โปรดิวเซอร์จูเลีย(รักกันหลังเลิกงาน)

โปรดิวเซอร์จูเลีย(รักกันหลังเลิกงาน)

ตอนที่1

ฟี้วววววววว เสียงเครื่องบินขึ้นสู่ท้องฟ้า ฉันหันมองมันโบยบินบนทองฟ้าสีครามสว่างเย็นตา

แต่ไหงที่นี้ร้องขนาดนี้ฟร๊ะ!!

"ยินดีต้อนรับเข้าสู่ประเทศไทย สยาม เมืองยิ้มค่ะ"

พนักงานต้อนรับพูดกับฉันขณะรอแทคซี่สนามบิน

จะบ้าตายร้อนขนาดนี้ยิ้มไม่ออกแล้วโวย (ทำหน้าหงุดหงิดในใจ)

"คะค่ะ" ของจริงฉันยิ้มจร๊ะ

"คุณครับ จะไปไหนเหรอ ถ้าไปทางเดียวกันผมขอหารค่ารถไปจะได้ไหมครับ" หนุ่มผมดำตัวสูงราวๆ175ไม่เกิน180 นี้เรียกไม่น่าพึงพอใจสำหรับงานของฉัน

"เราไม่รู้จักกันสักหน่อย" ฉันจะไว้ใจชายแปลกหน้าได้ยังไงกันหละ เสื้อฮาวายสีดำลายขนนก กาเกงเดรฟ รองเท้าคอนเวิดหุ้มข้อ เป้สีดำใบเล็ก รวมๆแล้ว...ไม่น่าไว้ใจ

"เชื่อใจผมเถอะ ประเทศไทยหนะ อันตรายนะ" หมอนั่นเอนตัวเข้ามากระซิบบอกฉันเบาๆ ฉันเอียงหน้าเว้นระยะห่างจากหน้าเรียวยาวนั่น สัมผัสได้ถึงสเนห์ที่อันตรายมากๆ

"ฉัน! ดูแลตัวเองได้" พูดแล้วก็สบัดผมเบาๆ ฉันไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาหนิ มักเกิลคงดูไม่ออกสินะ แม้ภายนอกฉันจะดูเป็นสาวใสๆน่ารักก็เถอะนะ โฮ๊ะๆๆๆ

"นี้ ยัยปืนฉีดน้ำ เธอรู้ว่าฉันไม่มีเจตนาร้ายได้นิ และเธอคิดว่าโดนลูกปืนแล้วจะไม่ตายรึไง?" หมอนั่นกระซิบคำที่ทำให้ฉันขนลุกไปทั้งตัว

ฉันหันไปมาให้แน่ใจว่าไม่มีใครได้ยินที่หมอนั่นพูด

หมอนั่นรู้ว่าฉันใช้พลังธาตุน้ำ และยังสัมผัสได้ถึงเจตนาของผู้คนถ้าฉันอยากรู้

"นะนาย รู้ได้ยังไง?"

"ฉันก็เป็นเหมือนเธอนะ และฉันก็มีรางสังหรว่าเธอจะตายถ้าฉันไม่ไปด้วย"

"ฉันจะเชื่อนายได้ยังไง"

"เธอก็ หยิบแว่นดำแล้วสัมผัส ความรู้สึกของฉันดูสิ" หมอนั่นพูดพร้อมกับเอามือทาบอกด้วยท่าทางทะเล้น ถึงจะมีสเนห์ก็เถอะแต่แบบนี้มันน่าฟาดนัก

ฉันจำต้องหยิบแว่นดำมาไส่ก่อนจะเพ่งดูเจตนาของหมอนี้ เพราะการจะอ่านดูออร่าเจตนาของพวกผู้ใช้พลังฉันต้องเพ่งจนม่านตาของฉันกลายเป็นสีฟ้า ฉ้ามักเกิลเห็นหละก็ฉันได้โดนจับยัดซังเตแน่

แต่ดูนั่น หมอนั่นกาแขนกว้างเหมือนกับว่า อะ ดูเลยๆ ฉันถึงกับถอนหายใจในท่าทางกวนประสาทนั่น

จ้องงง จ้องงง

สีฟ้า ชมพูอ่อนๆ

อุต๊ะเขาชอบฉัน ให้ตายสิ ปลื้มฉันหรือเนี่ย

"ขำอะไรของเธอ?"

"เปล๊า"

หมอนั่นถอนหายใจไส่ฉัน อุ๊ตะฉันชอบใจมากเลยนะเนี่ย

"นี้ไม่ได้จะหาเรื่องจีบฉันใช่ไหม?"

หมอนั่นส่ายหน้าไส่ฉันก่อนจะเดินไปเปิดประหลังรถแทคซี่แล้วกวักมือเรียกให้ฉันลากกระเป๋าไป ฉันยิ้มแล้วลากไปแต่โดยดี หมอนี้ไม่ใช่คนเลวอะไร ก็ดะกะกด

"ยัง" หมอนั่นพูด

"อะไร?"

"ยังไม่เอากระเป๋าไส่รถอีก"

"นี้นายเป็นผู้ชายนะ ยกสิ"

หมอนั่นไม่ตอบฉันเดินไปเปิดประตูรถแล้วเขาไปก่อนเฉยเลย

ทำลายภาพหนุ่มเจ้าที่จะจีบสาวแบบสุภาพบุรุษยกของให้ เปิดประตูรถให้ อะไรแบบนั้น นายทำลายแบบย่อยยับสิ้นดีฉันเหวี่ยงกระเป๋าลากปิดประตูหลังแล้วตามไปขึ้นรถพร้อมมองแรงไส่หมอนั่น แต่ที่ได้กลับมาคือรอยยิ้มเย้ยๆเหมือนได้เอาคืนฉัน

"ลุงคะ มีไอ้นมเปี้ยวที่ทำให้คนกลายเผ็นปีศาจนั่นไหมคะ ฉันจะฆ่าไอ้หมอนี้" ฉันแกล้งถามลุงแทคซี่

ต้องขอเล่าว่าเมื่อสามปีก่อน มีนมเปรี้ยวชนิดนึงออกมาขายจำกัด1คนต่อ1กล่อง กินแล้วหลายคนก็มีพลังวิเศษ แต่การจะซื้อมานั้นต้องแลกด้วยข้อมูลเลขบัตรประชาชน รัฐบาลของแต่ละประเทศตามกวาดล้างผู้มีพลังบ้างก็ควบคุมไม่ได้จนบ้าคลั่งและตายไป ปัจจุบันด้วยการปิดข้าวแล้วเบี่ยงเบนประเด็น เรื่องนั้นกลายเป็นแค่เรื่องประสาทแดกอุปทานหมู่ คนที่จะรู้ว่านมเปรี่ยวนั้นเปลี่ยนคนธรรมดาให้มีพลังได้จริง คงมีแต่คนที่กินเข้าไปแล้วยังมีชีวิตอยู่ อย่างฉันกับไอ้หมอนี้หละ

"คุณหนู ถ้ามันเป็นเรื่องจริงขึ้นมาเราจะโดนจับตายเลยนะ แต่คนเราก็แปลกกินนมเปรี้ยวแล้วจะพ่นไฟได้ ใครกุเรื่องขึ้นมานะ"

นั่นแหละความคิดปัจจุบันของเหล่ามักเกิล

"ใช่ค่ะๆ"

"แฟนผมเขา เคยเชื่อหนะครับ เวลาวีนทีนี้คือซื้อนมเปรี้ยวมาเป็นแพ็คๆขู่ผมเลยนะครับ" นั่นไอ้หมอนั่นโมเม ใครแฟนนาย

"ลิ้นกับฟัน แฟนกันก็งี้แหละง้อๆงอนๆ" ลุงผู้ไม่ได้เขาใจอะไรฉันเลยยยย

"อ่อจะไปไหนกันครับ จนจะออกจากสนามบินแล้วผมยังไม่ได้ถามเลย" ลุงคนขับถามขึ้น ฉันยื่นโบว์ชัวร์ที่พักให้ลุง

"แล้วนายหละ?" ฉันถามหมอนั่น

"อ่าวเธอจะให้แฟนหนุ่มไปนอนที่ไหนหละ ก็ต้องพักกับเธอสิ" ดูมันตอบฉัน

"หนุ่มไม่ได้พักกับแฟนเหรอ?" ลุงถาม

"พักด้วยกันนั่นแหละครับ"

เห็นทีพอลงรถแล้วฉันจะต้องมีปัญหากับไอ้บ้านี้แล้วแหละ

ฉันเฝ้ารอเวลาที่จะได้ลงรถเต็มที่ แต่เมื่อผ่านจุดๆนึงฉันก็เริ่มง่วงแล้วสิ สงสัยจะเจ็ทแล็ค แต่ไอ้คนข้างๆที่เล่นหลับยาวเลย โทรสัพท์แบทก็ใกล้หมดแล้วด้วย

"ทำมัยง่วงขนาดนี้นะ" ฉันบนพึมพำ

"ยาสลบหนะครับคุณหนู" ลุงคนขับพูดฉันรูสึกได้ว่ารถจอดมองไปข้างๆนี้มันทางเปลี่ยวชัดๆ

อะไรกันหนะ หมอนี้มีรางสังหรจริงๆด้วย ก็ว่าอยู่ทำมัยลุงไส่หน้ากากแบบพิเศษ ลุงเปิดประตูออกจากรถ แย่แล้ว และไอ้คนที่มีรางสังหรดันหลับสนิท หรือจะสลบไปแล้วไม่ได้การ ฉันพยายามตบหน้าปลุกหมอนี้ แต่ไม่ได้ผล แรงตบก็แทบจะไม่มีต้องทำอะไรสักอย่างฉันรวบรวมพลังที่มีรวมน้ำในอากาศเข้าที่ฝ่ามือ ตัดสินใจเสี้ยววิว่าจะตบปลุกหมอนี้หรือซัดไส่ลุงที่กำลังจะเปิดประตูฝั่งฉัน

แต่ไม่ใช้พลังไส่คนธรรมดาดีกว่าถ้ารอดไปได้จะได้ไม่โดนรัฐบาลจับตัว

แกร็กๆ

เสียงประตูเปิดแล้ว ต้องตัดสินใจแล้ว

ฟูววววววว\~

ตุบ!

อ๊ากกกกกกกก

ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก รูสึกเหือนมีลมผัดผ่านตัวไปพลังน้ำที่รวมไว้ที่มือหล่นไหลลงเบาะว่างเปล่า

ฉันพยายามหันไปมองว่าเกิดอะไรขึ้น ภาพที่เห็นไม่ชัดเจน ตาฉันจะปิดแล้ว เห็นลางๆว่าร่างบางในชุดฮาวายสีดำนั่นจากด้านหัง เขาบีบคอลุงขับรถยกขึ้นจนเห็นหัวลุงลอยขึ้นสูงกว่าหัวหมอนั่น อย่านะ อย่าฆ่าเขานะ

"เราห้ามเขาไม่ได้หรอก" เสียงหมอนั่นหนิ แต่อยู่ข้างหูเอง

ฉันหันตามเสียงมาฝั่งที่หมอนั่นเคยนั่งอยู่

"ตรงนี้" เสียงจากกระจกทึบของประตูรถ ปรากฎเงาสะท้อนของหมอนั่น

"ร่างนั่นเป็นของฉัน และก็ เป็นของเจ้านั่นด้วย" เงาหมอนั่นพยายามจะอธิบาย

"เฮ้เธอหนะเป็นคนธรรมดาสินะ ฉันคงให้เธอตื่นไปฟ้องรัฐบาลไม่ได้หรอกนะ ขอโทษด้วย" เสียงของหมอนั่นแต่ไม่ใช่จากเงา เหมือนจะอยู่ข้างหลังฉัน

ฉันพยายามจะรวบรวมน้ำอีกครั้งแต่ไม่ไหว

"ฉันชื่ออาร์ตเรียกชื่อฉันกับร่างนั่นสิ แล้วฉันจะปกป้องเธอเอง" เสียงจากเงาพูดอีกครั้ง แม้จะไม่เข้าใจแต่ถ้าฉันไม่ทำได้ตายแน่ๆ สัมผัสได้ถึงจิตสังหารแม้ไม่ได้หันหลังไปมองขนาดนี้

"อาร์ต!!"

หลังจากเรียกชื่อนั้น ฉันก็สลบไป ถึงในใจจะก็กลัวว่าจะไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว ภาพสุดท้ายของชีวิตฉันจะเป็นรอยยิ้มพอใจของไอ้อาร์ตเนี่ยนะเหรอ?

นี้ฉันจะตายโดยเห็นหน้ากวนประสาทนี้เป็นภาพสุดท้ายงั้นเหรอ?

กรี๊งงงงงงงงงง\~

เฮือกกกกกกก

ฉันตื่นขึ้นมาแล้ว

กรี๊งงงงงงงงงง

นาฬิกาปลุกเหรอ ?

ฉันหันซ้ายไปยังตำแหน่งนาฬิกาของห้องนอนฉันแต่กลับพบว่านี้ไม่ใช่ห้องนอนฉัน

กรี๊งงงงงงงง

และฉันก็สะดุ้งโหยงอีกครั้งหันขวาตามเสียง ที่เห็นคือโทรศัพท์ของที่พัก อะไรกันเนี่ยยังไม่มีเวลาให้ทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นเลย ร่างกายฉันก็ควเาเอาหูโทรศัพท์ขึ้นมา

"เฮ้อออ สวัสดีค่ะ" ฉันเผลอถอนหายใจไปหนึ่งที

"เธอทำอะไรของเธออยู่เนี่ย ฉันให้เธอไปทำงาน นี้เธอเล่นไปฆ่าคนอย่างงั้นเหรอ!!? จะบ้ารึไง ยังอยากมีชีวิตอยู่ไหม ห๊ะ!!" เสียงบอสที่คุ้นเคย โอ้ยจะบ้าตาย

"เดี๋ยวนะคะ ฆ่าคน ตายเหรอ? ฉันเนี่ยนะ"

"ไม่เธอก็ไอ้หมอนั่นที่ไปกับเธอนั่นแหละ ให้ตายสิ ถ้าฉันดึงและลบไฟลกล้องทั้งหมดไม่ทันรู้ไหมเธอจะเป็นยังไง ป่านนี้คงรับสายฉันในคุกโลกแล้วมั้ง!!"

ภาพในหัวฉันย้อนเข้ามาอีกครั้ง ภาพแผ่นหลังชายใต้เสื้อฮาวายสีดำบีบคอลุงคนขับรถ ร่างนั้นค่อยถูกมวลอากาสฉีกเป็นชิ้นๆและหายไป พอมีสตินึกได้แล้วฉันถึงตกเหรอเนี่ย ใจสั่นไปหมดแล้ว อาร๋ตฆ่าลุงคนขับจริงๆ

"นี้เธอฟังฉันอยู่ไหมเนี่ย!!" ฉันสดุ้งอีกครั้งจากเสียงของบอสในสาย

"ค่ะค่ะ"

"ให้ตายสิ แล้วนี้ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?"

"ไม่คะ …ปลอดภัยดี" ฉันใช้มืออีกข้างลูบๆตัว ก็อยู่ครบ แม้แต่เสื้อผ้าก็ยังชุดเดิม ฉันยังไม่เสียตัวแฮะ โอ้ยโล่ง

"จะไปไหนมาไหนกับใครก็ระวังด้วย การจะโขมยดึงและลบไฟลจากกล้องวงจรทั้งในสนามบินและตัวที่อยู่ระหล่างทางรถคันนั้นมามันยากมากเลยนะถ้าไม่ทันเราจะซวยกันหมดก็เพราะเธอเลย"

"ขอโทษค่ะ… ไม่คิดว่าลุงคนขับจะเป็นโจรหนิคะ"

"ระวังให้มากกว่านี้ด้วย แล้วเรื่องานฉันให้เวลาแค่1เดือนนะ ห้ามลืม และห้าม ก่อ เรื่อง"

"เข้าใจแล้วค่ะบอส"

"แค่นี้นะ ฉันจะต้องไปเช็คก่อนว่ามีร่องรอยอะไรเหลือไหม จริงๆเล๊ยยยย"

ตู๊ดดด ตู๊ดดด

เฮ้ออออ

ฉันค่อยๆลุกจากเตียงอย่างยากลำบากรู้สึกว่าอะไรก็วุ่นวายไปหมด เพราะหมอนั่นแท้ๆ แค่ช่วยฉันก็พอแล้วหนิทำมัยต้องฆ่าคนด้วย

'ฉันชื่ออาร์ตเรียกชื่อฉันกับร่างนั้นสิ แล้วฉันจะปกป้องเธอเอง'

แม้แต่เสียงยังหลอนในหัวฉัน บ้าจริง แต่เดี๋ยวนะ ถ้าหมอนั่นอยู่ในกระจก แล้วร่างนั่นหละ?

'ร่างนั่นเป็นของฉัน และก็ เป็นของเจ้านั่นด้วย'

หมายความว่ายังไง ? มีอีกคนในร่างนั้นงั้นเหรอ?

ด้วยความสงสัยฉันรีบปรี่ลงไปถามเจาหน้าที่ต้อนรับใต้ตึก

"ขอโทษนะคะ ผู้ชายที่มาส่งฉันเมื่อคืน…" จะถามยังไงดี เขาไปไหน เขายังไง?

"คุณผู้เช่าอยู่ห้องไหนคะ?" พนักงานถามฉัน

"1881 ค่ะ"

"สักครู่นะคะ" พนักงานก็กดแป้นคอมสักพัก

"ได้ค่ะ"

"ขอโทษนะคะคุณลูกบ้าน จากเวลาเช็คอิน…พนักงานท่านเมื่อวานออกจากกะไปเมื่อสามชั่วโมงที่แล้ว แต่เขาฝากนี่ไว้คะ" พนักงานยื่นกระดาษให้ฉัน

"ขอบคุณค่ะ"

ฉันรับกระดาษใบนั้นมา มันถูกพับไว้เป็นรูปนก เหมือนจะมีข้อความทิ้งไว้นะ

"อะไรหนะ ให้เบอร์ฉันเหรอ?" ฉันค่อยๆแกะเจ้านกกระดาษออก

'ไง ตื่นแล้วสิ ฉันบอกแล้วว่าถ้าเธอมาคนเดียวเธอจะตายหนะ เชื่อรึยังหละ 555 แต่ช่างเถอะยังไงก็ปลอดภัยดีแล้วหนิ เราจะได้เจอกันอีกแน่นอนฉันก็เลยไม่ได้ให้เบอร์อย่างที่เธอคิดไว้หรอกนะ ;p '

แกรกกกก ฉันกำประดาษในบือจนมันยับยู่ยี่

ไอ้บ้านั่น มันอ่านใจฉันข้ามเวลาเลยรึไงกันนะ

นี้ฉันไม่ได้สาระอะไรจากมันเลย ช่างเถอะ ฉันต้องทำงานหนินะยังไงซะก็ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวดีกว่า มีหนุ่มหล่อรอการทาบทามจากฉันอยู่

คิดได้แล้วฉันก็เอารูปหนุ่มน้อยอายุ17ในกระเป๋าเสื้อขึ้นมาดู ผลสกินเฮดเข้ารูปหน้า จมูกโด่งหน้า ยิ้มมีสเนห์ สูง 178 เหรอ พอไหวนะ ถึงจะอยากให้สัก182ก็เถอะ ชื่อบอมเหรอ ถ้าเอาเข้าไปในค่ายแล้วจะจับจิ้นกับใครดีนะ จินฮยอง หรือ ไบรท ไม่ๆ ซุนมิน อื้มมมม แค่คิดจิตวิญญาณวายฉันก็ตื่นเลยหละ

นั่นแหละสิ่งที่ฉันต้องการ แต่ไม่นานเลยฝันกลางวันสีหวานแหววของฉันก็ถูกพังลงหลังจากปิดประตูห้อง

"สวัสดี" เสียงของยักษ์แคระในชุดสูทตัวเท่าเด็กสองขวบที่ลอยกลางห้อง

"คุณเป็นใครหนะ? เข้ามาได้ยังไง!?"

"ฉันคงยังแนะนำตัวไม่ได้ ฉันมองไม่เห็นเธอหรอกมันเป็นการโทรจากระยะไกลมาก แต่เธอจะเห็นฉันจากโฮโรแกรมล้ๆำนี้"

"คุณต้องการอะไร?"

"หวา ฉันก็แค่ จะมาเตือนเธอหนะ รีบหาบอมให้เจอนะ ถ้าเธอพาบอมมาอยู่ค่ายเธอไม่ได้ วิญญาณแฝดของเธอจะตาย มันน่าเสียดายหนะสิ"

"ฉันเป็นลูกคนเดียว วิญญาณแฝดอะไรกัน"

"มันพูดยากหนะ มันมีห้างๆนึง ถ้าเธอนั่งรถไฟใต้ดินไปสามสถานี บอมจะอยู่ที่นั่น อ้าาาฉันต้องไปแล้วหละ ไปก่อนนะอีฟคนใหม่ของฉัน"

ฟูวววววว

กระดาษของอาร์ตในมือของฉันค่อยๆสลายไป เจ้ายักแคระนั่นโทรหาฉันผ่านกระดาษของอาร์ต เขามีความเกี่ยวข้องกัน?

แต่ถ้ามีผลต่อความเป็นความตายของใครสักคน ฉันยิ่งต้องรีบสินะ

เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 1

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!