3. กล่าวตำหนิ

.

ในตำหนักหรูหรา โต๊ะเก้าอี้ไม้ที่ถูกแกะสลักเป็นรูปมังกรบนโต๊ะนั้นมีสมุดหนังสืออยู่5-7เล่ม ชายร่างสูงวัยเกือบๆ29ปีกำลังขีดเขียนและอ่านบางอย่างอยู่ ตรงหน้ามีสตรีวัย22ในชุดสีส้มอ่อนๆ กำลังนั่งคุกเข่าอยู่เป็นเวลาประมาณเกือบๆ1ชั่วโมง สีหน้าของนางนั้นเริ่มไม่ค่อยดีนัก

:ข้าบอกให้เจ้าคุกเข่างั้นรึ

ชายร่างสูงเอ่ยออกมาใบหน้ายังคงมองไปที่ตัวอักษรบนกระดาษมือนั้นกำลังเขียนอยู่ สตรีผู้สูงศักดิ์ที่มีตำแหน่งเป็นถึงกุ้ยเฟยในวังหลังได้ยินเช่นนั้นก็ได้เงยหน้าไปมองอีกฝ่าย

:ฝ่าบาทไม่ได้ตรัสเช่นนั้นเพคะ..

สตรีร่างบางในชุดสีส้มอ่อนๆเอ่ยขึ้นมาอย่างแผ่วเบา ถึงถึงเสียงจะเเผ่วเบาเเต่อีกฝ่ายที่เป็นถึงฮ่องเต้ผู้เป็นโอรสสวรรค์นั้นก็ได้ยิน

:ถ้าเช่นนั้นเหตุใดเจ้าถึงคุกเข่า

พระองค์ยังคงใช้สายตาจดจ่ออยู่ที่มือตนเองที่กำลังขีดเขียนบางอย่างอยู่นั้น

:หม่อมฉันคิดว่าหากทำเช่นนี้จะทำให้ฝ่าบาทพอใจได้

ฝ่าบาทชะงักมือเล็กน้อยก่อนจะวางฟู่กันลง แล้วมองไปที่หลิวกุ้ยเฟย

:พอใจ?

:ข้าน่ะหรือ?

หลิวกุ้ยเฟยก้มหน้าลง นางคิดว่านางทำเช่นนี้ฝ่าบาทจะพอใจ ดูจากที่เวลาผ่านไปนานแล้ว แต่ฝ่าบาทก็ไม่ได้บอกให้นางเลิกคุกเข่าแต่อย่างใดแม้กระทั้งในเวลานี้เอง

:เพคะ

หลิวซูหลันผู้มีตำแหน่งกุ้ยเฟยพูดขึ้นมา

:กุ้ยเฟย

ฝ่าบาทเอ่ยเรียกสตรีที่อยู่ตรงหน้าด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง น้ำเสียงพลางกดให้ต่ำลง หลิวซูหลันเมื่อได้ยินดังนั้นก็ใจกระตุกขึ้นมาด้านหลังรู้สึกเย็นวาบ ไม่ใช่ว่าดีใจหรือรู้สึกดี เพราะการเรียกแบบนั้นสำหรับนางแล้ว ก็เหมือนว่าอีกฝ่ายจะเห็นนางเป็นเพียงสตรีนางหนึ่งที่เป็นกุ้ยเฟยแห่งวังหลัง แต่ไม่ใช่กุ้ยเฟยของพระองค์

:เจ้ารู้ความผิดของตนเองหรือไม่?

หลิวกุ้ยเฟยรับรู้ถึงความกดดันทางสายตาของคนที่เดินมาอยู่ตรงหน้านาง

:เพคะ

:รู้ว่าอย่างไร

ฝ่าบาทกล่าวถามอีกคนทันที ถึงแม้ที่พูดออกไปนั้นจะเป็นคำถาม แต่จริงๆแล้วสิ่งที่ฝ่าบาทต้องการจริงๆคือต้องการรู้ว่านางมีไหวพริบและความเข้าใจอะไรต่างๆได้มากแค่ไหน

:หม่อมฉันไม่ควรต่อปากต่อคำกับฮองเฮา ถึงแม้ว่าบางคำพูดของนางจะไม่เหมาะสม

:แต่ถึงอย่างไรนางก็เป็นฮองเฮา เป็นนายหญิงแห่งวังหลัง การที่สนมเช่นหม่อมฉันทำเช่นนี้เป็นการไม่ให้เกียรติฮองเฮาเพคะ

ฮ่องเต้เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ใช้มือลูบไปที่คางของตนเองพลางคิดอะไรบางอย่าง หลิวกุ้ยเฟยมองไปที่อีกคนว่าจะมีปฎิกริยาอย่างไร

:อืม.. วันนี้

:ข้าเหนื่อยแล้ว เจ้ากลับไปเถอะ

:ส่วนเรื่องที่ฮองเฮาพูดข้าว่ามีส่วนที่ถูกอยู่ ต้องลงมือทำ

:ถึงจะเห็นถึงความจริงใจ

หลิวกุ้ยเฟยได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจสิ่งที่ฝ่าบาทกำลังจะสื่ออย่างรวดเร็ว นางมองฝ่าบาทพลางคาราวะ

:หม่อมฉันทูลลา

.

.

.

.

.

.

ณ ตำหนักแห่งหนึ่ง

แสงแดดอันอบอุ่นค่อยสาดส่องเข้ามายังด้านในตำหนัก สตรีในวัย24ปี ผู้มีตำแหน่งเป็นฮองเฮาแห่งวังหลัง เป็นมารดาของแผ่นดิน กำลังยืนรับลมอยู่ที่หน้าต่าง โดยมีสวีเหลียงอิงและหยางซูซูผู้เป็นนางกำนัลทั้งสองคอยดูแลอยู่ห่างๆขณะนั้นเองก็ได้มีขันทีคนหนึ่ง เดินเข้ามายังตำหนัก พร้อมกับนางกำนัลที่ยกถาดและขันทีอีก2คนที่ยกต้นไม้ต้นหนึ่ง หวงกงกงผู้เป็นขันทีคนสนิทของฮ่องเต้หนานไป๋ เขาคาราวะทำความเคารพฮองเฮา ซึ่งเมื่อนางเห็นดังนั้นก็เกิดความแปลกใจเล็กน้อยว่าฝ่าบาทจะทำสิ่งใด

: ลมอะไรหอบท่านหวงกงกงมาได้รึ?

สวีฮองเฮากล่าวพูดพลางยิ้มเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองกงกงและของที่ถูกยกเข้ามา

:555ฮองเฮา..ท่านตรัสเกินไปแล้ว

:เอ่อ..ฝ่าบาทเห็นว่าที่ตำหนักของฮองเฮานั้นดูว่างปล่าวไปเสียหน่อย

:จึงได้ให้บ่าวนำของสองสิ่งนี้มาให้ท่าน

หวงกงกงกวักมือเรียกนางกำนัล ก่อนที่จะดึงผ้าที่คลุมอยู่ออกมา

:ฮองเฮานี่คือหยกที่เเกะสลักเป็นรูปหงส์เพื่อให้เหมาะสมแก่ฮองเฮาเช่นท่านที่เคียงคู่มังกรเช่นฝ่าบาท

สวีเหลียงอิงรับหยกที่แกะสลักมาจากนางกำนัล ส่วนหวงกงกงมองไปที่ขันทีอีก2คนเพื่อเป็นสัญญาณว่าให้เดินเข้ามาใกล้ๆ

: ส่วนนี้คือต้นไม้หายาก ความพิเศษของมันก็คือด้วยรูปร่างและสีสันที่สวยงามของมันนั้น เมื่อใครเห็นก็ต้องชอบ เมื่อมองแล้วรู้สึกจิตใจสงบสำหรับผู้ที่มีโทษะ

เมื่อหวงกงกงพูดจบก็ทำการคาราวะจากนั้นก็เดินออกไปตามด้วยนางกำนัลและขันที เมื่ออีกฝ่ายเดินออกไปแล้ว หญิงสูงศักดิ์ในนามฮองเฮาก็ยืนอยู่นิ่งพลางคิดอะไรบางอย่างก่อนจะหันไปมองหยกรูปหงส์ที่สวีเหลียงอิงกำลังถืออยู่ และมองไปที่ต้นไม้ขนาดเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะ สวีเหลียงอิงเห็นผู้เป็นนายของตนนิ่งไปจึงเกิดความสงสัย หยางซูซูก็มองไปที่สวีฮองเฮา นางต้องการรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่

:มีอะไรรึป่าวเพคะฮองเฮา

เหลียงอิงถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง สวีฮองเฮาได้ยินดังนั้นก็หันไปมองนางพลางยิ้มอ่อนๆ

:ไม่มีอะไรหรอก

:ข้าแค่คิดอะไรนิดหน่อย

สวีเหลียงอิงมองฮองเฮาด้วยความไม่สบายใจ สวีฮองเฮามองไปที่ต้นไม้ที่มีใบไม้สีส้มแดงเหลืองไล่เฉดสีกันอยู่ ก่อนจะจับใบไม้อย่างเบามือ หยางซูซูเมื่อเห็นดังนั้นก็เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างออกมา ที่ปากของนางเกิดรอยยิ้มที่มุมปากอยู่เล็กน้อย ภายในเพียงครู่เดียวก็หายไป ในระยะเวลาเพียงแค่นั้นไม่มีใครสามารถมองเห็นได้ทัน

: ฝ่าบาทช่างใส่ใจฮองเฮายิ่งนัก

:ส่งของมาให้ท่านหลังจากที่ไม่ได้ให้อะไรท่านเป็นระยะเวลานานแล้ว

หยางซูซูพูดขึ้นมาทำเป็นประจบประแจง ทำให้ดูเหมือนว่าตนเองคิดว่าฝ่าบาทใส่ใจฮองเฮา ถึงแม้ว่าในใจจะไม่ได้คิดอะไรเช่นนั้น ฮองเฮาเมื่อได้ฟังเช่นนั้นก็ข่บฟันเล็กน้อย ก่อนที่จะหันไปมองหยางซูซู

: ข้าอนุญาติให้เจ้าพูดรึ?

หยางซูซูเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็รู้ว่าตนเองได้ทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจเสียแล้ว แต่แล้วยังไง ในเมื่อนั่นเป็นสิ่งที่นางต้องการ นางทำเป็นเหมือนว่ารู้สึกผิดและกลัวจึงได้ก้มหน้าลงไป

:หม่อมฉันพูดไม่ดีเอง

:ฮองเฮาโปรดอภัย

สวีเหยียนหรงมองหยางซูซูด้วยสายตาเย็นชาอยู่แว๊บหนึ่ง แต่นั่นก็ทำให้หยางซูซูรู้สึกตัวได้

:ออกไป..

คำพูดแค่เพียงสองคำจากนาง ก็ทำให้หยางซูซูต้องออกมายืนข้างนอก

: ฮองเฮา..

เหลียงอิงพูดขึ้นมา สวีฮองเฮามองต้นไม้อยู่เงียบๆ ในใจนั้นนึกคิดถึงคำพูดของหยางซูซูเมื่อครู่ ก่อนที่นางจะหัวเราะที่ลำคอเล็กน้อย

:หึ

:ใส่ใจงั้นหรือ?

:ฝ่าบาทใส่ใจข้า..

สวีเหยียนหรงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ดวงตาอันแดงก่ำของนางมองไปที่คนสนิทข้างกาย สวีเหลียงอิงรู้สึกตกใจกับการกระทำของฮองเฮา และไม่เข้าใจเป็นอย่างมาก

:ฮองเฮา...มีอะไรผิดพลาดตรงไหนหรือเพคะ

:หรือว่าซูซู..นางพูดให้ท่านรู้สึกไม่พอใจ

สวีเหลียงอิงถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง

:นางไม่ผิดหรอก..นางแค่ไม่รู้

:ฝ่าบาท..

เมื่อคำพูดสองคำสุดท้ายโผล่มาก็ทำให้เหลียงอิงเข้าใจขึ้นมาว่าสาเหตุที่ทำให้นายหญิงของตนเป็นเช่นนี้ต้องเกี่ยวข้องอะไรกับฝ่าบาทเป็นแน่ เพียงแต่นางยังไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร

(หรือว่า..)

สวีเหลียงอิงคิดขึ้นมาในใจ

: ฮองเฮา..ฝ่าบาทส่งของมาให้ท่าน

:ท่านอย่าคิดมากไปเลยนะเพคะ..

เหลียงอิงนางคิดว่าของสองสิ่งนี้ต้องมีความหมายแอบแฝงอะไรแน่ๆ

:ของพวกนี้..เจ้ารู้หรือไม่ว่าหมายถึงอะไร

สวีฮองเฮามองอีกฝ่ายแล้วถามออกมา นางนั้นรู้ดีว่าฝ่าบาทกำลังจะสื่ออะไรให้นางได้รับรู้ นั่นก็คือพระองค์นั้นกำลังตำหนินางอยู่นั่นเอง สวีเหยียนหรงคิดอยู่ในใจอย่างเงียบๆ ฝ่าบาทกำลังตักเตือนและว่ากล่าวนางอยู่ อย่างแรก เรื่องหยกงดงามที่ถูกแกะสลักเป็นรูปหงส์ หวงกงกงบอกว่านี่ก็เพื่อให้สมกับฐานะฮองเฮาที่สูงส่ง หวงกงกงเขานั้นเป็นคนของฝ่าบาท แน่นอนว่าคำพูดของเขานั้นต้องมาจากฝ่าบาทที่ต้องการส่งต่อคำพูดมาให้นางได้รับรู้ เรื่องที่สองต้นไม้ ต้นไม้นั้นถึงแม้ว่าจะเป็นต้นไม้เล็กๆที่ยังไม่ได้เจริญเติบโตมากเท่าไหร่ แต่หากมีสตรีนางใดได้เห็นอย่างน้อยก็คงจะต้องรู้สึกชื่นชอบมันบ้าง ซึ่งหากผู้ที่ไม่รู้อะไรมาก่อนก็คงจะคิดได้ว่าฝ่าบาทแค่อยากให้ฮองเฮา แต่มีสิ่งที่ผิดปกติดูไม่ใช่ความหมายและเรื่องที่ดีนั่นก็คือ คำพูดของหวงกงกงที่ว่า ผู้พบเห็นจะรู้สึกจิตใจสงบ นั้นหมายถึงว่าฝ่าบาทต้องการจะตำหนินางว่าช่วงนี้นางขาดคุณสมบัติในการเป็นฮองเฮามารดาของแผ่น มีใจที่ไม่มีความเมตตา ไม่มีความใจกว้าง อารมณ์ร้อน ต้นเหตุคำพูดนั้นก็คงจะมาจากที่เรื่องที่นางไปหาเรื่องหลิวซูหลันในเรื่องไร้สาระ เรื่องไม่เป็นเรื่อง สวีฮองเฮาในตอนนี้เข้าใจหมดแล้ว ในตอนแรกนางก็ได้สงสัยและแปลกใจเล็กน้อย ที่อยู่ๆฝ่าบาทก็ส่งสิ่งของที่งดงามและราคาแพงหายากขนาดนี้มาให้นาง แต่เมื่อฟังคำพูดของหวงกงกงผู้เป็นขันทีคนสนิทของฝ่าบาท นางก็เข้าใจเหตุผลนั้นแล้ว ของที่ฝ่าบาทส่งมาถึงแม้จะงดงามเพียงใดแต่ทว่าความหมายของมันและบวกกับเจตนาของฝ่าบาท ในความคิดของนางช่างเหมือนกับยาพิษที่ฝ่าบาทนั้นมอบให้ แต่ที่แย่กว่านั้นก็คือแม้ว่าจะเป็นยาพิษที่ทำร้ายตัวนางเองแต่นางก็เลือกที่จะดื่มมันอย่างไม่ลังเลเมื่ออีกฝ่ายเป็นผู้ที่มอบให้

.

.

.

.

.

ในเวลาที่ท้องฟ้าทั้งหมดกำลังเปลี่ยนเป็นสีดำและมีดวงดาวรายล้อม ตำหนักแห่งหนึ่ง ที่ด้านในของห้องนั้นถูกตบแต่งไปด้วยภาพวาดและบทกวีที่แขวนไว้อยู่ สตรีในวัย22ที่มีร่างบอบบางที่ดูอรชรแต่กลับดูแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ ใบหน้างดงามที่หมดจด ริมฝีปากที่ถูกแต่งแต้มอ่อน ดวงตาที่กำลังจ้องมองอย่างตั้งใจ เมื่อเรียวยาวที่กำลังบรรจงเขียนอักษรอย่างช้าๆ นางมีอายุนามว่า เหวินหมิงจู นางมีฐานะเป็นเสียนเฟย ในตอนที่ฮ่องเต้ยังเป็นองค์รัชทายาทนางก็เป็นอนุของฝ่าบาท

:พระสนมเพคะ

ในขณะที่เหวินเสียนเฟยนางกำลังเขียนอะไรบางอย่างอยู่นั้นก็ได้มีเหวินซี นางกำนัลคนสนิทของเหวินหมิงจูมาขัดจังหวะเสียได้ พระสนมเสียนเฟยเพียงแค่ปรายตามองนางนิ่งๆ โดยที่ไม่ได้ตำหนิอะไร นางใช้พู่กันจุ่มหมึกและเขียนลงไปในกระดาษอย่างเงียบๆโดยไม่ได้พูดอะไร เหวินซีก็ได้แต่ยืนนิ่งอยู่เงียบๆโดยไม่พูดอะไรเช่นกัน นางรู้ดีว่าผู้เป็นนายของตนมีนิสัยเป็นเช่นไร

:มีอะไรหรือซีเอ๋อร์

เหวินเสียนเฟยเรียกอีกฝ่ายในแบบที่เอ็นดู แต่นางก็ยังคงเขียนบางอย่างลงกระดาษอยู่

: หม่อมฉันได้ยินมาว่า

: วันนี้ตอนเช้าฝ่าบาทส่งของสองสิ่งได้ให้ฮองเฮาเพคะ

เหวินซีพูดต่อไปให้พระสนมฟัง เมื่อพระสนมเสียนเฟยนางได้ยินดังนั้นก็ชะงักมือที่กำลังเขียนไปเล็กน้อย ที่ดวงตาของนางนั้นเกิดความสั่นไหว นางถอนหายใจเพื่อพยายามควบคุมอารมณ์และสติของตนเองไว้

:สองสิ่งนั้นคืออะไร

เหวินเสียนเฟยถามเหวินซีโดยที่มือของนางก็ยังคงเขียนต่อไปโดยลงน้ำหนักไปมากกว่าเดิม เหวินซีสังเกตเห็นแต่นางก็ไม่ได้พูดอะไรไป

:หม่อมฉันได้ยินมาว่าเป็นหยกที่แกะสลักเป็นรูปหงส์อย่างปราณีต และต้นไม้หายากที่มีขนาดเล็ก

เหวินซีพูดต่อจนจบ พระสนมเสียนเฟยก็ฟังอย่างเงียบๆพลางคิดอะไรบางอย่าง

:หยกเป็นหงส์ แล้วต้นไม้มีลักษณะอย่างไร?

