บทที่สี่ ✾ พบหน้า
หลี่อวี้หลันเหลือบมองสตรีชุดขาวที่กำลังนั่งสงบเสงี่ยมอยู่บนตั่งด้านข้างฮูหยินผู้เฒ่าหลี่
นางก็คือหลี่ฝูหรง นางเอกมังฮวาเรื่องนี้
ต้องยอมรับว่านางเอกในมังฮวาเรื่อง ‘ร้อยบุปผาพันจันทรา’ คือโฉมงามสะคราญอย่างแท้จริง นักวาดตั้งใจเสกสรรหลี่ฝูหรงผู้นี้ออกมาได้อย่างงดงามเลิศล้ำยิ่งนัก แม้ว่านางในยามนี้จะสวมอาภรณ์เรียบง่าย ศีรษะปักปิ่นธรรมดาราคาถูก ดวงหน้าขาวผ่องไร้เครื่องประทินโฉม ทว่ากลับดูงดงามผุดผ่องน่าทะนุถนอม สมกับเป็นนางเอกของเรื่องจริงๆ
เดิมทีหลี่อวี้หลันเพียงตั้งใจมาพบหน้าคร่าตานางเอกมังฮวาสักหน่อย แต่คิดไม่ถึงว่ายังไม่ทันจะกล่าวคำทักทาย ภายในโพรงปากกลับรื้นไปด้วยกลิ่นคาวเลือดลอยคลุ้งขึ้นมากะทันหัน นางรับรู้ในทันทีว่านี่เป็นสัญญาณเตือนว่าตนกำลังจะกระอักเลือดจึงรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดปากเอาไว้ได้ทัน จากนั้นก็กระอักเลือดออกมาคำโตต่อหน้าต่อตาทุกคน
อึก…
“คะ คุณหนู!” ไป๋เยาพุ่งเข้ามาหานางเป็นคนแรก ในขณะที่คนอื่นตกตะลึงกันไปหมด ยิ่งเมื่อเห็นเลือดหยดออกมาจากผ้าเช็ดหน้าเนื้อดีในมือหลี่อวี้หลัน ใบหน้าทุกคนก็ยิ่งซีดขาว “คุณหนูเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ”
หลายวันมานี้ไป๋เยาคอยดูแลอยู่ข้างกายหลี่อวี้หลันตลอด แม้จะยังรู้สึกไม่ชินแต่ก็พอจะรับมือกับ ‘โรคประหลาด’ ของคุณหนูได้อยู่บ้าง นางส่งถ้วยน้ำชาให้หลี่อวี้หลันรับไปดื่มล้างคาวในปาก มือก็ช่วยเช็ดคราบเลือดตรงมุมปากไปด้วย หลายวันมานี้นางจับสังเกตได้ว่าคุณหนูจะต้องกระอักเลือดหนึ่งคำต่อวัน วันนี้ตั้งแต่คุณหนูตื่นนอนตลอดทั้งวันก็ยังไม่ได้กระอักเลือด นางหลงคิดว่าอาการคุณหนูคงจะดีขึ้นแล้วเสียอีก ที่ไหนได้…
“เกิดอะไรขึ้น?” เสียงทุ้มนุ่มนวลดังขึ้นจากด้านหลัง ร่างสูงในอาภรณ์สีฟ้าครามเดินเข้ามาพร้อมกับบุรุษวัยกลางคนและเด็กชายวัยแปดขวบ ทั้งสามล้วนมีใบหน้าหล่อเหลาและคล้ายคลึงกันอย่างมาก
“คุณชายใหญ่… คะ คุณหนูรองกระอักเลือดเจ้าค่ะ” จางหมัวมัวซึ่งยืนรับใช้อยู่ด้านข้างฮูหยินผู้เฒ่าตั้งสติได้ก่อนเป็นคนรายงาน ยามนี้สายตาทุกคนหยุดลงบนร่างของหลี่อวี้หลันที่ยังคงยืนนิ่งแผ่นหลังเหยียดตรง ท่าทางสงบนิ่งราวกับว่าเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่ได้เกี่ยวข้องอันใดต่อนาง
“เจ้าไม่สบายหรือ” นายท่านโหวขมวดคิ้วถามบุตรสาวคนรอง เขาเคยได้ยินเรื่องที่หลี่อวี้หลันล้มป่วยมาจากโหวฮูหยินอยู่บ้าง แต่มิได้ใส่ใจเท่าใดนักเพราะคิดว่านางแค่เป็นหวัดเย็นทั่วไปหรือไม่ก็ป่วยด้วยโรคเอาแต่ใจเหมือนที่ผ่านมา เขารู้จักนิสัยบุตรสาวคนนี้ดีว่าเป็นคนอย่างไร เวลาที่นางเอาแต่ใจหรือไม่ได้ดั่งใจก็มักจะแสร้งป่วยเป็นประจำ ทำให้เขาละเลยที่จะใส่ใจ แต่คาดไม่ถึงว่านางจะป่วยจริง แถมยังถึงขั้นกระอักเลือดด้วย
“อวี้เอ๋อร์คารวะท่านพ่อ คารวะพี่ชายใหญ่” หลี่อวี้หลันไม่ตอบ แต่ยอบกายคำนับบิดากับคุณชายใหญ่แทน ท่าทางสงบนิ่งของนางนั้นดูผิดแผกไปจากเดิมจนทุกคนอดจะประหลาดใจไม่ได้ โดยเฉพาะหลี่ซวนหยวน คุณชายใหญ่แห่งจวนผิงหย่งโหว
ตอนได้ยินข่าวว่าน้องสาวร่วมมารดาของเขากลับมาถึงจวนแล้ว เขาก็รีบติดตามบิดามาที่เรือนฮุ่ยเซียงเพื่อจะพบหน้าน้องสาวแท้ๆ ที่ไม่ได้พบกันมาหนึ่งปีเต็ม แต่ใครเลยจะคิดว่ายังไม่ทันได้พบหน้าหลี่ฝูหรงกลับต้องมาพบหน้าหลี่อวี้หลัน น้องสาวต่างมารดาผู้มีนิสัยร้ายกาจเสียก่อน
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาหลี่ซวนหยวนไม่เคยมีภาพจำที่ดีเกี่ยวกับน้องสาวต่างมารดาผู้นี้เลยสักครั้ง นางทั้งเย่อหยิ่ง เอาแต่ใจและปากร้าย มักสร้างความลำบากใจให้กับเขาสองพี่น้องอยู่เป็นประจำ เขาจึงรู้สึกเอือมระอาและค่อนข้างชิงชังน้องสาวผู้นี้อยู่มาก ยามพบหน้ากันเขามักจะทำเย็นชาหมางเมินใส่นางอยู่บ่อยครั้ง นานวันเข้านางก็กลายเป็นเหมือนฝุ่นละอองสำหรับเขา
ทว่ายามนี้เมื่อได้เห็นท่าทางนิ่งสงบของนาง ได้สบกับแววตาสุกสกาวดั่งดวงดาราแสนงดงามคู่นั้น ความรู้สึกแปลกประหลาดบางอย่างแล่นวาบเข้ามาในใจจนเขายังรู้สึกตระหนก
หลี่อวี้หลันกำลังไตร่ตรองเรื่องราวในมังฮวาเกี่ยวกับพี่ชายใหญ่ผู้นี้ของนางอยู่เช่นกัน หากจำไม่ผิดยามนี้หลี่ซวนหยวนดำรงตำแหน่งรองแม่ทัพรักษาการณ์เมืองหลวงอยู่ และในวันหน้าจะได้เลื่อนขั้นขึ้นเป็นถึงแม่ทัพรักษาการณ์เมืองหลวงเลยด้วย
หลี่ซวนหยวนผู้นี้เป็นผู้ที่ค่อนข้างมีบทบาทในการต่อต้านนางร้ายหลี่อวี้หลัน แม้ว่าทั้งสองจะเป็นพี่น้องร่วมบิดากัน แต่เพื่อปกป้องหลี่ฝูหรงน้องสาวร่วมมารดาของเขาแล้ว เขาเลือกที่จะทำร้ายหลี่อวี้หลันอย่างไม่ลังเล
สำหรับหลี่อวี้หลันที่เข้ามาอยู่ในร่างของนางร้ายผู้นี้แล้ว… การหามิตรย่อมดีกว่าหาศัตรู และการหามิตรที่ดีที่สุดก็คือมิตรที่เรียกว่า ‘พี่น้อง’ นี่แหละ อย่างไรเสียเลือดย่อมข้นกว่าน้ำไม่ใช่หรือ
ในมังฮวาจุดอ่อนของนางร้ายหลี่อวี้หลันก็คือความโหดเหี้ยมอำมหิตและความหยิ่งทระนง นางแข็งข้อไม่ยอมใคร ทำให้ทุกคนมองว่านางเป็นตัวร้าย เป็นหายนะ เป็นเภทภัยที่ควรกำจัดทิ้ง
หากนางไม่อยากมีจุดจบเหมือนกับนางร้ายหลี่อวี้หลันในมังฮวา สิ่งที่นางควรทำและต้องทำก็คือการเดินสวนทางกับนางร้ายหลี่อวี้หลันซะก็สิ้นเรื่องแล้ว
เมื่อไตร่ตรองเสร็จสีหน้าหลี่อวี้หลันพลันอ่อนลง นัยน์ตาแฝงความเศร้าสร้อย เสียงที่กล่าวก็ฟังดูอ่อนแรงติดจะแหบแห้งอยู่บ้าง “ลูกไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ แค่กๆ” นางปิดปากแสร้งไอเบาๆ พลางกล่าวต่อว่า “เพียงแต่ว่าหลายวันมานี้ต้องลมหนาวจึงเป็นหวัดเย็นเท่านั้นเจ้าค่ะ”
ท่าทางอ่อนแอของนางดูไม่คล้ายกำลังเสแสร้งเหมือนที่ผ่านมา ทั้งดวงหน้างามขาวซีดไร้สีเลือด ทั้งริมฝีปากแห้งแตกซีดเซียว ทั้งแววตาอ่อนล้าและสีหน้าอ่อนเพลีย ท่าทางของนางนั้นล้วนทำให้ทุกสายตาอ่อนลงระคนสงสารเห็นใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เดิมทีนายท่านโหวรักบุตรทุกคนเท่าเทียมกันอยู่แล้ว เขาเป็นคนเที่ยงธรรม ไม่ลำเอียง ไม่แบ่งแยกบุตรภรรยาเอกหรือบุตรอนุ ขอเพียงเป็นลูกของเขา เขาก็รักเหมือนกันหมด เพียงแต่หลายปีที่ผ่านมานี้หลี่อวี้หลันชอบสร้างปัญหาอยู่บ่อยครั้ง ทั้งยังเอาแต่ใจและเย่อหยิ่ง โหวฮูหยินก็ตามใจนางจนเสียคน ทำให้ความรักความเอ็นดูที่เคยมีเริ่มจืดจางลงไป แต่ยามนี้เมื่อได้เห็นท่าทางอ่อนแอไร้ความเย่อหยิ่งของบุตรสาวคนรองกับตา ก็อดรู้สึกสะท้อนใจด้วยความสงสารมิได้
“พาคุณหนูเจ้ากลับเรือนแล้วไปเชิญท่านหมอหลวงกู้มา”
✾⊱┄┄┄┄┄┄┄┄┄┄┄┄┄┄┄┄┄┄┄┄⊰✾
กระอักเลือดได้ถูกจังหวะมากเจ้าค่ะ ใครบอกว่านางร้ายจะน่าสงสารไม่ได้คะ อวี้หลันจัดการแสดงไปหนึ่งชุด
ฝากติดตาม คอมเม้นท์ ถูกใจกันด้วยนะคะ
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments