แฟนสาวของผมเป็นคนต่างโลก

แฟนสาวของผมเป็นคนต่างโลก

คนที่เพิ่งจบใหม่กับเพื่อนที่ทำงาน

ชีวิตคนเราต่างมีขึ้นมีลงจะช้า หรือ เร็วขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและสถานการณ์ที่เป็นใจ สวัสดีผมชื่อ ซาคามิยะ ซาโตริ ผมเป็นอาจารย์แพทย์ลูกครึ่งญี่ปุ่นไทยที่เพิ่งเรียนจบแพทย์ในระดับปริญาตรีกรุงโตเกียวมา ความใฝ่ฝันของผมคือการเป็นหมอในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่มีเงินเดือนสูง ๆ แต่น่าเสียดายที่ช่วงนี้คนจบแพทย์เยอะมากทำให้มีการแข่งขันสูงขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าผมสอบไม่ได้และกำลังกลายเป็นคนว่างงาน

แต่โชคยังดีที่ทางนี้ยังพอมีเส้นสายทางญาติผู้ใหญ่อยู่บ้างผมจึงได้งานมาเป็นอาจารย์แพทย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ตอนแรกก็คิดว่านี่เป็นงานที่สบายที่นั่งรอรับเงินเดือนไปวันๆเท่านั้นแต่พอมองตรงไปที่ประตูทางเข้าแล้วก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา.....เฮ้อ

"ดูเหมือนว่าวันนี้จะมีนักศึกษามาใช้บริการเยอะเหมือนทุกครั้งนะครับศาสตราจารย์"ผมเบนสายตาหันไปมองผู้หญิงในชุดกาวน์สีขาวคนหนึ่งที่นั่งอยู่ภายในห้องด้วยใบหน้าหน่ายๆ

"เรื่องปกติของทุกวันไม่ใช่เหรอซาโตริคุง นายน่าจะคุ้นชินกับมันได้แล้วนะ"

หญิงสาวใส่แว่นตาสี่เหลี่ยมผมสีเงินออกม่วงอ่อนๆ ที่กำลังมัดผมหางม้าอยู่ข้างๆผมนั้นเธอ ชื่อคาร่า อายุ 24 ปี อายุของเธอก็ใกล้เคียงกับผม ส่วนสาเหตุที่เธอได้ชื่อว่าศาสตราจารย์นั้น เป็นเพราะว่าเธอเรียนจบปริญาเอกสาขาการแพทย์ได้ด้วยอายุเพียงเท่านี้ แม้แต่ผมที่เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ๆก็ยังอดแปลกใจไม่ได้เลยที่ได้ยินว่าคนระดับนี้มาเป็นอาจารย์แพทย์ IQ ต้องขนาดไหนถึงสอบข้ามชั้นเรียนจนจบปริญญาเอกได้เนี่ย

"อยากจะทำแบบนั้นอยู่ครับถ้าพวกที่มานั่นป่วยกันจริงๆ"

"จะมองโลกแง่ลบไปแล้วนะซาโตริคุง ถึงแม้ว่าพวกเขาอาจจะไม่ได้ป่วยทางกาย แต่ทางใจของพวกเขาเองก็อาจป่วย ดังนั้นไม่ว่านักเรียนจะมาด้วยเจตนาอะไรเราก็ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด"

"ครับ....."

"แล้วก็นะ การให้คำปรึกษาควบคู่กับการรักษาก็ถือว่าเราได้ช่วยพวกเขาให้ก้าวไปข้างหน้าได้ด้วย แบบนี้สิถึงจะเรียกว่าทำหน้าที่แพทย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ"

ผมพยักหน้าตอบกลับไป บางทีก็อดสงสัยไม่ได้ว่าคนที่คอยเป็นห่วงคนอื่นแบบนี้จะมาทำงานนี้ไปทำไมและถ้าจะเป็นห่วงขนาดนั้นทำไมไม่ไปสมัครเป็นจิตแพทย์ไปเลยล่ะ? อย่างน้อยจะได้ตรงกับสิ่งที่เธอต้องการด้วย ถ้าจะต้องทำงานหนักแต่เงินเดือนเท่าเดิมแบบนี้ผมก็ไม่แฮปปี้หรอกนะ

ระหว่างที่กำลังแอบบ่นในใจอยู่นั้น ประตูห้องก็ถูกเลื่อนเปิดออกอย่างกระทันหัน พร้อมกับนักศึกษาชายหญิงจำนวนหนึ่งที่เดินเข้ามาภายในห้อง ผมที่เห็นดังนั้นจึงรีบหยิบเสื้อกาวน์สีขาวมาสวมใส่พร้อมกับบอกตัวเองในใจว่า

'ได้เวลาทำงานแล้วสินะ'

ช่วงเวลาผ่านพ้นไปจนถึงเที่ยงวัน ผมกับคาร่า เดินตรงมาที่ร้านสะดวกซื้อของมหาวิทยาลัยเพื่อซื้อมื้อเที่ยงกลับไปทานเหมือนอย่างทุกครั้ง

ในระหว่างทางก็มีนักศึกษาชายหญิงจำนวนนับไม่ถ้วนต่างจ้องมองมายังพวกเราด้วยแววตาที่หลากหลาย แน่นอนว่าเป้าหมายจริงๆไม่ใช่ผม แต่เป็นคาร่าที่ยืนอยู่ข้างๆมากกว่า ด้วยอายุที่น้อยแต่ได้เป็นถึงศาสตราจารย์มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากเธอจะได้ความสนใจจากผู้คนจำนวนมากขนานนี้

"ใช่อาจารย์คนนั้นรึเปล่าที่เขาพูดถึงกัน?"

"ดูสิๆ เธอดูเหมือนรุ่นพี่มากกว่าจะเป็นด๊อกเตอร์นะ"

"คนจบด๊อกเตอร์มาปกติอายุปาเข้าไป30กว่าๆแล้วแต่ดูนี่สิเธอยังสาวอยู่เลยเนอะ อ่าาฉันอยากเป็นอัจฉริยะแบบเธอบ้างจัง"

นักศึกษาที่อยู่รอบๆต่างก็พากันซิบซุบถึงเธอตามลายทางที่เราเดินไปราวกับดาราที่กำลังเดินเล่นในพื้นที่สาธารณะเลย แต่นั้นถือเป็นเรื่องปกติไปซะแล้วเพราะบ่อยครั้งที่คาร่าจะถูกมองในฐานะไอดอลหรือเป็นบุคคลที่เป็นแรงบัลดาลใจให้กับนักศึกษาหลายๆคน บางครั้งก็มีนักศึกษาชายใจกล้าเข้ามาสารภาพรักกับเธอ

แต่คำตอบที่ได้กลับมาคือคำปฎิเสธพร้อมด้วยรอยยิ้มที่ถึงแม้จะถูกปฎิเสธก็ถือว่าคุ้มค่า และนั้นแหละที่เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมทุกวันนี้จึงมีแต่พวกป่วยการเมืองมาที่ห้องพยาบาลตลอด คิดดูแล้วมันช่างน่าหงุดหงิดชะมัดเลย หลังจากซื้อของจากร้านสะดวกซื้อเสร็จแล้ว ผมกับคาร่าก็กลับมาที่ห้องพยายาบาลและนั่งทานมื้อเที่ยงเหมือนอย่างเคย

"โดนซุบซิบเหมือนทุกครั้งเลยสินะครับศาสตราจารย์ไม่รู้สึกรำคาญบ้างเลยเหรอ?"ผมนั่งลงบนโต๊ะพร้อมกับมื้อเที่ยงที่อยู่ในมือ ขณะเดียวกันก็เอ่ยถามหญิงสาวที่นั่งอยู่ใกล้ๆออกไป

"อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนนี่นะ แล้วก็ถ้าถูกชื่นชมจนเอาไปเป็นแรงบัลดาลใจนั่นก็เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่เหรอ?"คาร่ากล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความปิติยินดี จากนั้นเธอจึงเริ่มทานแซนวิชที่อยู่ภายในมือของตน

"เหลือเชื่อเลยจริงๆ คุณเป็นผู้หญิงที่มองโลกในแง่ดีเกินไปแล้วนะ นี่ทำให้ผมเริ่มรู้สึกกังวลใจยังไงก็ไม่รู้"

"ซาโตริคุงเองก็มองโลกในแง่ลบตลอดเวลาเหมือนกัน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใบหน้าดูโทรมขนาดนี้"

"พอเลยครับที่ผมพูดมาก็เพราะ.....ผมเป็นห่วงคุณต่างหาก"

"งั้นเหรอ ดีใจที่ได้ยินแบบนั้นนะแต่ว่า…" เสียงของเธอขาดหายไปในช่วงสุดท้าย และก่อนที่ผมจะได้ทันตอบสนองอะไรก็พบว่าคาร่าได้ยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ผมซะแล้ว

"นายไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอก เพราะฉันรู้ดีว่าควรทำตัวยังไงในเวลาไหนดังนั้นเลิก คิดถึงเรื่องนี้ได้แล้วนะ"

"ครับ..."ถึงเจ้าตัวจะพูดแบบนั้น แต่ผมก็รู้สึกว่ามันไม่น่าเชื่อถือสักเท่าไหร่

"ทำหน้าแบบนั้นอีกแล้วนะซาโตริคุง....ถ้างั้นเอาแบบนี้ดีมั้ย? เย็นนี้ก่อนกลับบ้านฉันจะเลี้ยงเครื่องดื่มนายเอง"

"เอาจริงเหรอครับศาสตราจารย์แต่ว่า—"

ก่อนที่ผมจะได้พูดจบ คาร่าก็ค่อยๆยกนิ้วชี้เรียวงามของเธอขึ้นมาแนบกับริมฝีปากเล็กๆนั้น พอเห็นแบบนั้นสิ่งที่ผมต้องการที่จะพูดออกมาจึงติดอยู่ในลำคอของผมไปอย่างกระทันหัน

"จากนี้ไปให้เรียกฉันว่าคาร่าเฉยๆก็พอไม่ต้องมีคำว่าศาสตราจารย์หรอก และที่สำคัญเราเป็นเพื่อนร่วมงานกันมา4เดือนแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันจะได้เลี้ยงเครื่องดื่มเพื่อนร่วมงาน….."

".....คนของอีกโลกนึงด้วยสิ"

"หือ?"

ในช่วงประโยคสุดท้ายนั้น เสียงของคาร่านั้นเบามากๆจนผมไม่สามารถได้ยินสิ่งที่เธอพูดออกมาได้ ผมจึงต้องการที่จะเอ่ยถามว่าเธอพูดอะไรเมื่อสักครู่นี้ แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไร หัวข้อการสนทนาก็กลับเข้าที่เข้าทางอย่างรวดเร็ว

"อย่างที่บอกไปนั้นแหละซาโตริคุง ไม่อนุญาตให้ตอบปฎิเสธหรอกนะ"

"ครับๆในเมื่อขอมาขนาดนี้ผมคงไม่กล้าปฎิเสธหรอก ศาสตรา....คาร่า"

คาร่าส่งยิ้มให้ผมเป็นการตอบรับ เห็นได้ชัดเลยว่าเธอกำลังดีใจกับคำตอบผม แม้ว่ามันจะดูแปลกไปสักหน่อยที่อัจฉริยะผู้มีชื่อเสียงคนนี้กำลังเชิญคนธรรมดาๆทั่วไปอย่างผมไปเลี้ยงเครื่องดื่มหลังเลิกงาน แต่มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร อีกอย่างผมจะกล้าปฏิเสธได้ยังไงกันล่ะ?

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!