หลายวันผ่านไป..
ร่างสูงของธีภพยืนเล่นการพนันในวงไพ่ แต่พอเล่นนานไปเรื่อยๆก็เริ่มมีอาการหัวเสียออกมาด้วยชิปโป๊กเกอร์ใกล้หมดมือจากการเสียพนันในการเดิมพัน
"เฮ้ย! ไรวะ..เสียอีกละ วางเดิมพันกี่รอบๆก็เสีย นี่มันโกงกันชัดๆเลย"
"ใจเย็นก่อนสิคุณธีภพ.."
ชายเจ้าของบ่อนพนันเดินเข้ามาพร้อมกล่าวบอกเขาด้วยสีหน้าท่าทางที่ยิ้มแย้ม
"เอามาอีกสองแสนดิ"
"ของเก่าคุณยังไม่คืนผมเลยนะ"
"ฉันเป็นใคร ฉันจ่ายแน่แต่ไม่ใช่ตอนนี้ เอามา.."
"ไปเอาชิปมาสองแสน"
เขากล่าวสั่งแล้วลูกน้องของเขาก็เดินไปเอาชิปโป๊กเกอร์ตามคำสั่งในทันที
"แล้วใครมันเป็นคนใช้หนี้ให้ฉันวะ มันต้องการอะไร"
"เค้าไม่ประสงค์จะออกนาม แต่...! เป็นคนที่คุณเองก็รู้จักดี"
.
.
.
"คนที่คุณให้ผมตามหา เธอเสียชีวิตไปเมื่อยี่สิบหกปีที่แล้ว"
เสียงของชายบุคคลปริศนาดังออกมาจากโทรศัพท์มือถือของธนินจนเขาแสดงสีหน้าสลดตกใจออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่หูของตนเองได้ยิน
"ไม่ๆ เธอยังไงตาย.."
"เสียใจด้วยครับ ส่วนเด็กผมยังไงแน่ใจ ขอผมเช็คอะไรอีกสักหน่อยก่อน"
"ลูกฉันยังไม่ตาย นายก็รีบสืบหาให้ฉันเดี๋ยวนี้สิ"
ธนินกรอกเสียงบอกกับคนในสายน้ำเสียงเยือกแข็งแล้วกดวางสาย แต่เพียงวางสายไปได้แค่ไม่กี่วินาทีก็มีเสียงของหญิงสาวบุคคลที่สามกล่าวถามขึ้นมาว่า
"ป๊า..! ป๊าพูดถึงใคร ใครคือลูกป๊าอีกคน"
"เนตร.."
เขาขานนามของลูกสาวตัวเองออกมาจากนั้นเธอก็ก้าวเดินเข้าไปหาแล้ววางแฟ้มงานลง
"ป๊าไม่รู้..!"
"ที่ป๊ากับม้าชอบทะเลาะกันบ่อยๆก็เพราะเรื่องนี้"
"ใช่..!!"
"เค้าอายุเท่าไหร่"
"น่าจะเกิดก่อนเราปีนึง"
จำใจยอมตอบคำถามเนตรนภาซึ่งเป็นลูกสาวคนเล็กของตน
"ขอตัวนะคะ"
เนตรนภากล่าวบอกแล้วหันหลังเดินออกจากห้องด้วยสีหน้าสลดและคิดวิตก
"เนตร..!!"
.
.
18:38 น.
"ทำงานที่ไหนทำไมไม่บอกป๊าหน่อยล่ะ"
พงศกรพ่อบุญธรรมของพชรกล่าวถามเธอด้วยสีหน้าความอยากรู้และต้องการคำตอบในขณะที่นั่งทานอาหารด้วยกันทั้งที่ตัวเขาเองก็รู้ดีอยู่แล้ว
"ทำแถวๆนี้แหละป๊า ป๊าน่ะนอนเลยยิ่งไม่ค่อยสบายอยู่ด้วย"
เธอกล่าวบอกกับเขาแต่ไม่ได้ระบุสถานที่ด้วยไอต้องการให้เขารู้
"ไม่คิดจะกลับไปหาพวกเค้าหรอกใช่มั้ย"
เขากล่าวถามอย่างชั่งใจ
"ป๊าา..! เกรซไม่ไปหรอก เกรซจะอยู่กับป๊าคนเดียว เพราะสำหรับเกรซแล้วป๊าคือพ่อที่รักเกรซและเกรซก็รักที่สุด"
"แล้วพรุ่งนี้ไปทำงานแต่เช้ามั้ย"
เขากล่าวถามต่อพร้อมทั้งตักอาหารใส่จานให้กับเธอ
"เจ็ดโมงก็ไปแล้ว"
"เหนื่อยหน่อยนะลูก.."
"ถ้าเทียบกับป๊าแล้วไม่เหนื่อยเลยค่ะ"
มองหน้าผู้เป็นพ่อแล้วเผยยิ้มออกมาเพราะไม่อยากให้พ่อของตนเป็นห่วงจากนั้นก็ตักอาหารและข้าวเข้าปาก
"แล้วความสัมพันธ์ของเรากับคุณขวัญล่ะ เป็นไงบ้าง"
"แทบจะไม่ขยับไปไหนเลยอ่ะ พี่เค้าสนใจแต่งาน แต่ถ้าเสร็จงานนี้แล้วต้องไปไกลแน่นอน"
เธอตอบกลับหลังจากเคี้ยวและกลืนลงคอแล้วทำปากจู๋
"ให้มันจริงอย่างว่าเถอะ"
"ป๊าไปนอนเลย แทนที่จะให้กำลังใจกัน"
ทำหน้างอนเขาผู้เป็นพ่อของตัวเองแล้วทานข้าวต่อไป
.
.
.
วันต่อมา..
ร่างสูงของพชรเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของขวัญกวินพร้อมถือแก้วกาแฟเข้ามาให้เธอด้วยจนถึงโต๊ะ
"สัปดาห์นี้ทั้งสัปดาห์ฉันไม่ได้กลับนะคะ คุณกลับได้เลยค่ะไม่ต้องรอ"
ขวัญกวินละสายตาจากงานพร้อมเอ่ยปากกล่าวบอกกับพชร
"ทำไมไม่กลับล่ะ"
พชรกล่าวถามกลับแล้วขมวดคิ้วเป็นปมอย่างสงสัย
"เป็นสัปดาห์สุดท้ายแล้ว ฉันต้องอยู่ทำงานต่อกับทุกคนให้เสร็จค่ะ"
ตอบคำถามพชรแล้วหยิบแก้วกาแฟที่พชรนำเข้ามาให้ขึ้นมาดื่มแล้ววางลงบนโต๊ะทำงานไว้เช่นเดิม
"ถ้าอย่างนั้นถ้าต้องการอะไรโทรบอกได้เลยนะ จะเอามาส่ง..ไม่ต้องเกรงใจ"
"คนอื่นเค้าจะสงสัยเอานะถ้าฉันเรียกคุณมาได้ทุกเวลาแบบนี้"
เงยหน้ามองพชรสายตาเรียบนิ่ง
"คนเค้ารู้ก็ช่างเค้าเพราะฉันจะลาออก ทุกคนจะได้ว่าไม่ได้ว่าเจ้านายกับลูกน้องแอบคบกัน"
ทำหน้าจริงจังให้ขวัญกวินดูอย่างน่าเชื่อถือ
"แต่คุณพึ่งทำได้ไม่ถึงเดือน แล้วฉันเองก็จะลาออกอยู่แล้ว"
"ฉันไม่ให้คุณลาออกหรอก ไม่มีใครมาสั่งคุณลาออกได้ทั้งนั้น เพราะหลังจากนี้มันจะไม่เหมือนเดิม"
"คุณนี่พูดแปลกๆเหมือนจะบอกอะไร"
ขวัญกวินกล่าวถามอย่างนึกสงสัยกับคำพูดของพชรเพราะรู้สึกเหมือนว่าเธอพูดเหมือนรู้อะไรบางอย่างมา
"เปล่าหรอก! ก็แค่มีลางสังหรณ์ แต่มันจะดีหรอ ในทีมของคุณมีผู้ชายมากกว่าผู้หญิงนะ"
ตอบปฏิเสธโดยหาเหตุผลมากล่าวอ้างเพื่อไม่ให้ขวัญกวินรู้ในสิ่งที่ตัวเองรู้และคิดจะทำมันในไม่ช้านี้
"พวกเค้าไว้ใจได้..ฉันทำงานกับพวกเค้ามาสองปีแล้ว"
"จะยังไงก็เถอะ ถ้ามีอะไรผิดสังเกตให้รีบโทรบอกฉัน"
พชรพูดและส่งสายตาห่วงใยดังนั้นขวัญกวินก็เผยยิ้มออกมาด้วยพชรเป็นห่วงตัวเองมากเป็นพิเศษ พิเศษจนไม่รู้ว่าจะมีใครเป็นห่วงตัวเองได้มากเท่านี้อีกบ้าง
.
