กลิ่นหอมของดอกไม้
<< คำอธิบายเพิ่มเติม >>
มีเลือด , การกระทำที่ไม่เหมาะสม , อาจมีการกระทำที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับเซ็กส์ , หากมีคำผิดประการใดต้องขออภัย
และไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้ตลค.เสียหายและไม่ได้มีความเกี่ยวจ้องกับเนื้อเรื่องภายในเกมแต่อย่างใจ
แต่อาจจะหยิบยกเนื้อเรื่องภายในเกมบางอย่างมาเป็นส่วนหนึ่งในเนื้อเรื่องเพื่อเพิ่มอรรถรสเพิ่มเติม
และอาจจะลืมชื่อของตัวละครบางตัวไปนิดหน่อย
คำอธิบายก่อนเริ่ม ❕
เนื้อเรื่งไม่ได้มีการเชื่อมต่อกันนะจ๊ะ แต่จะเป็นตอนเดียวจบ
ตอนนี่ขอนำเสนอคู่ที่อร่อยแบบสวบโต๊ะ
{ Aether x xiao }
ภายในค่ำคืนอันเงียบสงัก มีร่างของชายหนุ่มที่อาบไปด้วยเลือดของตนเอง กำลังเดินกระเสือกกระสนไปยังที่ใดสักแห่งภายในป่า
เพื่อนตัวน้อยของเขาที่นอนสลบอยู่ภายในอ้อมกอดของเขานั้น ก็ยังนอนสลบไม่รู้ถึงสถานการณ์ภายนอก
นักเดินทางที่ต่อสู้กับเหล่ารูนการ์ดเมื่อก่อนนห้านี้นั้น บาดเจ็บสาหัสจนอาจถึงแก่ชีวิตของตน
เจ้านักเดินทางตัวน้อย เรือนผมสีทองอร่าม ถักเปียยาวสวย จุดมุ้งหมายของเจ้านักเดินทางตัวน้อยนั้นคือการตามหาน้องสาวผู้เป็นที่รักของเขาเพียงคนเดียวในครอบครัว
แต่กว่าตะถึงเป้าหมายอันสูงสุดของเจ้านักเดินทางตัวน้อยนั้น จะต้องผ่านอุปสรรค์มากมายจากการเดินทางของเขา
แต่อาจจะเป็นโชคชะตาของนักเดินทางที่ไม่ดีนัก เหตุการณ์สะเทือนใจของนักเดินทางเมื่อตอนกำลังหาเบาะแสเกี่ยวกับเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของชายปริสนาที่มีผ้าปิดตาสุดประหลาด
นักเดินทางได้พบเจอกับน้องสาวผู้เป็นที่รัก แต่โชคร้ายนัก ที่น้องสาวของตนนั้นอยู่ฝั่งเดียวกับสัตรู หัวใจดวงน้อยๆของนักเดินทางนั้นผู้เฝ้ารอคอยน้องสาวอันเป็นที่รัก ตอนนี้ได้พบเจอ แต่ถึงจุดนั้นหัวใจของนักเดินทางก็แตกสลายเพราะเหตุผลแบบนั้น
และสิ่งที่น่าเหลือเชื่ออีกอย่างคือ ชายปริสนาที่ร่วมเดินทางกับนักเกินทางนั้นคือหนึ่งมนประชากรในเกาะที่ล่มสลายไปเมื่อ 500 ปีที่แล้ว แต่ถูกคำสาปที่ทำให้เป็นอัมตะชั่วนิรันด์
หลังจากเหตุการณ์นั้น นักเดินทางได้ตัดสินใจที่จะเดินทางต่อไปเพื่อตามหาเบาะแสของน้องสาวของตน
ในค่ำคืนนั้นที่มีฝนตกโหมกระหน่ำอย่างหนัก
ร่างบางของนักเดินทางที่เดินกระเสือกกระสนจนแทบจะหมดลมหายใจ แต่เจ้าตัวก็ดันทุรังที่จะพาเพื่อนตัวน้อยของตนที่สลบไม่รู้เรื่องไปรักษาบาดแผล
ตรงหน้าของนักเดินทางนั้น เป็นดั่งแสงสว่าง นั่นคือโรงแรมที่ห่างจากตัวของเมืองหลี่เยว่ไม่มาก เป็นโรมแรมที่ไว้สำหรับพักผ่อนแก่นักเดินทางที่ผ่านมาอย่างเหน็ดเหนื่อย
แต่โชคไม่ดีนัก เกือบจะถึงประตูดั่งแสงสว่างตรงหน้าของนักเดินทาง เจ้าตัวกลับหมดแรงและภาพค่อยๆดับลงไป .....
ปริบ ปริบ
“ รู้สึกตัวแล้วหรอ ”
“ เอ๋ เอ๋ !!!! ”
“ โอ๊ย เจ้าทึ่ม เงียบหน่อยสิ อย่าแหกปากเสียงดังเชียวนะ ”
ตรงหน้าของนักเดินทางหนุ่มนั้นคือ เซียนผู้พิทักษ์ของเมืองหลี่เยว่ที่มีประวัติอันยาวนาน แต่ปัจจุบัน ได้มีการเปลี่ยนสัญญาระหว่างการปกครองของเทพและมนุษย์ ตอนนี้ได้เปลี่ยนสัญญาเป็นการปกครองแบบ มนุษย์ช่วยเหลือมนุษย์ด้วยกันเองแล้ว
นักเดินทางตัวน้อยได้มองสำรวจรอบข้าง แต่ตรงจุดหนึ่งที่ร่างกายรู้สึกหนักๆกับอะไรบางอย่าง ก่อนจะมีเสียงสะอื้นจากข้างตัวของเขา
“ ฮึก ฮือ! แงง ทาบิบิโตะ ! ฉันนึกว่านายจะไม่ตื่นมาอีกซะแล้ว ”
นั่นคือเพื่อนตัวน้อยของเขาที่คอยเป็นทั้งผู้นำทางที่และที่เพื่อนคอยให้กำลังใจกันอยู่เสมอมา กำลังนั่งร้องห่มร้องไห้อยู่ข้างกายของนักเดินทาง
เจ้าตัวที่เห็นการกระทำของเพื่อนตัวน้อยของตนดังนั้นถึงได้เอื้อมมือเข้าไปลูบหัวปลอบประโลมเพื่อนตัวน้อยของตน พรางยิ้มอ่อนก่อนจะพูดปลอบ
“ ฉันก็รอดมาแล้วนี่ไง จะร้องไห้อะไรอีกล่ะ ”
“ กะ..ก็ถ้านายไม่รอด..ฉันไม่ยกโทษให้แน่! ”
“ พวกเจ้านี่เล่นเป็นเด็กกันไปได้นะ ”
“ เงียบน่า! เจ้าคนซึน คนเขากำลังซึ้ง! ”
“ เอ่า รีบทานยาเข้าไปซะ ”
“ อะ.. อืม ”
“ ข้าเคยบอกเจ้าไปกี่ครั้งแล้วว่าอย่าหักโหมร่างกายนัก เจ้าคนไม่รู้จักจำ ”
“ ขอโทษแล้วกันนะ เซียว ”
...“ หึ ”...
เซียนผู้พิทักษ์ที่เปรียบเสมือนเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กับนักเดินทางนั้น ได้พูดตักเตือนพรางโกรธเจ้าตัวไปด้วย ที่ไม่รู้จักถอยหรือหยุดสู้จนตัวตาย อย่างปากที่รับคำไว้ในวันนั้น
เจ้านักเดินทางตัวน้อยก็พูดขอโทษขอโพยกับท่านเซียนผู้พิทักษ์ด้วยความรู้สึกผิดมาก
เซียวนั้นก็ไม่ได้จะว่าดุอะไรกับเจ้านักเดินทางตรงหน้าของเขามาก เพราะเจ้าตัวก็รู้นิสัยของเจ้านักเดินทางคนนี้อยู่แล้ว ว่าเป็นคนที่หัวดื้อมาก
แต่ก็อดห่วงเจ้านักเดินทางไม่ได้อยู่ดีว่าสักวันอาจจะเกิดอันตรายจนถึงแก่ชีวิตได้ง่ายๆ หากว่าเจ้านักเดินทางยังเป็นแบบนี้อยู่ต่อไป ยังหัวรั้นอยู่แบบนี้
...“ เจ้าก็อย่าลืมทานยาซะล่ะ เดี๋ยวจะหายไม่ทันพรุ่งนี้เอา แต่ก็อย่ารีบออกเดินทางนะ เดี๋ยวแผลจะฉีกเอา ”...
...“ ครับ เซียว ”...
...“ เหอะ ”...
เซียวนั้นบ่ายหน้าหนีเจ้านักเดินทางที่นอนอยู่ตรงหน้า ก่อนจะพูดตักเตือนอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงที่ดูโกรธกริ้วและน้อยใจ กับการกระทำของนักเดินทางหัวรั้นคนนี้
“ เจ้านี่มัน ชิ.. ทั้งๆที่ข้าบอกไปแล้วเชียวว่าหากมีอันตรายก็เอ่ยขานชื่อข้าเมื่องามนั้น ”
...“ แต่เจ้าก็ยัง ... ”...
