A way out : ทาง.ออก. (1)

(ความทรงจำเมื่อสงครามครั้งแรกนั้นหวนกลับมา)

" Marloch... รีบนำทัพกลับเดี๋ยวนี้ ชัยชนะนั้นรอได้! แต่หาก... ไร้ซึ่งผู้นำและกองทัพ

เราจะไม่เหลืออะไรอีก อึก! "

Volkath ในตอนนี้อยู่ในสภาพใกล้ตาย หลังจากถูกศรของ Tel'Annas นั้นปักเข้ากลางขั้วหัวใจ

" องค์ราชา... เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริงหรือพะย่ะค่ะ "

Marloch ที่หอบร่างที่ใกล้ตายของ Volkath กล่าวขึ้น ขณะที่พาดร่างไว้บนไหล่พร้อมกับปัดป้องเหล่าศัตรูแห่ง 3 อาณาจักร Volkath นั้นได้เริ่มเข้าสู่ร่าง Doom lord แล้วจึงปล่อยตัวลงมาจากร่างของ Marloch

" ฟังข้าให้ดี! นี่คือคำสั่งเสียของข้า องครักษ์แห่งข้า! เจ้าจงพาเหล่าแม่ทัพถอยทัพกลับไปตั้งค่ายป้องกันยัง Lokheim หากเจ้าปฏิเสธ ข้าจะคว้านท้องของเจ้าและทิ้งร่างของเจ้าให้เน่าเหม็นอย่างไร้ค่าอยู่ที่นี่! คำพูดของข้า ชัด.เจน.หรือ.ไม่! "

Volkath กล่าวขึ้นพร้อมชี้ดาบ 2 ปลายของเขาไปที่หัวของ Marloch

" ระ..รับทราบ..พะย่ะค่ะ.."

Marloch กล่าวขึ้นอย่างกระอักกระอ่วน

" ข้าไม่ได้ยิน! "

Volkath ตะโกนเพื่อปลุก Marloch

" รับทราบพะย่ะค่ะ! "

Marloch กล่าวขึ้นอย่างมั่นใจในครั้งนี้ ก่อนที่เขาจะมองหน้า Volkath ผู้เป็นนายอีกครั้ง Volkath จึงได้ยื่นหินเก็บจิตวิญญาณที่เขาได้มาจาก Temple of Light เมื่อครั้นเขาศึกษาจบจากอาจารย์ของเขาให้กับ Marloch ที่ได้น้อมรับคำสั่งเป็นที่เรียบร้อย

          

Marloch หันหน้ามองเหล่ากองทัพแห่ง Lokheim ที่แม้จะเสียผู้นำทัพไปแต่หาได้กลัวตายไม่  ก่อนที่จะเปล่งเสียงคำรามและสั่งการแทนที่ Volkath 

" ทหารทั้งหมดจงฟังข้า! บัดนี้องค์ราชาได้แต่งตั้งข้าเป็นหัวหน้าทัพแทนขณะที่ท่านต่อสู้กับราชาและราชินีของอาณาจักรทั้ง 3 อยู่! เราจะตีฝ่าวงล้อมของเจ้าพวกโง่เขลานี้ออกไป และรอรับคำสั่งต่อไปที่ Lokheim รับทราบ!

" รับทราบขอรับ! "

เหล่ากองทัพต่างฮึกเหิมขึ้นมาพร้อมเตรียมตัวเจาะทะลวงวงล้อมศัตรูออกไป

" ท่าน Volkath ข้าจะทำทุกหนทางเพื่อปกป้องกองทัพไว้เองพะย่ะค่ะ! ท่านอย่าได้เป็นกังวลไป! "

Marloch กล่าวขึ้น พร้อมกับนำพากองทัพแห่ง Lokheim ตีฝ่าวงล้อมออกไปจนสำเร็จ เมื่อผ่านออกไปได้และเหลียวมองไปข้างหลัง ก็พบ Volkath ที่พุ่งเข้าใส่ Tel'Annas, Illumia และ Mortos อย่างไม่เกรงกลัว

" วินาทีวีรบุรุษของท่าน ข้าจะจดจำมันไว้และส่งต่อให้ท่านเองพะย่ะค่ะ องค์ราชา... แห่งข้า "

Marloch กล่าวขึ้น พร้อมมองหินเก็บวิญญาณที่ Volkath ได้ยื่นให้

" ความปรารถนาของข้า คือ การทำลายล้างดินแดนแห่งนี้ "

เขากล่าวขึ้นอย่างเคียดแค้น

.

.

.

.

.

(หลังจากการระเบิดของศิลา Andura)

" อ๊ากกกกกกกกกกกก!!! "

เสียงๆหนึ่งได้ดังขึ้นและปลุก Marloch ที่ตอนนี้พึ่งได้สติคืนมาหลังจากสลบไปจากแรงระเบิดของศิลา Andura ก่อนหน้านี้

" มันเกิด.... บ้าอะไรขึ้น อึก!? "

Marloch กล่าวขึ้นเบาๆ พร้อมมองดูร่างกายของเขา สภาพร่างกายของเขาตอนนี้นั้น นับว่าอยู่ในจุดตกต่ำที่สุดในชีวิตของเขาเลยก็ว่าได้ ปีกที่เคยได้รับแผลเป็นจากคมดาบของ Airi ครั้งหนึ่งนั้น ตอนนี้หนังของปีกเป็นรูเหวอะหวะจนใช้การไม่ได้ทั้ง 2 ข้าง มีบาดแผลและเลือดท่วมลำตัวของเขาไปหมดซึ่งล้วนเกิดจากแรงระเบิดของศิลาทั้งสาม

" ข้า... ปีศาจที่เคยเข่นฆ่าเหล่าปฏิปักษ์ของท่าน Volkath มานับไม่ถ้วน ลากคอเหล่าเทพและเทพีทั้งหลายลงสู่ขุมนรก Lokheim และปกป้องมันเพื่อรอวันที่ท่านจอมราชาจะกลับมา... อึก! "

Marloch กล่าวขึ้น พร้อมกับสติที่ค่อยๆ เลือนหายไปของเขา

" ข้า... ข้า... ข้าไม่ใช่พวกขี้ขลาดที่จะนอนรอความตายแบบนั้น! ข้าจะไม่ยอมจมปรักอยู่กับความขี้ขลาด..อย่างนี้เด็ดขาด! "

Marloch ตะเบ็งเสียงขึ้น พร้อมนึกถึงวิชาแรกสุดที่เหล่าปีศาจทุกตนนั้น ตั้งแต่โบราณกาลนั้นใช้เพื่อทำการแลกเปลี่ยนทุกอย่างกับมนุษย์

" พันธะสัญญา "

Marloch กล่าวคำปฏิญาณรักษาสัตย์ขึ้นพร้อมเริ่มเขียนมนตร์ ขณะที่ร่ายมนตร์อยู่ อาการเขาก็เริ่มทรุดหนักลงเรื่อยๆ

" ...ด้วยเหตุผลดังว่า ข้าขอให้พันธะสัญญานี้เป็นผล ด้วยโลหิตของกายหยาบและร่างจิตทั้งสองเป็นพย- ค่อก! "

Marloch กระอักเลือดออกมาถูกพันธะสัญญาปีศาจที่เขากำลังเขียนขึ้น

ลวดลายของสัญญาเรืองแสงสีแดงฉาน และลุกโชนด้วยไฟนรก อันเป็นเอกลักษณ์ของสายเลือดปีศาจที่บริสุทธิ์ของ Marloch กระดาษที่เริ่มปรากฎขึ้นมา อันเป็นสัญลักษณ์ว่าสัญญานี้เป็นผลแล้วครึ่งหนึ่ง ขาดแต่เพียงส่วนที่สำคัญที่สุด นั่นก็คือ

" ผู้ทำพันธะสัญญา "

Marloch เริ่มหันหน้าไปทางต้นเสียงที่เกิดขึ้นเมื่อเขาพึ่งฟื้นจากการสลบ เขาเริ่มเคลื่อนย้ายดวงวิญญาณของเขา

มันมีรูปทรงกลมและครั้งหนึ่งมันเคยลุกโชนไปด้วยไฟนรกแห่งความปรารถนาอันแรงกล้าของเขา ตอนนี้กลับเหลือเพียงก้อนเถ้าถ่านที่เปลวไฟอ่อนแรงเต็มที

เมื่อ Marloch เคลื่อนย้ายลูกแก้ววิญญาณออกไปจากร่างของเขา กายหยาบของเขาก็เริ่มสูญสลายไป ทิ้งไว้แต่เพียงความว่างเปล่า ซึ่งมันหมายความว่า หากเขาทำพันธะสัญญาไม่สำเร็จ วิญญาณเขาก็จะดับสูญไปตลอดกาล

" ความหวังสุดท้ายของข้า... อย่าทำให้ข้าผิดหวัง.. "

Marloch กล่าวขึ้น พร้อมเคลื่อนที่ลูกแก้ววิญญาณของเขาไปตามทางต้นเสียงดังกล่าว

(เหตุการณ์ฝั่งต้นเสียงก่อนที่ Marloch จะฟื้นสติ)

.

.

.

.

