมาทำอะไรพวกเขาล่ะก็ ต่อให้ต้องฆ่าล้างโคตรพวกมันฉันก็ไม่กลัวค่ะ”
ซากิจับหน้ายูจิก่อนจะขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด
หล่อนทั้งเป็นห่วง ทั้งกังวลว่ายูจิจะเป็นอะไรไปหรือไม่
แต่หลังจากเห็นเด็กหนุ่มออกมาจากห้องอาจารย์ใหญ่ด้วยใบหน้าบวมตุ่ย ใบหน้าของเด็กสาวก็มืดครึ้มลงหลายส่วนจนโกะโจต้องเป็นคนเอ่ยห้ามไม่ให้เธอทำอะไรบุ่มบ่ามทั้งที่ปกติโกะโจน่ะตัวป่วนของแท้
“เดี๋ยวฉันทำแผลให้นะยูจิ”
“ขอบใจนะซากิ”
“ห้องของซากิอยู่ฝั่งหอพักหญิงนะครับ ตอนนี้มีสองห้องคือห้องของเธอกับรุ่นพี่ปีสองซึ่งขณะนี้ไปปฏิบัติภารกิจอยู่ครับแล้วก็ห้องของเธออยู่ก่อนถึงห้องในสุดนะครับ”
ซากิพยักหน้าค้อมหัวขอบคุณอาจารย์ก่อนจะบอกยูจิว่าเดี๋ยวหล่อนไปหาที่ห้องพักแล้วเดินไปที่ห้องของตนเองโดยไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยูจิที่ต้องฝึกอะไรเพิ่มเติมอีก
ปล่อยหล่อนนอนเถอะ
แต่จะว่าไปก็ยังไม่ได้ถามเรื่องคุณปู่วาสุเกะเลยนี่ ปกติยูจิไม่น่าจะมาไกลถึงโตเกียวได้ถ้าคุณปู่ยังไม่หายดี
หรือว่า…..
ซากิสะดุ้งตัวจากเตียงนอน หยิบฮาโอริมาสวมก่อนจะรีบวิ่งตรงไปที่ห้องพักของเพื่อนสนิททันที
ก๊อก ! ก็อก ! ก็อก !
แอ๊ด…
“ว่าไงซากิ มีอะไรหรอ” ยูจิเอ่ยถามก่อนจะขยับตัวให้หล่อนเข้ามาในห้องได้
เป็นปกติที่ซากิจะเข้าออกห้องยูจิได้ ก็พวกเขาโตมาด้วยกันนี่นะ
“ยูจิ อยากได้กอดไหม”
“หา ?”
“ฉันนึกได้ว่ายังไม่ได้ถามเรื่องคุณปู่ เพราะยูจิจะไม่ออกจากเซนไดถ้าคุณปู่ยังอยู่”
ซากิเอ่ยตามตรงก่อนจะอ้าแขนเป็นทำนองให้อีกฝ่ายมากอดหล่อนได้แล้ว
“มาเร็วยูจิ” หล่อนยิ้มบาง ๆ ขณะเพื่อนสนิทที่เดินมากอดเสียหล่อนจมอก ซากิเกยคางกับไหล่ของเด็กหนุ่มก่อนจะลูบหลังและหัวอีกฝ่ายไปด้วย
หล่อนแค่คิดว่ายูจิต้องการคนอยู่ด้วยเท่านั้น
“ขอบใจนะซากิ”
“ไม่เป็นไร”
เพราะไม่ว่ายังไงหล่อนก็จะปกป้องยูจิให้ได้ เขาไม่สมควรจะต้องโศกเศร้านานนัก
อิทาโดริ ยูจิเหมาะกับรอยยิ้มมากกว่า
ใครต้องการจะทำลายมันต่อให้หล่อนต้องฆ่าแล้วลากตัวมันขึ้นมาจากนรก ,หล่อนก็จะทำ
TBC.
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 28
Comments