...เซียวหันกลับมาตักเตือนก่อนที่จะบ่ายหน้าหนีนักเดินทางอีกครั้งพรางพองแก้มด้วยความน้อยใจ...
...นักเดินทางที่เห็นการกระทำของเซียวตรงหน้าของเขาแบบนั้นที่ดูเสมือนกับเด็กที่กำลังน้อยใจ นักเดินทางก็อดไม่ได้ที่จะขำออกมาด้วยความเอ็นดูเซียวที่ปกติแล้วจะมีท่าทีที่อึมครึม และสุขุมเป็นอย่างมาก ตอนนี้กลับมีท่าทีที่น่ารัก น่าเอ็นดู...
...เซียวที่เห็นแบบนั้นก็สดุ้งโหยงในทันทีเพราะเขาเผลอตัวจนเกินไปจนอาจเป็นการเปิดจุดอ่อนให้สัตรูก็เป็นได้ เซียวจึงหันหน้ากลับมาก่อนที่จะพูดแก้ตัวกับตัวเองอย่างร้อนรน...
...“ ชิ.. ขะ..ข้าไม่ได้จะเปิดจุดอ่อนให้สัตรูรู้หรอกนะ อย่าเข้าใจผิดเสียละ— อุ้บ! ? ”...
...พรวด!!——...
...“ อึก...”...
ก่อนที่เซียวนั้นจะพูดจบด้วยท่าทีที่ร้อนรนแบบนั้น
มือเจ้ากรรมที่ซนไม่รู้เรื่องของนักเดินทางก็อเอื้อมไปจับคางของเซียวก่อนที่จะบังคบให้ทิศทางของมัน กันมาทางของเขาและประกบจูบด้วยกันภายในห้องพักของโรงแรมแห่งนั้น
จูบที่เร่าร้อนและไม่มีท่าทีว่าจะหยุดให้ท่านเซียนนั้นได้พักผ่อนภายในค่ำคือที่เงียบสงักนั้นช่างยาวนาน ก่อนที่มือเจ้ากรรมของนักเดินทางจะซนอีกแล้ว และค่อยๆรุกล้ำเข้าไปลึกอีก
ฝ่ามือบางได้ค่อยๆรุกล้ำเข้าไปภายใต้เสื้อของเซียว และเจ้ามือซนอีกข้างก็ค่อยๆถอดเครื่องประดับตามตัวที่ห้อยไปรุงรังออกไปด้วย
แม้ร่างกายจะกำลังพักฟื้นจากบาดแผลสาหัส แต่การกระทำและความคิดนั้นมันมากกว่าความรู้สึกเจ็บ ร่างกายของทั้งสองค่อยๆย่างกายเข้ามาใกล้ชิดมากขึ้น โดยที่มือของนักเดินทางได้เอื้อมไปลูบไล้ตามลำตัวของเซียวอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุดทำแบบนั้นต่อไปอย่างต่อเนื่อง และมือนั่นก็เหมือนจะพยายามชักชวนฝ่ายตรงข้ามให้ย่างกายเข้ามา
เซียวที่โดนกระทำไปแบบนั้นก็มีท่าทีที่เหมือนจะสนองตามการกระทำของเจ้านักเดินทางตรงหน้า สายตาของเซียวนั้นดูจะยอมรับไม่ได้กับการกระทำของเขาที่ดูจะเป็นการสนองตามความต้องการของนักเดินทางตรงหน้า แต่เจ้าตัวกลับปฏิเสธไม่ได้
...“ จะ..เจ้า... ”...
...“ ถ้ามากกว่านี้ผมจะต้องตอบแทนอะไรกับคุณนะ ”...
...“ อืม... ”...
เจ้านักเดินทางที่ทำท่าทางเจ้าเล่ห์ก็พูดหยอกล้อไปกับเซียวในขณะที่ทั้งสองกำลังใกล้ชิดกันมากขึ้น
นักเดินทางก็กำลังกำลังครุ่นคิดบางอย่างก่อนที่จะนึกบางอย่างออก เพื่อเป็นการตอบแทนที่อีกฝ่ายยอมสนองตามความต้องการของเขาที่พละการทำอย่างไม่ได้ถามความเห็นจากอีกฝ่ายเลยแม้แต่คำเดียว
...“ งั้นผมขอเป็นการทำมากกว่านี้นะครับ เซียว ”...
...“ เจ้านี่โลภเกินไปแล้วนะ ”...
...“ ผมก็กำลังคิดว่าคุณคงจะต้องการแบบนั้นนะครับ เซียว ”...
...“ เจ้านี่เล่ห์เหลี่ยมจริงๆ ”...
...“ ข้ายอมก็ได้ เพียงแค่ครั้งนี้ ครั้งเดียวเท่านั้น จดไม่มีครั้งต่อไป ”...
...“ แย่จังเลยนะครับ เซียว พอดีว่าผมน่ะ อยากจะมีครั้งต่อไปนะครับ ”...
...“ ถ้าคิดว่าข้าจะยอมให้กับเจ้าได้ เจ้าก็ลองทำดูสิ ”...
...“ ค่ำคืนนี้คุณจะไม่มีวันลืมเลยล่ะครับ ”...
...“ บางทีคุณอาจจะเผลอติดใจไปเลยก็ได้นะครับ”...
ยังไม่ทันที่เซียวจะเอ่ยพูดตโต้กลับนักเดินทาง เขาก็ถูกฉุดกระชากลงไปประกบกับจูบของนักเดินทางอีกครั้งกับอีกฝ่ายที่นอนคอยเซียวอยู่บนเตียง
กว่าที่จะได้เริ่มบทเพลงรักระหว่างทั้งสองคนนั้น ก็ยืดเยื้อพอตัวเพราะนักเดินทางนั้นคงจะติดใจกับจูบที่ดูดดื่มระหว่างทั้งสองคนเป็นอย่างมาก
นักเดินทางได้จูบและแลกลิ้นกับเซียวอยู่อย่างยาวนาน จนริมฝีปากของเซียวเริ่มเป็นรอยช้ำขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
ท่าทีของเซียวที่เจ็บปวดที่ริมฝีปากนั้น ก็รีบเอ่ยปากพูดกับนักเดินทางตรงหน้าของเขาที่เจ้าตัวของเซียวนั้นกำลังนั่งคร่อมนักเดินทางอยู่
...“ เจ้าคิดจะยืดเยื้อไปอีกนานสักเท่าไหร่กัน ”...
นักเดินทางที่ได้ยินดังนั้น จึงได้เผยรอยยิ้มที่มีเล่สไนย์ออกมาอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะมีรอยยิ้มแบบนั้น ประกดบนใบหน้าหวานละอ่อนของหนุ่มร่างบางอย่างนักเดินทางผู้นี้
ด้วยความที่ดูร้อนรนและไม่อยากยืดเยื้อไปมากกว่านี้แล้ว ทั้งสองก็ได้เริ่มบทเพลงรักหลังจากนั้น
จูบที่ดูดดื่มระหว่างเพลงรักของทั้งสอง
และการกระทำที่เริ่มรุกล้ำไปมากกว่าคำว่า " เพื่อน " ระหว่างทั้งสองนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป
แต่จากการกระทำและบทสนทนานั้นดูไม่ใช่ว่าการกระทำที่ดูก้าวก่ายไปมากกว่านี้นั้นไม่ได้เป็นครั้งแรกของทั้งสอง และดูเหมือนว่าทางของนักเดินทางนั้น จะค่อนข้างรุกล้ำก้าวก่ายกับเซียวมากเป็นพิเศษกว่าใคร
มือเจ้ากรรมได้ค่อยๆเอื้อมไปจับตามผิวผ้าตามลำตัวของเซียวที่มีรูปร่างเล็กและบอบบาง แต่ทักษะของเขานั้นเหลือกว่าใครหลายๆคน
เซียวที่ดูไม่ค่อยอยากจะทำนักแต่ร่างกายมันดันสนองตามความต้องการจึงจำเป็นที่จะต้องสนองตามความต้องการของคนตรงหน้า และค่อยรุกล้ำเข้าไปมากกว่านี้ ลึกกว่านี้
จนท้ายที่สุดทั้งสองคนก็แทบจะประกบกันเป็นปลาท่องโก๋
ทั้งสองที่นอนร่วมเพลงรักระหว่างกันและกัน ภายใต้แสงจันทร์ที่ส่องสว่างลอดผ่านภายใต้ม่านของหน้าต่างเข้ามาสาดส่องร่างกายที่ไร้อาพันธ์ของทั้งสอง
มือเจ้ากรรมของนักเดินทางก็ซนไม่รู้เรื่องอีกแล้ว ค่อยๆลูบไร้ไปตามผิวหน้าท้องของเซียวอย่างต่อเนื่อง ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังพูดคุยหยอกล้อกันอยู่ แต่ดูเหมือนจะเป็นฝ่ายของนักเดินทางเสียมากกว่าที่พูดจาหยอกล้อกับเซียว
โดยที่เซียวนั้น นั่งคร่อมเจ้านักเดินทางแสนเจ้าเล่ห์ด้วยท่าทีที่เขินอาย และร่างกายของเขาก็อยู่ไม่เป็นสุขเช่นกัน เพราะมือของนั่งเดินทางนั้น ลูบไล้ต่อเนื่องไม่มีท่าทีว่าจะหยุดบนหน้าท้องของเขาอย่างมีความสุข เซียวก็มิอาจที่จะปฏิเสธได้แม้แต่นิดเดียว
ถึงแม้ร่างกายที่ไร้อาพันธ์ของทั้งสองจะประกบเข้าด้วยกันและต่างฝ่ายต่างมีอารมณ์ร่วมด้วยกันแล้ว แต่ทั้งสองก็ยังไม่ได้รีบร้อนที่จะเริ่มทำเรื่องอย่างว่า
แต่มีเพียงแค่นักเดินทางเท่านั้นที่ดูจะมีความสุขและหยอกล้อกับเซียวเพียงฝ่ายเดียว
นักเดินทางก็เริ่มครุ่นคิดอีกครั้งว่า ถ้ายืดเยื้อไปกว่านี้คงจะไม่เป็นการดีแน่
“ อ๊ะ !? — อุ้บ!! ”
นักเดินทางไม่ได้รีรอ นิ้วมือก็ได้ทำการสอดแทรกเข้าไปใต้จุด จุดหนึ่ง ที่เหมือนจะเป็นจุดที่กระตุ้นเร้าเรียกอารมณ์ของเซียวนิดหน่อย เจ้าตัวเลยเผลอที่จะครางเสียงหลงออกมา
นักเดินทางเห็นดังนั้นจึงยิ่งได้ใจเข้าไปใหญ่ ยิ่งรุกล้ำเข้าไปมากกว่าเดิม และหนักหน่วงกว่านั้น
แต่ก็ไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งมากมาย ทั้งสองเพียงแค่และลิ้นกันในค่ำคืนนั้น ภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องลอดผ่านภายใต้ม่านหน้าต่าง
บทเพลงรักที่ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ เป็นเพียงแค่ความสุขเล็กๆน้อยๆระหว่างทั้งสอง
ทั้งสองเพียงแค่และลิ้นกันและจูบกันอย่างดูดดื่ม ภายใต้แสงจันทร์ และร่างที่ไร้อาพันธ์
...แกร๊ก !—...
“ นี่ๆ ทาบิบิโตะ ฉันได้ข้าวเย็นมาแล้วน้าาา กว่าจะได้มา ฉันนั่งกินตั้งนาน หยุดยั้งความหิวไม่ได้เลยยย ฮ่าฮ่า ”
ไพม่อน เพื่อนตัวน้อยนักเดินทางก็ได้เข้ามาในห้องพักพอดี ตรงหน้าของเธอมีเพียงแค่เพื่อนนักเดินทางของเธอที่กำลังนอนพักฟื้นอยู่ และเซียว เซียนยักษ์สาผู้พิทักษ์กำลังนั่งเฝ้าอาการ
...“ เอ๋ ”...
“ ทำไมเซียวยังไม่ไปอีกอ่ะ แหม เป็นคนซึนจริงๆด้วยแฮะ ”
“ ทั้งที่เห็นพูดข่มไม่อยากจะมาดูแล สุดท้ายก็ยังเฝ้าดูอาการหรอเนี่ยยย ”
“ ชิ เรื่องของข้า ”
“ อะไรกันเล่าา จู่ๆก็มาโมโหใส่เฉยเลยแฮะะ ไปโกรธใครมาเนี่ยยย ”
ไพม่อนเพื่อนตัวน้อยพูดหยอกล้อนิดหน่อยกับเซียวไม่ได้มีอะไรมาก ก่อนที่เธอจะบินถือถาดอาหารเข้ามาวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียง ก่อนจะเอ่ยปากถาม
“ อ่า นี่ข้าวเย็นของนาย พอดีที่มาช้าฉันเพอินกอนเพลินไปหน่อยน่ะ เถ้าแก่เนี้ยะก็ให้มาได้เท่านี้แหละ ”
“ ขอโทษทีน้าา พอดีฉันอิ่มแล้วน่ะ ”
“ โกหกหน้าตายเห็นๆ ยังไม่ทันที่จะได้กินอะไรเลย ก่อนหน้านี่ก็เกือบตาย เอ้าๆ รีบมากินซะ ”
“ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ! ”
“ ฮะๆๆๆ ”
TBC.
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 8
Comments