ยอดนักสืบนั้นก็คือผม
ในภายในสำนักงานเเห่งมีเสียงอันวุ่นวายของพนักงานที่ทำงานอย่างเเข็งขันเเต่ช่วงเวลาหนึ่งก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนอนหลับเป็นตายอยู่ที่ห้องส่วนตัวของเขาเเละจู่ๆประตูก็เปิดออกอย่างเสียงดังเเละก็มีชายผมสีน้ำตาลเข้าเเละตรงมาหาเขาเเล้วบอกว่า
“ตื่นเดี่ยวนี้!”
ด้วยเสียงที่ดังน้นทำให้ผมจึงนั้นตื่นขึ้นด้วยอาการงั่วเงีย เเละก็เดินไปหยิบขนมที่อยู่ใต้ลิ้นชักที่เต็มไปด้วยขนมมากมายไปหมด ผมเอาขนมจำนวนหนึ่งมาวางไว้บนโต๊ะ ผมเเกะซองขนมเเลละกินอย่างเอร็ดอร่อยเเต่ในระหว่างนั้นบรรยากาสก็ร้อนขึ้นมาเเละได้ไปมองชายคนนั้น เขามีเเสดงสีหน้าโมโหต่อการกระทำของผม เขาจึงบอกว่า
“หยุดกินเดี่ยวนี้นะซาซากิ รู้ไมว่านี้มันกี่โมงกี่ยามเเล้ว”
“หนวกหูจังเลยน่า ก็ตอนเช้าไง”
นี้คือ วี เพื่อนผมเอง ถึงจะเพิ่งเข้าสำนักงานมาไม่นานเเต่ก็เป็นบุคคลที่มีความสามารถจนได้เลื่อนขั้นจนถึงตำเเหน่งเดียวกันกับผมในเวลาไม่นานถึงผมจะไม่ชอบตรงที่มีนิสัยเจ้าระเบียบก็เถอะเเต่ก็เป็นคนที่ช่วยผมในหลายๆเรื่อง
“ตอนเช้าบ้าบออะไร นี้จะเลยเที่ยงอยู่เเล้ว เเล้วนี้นายนัดงานไว้กับคุณชิซากิเอาไว้ไม่ใช่หรอ ทำไมไม่รีบไปอีกล่ะ”
“เรื่องนั้นนะหรอ ผมปฏิเสธไปเเล้วเเหละ”
จู่ๆ วีก็โมโหขึ้นมาเเละเข้ามากำลังมาจับหัวผม ผมพยายามหลบเเต่ก็ไม่ทัน ผมลืมไปเลยว่าวีฝึกวิชาเทควันโด้ก่อนที่จะเข้าสำนักงานด้วยนี้น่า วีก็ขย้ำหัวผมเเละพูดว่า
“ขอเหตุผมซักข้อว่าทำไมเเกถึงปฏิเสธไปละ รู้ฉันอุตส่าห์หาคดีไม่คิดว่ามันน่ารำคาญเเล้วทำไมปฏิเสธลูกค้าอย่างไร้เยื่อใยเลยอย่างนั้นละ”
“ก็มันน่าเบื่อนี้น่า”
จากนั้นวีก็เลิกขยำหัวผมเเละก็กลับมาสงบอีกครั้งผมจึงหยิบขนมขึ้นกินต่อเเล้ววีก็กับไปทำงานของเขาต่อผมไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องโมโหขนาดนั้นทั้งที่ปกติผมก็ปฏิเสธเวลาผมคิดว่ามันน่าเบื่ออยู่เเล้วนี้น่า สงสัยจังเลยว่าทำไมเขาถึงจริงจังเฉพาะกับคุณชิซากิหละ ทำไมกันน่า
ผมจึงไปซื้อขนมที่ร้านขนมชี่อดังเเห่งหนึ่งเเต่พอไปถึงก็มีเเต่คนต่อเเถวมากมายมันน่าจะเหนื่อยมากเลยที่จะต่อเเถวรออาหารผมเลยจึงสั่งก่อนที่จะออกจากสำนักงาน ระหว่างที่ผมจะหยิบขนมทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงโทรศัพท์ปริศนาโทรเข้ามา
ผมจึงจึงโทรกลับไปเเต่เสียงที่ผมได้ยินคือมันคือเครื่องบันทึกเสียงที่คนปริศนาบันทึกเอาไว้เขาพูดว่า
"เกมเเห่งความตายมันได้เริ่มขึ้นเเล้ว”
ผมสนใจจึงฟังต่อเเต่ก็ไม่มีเสียงอีกเเล้วผมวางสายเเล้วรีบโทรหาสำนักงานเเต่ก็ได้ชนกับเด็กคนหนึ่งผมพยายามจะขอโทษเเต่เด็กก็วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วผมจึงลุกขึ้นเเละสงสัยว่าทำไมเด็กคนนั้นถึงได้รีบไปจังว่ะ
ถัดใดนั้นเองผมคิดได้ว่าผมได้ยินเสียงเวลาจากในเสื้อของเด็ก ผมจึงวิ่งตามเด็กไปถึงกลางสี่เเยก พอผมถึงตามเด็กจนถึงกลางสี่เเยกก็เห็นเด็กยืนนิ่งๆอยู่กลางสี่เเยกเเละมีรถสิบล้อกพลังพุ่งเข้ามาผมจึงวิ่งเข้าไปช่วยเด็กเเต่ถัดใดนั้นเองเด็กก็ฉีกเสื้อออกมา ผมจึงได้เห็นว่ามันมีระเบิดเวลาพันตัวเด็กอยู่ก่อนที่ผมจะหนีออกเเต่เด็กก็พูดว่า
“มันจบเเล้วละ พี่ซาซากิ เอคิจิ ไว้เจอกันที่โลกหน้าน่ะ”
ผมยิ้มออกมาเเล้วพูดว่า
“เรื่องราวนี้……มันสนุกเเล้วสิ”
จากนั้นตัวตน ซาซากิ เอคิจิ ก็จางหายไปจากโลกไปนี้ตลอดไป?
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 4
Comments