เหวินหมิงจูเอ่ยถามออกไป

: เป็นต้นไม้ที่มีใบไม้หลากสีเพคะ

: มีบางคนพูดว่าต้นไม้นั้นมีความพิเศษคือเพียงแค่มองมัน ก็สามารถทำให้จิตใจสงบได้

: ถ้าหากว่าตอนนั้นเราเกิดอารมณ์ไม่ดีแค่มีต้นไม้นี้อยู่ก็จะทำให้เราสงบลงอย่างไม่น่าเชื่อ

เหวินซีพูดพลางอธิบายตามที่ตนเองเข้าใจ เหวินเสียนเฟยที่ได้ยินดังนั้นนางก็เข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมา

:หึ

นางหัวเราะออกไป ซึ่งนั้นสร้างความแปลกใจและไม่เข้าใจให้แก่เหวินซี

:ท่านหัวเราะ..?

เหวินเสียนเฟยหันไปมองอีกฝ่ายและถอนหายใจออกมาด้วยควาเหนื่อยใจ นางคิดว่าเหวินซีอยู่กับนางมานานแล้วแต่ทำไมถึงยังมีความใสซื่อและตามอะไรหลายๆอย่างไม่ทันอยู่หลายครั้ง แต่เหวินเสียนเฟยนางก็ไม่คิดจะโทษเหวินซีหรอก เพราะยิ่งนางเป็นแบบนี้ยิ่งทำให้เหวินเสียนเฟยรู้สึกเอ็นดูและรักนางเหมือนน้องสาวแท้ๆ

:เมื่อวานนางมีเรื่องกับกุ้ยเฟยไม่ใช่หรือ?

เหวินเสียนเฟยพูดขึ้นมาพลางยกยิ้มขึ้นที่มุมปาก

:ท่านทราบเรื่องนี้?

:มีคนมาบอกท่านแล้วหรือ?

เหวินซีถามขึ้นมาด้วยความสงสัย แต่ก็รู้สึกว่าตนเองทำงานที่พระสนมมอบหมายมาพลาด

:หม่อมฉันบกพร่อง..

:ในวังหลังมีเรื่องเกิด..แต่ไม่ได้นำมาบอกท่าน..

เหวินซีคุกเข่าลงและก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกผิด

:ลุกขึ้นเถิด

เหวินหมิงจูพูดบอกอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นเพราะนี่ไม่ใช่ความผิดของนาง แต่ทว่าอีกฝ่ายยังคงคุกเข่าอยู่

:เจ้าลุกขึ้นเถิด

: ...

: มันไม่ใช่ความผิดของเจ้าเสียหน่อย

เหวินเสียนเฟยพูดบอกอีกฝ่ายขณะที่กำลังเขียนบางอย่างโดยที่ไม่ได้มองอีกฝ่าย ที่นางพูดนั้นเป็นเรื่องจริง นี่ไม่ใช่ความผิดของเหวินซี และอีกอย่างเหวินเสียนเฟยนางก็มีคนของนางมากมายคอยรายงานว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง ส่วนเรื่องของที่ฝ่าบาทส่งให้สวีฮองเฮา ตอนแรกนางก็รู้สึกไม่พอใจอยู่บ้างแต่เมื่อรู้ว่าเป็นสิ่งใด นางกลับรู้สึกดีใจขึ้นมา ของที่ฝ่าบาทส่งให้ฮองเฮา ในความหมายของมันนั้นเหมือนจะแตกต่างกับฮองเฮาที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ฝ่าบาททำเช่นนี้ไม่ต่างกับบอกว่านางทำตัวไม่เหมาะสมกับตำแหน่งฮองเฮา

.

.

เลือกตอน
เลือกตอน

อัพเดทถึงตอนที่ 3

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!