ในแต่ละเมืองล้วนแต่มีปัญหาการทะเลาะวิวาท ซึ่งมีมาตั้งแต่นานนมจนมาถึงปัจจุบัน ไล่เลี่ยมาตั้งแต่วัยกลางคนกลับมายังวัยเด็ก และที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด

" วัยรุ่น "

ในตรอกซอยไร้ชื่อแห่งหนึ่ง ในกลางเมืองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือกำลังมีเหตุการณ์เดียวกันนี้เกิดขึ้น

ซัน เด็กหนุ่มวัย 19 ปีกำลังกลับบ้านด้วยบาดแผลทั่งร่างเหมือนทุกวัน ด้วยฐานะที่ไม่ค่อยดี จึงได้มาเช่าห้องอยู่ที่แถวซอยเปลี่ยวกับน้องสาววัย 16 ปีของเขา ด้วยร่างกายที่แม้จะสมส่วน และส่วนสูงราววัยรุ่นทั่วไป แต่ด้วยผิวพรรณที่ขาวและผ่องใสแม้ว่าทางบ้านจะยากจน หน้าตาที่ดูใสซื่อและนิสัยซื่อๆไม่ชอบมีปัญหาของเขา ทำให้เขามักตกเป็นเหยื่อของการกลั่นแกล้งเป็นประจำ แต่เขาเองนั้นก็เริ่มเฉยชากับการถูกทำร้ายเป็นประจำ พร้อมกับคิดในแง่บวกว่า สักวันพวกเขาคงเบื่อกันไปเอง....อย่างนั้น

" ว่างายซัน ไอ่เพื่อนยากก~ วันนี้พวกพี่มารอส่งเอ็งกลับถึงบ้านเลยนะเว้ยย เป็นไง เซอไพรส์รึป่าววว "

เสียงๆหนึ่งดังขึ้น ไม่ไกลจากที่ซันยืนอยู่นัก ซึ่งมันเป็นเสียงที่ซันคุ้นเคยดี

สกา หัวโจกกลุ่มนักเลงในเมืองแห่งนี้ ซึ่งซันนั้นได้เรียนอยู่ร่วมชั้นกับเขาในปีนี้ ซึ่งก็นับว่าโชคไม่ดีจริงๆ และแน่นอนการได้อยู่ร่วมชั้นกับสกานั้น ซันเองก็รู้ดีว่ามันแย่แค่ไหน

ซึ่งในวันนี้เขายกพวกมากัน 4 คน หายไป 1 คน ในกลุ่มปกติของสกา ในตอนนี้สกาดูอารมณ์ดีมาก นั่งชันขาข้างซ้ายและห้อยขาขวาแกว่งไปมา ซึ่งสกาที่ปกติจะอารมณ์เดือดอยู่ตลอดเวลานั้นอารมณ์ดีขึ้นมา ซันกลับไม่รู้สึกดีใจเลยแม้แต่น้อย หนำซ้ำเขาอยังรู้สึกว่า...

" มันเป็นลางร้าย "

ซันคิดขึ้น พลางนึกถึงสำนวนที่ว่า เทวดาหลบหน้า ปีศาจยิ้มแยก(มั่ว)  และเขาก็นึกถึงว่าคนที่ 5 ไปที่ไหน..

" เห้ยๆ เอาแล้วๆ หมามันรู้ว่าเจ้านายมาไม่ครบด้วยว่ะ55 สงสัยเอ็งสอนมันดีจริงมั้งเนี่ย, สกา "

หนึ่งในกลุ่มนักเลงพูดขึ้น พร้อมกับยกยอ สกา

ซันทำทีท่าไม่สนใจ พร้อมกับความกังวลใจของเขาที่เริ่มก่อตัวขึ้นมา

 (พวกมันไปไหนมาไหนกันตลอด และมันไม่กล้าทิ้งเพื่อนพวกมันแน่ๆ พวกมันมีแผนอะไรกันอีกวะ)

ซันเริ่มคิด พร้อมสีหน้าที่ดูหมองคล้ำ ราวกับรอยแผลตามร่างกาย

" ที่จริง ตอนแรกพวกเรากะจะลืมเอ็งไปสักวันอยู่นะ เพราะเอ็งก็เริ่มน่าเบื่อไป แต่พอนึกว่าจะปล่อยให้เอ็งกลับบ้าน ก็เลยนึกได้ว่าไม่เคยเห็นบ้านแกเลย กะมาเยี่ยมชมหน่อย ว่าบ้านที่เอ็งโหยหานักนามีอะไรดี ข้าก็เลยให้ไอ้เขียวไปตรวจตราดูสักหน่อย ......แล้วดูนี่ดิ ซ่อนของดีไว้นี่หว่าา!! " 

ก่อนที่จะหันหน้าไปทางบ้านของซัน

 " ไอ่เขียว!  เอ็งทำอะไรนานนักหนาวะ!! "

สกาหันหน้าไปตะคอกเสียงดัง แล้วหลังจากนั้นไม่นาน ลางสังหรณ์ของซันก็เป็นจริง...

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!