เมื่อตัวร้ายอ้อนรัก

เมื่อตัวร้ายอ้อนรัก

บทที่หนึ่ง กระอักเลือด

บทที่หนึ่ง ✾ กระอักเลือด

รัชสมัยหมิงจง ปีที่ยี่สิบ เดือนที่สอง วันที่ยี่สิบแปด

เมืองสุ่ยหยวนคือเมืองหลวงซึ่งเจริญรุ่งเรืองที่สุดในแคว้นต้าหยวน การค้าขายคึกคัก ผู้คนคับคั่งสัญจรไปมาไม่ขาดสาย ราษฎร์ร่มเย็นเป็นสุข โคมไฟหน้าเรือนทุกหลังระยิบระยับราวกับแสงดวงดาวบนท้องนภา

ทว่ายามราตรีที่แสงจันทน์สว่างไสว ร่างบางในชุดผ้าต่วนผืนบางนอนกระสับกระส่ายจมอยู่ในความฝัน เหงื่อกาฬโชกชุ่มไปทั่วทั้งกาย ภายในเรือน ‘หลันเซียง’ ของจวนผิงหย่งโหว

หลี่อวี้หลันกำลังฝันว่าตนเองนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนที่นอนนิ่มๆ ภายในห้องสี่เหลี่ยมสีขาวสะอาด ในมือถือหนังสือเล่มหนึ่งที่เพิ่งหยิบขึ้นมาอ่านจากกองหนังสืออีกยี่สิบกว่าเล่มข้างกาย

    ฟืบ

เสียงหน้ากระดาษเปิดผ่านดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าสลับกับเสียงถุงขนมและเสียงเคี้ยวกรุบๆ จากริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้มมันวาว ปลายนิ้วดันกรอบแว่นสายตาหนาเตอะให้กระชับใบหน้าขณะสายตายังคงจดจ้องภาพวาดบนหนังสือด้วยใจจดจ่อ

มังฮวาเรื่อง ‘ร้อยบุปผาพันจันทรา’ กำลังดำเนินเรื่องมาถึงสองเล่มสุดท้าย เนื้อเรื่องเริ่มเข้มข้นและชวนตื่นเต้นขึ้นทุกที ยิ่งอ่านก็ยิ่งเพลิน ยิ่งเพลินก็ยิ่งวางไม่ลง จากเล่มแรกจนถึงเล่มที่ยี่สิบสองต้องใช้เวลาในการอ่านถึงสองวันสองคืนเต็มๆ เหลือเล่มสุดท้ายที่ยังวางอยู่อย่างโดดเดี่ยวเพื่อรอให้หยิบขึ้นมาอ่าน

ทว่า… จู่ๆ ภาพตรงหน้าก็หมุนเคว้ง ราวกับร่างกายไร้แรงโน้มถ่วงกะทันหัน สายลมจากทุกสารทิศพัดกระโชกเข้ามารุนแรง ร่างบางฟุบตัวลงกับที่นอนกรีดร้องสุดเสียงด้วยความตื่นตระหนก

    เฮือก!

ดวงตาเมล็ดซิ่ง*งดงามฉ่ำวาวเหม่อมองม่านมุ้งข้างเตียง หน้าอกอวบอิ่มกระเพื่อมขึ้นลงรัวแรง ท่ามกลางความมืดสลัวของแสงจันทร์นอกหน้าต่าง นางเหม่อลอยเนิ่นนานราวกับวิญญาณยังไม่กลับเข้าร่าง ครู่หนึ่งถึงจะคลายความตื่นตระหนกลงได้

“คุณหนู ฝันร้ายอีกแล้วหรือเจ้าคะ” ไป๋เยาสาวใช้วัยแรกรุ่นขยี้ตาตกใจตื่นรีบกระวีกระวาดเข้ามาเปิดม่านโปร่งข้างเตียงพลางคุกเข่าร้องเรียกคุณหนูของตน

หลี่อวี้หลันยันกายลุกขึ้นนั่ง กวาดสายตามองรอบห้องหนึ่งครั้ง ก่อนถอนหายใจออกมา ยื่นมือรับน้ำชาขึ้นมาดื่มขับไล่ความกระหาย ลำคอแห้งผากค่อยชุ่มชื้นขึ้น

“ดีขึ้นหรือไม่เจ้าคะ”

“อืม ข้าไม่เป็นไร เจ้านอนต่อเถอะ” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางสะดุ้งตื่นกลางดึก ต้องกล่าวว่านางเป็นเช่นนี้แทบจะทุกคืน นับตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อครึ่งเดือนก่อน

ไป๋เยามีสีหน้ากังวล ไม่ยอมกลับไปนอนที่ของตนหน้าเตียงเตา แต่ยังนั่งคุกเข่าอยู่ข้างเตียงเช่นเดิม “คุณหนูฝันร้ายเช่นนี้ทุกคืนเลยนะเจ้าค่ะ บอกนายหญิงดีหรือไม่เจ้าคะ จะได้ตามท่านหมอหลวงมาตรวจอาการท่านด้วย”

“ไม่จำเป็น” หลี่อวี้หลันรู้ตัวเองดีว่าอาการฝันร้ายนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร มันไม่ใช่โรคประหลาด ไม่ใช่โรคเจ็บป่วยใด แต่เป็น ‘โรคทางใจ’ ของนางเอง เป็นโรคที่เกิดมาจากจิตวิญญาณของนาง ไม่ได้เกี่ยวอันใดกับร่างกายนี้เลย

ความจริงแล้วหลี่อวี้หลันไม่ใช่คนของยุคสมัยนี้ ไม่สิ ต้องกล่าวว่านางไม่ใช่คนของมิตินี้ถึงจะถูกต้องกว่า เพราะมิติที่นางอยู่ยามนี้เป็นยุคสมัยที่ไม่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นชื่อแคว้น ชื่อเมือง หรือชื่อกษัตริย์ ล้วนไม่มีอยู่จริงในยุคที่นางจากมา เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกแต่งขึ้นในมังฮวาที่นางกำลังอ่านอยู่นั่นเอง!

มังฮวาเรื่อง ‘ร้อยบุปผาพันจันทรา’ เป็นมังฮวาออนไลน์ชื่อดังบนเว็ปมังฮวาซึ่งกำลังเป็นที่นิยมมากในหมู่นักเรียนนักศึกษา หลี่อวี้หลันก็เป็นหนึ่งในนั้น เพื่อนร่วมหอเป็นคนแนะนำให้นางอ่านเพราะเห็นว่าชื่อของนางร้ายในเรื่องนี้เหมือนกับนาง หลังจากผ่านการสอบอันแสนหฤโหดเสร็จ นางจึงตัดสินใจเหมาซื้อมังฮวาฉบับหนังสือเพื่อตั้งใจจะนอนอ่านข้ามวันข้ามคืนให้สบายอารมณ์ ไหนเลยจะคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องเหนือธรรมชาติขึ้นกับนางได้

จู่ๆ นางก็ฟื้นขึ้นมาในร่างของคุณหนูรองหลี่ ตัวร้ายอันดับสองของมังฮวาเรื่องนี้!

หลี่อวี้หลัน คุณหนูรองที่มีชื่อเดียวกับนาง ตัวร้ายอันดับสองที่มีจุดจบไม่ดี ถึงนางจะยังอ่านไม่ถึงเล่มสุดท้าย แต่ก็พอจะเดาจุดจบของคุณหนูรองผู้นี้ได้ สตรีผู้มีจิตใจเหี้ยมโหดอำมหิต มักใหญ่ใฝ่สูง ช่างอิจฉาริษยาและมุ่งร้ายผู้อื่น สตรีเช่นนี้คงมิได้ตายดีเป็นแน่

และนางก็ดันมาอยู่ในร่างของสตรีร้ายกาจผู้นั้น!!

   อึก… พรวด!

“คะ คุณหนู! ทะ ท่าน… ท่านกระอักเลือดอีกแล้ว!” ไป๋เยาหวีดร้องตกใจรีบหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับริมฝีปากให้เจ้านาย

ดวงหน้างามล้ำซับสีระเรื่อหลุบมองเลือดอุ่นร้อนบนฝ่ามือขาวซีดของตน หากนับตามจริงแล้ว การกระอักเลือดครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ห้า ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อตอนที่นางฟื้นขึ้นมาในร่างนี้ครบเจ็ดวัน ยามนั้นจู่ๆ นางก็กระอักเลือดออกมาคำโต ทำเอาคนทั้งจวนปั่นป่วนไปหมด เชิญหมอหลวงมาตรวจก็ไม่พบอะไรผิดปกติ เพียงเขียนเทียบยาบำรุงให้แล้วก็กลับไป ทว่าวันต่อมานางก็กระอักเลือดออกมาอีก หมอหลวงคนเดิมจึงถูกตามตัวกลับมาตรวจอีกครั้ง และก็ไม่พบความผิดปกติเช่นเดิม เป็นเช่นนี้อยู่สามวัน

กระทั่งวันที่สาม หลี่อวี้หลันเผลอปัดถ้วยชาตกแตก นางคิดจะเก็บเศษกระเบื้องเอง แต่ไป๋เยาไม่ยินยอมให้นางทำ ทั้งสองจึงยื้อยุดกันชั่วครู่ สุดท้ายไป๋เยาเสียหลักล้มลงบนพื้นทำให้ฝ่ามือถูกเศษกระเบื้องบาดจนเป็นแผล หลี่อวี้หลันรู้สึกผิดอย่างมาก นางจึงยอมนั่งนิ่งปล่อยให้ไป๋เยาจัดการเก็บกวาดเอง

ทว่าวันต่อมานางก็มิได้กระอักเลือดอีก

แต่หลังจากนั้นเจ็ดวันนางกลับมากระอักเลือดอีกครั้ง คืนนั้นนางฝันถึงต้าซือผู้เฒ่ารูปหนึ่งยืนอยู่ท่ามกลางหมอกควัน ต้าซือผู้เฒ่าผู้นั้นกล่าวกับนางในความฝันว่า ‘มนุษย์ทุกคนล้วนมีบทบาทหน้าที่ หากฝืนกฎธรรมชาติ ฝืนโชคชะตาฟ้าลิขิต ย่อมได้รับการลงโทษจากสวรรค์’*

ยามนั้นนางยังไม่เข้าใจ จึงถามกลับไปว่า ‘แล้วหน้าที่ของข้าคืออะไร บทบาทของข้าคืออะไร นางร้าย? ตัวร้าย? เช่นนั้นรึ?’

ต้าซือผู้เฒ่าไม่ตอบ เพียงยิ้มอย่างเมตตา

นางตรึกตรองชั่วครู่พลางกล่าวต่อ ‘แล้วถ้าข้าไม่เป็นตัวร้ายได้หรือไม่?’

  ‘หากเจ้านอกบทเกินเจ็ดวันจะต้องกระอักเลือดหนึ่งคำ’

คราวนี้นางตื่นตะลึงถึงขั้นตื่นตระหนก น้ำเสียงที่เอ่ยถามยิ่งแหบแห้ง ‘ชะ เช่นนั้นข้าต้องเป็นตัวร้ายเท่านั้นหรือ…’ 

นางไม่อยากเป็น… ไม่อยากมีจุดจบที่น่าอนาถเช่นนั้น!

หลี่อวี้หลันไม่ทันได้ฟังคำตอบจากต้าซือผู้เฒ่าก็สะดุ้งตื่นเสียก่อน จากนั้นนางไม่ได้ฝันถึงต้าซือผู้นั้นอีกเลย ยามนี้นางกระอักเลือดอีกแล้ว คงเป็นเพราะเจ็ดวันที่ผ่านมานางไม่ได้เล่นไปตามบทบาทของตัวร้าย กลับกัน… นางเอาแต่ขังตัวเองอยู่แต่ในเรือนมิได้ก้าวออกไปไหนเลย คนที่นางพบหน้ามีเพียงไป๋เยา หมอหลวงจาง โหวฮูหยินมารดาของนาง และสาวใช้ที่จำชื่อไม่ได้อีกสองสามคนเท่านั้น

ต้องทำอย่างไรถึงจะหยุดกระอักเลือดได้… หรือว่านางต้องเล่นบทตัวร้ายจริงๆ อย่างนั้นหรือ?

✾⊱┄┄┄┄┄┄┄┄┄┄┄┄┄┄┄┄┄┄┄┄⊰✾

สวัสดีค่ะ ไรท์มาเปิดเรื่องใหม่แนวสบายๆ สไตล์นางร้ายสายสโลวไลฟ์นะคะ

ฝากติดตาม คอมเม้นท์ ถูกใจกันด้วยนะคะ

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!