.
"ไปตามหามันมาให้เจอแล้วพามันมาพบฉัน"
"ครับ.."
เสียงของหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งกล่าวบอกกับชายคนหนึ่งผ่านโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างร้ายกาจ
.
.
13:12 น.
"Next week, I will travel to Thailand with our lawyer before making a takeover js at your request"
[สัปดาห์หน้าผมจะเดินทางไปประเทศไทยพร้อมกับทนายของเราก่อนที่จะทำการเทกโอเวอร์ js ตามความต้องการของคุณ]
เสียงของมิสเตอร์ไมค์พูดกล่าวกับพชรผ่านโทรศัพท์มือถือด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"Okay!! So where are you staying"
[โอเค!! แล้วคุณจะพักที่ไหน]
พชรกล่าวถามน้ำเสียงเรียบนิ่ง
"I want to stay in Samui Island"
[ผมอยากไปพักที่เกาะสมุย]
"You're going to come and relax here, aren't you. I'll make a reservation in advance"
[นี่กะจะมาพักผ่อนที่นี่ใช่ไหม แล้วจะจองที่พักล่วงหน้าเอาไว้ให้]
"Thank you"
เขากล่าวคำขอบคุณพชรที่คุยโทรศัพท์กับตนก่อนที่จะวางสายออกจากกัน
"เกรซ..! เธอคุยกับใคร.."
เสียงของธีภพเดินเข้ากล่าวถามพชรจากทางด้านหลังของเธอในระยะประชิด เธอจึงหันกลับไปหาเขาอย่างตั้งใจ
"เพื่อนน่ะค่ะท่านรอง.."
"เพื่อนหรอ! เธอมีเพื่อนเป็นชาวต่างชาติงั้นหรอ"
"ใช่ค่ะ!"
เธอตอบคำถามแล้วเขาก็จ้องมองเธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
"แล้วทำไมมาคุยตรงนี้ล่ะ"
กล่าวถามพร้อมดันเธอให้ถอยหลังไปยืนชิดติดผนัง
"แค่เดินผ่านแล้วเพื่อนก็โทรมาพอดีน่ะค่ะก็เลยหยุดคุย ฉันรู้นะคะว่าท่านรองต้องการอะไร แต่มันไม่ใช่ตอนนี้ค่ะ ที่นี่คือที่ทำงานนะคะ เดี๋ยวคนเห็น.."
พชรกล่าวพร้อมทั้งส่งสายตาและยิ้มยั่วยวนเพื่อกระตุ้นความต้องการของเขากลับ
"งั้นคืนนี้เจอกันที่เดิม เราไปสนุกด้วยกัน"
"ได้ตามนั้นค่ะ!!"
.
.
"ฉันคุยกับท่านประธานแล้วนะคะ เงินเบี้ยเลี้ยงสำหรับสัปดาห์สุดท้ายนี้ ค่าโอทีด้วย..ใครต้องการอะไรให้มาเบิกจ่ายกับฉันเลยนะคะ ท่านประธานอนุมัติแล้วค่ะ"
ขวัญกวินเปิดประตูเดินเข้าไปกล่าวบอกกลุ่มชายหญิงที่ทำงานอยู่ในห้องรวมกันจำนวนแปดคน โดยมีผู้ชายห้าคนผู้หญิงสามคน
"ครับ/ค่ะ"
เสียงของทุกคนในห้องออกแบบชิ้นงานต่างพูดตอบออกมาเป็นเสียงเดียวกัน
"สองชิ้นสุดท้ายหวังว่าพวกเราจะร่วมใจช่วยกันทำจนทันนะครับ ขอความร่วมมือด้วยนะพวกเรา"
ชายหนุ่มร่างสูงกล่าวแล้วยื่นมือไปด้านหน้า
"เช่นกันครับ/ค่ะ"
ทุกคนพูดพร้อมกันรวมไปถึงขวัญกวินด้วย จากนั้นแล้วทุกคนก็เดินเข้ามาล้อมเป็นวงแล้วยื่นมือลงไปจากมือกับชายหนุ่มที่ทำรอเป็นคนแรก
"สู้!!"
พวกเขากล่าวพร้อมกันแล้วก็ช่วยกันทำงานกันต่อไปเรื่อยๆ
"โอเคกันมั้ยคะที่ต้องอยู่ทำงานที่นี่ถึงหนึ่งสัปดาห์ทั้งกลางวันและกลางคืน"
ขวัญกวินกล่าวถามทุกคนในทีมอย่างวิตกที่ทำให้พวกเขาต้องมาลำบากเพราะงานที่ถูกสั่ง
"ครึ่งๆกลางๆค่ะ"
"ใช่ครับ!"
"ช่วยไม่ได้นี่ครับ เราต้องรับผิดชอบงานจนกว่าจะเสร็จ"
ชายหนุ่มอีกคนกล่าวทั้งที่ในมือยังทำงานและสายตาจับจ้องมองหน้าจอที่มีรูปวาดเครื่องประดับแต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์
"ขอโทษทุกคนด้วยนะคะที่ทำให้ต้องลำบากแบบนี้"
"ไม่ต้องเลยครับ เพราะถ้าไม่มีงานพวกเราก็ไม่มีเงิน มันคือการทำงานแลกเงินมากกว่าครับ"
สิ้นเสียงนั้นทุกคนก็ทำงานกันต่อไปจนตกเย็น พชรก็ได้แชตหาขวัญกวินเพื่อบอกว่าตัวเองกำลังจะกลับแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้เปิดอ่านแชตแต่อย่างใด เอาแต่นั่งทำงานและเคลียร์งานกับทีมพนักงานของตัวเองในห้อง เธอจึงคิดจะเดินไปดูแต่ก็เปลี่ยนใจไม่ไปแล้วกลับออกไปด้านนอกบริษัท เดินกลับไปที่รถซูเปอร์ไบค์ของตนเองแล้วสตาร์ตขับออกไปอย่างจำใจจนถึงบ้าน
"ป๊าคะ คืนนี้อาจกลับเช้านะ ไม่ต้องห่วงนอนก่อนได้เลย"
"เป็นผู้หญิงไปอยู่ที่อื่นดึกๆมันอันตรายนะเกรซ.."
"โถ่ป๊า เพื่อนเกรซไว้ใจได้น่ะป๊า.."
แสดงสีหน้าท่าทางอ้อนวอนขอออกไปเที่ยวข้างนอกบ้านดังเฉกเช่นเคยที่เคยทำอยู่เป็นประจำถึงแม้จะโตมากแล้วก็ตามที
"โอเคๆ ยังไงก็ต้องระวังตัวหน่อยแล้วกัน"
"ค้าป๊าา..!! แต่ว่าจะอยู่ทานข้าวกับป๊าก่อนแล้วค่อยไป"
พชรตอบรับคำผู้เป็นพ่อแล้วขึ้นไปอาบน้ำบนห้องสักพักก็กลับลงมาพร้อมชุดเสื้อผ้าชุดใหม่ จากนั้นก็เดินเข้าครัวไปนั่งทานอาหารกับพ่อของตนตามที่ได้พูดเอาไว้แล้วค่อยออกไปข้างนอกตามนัดที่ได้นัดเอาไว้กับธีภพเมื่อช่วงบ่าย
ทางด้านขวัญกวินและทีมงานของเธอเองก็ยังคงช่วยกันผลัดเปลี่ยนเวลากันไปอาบน้ำทานข้าวและหลับนอนพักผ่อนเอาแรงแล้วตื่นมาทำงานต่อจากคนอื่น
เวลาเดินหมุนผ่านผันเปลี่ยนไปคืนแล้วคืนเล่า จนจวนใกล้จะถึงวันครบกำหนดส่งชิ้นงานให้กับบอร์ดบริหารตามรับสั่ง ทั้งเช้ากลางวันเย็นและกลางดึกทุกคนยังคงเดินวุ่นไปทั่วทั้งห้องเพื่อให้มุมคิดออกแบบเครื่องประดับ บางคนก็นอนหลับพักผ่อนร่างกาย บางคนนั่งทานข้าวบ้างดื่มเครื่องดื่มต่างๆบ้าง
แต่ท่าทางจะหนักที่สุดก็คงจะเป็นหนีไม่พ้นขวัญกวินที่ต้องทำงานถึงสองอย่างในเวลาเดียวกันทั้งบริหารงานและออกแบบช่วยทุกคนจนแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อน
และแล้วงานออกแบบเครื่องประดับทั้งหมดก็เสร็จสิ้นลงก่อนวันส่งเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น ทุกคนจึงได้เก็บของและแยกย้ายกันไปพักผ่อนที่บ้านพักของตัวเอง จะเหลือก็แต่ขวัญกวินคนเดียวอีกเช่นเคยที่ยังต้องกลับไปนั่งทำงานบริหารต่อที่ห้องทำงานของตัวเอง แต่ก็ยังดีที่ยังมีพชรตอบดูอยู่ด้วย
"สีหน้าคุณดูไม่สู้ดีเลยนะ"
เสียงของพชรพูดกล่าวกับขวัญกวินด้วยความเป็นห่วงเพราะเห็นสีหน้าของเธอดูไม่ค่อยดี ไม่มีความสดใสเหมือนสัปดาห์ที่ผ่านๆมาเท่าที่ควรจะเป็น
"ฉันโอเคดีค่ะ ขอบคุณสำหรับกาแฟค่ะ"
ส่งยิ้มบางๆให้พชรอย่างอ่อนโยน
"พรุ่งนี้มีประชุมแต่เช้า ช่วยเตรียมงานไว้ให้ฉันด้วยนะคะ"
ขวัญกวินพูดสั่งดังนั้นแล้วพชรก็ส่งสายตามองหน้าเธออย่างเป็นห่วงสุขภาพร่างกายของเธอ
"พักผ่อนก่อนจะดีกว่ามั้ยคะ"
"งานประชุมใหญ่....ฉันยังพักไม่ได้"
กล่าวจบก็ยกมือค้ำยันศีรษะตัวเอง ส่วนมืออีกข้างก็จับปากกาและเปิดตรวจดูงานในแฟ้มเอกสารต่างๆ
"พี่หักโหมตัวเองเกินไปแล้วนะ ฉันเป็นห่วงมากนะรู้มั้ย"
แสดงสีหน้าซีเรียสและห่วงใย
"รู้ว่าห่วง..! แต่ถ้าไม่ทำแล้วใครจะทำแทน"
ขวัญกวินกล่าวจบก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานเดินออกไปจากห้องพร้อมกับถือแฟลชไดรฟ์ในมือที่ถอดออกจากแล็ปท็อปของตัวเองออกไปด้วย พชรจึงเดินตามหลังออกไปอีกคน
"ช่วงนี้เราไม่ค่อยเจอกันเลยนะทั้งที่ก็ทำงานที่เดียวกัน"
เสียงของเนตรนภาเดินเข้ามากล่าวถามขวัญกวินในระหว่างทางที่ต้องเดินไปยังห้องทำงานของประธานบริษัท แต่ก็เหลียวมองพชรไปด้วย
"พี่งานยุ่งน่ะ"
ขวัญกวินหยุดยืนกล่าวตอบคำถามเนตรนภา
"พี่จะไม่ลาออกใช่มั้ย"
"ไม่แน่ใจ..พี่ต้องเอางานในแฟลชไดรฟ์ไปส่งท่านประธาน ขอตัวก่อนนะคะ"
ว่าแล้วก็ก้าวเดินต่อไปจนไปถึงห้องทำงานของประธานบริหารสูงสุดของบริษัทเครื่องประดับแห่งนี้
"พักนี้หลบหน้าพี่ตลอดเลยนะคุณเนตร.."
"เปล่านี่คะ เราทำงานคนละส่วนกันจะไม่ค่อยได้เจอกันเลยก็ไม่แปลก ขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ"
กล่าวจบก็รีบสาวเท้าเดินหนีจากพชร แต่การกระทำนั้นก็ทำให้พชรแสยะยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ เพราะรู้ว่าเนตรนภารู้เรื่องที่ตนกำลังจีบขวัญกวิน เธอจึงพยายามตีตัวออกหากตัวเอง เพราะพชรเองก็ต้องการให้เป็นเช่นนั้นด้วยรู้และเห็นอยู่แล้วว่าเนตรนภาได้ยินบทสนทนาของตัวเองกับขวัญกวินในเย็นวันหลังจากที่ไปทานข้าวที่บ้านของเนตรนภาตามคำเชิญชวน
"แค่นี้ก็ไม่ไหวซะแล้ว จะรู้สึกเจ็บรึเปล่าน้าา..ยังเริ่มไม่เท่าไหร่เลย"
พชรกล่าวแล้วแลบลิ้นออกมาแตะริมฝีปากของตัวเองพร้อมกับมองไปตามทางที่เนตรนภาเดินไป โดยไม่สนใจว่าจะมีใครคนอื่นมาได้ยินสิ่งที่ตัวเองพูดหรือไม่
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments