บันทึกการเดินทางของผู้มาจากต่างแดน
“….ใคร นั้นใครกันหนา…..ก้าวเข้ามา ให้ข้าได้เห็น….มาสิ เดินตรงเข้ามา….ต้องอย่างนั้นสิ ทำดีมาก ดีมาก แด่ท่านผู้ได้เดินทางผ่านมาในยามวิกาล ท่านอาจหลงโปรดจงฟังให้ดี….เชิญเข้ามาพักข้างใน ดื่มน้ำใบชา ให้ใจ---”
แปะ แปะ แปะ
“นั้นใคร!!” เจ้าของเสียงผู้กำลังร้องเพลงด้วยเสียงต่ำมีเสน่ห์ อยู่ที่บ้านตรงตีนเขา เขาได้หยุดร้องเพลงและบรรเลงเพลงกับเปียโนหรูเมื่อได้ยินเสียงปรบมือที่ดังสนั่นจากหน้าประตู
เขาได้ส่งเสียงถามออกไป แต่ก็ไร้ซึ่งเสียงตอบกลับ มีเพียงเสียงฟ้าผ่าและแสงจากฟ้าแลบพร้อมกับเสียงฝนที่กำลังตกกระหน่ำอยู่ภายนอกจากท้องฟ้ายามค่ำคืน เขาจึงลุกจากเก้าอี้และค่อยๆเดินไปยังหน้าต่างที่มีผ้าม่านกำมะยี่สีแดงเข้ม เขาแง้มมันออกเล็กน้อย แล้วจึงมองออกไป
เขาเห็นชายหนุ่มผมสีบลอนด์ทองเนื้อตัวเปียกปอนยืนอยู่หน้าประตูบ้านของเขา ชายหนุ่มยืนก้มหน้าและถือกระเป๋าถือหนัง เขายืนนิ่งไม่ขยับ นิ่งราวกับรูปปั้น
เขาเห็นว่าอีกฝ่ายดูไม่น่ามีพิษภัยอะไรก็น่าจะเปิดไปดูได้ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ได้ไว้ใจคนแปลกหน้า เพราะในบ้านหลังนี้ บ้านแสนอบอุ่นของเขา เขาไม่ได้อยู่ที่นี้เพียงคนเดียว ยังมีภรรยาและลูกๆอีก 2 คนนอนอยู่ที่ชั้นบน คิดได้ดังนั้น เขาเดินไปหยิบกรอบรูปออกจากผนังบ้าน หลังกรอบรูปนั้นมีปืนพกLeMat 1869 centerfire-11mm กับกล่องบรรจุกระสุน เขาหยิบกระสุนออกมาใส่ ก่อนจะเอากรอบรูปแขวนไว้ดังเดิม
ชายเจ้าของบ้านผู้นี้เหน็บปืนเอาไว้ข้างหลังและเดินไปเปิดประตู ปึก!!! โครม!!!!! เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นอีกครั้งในจังหวะเดียวกันกับที่ชายเจ้าของบ้านเปิดประตูออก
“ไง ขอโทษที่มารบกวนยามดึก พอดีอย่างที่คุณเห็น ฝนมันตกตอนที่ผมกำลังเดินทางน่ะ แล้วก็เห็นแสงไฟเปิดอยู่สลัวๆเลยเดินมา” ชายหนุ่มผมทองเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพ เมื่อเห็นว่าชายวัยกลางคนตรงหน้าเปิดประตูให้
ชายวัยกลางคนตรงหน้าชายหนุ่มมีผมและนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้ม ผิวขาว สูงน่าจะ5ฟุต8นิ้ว ใส่เสื้อเชิ้ตและกางเกงขา3ส่วน
“อ่อ งั้นเรอะ งั้นเข้ามาก่อนสิ” ชายวัยกลางคนเจ้าของบ้านเอ่ยขึ้น หลังจากตรวจสอบคนตรงหน้าคร่าวๆ
เด็กหนุ่มผมบลอนด์ทองตรงหน้า มีนัยน์ตาสีฟ้าอ่อนส่องประกาย มีผิวสีขาวนวลเกือบซีด สูงราว6ฟุต1นิ้ว ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวโกธิคพังก์แบบเชือกผูก ใส่กางเกงขายาวสีดำ และสวมรองเท้าหนัง
“ขอบคุณครับ” เด็กหนุ่มตอบรับด้วยรอยยิ้ม และเดินตามชายเจ้าของบ้านเข้าไปนั่งตรงหน้าเตาพิงไฟ ก่อนจะนั่งเด็กหนุ่มมองสำรวจภายในตัวบ้านอย่างรวดเร็ว ขนาดบ้านไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ครอบครัวหนึ่งพอจะอยู่ด้วยกันได้โดยไม่ต้องแย่งทีี่ ของประดับตกแต่งในบ้านพอจะทำให้รู้ว่าครอบครัวนี้ฐานะค่อนข้างดี
“ไอหนุ่ม เธอเป็นใครล่ะ ทำไมมาอยู่แถวนี้”ชายวัยกลางคนเอ่ยถามด้วยความสงสัยเสียเต็มประดา คนอะไรมาเดินอยู่แถวตีนเขาดึกๆดื่นๆ
“งั้นขอแนะนำตัว ผมฟิลิปป์ คาร์เตวิลด้าร์ รับจ้างทำทุกอย่างครับ” ชายหนุ่มนามฟิลิปป์พูดแนะนำตัวด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับยื่นมือมาจับ ไม่รู้ว่าชายกลางคนคิดไปเองหรือไม่ ประโยคสุดท้ายที่ชายหนุ่มพูดสีนัยน์ตาของเขาเปลี่ยนกลายเป็นสีเหลืองอำพัน
ตอนนี้ชายวัยกลางคนพอจะเดาได้ บางทีเด็กหนุ่มตรงหน้าอาจกำลังเดินทางไปหางานรับจ้างที่ต่างๆก็เป็นได้ นั้นพอจะช่วยไขคำถามในใจของเขา
“ฉันแดน เซอร์นี่ ก็…อย่างที่เห็น ฉันเป็นนักเปียโน”ชายวัยกลางคนหรือแดนพูดพร้อมหันไปทางเปียโน และยื่นมือมาจับกับฟิลิปป์ แต่แดนก็สะดุ้งเล็กน้อยจากเล็บแหลมของเด็กหนุ่ม
“เธออยากพักที่นี้ก่อนมั้ยล่ะ แต่เธอนอนได้แค่บนโซฟานะ”แดนเอ่ยขึ้นอย่างคุณพ่อใจดี
“โว่ว ขอบคุณนะครับ ให้นอนพื้นผมก็ยินดี”ฟิลิปป์กล่าวตอบ แล้วชายต่างวัยทั้ง2ก็หัวเราะกัน แดนตอนนี้เริ่มคิดว่าเด็กหนุ่มนามฟิลิปป์อาจไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร
ตึก ตึก ตึก
“คุณพ่อฮะ อยู่กับใครหรอ” หลังจากเสียงหัวเราะสั้นๆได้จบลง พลันก็มีเสียงของเด็กชายตัวน้อยอายุไม่น่าจะเกิน6ขวบเดินลงบันไดมา
“โอ้ แดนนี่ พ่อทำลูกตื่นรึเปล่า” แดนพูดพร้อมเข้าไปอุ้มผู้เป็นลูกชายที่เดินลงบันได ที่ถือตุ๊กตาเท็ดดี้สีน้ำตาลลงมาด้วย ฟิลิปป์เองก็ชะโงกดูจากห้องรับแขก
“ลูกคุณเหมือนคุณย่อส่วนเลยนะ คุณเซอร์นี่” ฟิลิปป์พูดขึ้น เขาไม่ได้พูดขึ้นเกินจริงนัก ตัวของชายของแดน ,แดนนี่มีผมสีน้ำตาลเข้มและผิวขาว มีเพียงตาที่เป็นสีฟ้าเข้ม
“ฮะๆ ขอบใจ แต่เรียกฉันแดนเถอะ” แดนหันมาพูดในขณะที่ยังแดนนี่อย่างอารมณ์ดี ฟิลิปป์ก็รับคำ
“แดนนี่! แดนนี่! อย่าลงไปตอนที่พ่อซ้อมเพลงสิ” เสียงหวานใสของหญิงสาววัยแรกรุ่นผมบลอนด์เป็นลอนสวยงามที่ตัวเธอกำลังวิ่งลงมา
“ไม่เป็นไรเดฟนี่ย์” แดนหันไปตอบกลับ ขณะเดียวกันที่หญิงสาวนามเดฟนี่ย์ลงมาถึงชั้นล่างจะได้พูดอะไรต่อเมื่อเธอเห็นหนุ่มปริศนาที่หลังพ่อของเธอ
แดนที่เป็นปฏิกิริยาของลูกสาว เขาก็หันไปมองฟิลิปป์ เขาเห็นฟิลิปป์ยิ้ม เมื่อหันมาทางเดฟนี่ย์ เขาก็เห็นเดฟนี่ย์ยิ้มเช่นกัน แดนก็หันสลับไปมา ไม่เพียงแค่แดน แดนนี่เองก็ตามพ่อเช่นกัน จน2พ่อลูกก็หันมามองกันอย่างรู้ใจ
“เดฟนี่ย์นี่ฟิลิปป์ ฟิลิปป์นี่เดฟนี่ย์” แดนแนะนำทั้งคู่ให้รู้จักกัน
"" ไง "" ทั้งคู่พูดพร้อมกัน อย่างแอบอมยิ้มกันทั้งคู่ แดนกับแดนนี่ก็ถอนหายใจ
“อ่านี่ ลูกๆ คือฟิลิปป์เขาจะมาพักกับพวกเราสักคืนน่ะ ไม่มีปัญหานะ”แดนถามขึ้น ลูกทั้ง2ของเขาเองก็พยักหน้าเป็นเชิงว่าไม่มีปัญหาใด ๆ ฟิลิปป์ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มขึ้น ครอบครัวนี้ช่างเป็นคนดี
“ขอบคุณนะอีกครั้งนะครับ ถ้ามีอะไรอยากให้ช่วยก็บอกได้เลย ผมทำได้ทุกอย่าง”
“งั้นพี่ชายมีเรื่องเล่าสยองๆมั้ยฮะ” แดนนี่ได้เอ่ยขึ้นเมื่อแดนเขาร่างน้อย ๆ ของเขาลงบนโซฟา “เพราะคืนนี้ผมคงนอนไม่ค่อยหลับแล้วแหละ” เด็กน้อยพูดพลางยิ้มแห้งเมื่อหันไปนอกหน้าต่างที่มีฝนตกฟ้าร้องไม่หยุด ต่างจากตอนหัวค่ำที่มีเพียงแค่สายฝนตกลงมาเพียงปรอย ๆ
“ก็…พอจะมีอยู่นะ เป็นเรื่องที่พี่เจอมากับตัวเลยล่ะ” ฟิลิปป์ทำท่าครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบออกไป
“ว้าว เจ๋งอ่ะ มีเยอะมั้ย”แดนนี่ถามอย่างตื่นเต้น แดนและเดฟนี่ย์เองก็มานั่งหน้าเตาพิงไฟกันทุกคน ฟิลิปป์ก็มองทั้ง3และพยักหน้า
“อื้ม พี่มีหลายเรื่องเลยล่ะ งั้นเอาเรื่องเบาๆก่อน” ฟิลิปป์พูดพร้อมหลับตาและกระแอ่มเล็กน้อย ก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้น
...เรื่องราวเรื่องแรก….เรื่องสยองของราว์นิช...
.......
.......
.......
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments