ณ คฤหาสน์
เด็กหญิงร่างอวบอิ่มวัยหกขวบวิ่งเข้าวิ่งออกชะเง้อมองทาง เพื่อยืนรอใครบางคน รอแล้วรอเล่าหน้าตาตื่นเต้นซุกซน ผู้ใหญ่ที่นั่งพูดคุยกันในห้องรับแขกหันหน้ามามองทางเด็กหญิงแล้วพากันยิ้ม หัวเราะให้กับความใจร้อนของเด็กน้อย
"ข้าวเจ้าคะ มาหาคุณแม่หน่อยค่ะ" น้ำเสียงอ่อนโยนผู้เป็นมารดาส่งเสียงเรียกลูกสาวตัวน้อย
เมื่อได้ยินเสียงผู้เป็นมารดาเรียกหา เด็กน้อย กมลนิตย์ แอนเดอร์สัน หรือข้าวเจ้าก็รีบวิ่งมาหามารดาทันที
"คุณแม่เรียกข้าวเจ้ามาทำไมคะ"
จันทร์เจ้า ผู้เป็นมารดาส่งยิ้มให้ลูกสาวตัวน้อย แม้ว่าบางครั้งข้าวเจ้าจะดื้อรั้นตามประสาเด็กที่ถูกเอาอกเอาใจไปบ้าง เพราะเป็นลูกสาวคนเล็กของบ้าน แต่ข้าวเจ้าก็ยังเป็นเด็กดีน่ารักกับทุกคนเสมอ
"แม่เรียกให้ลูกมากินขนมเค้กรสสตรอเบอร์รี่ของโปรดลูกไง" ตอบคำถามผู้เป็นลูกพร้อมทั้งเลื่อนจานเค้กสตอเบอรี่น่ากินมายังตรงหน้าลูกสาว เด็กน้อยยืนมองจานเค้กที่ผู้เป็นมารดาส่งมาให้สลับกับมองประตู ในใจก็อยากกินเค้กตรงหน้า แต่อีกใจก็อยากออกไปรอคุณพ่อและพี่ชายทั้งสองข้างนอก
"คุณแม่ค่ะ ข้าวเจ้าขอไปกินข้างนอกได้ไหมคะ" เด็กน้อยขออนุญาตตาแป๋ว แต่ทว่าผู้เป็นมารดากลับส่ายหน้าปฏิเสธ
"ไม่ได้ค่ะ ข้าวเจ้ามานั่งกินตรงนี้กับคุณลุงคุณป้าและคุณอาดีกว่านะคะ ทำแบบนั้นมารยาทไม่งามนะคะ"
ผู้เป็นมารดาไม่ยอมตามใจลูกสาว และยังไม่ใจอ่อนให้กับเจ้าดวงตาอ้อนวอนของข้าวเจ้าอีกด้วย
"ข้าวเจ้ามานั่งกินเค้กกับป้ามาลูก"
ปัทมา เอ่ยชวนเด็กน้อยเมื่อเห็นว่ายังทำท่าจะงอแงใส่ผู้เป็นมารดาไม่ยอมนั่งลงแต่โดยดี แก้มนุ่มใสอมชมพูตอนนี้ทำหน้าบึ้งตึงแสนงอนหลังจากถูกมารดาห้าม
"เดี๋ยวป้าให้สาวใช้ไปยืนรอข้างนอกแทนดีไหม ถ้าคุณพ่อและพี่ชายมาถึง ค่อยให้มาตามหนูดีไหมลูก"
"นั่นสิจ๊ะ แม่เห็นด้วย ข้าวเจ้ามานั่งรอในห้องดีกว่า ข้างนอกอาการร้อน เดี๋ยวข้าวเจ้าของแม่ไม่สบายเอาได้ "
จันทร์เจ้ากล่าวจบก็เรียกสาวใช้ที่ยืนอยู่บริเวณนั้นให้ไปยืนรอสามีและลูกชาย พอเห็นเป็นอย่างนั้น เด็กน้อยกมลนิตย์ แอนเดอร์สัน จึงยิ้มหวานอารมณ์ดีขึ้นมาทันที มืออวบอิ่มหยิบส้อมขึ้นมาตักเค้กกินอย่างเอร็ดอร่อยเพื่อรออย่างว่าง่าย
และไม่นานเกินรอ รถลีมูซีนคันหรูสีดำวิ่งเข้ามายังเขตของคฤหาสน์ มาจอดเทียบหน้าเชิงบันไดหินอ่อนทางเข้าคฤหาสน์หลังใหญ่ ร่างสูงใหญ่โตของ ฌาคส์ แอนเดอร์สัน ผู้เป็นบิดาก้าวลงมาจากรถก่อนและตามด้วยชายหนุ่มสามคนที่ประตูรถถูกเปิดออกโดยคนขับรถ แต่ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะก้าวขึ้นบันได มีร่างอวบกลมของใครบางคนที่พุ่งเข้ามากอดเอว โดยที่ผู้เป็นบิดาไม่ทันได้ตั้งตัว
"คุณพ่อ.... ข้าวเจ้าคิดถึงที่สุดเลยค่ะ ข้าวเจ้ารอน๊านนาน" เสียงใสเอ่ยปากออกมาจากปากอิ่มแดง ผู้เป็นบิดาจับเด็กน้อยให้ออกจากตัวเขาก้มลงมองลูกสาวตัวเล็กที่ส่งยิ้มกว้างให้เขาและถามขึ้นอย่างแปลกใจคนสงสัย
"จริงหรือเปล่าครับ" ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามให้แน่ชัดอีกที
เด็กน้อยยิ้มกว้างและซุกซนกว่าเดิม ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มเป็นประกายคล้ายถูกใจบางอย่าง ก่อนที่จะเดินแยกออกมายืนอยู่ตรงหน้า ลูคัส มอร์ริส
เด็กน้อยจ้องมองคนตรงหน้าด้วยความสงสัยและถูกใจอย่างบอกไม่ถูก เธอไม่เคยเห็นพี่สุดหล่อคนนี้มาก่อน แน่นอนว่าเด็กน้อยรู้สึกแก้มน้อยของเธอเริ่มร้อนขึ้นมา
บิดาและพี่ชายทั้งสองยืนงงกับสิ่งที่เด็กน้อยแสดงออกมา ในความคิดของพวกเขาตอนนี้คือ คนแปลกหน้าสำคัญกว่าพวกเขาอย่างนั้นหรอ
เรื่องการมาของ ลูคัส มอร์ริส เซอร์ไพรส์จริงๆด้วย
ด้วยความที่ยังไม่มีใครได้บอกอะไรกับเด็กน้อยว่าครอบครัวมอร์ริส จะย้ายเข้ามาพักอาศัยอยู่ที่บ้านด้วยชั่วคราว และยิ่งไปกว่านั้นก็คือข้าวเจ้าไม่รู้ว่าคุณลุงคุณป้าเป็นบิดามารดาของพี่ชายสุดหล่ออีกต่างหาก พี่ชายที่ตามใจน้องสาวทุกอย่าง เมื่อเห็นว่าตัวป่วนตัวน้อยของเขามีของเล่นที่ถูกอกถูกใจอย่าง ลูคัส มอร์ริส ยิ่งคิดก็สนุกซะแล้วสิ.....
หลังจากรับประทานอาหารค่ำเสร็จกันเรียบร้อยแล้ว ลูคัสจึงปลีกตัวออกมาอยู่ตามลำพังที่สวนหลังบ้าน ตั้งแต่เข้ามา ชายหนุ่มยังไม่มีเวลาส่วนตัวเลยสักนิด ไม่คิดว่าเด็กน้อยกมลนิตย์จะถามคำถามใส่เขาไม่หยุด ทั้งยังตามติดเขาไปทุกที่ ไม่ว่าลูคัสจะทำอะไรหรือเดินไปไหน เด็กหญิงข้าวเจ้าก็ตามติดตลอด
ลูคัสมักจะชอบหาเวลาอ่านหนังสือเพิ่มพูนความรู้อยู่ตลอดเวลาเท่าที่จะวาง เป็นที่รู้ๆกันในหมู่บรรดาเพื่อนสนิท เมื่อไหร่ที่ชายหนุ่มอ่านหนังสือ ห้ามให้ใครมารบกวนโดยเด็ดขาด แต่ครั้งนี้คงจะไม่เป็นข้อห้ามอีกต่อไปแล้ว เมื่อเด็กน้อยกมลนิตย์เธอได้แหกข้อห้ามที่เขาตั้งขึ้นมาเสียแล้ว เมื่อเด็กน้อยผมเปียเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าหนุ่มน้อยที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่
ลูคัสเงยหน้าจากหนังสือ มองเด็กน้อยที่ยิ้มหวานให้เขา
"พี่ลูคัส....ข้าวเจ้าอยากนั่งด้วยคนค่ะ"
"ข้าวเจ้าก็มานั่งสิ" ลูคัสพูดแบบไม่สนใจ
ดวงตาคมยังคงก้มหน้าจดจ่อกับการอ่านหนังสือเล่มโปรดของเขาต่อ เด็กน้อยกมลนิตย์เดินมานั่งข้างๆของลูคัส มืออวบอิ่มจับแขนของลูคัสเขย่าไปมาแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
"แต่ข้าวเจ้าอยากฟังเสียงของพี่ลูคัส พี่ช่วยอ่านออกเสียงด้วยสิคะ"
"พี่ไม่ชอบอ่านออกเสียงดัง"
มืออวบอิ่มที่จับแขนหนุ่มน้อยถูกปล่อยออกทันที ร่างกลมอวบขยับตัวหนีอย่างแสนงอน จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีกเลย เงียบ ความเงียบสงบกลับทำให้หนุ่มน้อยไม่มีสมาธิขึ้นมาเฉย ใจที่ไขว้เขวให้กับเด็กน้อยแสนงอนที่ไม่ยอมพูดจา แต่ก็ไม่ยอมจากไป ทั้งที่ปกติยัยตัวเล็กพูดเจื้อยแจ้วใส่ไม่หยุด และแล้วเวลาผ่านไปพอสมควร เป็นลูคัสเองที่ทนกับสภาวะเงียบสงบแบบนี้ไม่ไหว
ลูคัสยอมอ่านหนังสือให้มีเสียงดังจากปากเพื่อให้เด็กน้อยได้ยิน แต่ก็ไม่มีท่าทีตอบรับจากเด็กน้อยตัวแสบ ลูคัสระบายลมหายใจออกมาเบาๆ ก่อนหันไปมองคนตัวเล็ก ที่แท้เด็กน้อยหลับไปแล้วนี่เอง ลูคัสปิดหนังสือวางลงบนโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน เดินอ้อมไปย่อตัวลงเพื่ออุ้มเด็กน้อยขึ้นมาอุ้มไว้ในอก เด็กน้อยพึมพำเบาๆ 'คนใจร้าย' ร่างสูงของเด็กหนุ่มหมุนตัวเดินเดินเข้าไปในบ้านเพื่อไปส่งเด็กน้อยนอนที่ห้อง
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments