วันสิ้นโลกวันที่ 2 ตื่นมาในวันสิ้นโลก

    กุก.....กัก...

    เสียงบางอย่างกำลังคุ้ยเขี่ยเครื่องแมชชีนที่มีรูปร่างหน้าตาประหลาดอยู่ ราวกับหนูที่กับลังคุ้ยหาเศษอาหารอยู่ในครัวหลังบ้าน สักพักก็เหมือนมีเสียงอะไรสักอย่างกำลังลัดวงจร เสียงไฟฟ้าช็อตดังขึ้นเปรี๊ยงใหญ่ก่อนจะตามมาด้วยกลิ่นที่สาบไหม้และเครื่องแมชชีนประหลาดนั่นก็เปิดแง้มออก มันปลุกให้คนที่นอนอยู่ในนั้นตื่นขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ

    เด็กหนุ่มงัวเงียตื่นขึ้นเมื่อถูกปลุกจากภวังค์ มันจบแล้วสินะ.... นี่เรารอดมาได้อย่างงั้นหรอเนี่ย เด็กหนุ่มนึกลิงโลดในใจ นิคก้มมองสำรวจไปรอบๆ ร่างกายตัวเอง พินิจตามจุดต่างๆ อย่างละเอียดยิบเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอวัยวะส่วนไหนขาดหายไป

    " ฟู่ว!...อยู่ครบแฮะ" นิคเอ่ยออกมาอย่างโล่งอก

    ร่างกายของเขานั้นครบถ้วนสมบูรณ์ทุกประการ แม้เขาจะรู้สึกแปลกๆ ไปเล็กน้อย ซึ่งนั่นก็คงเป็นเพราะอาการจากผลข้างเคียงล่ะมั้ง ทว่าทุกอย่างนั้นเหมือนจะปกติ แต่มีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้นิคเริ่มวิตกกังวลขึ้นมา นิคกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องวิจัยที่แปลกตาไปเป็นอย่างมาก มันดูเละเทะไปหมดผิดจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง ไฟสีขาวที่เคยสว่างโร่จนไม่เห็นแม้แต่เงา ตอนนี้ติดๆ ดับๆ เหมือนอยู่บ้านผีสิง เครื่องแมชชีนประหลาดที่อยู่ถัดข้างๆ เขาไปนั้นถูกเปิดอ้าออกหมดแล้ว บางเครื่องก็ดูเหมือนจะพังไป ไม่สิ...มันเหมือนถูกทำให้พังเสียมากกว่า ภายในห้องเต็มไปด้วยฝุ่น คราบสีดำสกปรกและหยากไหย้ และที่สำคัญไปกว่านั้น มันมีต้นไม้โผล่ขึ้นมาหลายต้นอีกด้วย!

    นิคก้าวขาลงจากเครื่องแมชชีนช้าๆ สมองกำลังนึกประมวลผลต่างๆ อย่างตื่นตระหนก มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่กันนะ ทำไมมันดูเละเทะไปเสียหมด ผู้คนหายไปไหนกันทำไมไม่รอเขาอย่างที่เขาคิดไว้ล่ะ นิคเดินช้าๆ สำรวจภายในห้อง เขาเดินไปดูตามแมชชีนที่เปิดอ้าซ่าไว้ทีละเครื่อง จนมาถึงเครื่องหมายเลข 8....7.... และ 6 ทำเอาเด็กหนุ่มร้องจ๊ากออกมาโดยไม่รู้ตัว

    ภาพเบื้องหน้าของนิคนั้นเป็นภาพที่สยดสยองเกินกว่าจะจินตนาการได้ นิครู้สึกหน้ามืดพะอืดพะอมขึ้นมาทันที ภายในเครื่องแมชชีนนั้นเปื้อนเขรอะไปด้วยอะไรสักอย่างที่ดูเหมือนเครื่องในที่แห้งกรังไปแล้ว มีกระดูกโผล่ออกมาจากซากเหล่านั้นเล็กน้อยแต่ก็พอเดาได้ว่าเหล่านี้เคยเป็นมนุษย์มาก่อน สภาพของศพที่น่าสยดสยองนี้เหมือนถูกตัวอะไรบางอย่างกัดแทะจนเกือบจะหมด เหลือทิ้งไว้เพียงแค่เศษซากและเครื่องใน นิคกวาดสายตาไปดูรอบๆ กายอีกเครื่องเพื่อพินิจดูให้ละเอียด รอบๆ ห้องที่เต็มไปด้วยคราบสีดำที่แห้งกรังนั่นคงเป็นคราบเลือดเป็นแน่ๆ แม้เขาจะไม่เคยเห็นภาพแบบนี้มาก่อนแต่คงจะพอเดาได้ กลิ่นภายในห้องนี้นั้นไม่ได้เป็นกลิ่นสะอาดอย่างที่เขาเคยได้กลิ่น มันกลายเป็นกลิ่นที่อับชื้นและเหม็นสาบเหมือนมีซากหนูตายอยู่ภายในห้อง

    "มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นล่ะเนี่ย..." นิคอุทานออกมาอย่างเหลือเชื่อ เขาเอามือเรียวอุดจมูกเพราะทนกลิ่นที่เหม็นสาบไม่ไหว

    แกร่กก...

    เสียงบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ข้างนอกทำให้เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือก

    "เฮ้..." นิคพยายามออกเสียงเรียก แต่มันเหมือนอยู่ในลำคอมากกว่า "เฮ้....ใครน่ะ"

    นิครวบรวมความกล้าเดินออกไปจากห้อง แม้เขาจะคาดเดาไม่ได้ว่าจะมีอะไรอยู่ข้างนอกนั่น แต่เขาก็มั่นใจได้ว่ามันคงไม่น่าจะสะอิดสะเอียนเท่าอยู่ที่ห้องนี้อีกแล้ว นิคเดินผ่านประตูที่เหมือนลิฟต์ ซึ่งมันเป็นรูโหว่เหมือนถูกพังออก เดินไปตามทางระเบียงที่ยังคงมีแสงไฟสว่างรำไร รู้สึกเหมือนอยู่ในโรงพยาบาลร้างเลยแฮะ

    แกร่ก....แกร่กก....

    เสียงนั้นดังมาจากอีกทางหนึ่ง นิคหันขวับและรีบเดินตามเสียงนั้นไปทันที คงจะมีคนอยู่ที่นี่สินะ ใครบางคนที่อาจจะให้ความช่วยเหลือแก่เขาได้ นิคเดินตามเสียงนั้นไปด้วยขาที่สั่นเทา บรรยากาศแบบนี้ทำให้เขารู้สึกแปลกพิกล มันไม่น่าพิศมัยเอาเสียเลยที่จู่ๆ ก็ตื่นขึ้นมาเจอสภาพแบบนี้ แม้ในหัวเขาจะเต็มไปด้วยข้อสงสัยมากมาย แต่ว่าต้องมีสักคนนั้นแหล่ะที่สามารถให้คำตอบแก่เขาได้ในเรื่องนี้

    คร่อกก.....แคร่กกก.อือออ...

    เสียงเหมือนสัตว์อะไรบางอย่างส่งเสียงคำรามเบาๆ ดังลอดมาจากอีกห้องหนึ่ง นิคค่อยๆ ทำใจดีสู้เสือเดินตรงเข้าไปยังห้องนั้น

    "ขอโทษนะครับ....ไม่ทราบว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นี่ครับ" นิคเอ่ยปากถามบุคคลที่สวมชุดกาวน์สีขาวเปื้อนคราบดำๆ กำลังหันหลังให้เขาอยู่ สภาพเขาดูสกปรกและเปื้อนเขรอะเสียยิ่งกว่าคนเร่ร่อนแบบเขาเสียอีก

    ร่างที่กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่นั้นหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงของเด็กหนุ่ม มันส่งเสียงบางอย่างออกมาในลำคอ ก่อนจะค่อยๆ หันมาอย่างงึกงัก นิคแอบสังเกตเห็นมือของชายคนนั้นมันดูแห้งติดกระดูก บางส่วนก็มีเลือดไหลซิบออกมาดูน่าเกลียด เล็บของเขาเป็นสีคล้ำม่วงออกดำมากกว่า ชายคนนั้นค่อยๆ หันมาเผชิญหน้าจังก้ากับเด็กหนุ่ม นิคอ้าปากเหวอด้วยความช็อก ใบหน้าของชายคนนี้ดูเน่าเฟะเหมือนศพที่กำลังจะเน่า บริเวณปากของเขานั้นเหวอะหวะจนเผยให้เห็นฟันกรามที่กำลังอ้ากว้างราวกับกำลังอ้าปากเพื่องับเหยื่อ

    "ว้าาาาากก!!!!" นิคตะโกนออกมาสุดเสียงเมื่อศพที่กำลังเดินได้พุ่งตรงมาจับบ่าของเขาไว้ เล็บสีดำคล้ำของมันจิกแน่นลงไปที่บ่า มันพยายามอ้าปากกว้างเพื่อที่จะกัดเข้าที่คอของนิค

    นิคดิ้นสุดแรงพยายามเอี้ยวคอหลบเพื่อไม่ให้ถูกมันกัดเข้าเพราะคิดว่าคงไม่เป็นการดีแน่ถ้าหากถูกมันกัดเข้า นิคร้องโหวกเหวกดังลั่นและดิ้นสุดตัวเพื่อให้หลุดออก เขารวบรวมพละกำลังที่มีทั้งหมด สูดหายใจเข้าลึกเพื่อตั้งสติ แม้ว่ากลิ่นมันจะเหม็นเน่ามากแค่ไหนก็ตาม นิคดิ้นจนได้จังหวะที่พอดีแล้ว เขายกขาถีบเจ้าศพเดินได้ที่น่าสยดสยองนี่สุดแรง ซึ่งมันก็ได้ผลอย่างน่าเหลือเชื่อ ศพซอมบี้ตัวนั้นปลิวกระเด็นข้ามห้องไปไกลเกินคาด มันกระเด็นไปติดอยู่ที่กำแพงของอีกฝั่ง

    นิคไม่มีเวลาตะลึงกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ เขาเห็นศพนั้นยังไม่นิ่งสนิทและกำลังลุกขึ้นมา นิคไม่รอให้มันพุ่งเข้ามาซ้ำอีกครั้งแน่จึงรีบวิ่งหนีออกจากจุดอันตรายนั้นทันที เด็กหนุ่มวิ่งสุดตัวไปตามระเบียง ในหัวของเขาคิดแค่อย่างเดียวคือ ต้องหนี!! หนีออกจากที่แห่งนี้ให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ นิควิ่งจนมาถึงห้องอีกห้องหนึ่งแต่ก็ต้องหยุดเบรคทันทีจนเขาไถลเข้าไปในห้องนั้น

    "เชี่ยยล่ะ...!!!" นิคสบถหยาบออกมาทันที

    ภายในห้องนั้นยังมีร่างของศพเดินได้เต็มไปหมด นับได้คร่าวๆ ก็ประมาณ 5-6 ตัวได้ พวกนั้นสวมชุดกาวน์สีขาวเดาว่าคงเป็นนักวิจัยของที่นี่สินะ พวกศพเหล่านั้นเหมือนกำลังรับรู้ว่ามีสิ่งมีชีวิตเข้ามาที่นี่ พวกมันพุ่งเป้าความสนใจไปที่นิคทันที มันเดินหงึกหงักตรงเข้ามาหานิคซึ่งนิคเองก็รู้ได้ทันทีว่ามันต้องการอะไร มันคงไม่ได้พุ่งเข้ามากอดเขาเป็นแน่

    นิครีบวิ่งหนีกลับไปทางเดิม สายตาพยายามมองหาทางออกอย่างตื่นตระหนก อะดีนาลีนของเขาพุ่งปราดจนเหมือนจะขีดสุดเพราะเสียงเต้นของหัวใจเขานั้นดังมากเสียเหลือเกิน มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นวะเนี่ย! นี่เขาคงไม่ได้ฝันไปอยู่หรอกนะ เขาแค่หลับไปและตื่นขึ้นมาเจอซอมบี้ยั้วะเยี้ยะพวกนี้เหมือนไม่ใช่ชีวิตจริงของเขาเลย ดร.นริศนั่นคงต้องเล่นตลกอะไรกับเขาแน่ๆ ไม่ได้การ...เขาต้องรีบหาทางออกและหนีออกจากศูนย์วิจัยป่าเถื่อนแห่งนี้ให้ได้ และแน่นอนสิ่งแรกที่เขาจะทำคือเขาต้องออกไปบอกเรื่องนี้กับทุกคน บอกตำรวจ บอกให้โลกนี้ได้รู้ว่าที่นี่ทำเรื่องป่าเถื่อนแค่ไหน

    นิควิ่งจนมาถึงสุดทาง เขามาเจอกับซอมบี้อีกฝูงที่กำลังเดินตรงปรี่มาทางเขาเช่นกัน นิครีบหันหลังกลับและวิ่งออกอีกทางทันที และนั่นก็ไม่ต่างอะไรกัน ทั้งสามทางถูกปิดหมดแล้ว นิคถูกซอมบี้ล้อมเอาไว้ ไม่มีทางให้เขาหนีอีกแล้ว นิคพยายามก้มมองหาอาวุธที่พอช่วยได้แต่โชคไม่เข้าข้างเอาเสียเลยแม้ในตอนนี้ มันไม่มีอาวุธอะไรตกหล่นอยู่แถวนี้เลย มีแต่หัวกะโหลกใครบางคนที่เขาไม่สามารถระบุได้ตกอยู่ มีต้นไม้ที่มีรูปร่างประหลาดบิดเป็นเกลียวผุดตัดระหว่างตึก นึกจะวิ่งตัดฝูกซอมบี้พวกนี้ไปก็คงมีแต่ซี้แหงแก๋ เอาไงดีวะ....

    บึ้มมมมม!!!!!!

    ขณะที่นิคกำลังคิดหาทางออกอย่างลนลานอยู่นั้นก็เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น แรงระเบิดนั้นช่วยเปิดทางกำจัดพวกผีดิบคลั่งเหล่านั้นให้โล่ง ควันสีเทาลอยโขมง คลุ้งตลบไปทั้งอากาศ นิคไอแค่กๆ เพราะสูดควันเข้าไป น้ำมูกและน้ำตาของเขาไหลออกมาเป็นทางเพราะแสบร้อน

    จู่ๆ ท่ามกลางควันระเบิดนั้นก็มีร่างหนึ่งโผล่ออกมา หญิงสาวอายุไล่เลี่ยกับนิค พุ่งตัดม่านควันออกมา ในมือเธอนั้นมีปืนกระบอกสั้นและอีกข้างจับมีดสั้นอยู่ ผิวขาวเนียนของเธอนั้นเปื้อนเขรอะไปด้วยฝุ่นและคราบเลือด ผมหางม้าที่รวบตึงไปข้างหลังกับชุดสูทลายพลางทำให้เธอดูเป็นหญิงแกร่งที่น่าเกรงขามที่สุดเลยทีเดียว

    "ตามมา!!" เธอสั่งเสียงดุ

    นิคไม่รอตะลึงงันในความสง่าของเธอต่อ เขารีบเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาและวิ่งตามเธอไปทันที แม้ในหัวของนิคจะเต็มไปด้วยคำถามมากมายแต่เขาขอไม่ถามดีกว่า เพราะสถานการณ์ตอนนี้คงไม่มีเวลาให้ทำแบบนั้นมากนัก

++++++++++++++++++++

    หญิงสาวคนนั้นวิ่งนำเขาออกมาจนถึงทางออกจนได้ นิกแอบนึกดีใจอย่างลิงโลด นี่เขารอดจากแดนผีดิบนั่นแล้วสินะ เขาจะได้ออกไปสู่โลกภายนอกแล้วสินะ ให้ตายเถอะ!..เขาไม่เคยรู้สึกดีใจอย่างนี้มาก่อนเลยแม้ว่าเขาจะได้กลับไปใช้ชีวิตเร่ร่อนเหมือนเดิมก็ตาม เขารู้สึกอยากกลับไปใช้ชีวิตที่ระหกระเหินนั้นเสียมากกว่าถูกผีดิบนี่ไล่กัดเสียอีก นิควิ่งออกมาจนถึงข้างนอกศูนย์วิจัยจนได้

    ไม่ทันจะได้เอ่ยขอบคุณอะไรไป นิคก็ใจหล่นลงมาอยู่ที่ตาตุ่มอีกครั้ง สภาพโลกภายนอกนั้นต่างจากที่เขาหวังไว้อย่างมาก เพราะมันดูเน่าเฟะเสียยิ่งกว่าข้างในนั้นเสียอีก ซากศพต่างๆ นอนเกลื่อนอยู่เต็มพื้นไปหมด ตึกรามบ้านช่องพังทลายและเสียหายไปส่วนใหญ่ เกิดขึ้นเพราะแรงระเบิดบ้าง ต้นไม้ยักษ์โผล่ตัดขึ้นมาบ้าง ต้นไม้ประหลาดนั้นผุดขึ้นมาเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด บางจุดยังคงมีควันตลบอยู่ และที่น่าใจหายไปกว่านั้นก็คือ.....ซอมบี้นั้นเต็มไปหมด!! พวกมันเดินกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ และคิดว่าน่าจะมากกว่าในศูนย์วิจัยนี้หลายเท่าแน่ๆ

    "มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกันแน่เนี่ย" นิคหยุดชะงัก เขาเอ่ยถามคำถามนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างต้องการคำตอบ

    "นายชื่ออะไร..." หญิงสาวในชุดลายพลางถาม มือของเธอยังจับปืนและมีดพกสั้นเล่มนั้นไว้แน่น

    "นะ..นิค" นิคตอบตะกุกตะกัก มันใช่เวลามาถามชื่อมั้ยล่ะเนี่ย

    "โอเคนิค...ฉันมิว ตอนนี้คงไม่มีเวลามาถามสารทุกข์สุกดิบมากนักหรอก แต่ฉันจะสอบปากคำนายแน่ๆ ถ้าไปถึงค่าย ตอนนี้ต้องเอาชีวิตให้รอดก่อน นายยิงปืนเป็นมั้ย?" เธอถาม นิคส่ายศีรษะปฏิเสธ จะบ้ารึไงใครเขาจะยิงปืนเป็นกันล่ะ

    "งั้นนายก็ใช้มีดไป แทงที่หัวของพวกมัน และอย่าให้มันกัดโดนนายเด็ดขาดเพราะนั่นไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ฉันจะวิ่งฝ่าพวกมันไป นายคอยเก็บหลังให้ฉัน ตกลงตามนี้นะ..." มิวสั่งการรัวๆ อย่างกับเจอเรื่องนี้มาจนชินแล้ว แต่สำหรับนิคนั้น ไม่เลย...!

    "เห้ย!!เดี๋ยว!!" ไม่ทันได้พูดพร่ำทำเพลง หญิงสาววิ่งปรี่เข้าใส่ฝูงซอมบี้เหล่านั้นอย่างไม่เกรงกลัวอะไรเลย เธอเล็งปืนไปที่ศรีษะพวกนั้นและยิงใส่อย่างแม่นยำราวกับเรียนมาก่อน นิคทำได้แต่อ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก

    "เร็วเข้า!!!นายจะรอให้มันมาขย้ำนายก่อนรึไง!" เธอตะเบ็งเสียงเรียก

    นิคจับมีดพกให้กระชับมือ เขาไม่เคยแทงหัวใครมาก่อนแม้ว่าอยากจะทำมาโดยตลอดแค่ไหนก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะกล้าทำแบบนั้นสักหน่อย ขาของนิคตอนนี้สั่นเทาเพราะกำลังตื่นตระหนก

    "เฮ้!!เร็วเข้าสิ ใจเสาะแบบนี้นายรอดมาจนถึงขนาดนี้ได้ไงกัน!" มิวเรียกครั้งที่สอง และเธอก็เหมือนกำลังตกที่นั่งลำบากแล้วเช่นกัน

    "เอาว่ะ...มันไม่ใช่มนุษย์ ใช่...มันคือพวกผีดิบ" นิคท่องพึมพำเพื่อรวบรวมความกล้า นิคค่อยๆ ดึงสติหายใจเข้าออกเพื่อสงบอารมณ์

    ย้าาาากกกกก!!!!

    นิคตะโกนสุดเสียงวิ่งพุ่งเข้าใส่พวกซอมบี้คลั่งเหล่านั้นเต็มแรง เขาจับมีดไว้แน่นเสียบแทงเข้าที่สมองของพวกซอมบี้เหล่านี้ เลือดและเศษสมองพุ่งออกมาตามมีดที่ถูกดึงออกจากหัวของมัน กระเด็นเปื้อนไปตามตัวและหน้าของนิค แต่นิคก็ไม่ได้สนใจอะไรแล้ว ในตอนนี้เขาสนใจแค่ต้องเอาชีวิตรอดเท่านั้น นิคเสียบมีดที่หัวของพวกมันอย่างบ้าคลั่งราวกับคนเสียสติ แหงล่ะ...อะดีนาลีนพุ่งพล่านแบบนี้เป็นธรรมดาที่เขาจะเหมือนคนบ้า อย่างน้อยก็ต้องเอาชีวิตรอดไว้ก่อน ขณะที่นิคกำลังต่อสู้กับฝูงซอมบี้อยู่นั้น นิคก็ไปสะดุดตาเข้ากับซอมบี้ตัวหนึ่งเข้า มันดูตัวอวบอ้วนท้วมใหญ่ แขนของเธอกลมเป็นปล้อง ผมหยิกม้วนซึ่งดูยุ่งเหยิงแล้วในตอนนี้ซอมบี้ตัวนี้เหมือนอึ่งอ่างยักษ์เข้าไปใหญ่เมื่อกลายเป็นซอมบี้ และนิคก็จำเธอได้ดี เธอคือเจ๊ร้านขายปลาที่มักจะสาดน้ำล้างปลาไล่เขานั่นเอง

    นิคนึกตะลึงอยู่ในใจพักใหญ่ แต่ซอมบี้ยักษ์ตัวนี้ก็ไม่เว้นจังหวะให้เด็กหนุ่มได้นึก เธอพุ่งกระโจนเข้ามาหานิคทันที นิคที่ตกใจก็เหวี่ยงมีดแทงทะลุสมองของเธออย่างจัง

    "อโหสิให้ด้วยนะ" นิคพูดขณะถอนมีดพกออกจากหัวของเธอ

    สถานการณ์มันไม่ได้ดีขึ้นเลย พวกเขาทั้งสองไม่ได้เดินหน้าไปที่ไหนเลย เหมือนกำลังจุกอยู่กับที่เสียมากกว่า ด้านของมิวนั้นเธอกำลังสู้รัดฟัดเหวี่ยงกับฝูงซอมบี้อย่าางดุเดือด เธอผาดโผนม้วนตัวตีลังกาเป็นท่วงท่า หลบหลีกและยิงสวนราวกับนักแสดงบู๊หลุดจอออกมา เธอใช้เวลาสั้นๆ ในการถอดเปลี่ยนกระสุนปืนและยิงสวนอย่างชำนาญ แต่แล้วเธอก็ต้องแพ้แรงหมาหมู่ ฝูงซอมบี้นั้นแห่กันมามากเกินเป็นโขยง เหมือนพวกมันรับรู้ได้จากเสียงของปืนที่ดังลั่น เหมือนกระดิ่งที่สั่นดังเรียกให้มาทานอาหาร ซอมบี้ตัวหนึ่งจับขาของเธอไว้ได้และลากให้เธอเสียหลักล้มฟุบลงไปกองกับพื้น ขณะเดียวกันนั้นพวกซอมบี้ก็แห่รุมเธอมากขึ้นท่ามกลางความตกใจของนิคที่ไม่รู้จะเข้าไปช่วยยังไง

    "รีบหนีไป" เธอยังคงพยายามดิ้นสู้อยู่ แต่เหมือนเธอก็เริ่มค่อยๆ หมดแรงแล้วเพราะสู้กับพวกนั้นไม่ไหว "ไป!!"

    นิคที่ตื่นตระหนกและไม่รู้จะทำตัวยังไงยืนตัวสั่นเทาอยู่อย่างนั้น หญิงสาวเป็นเป้านิ่งเรียกฝูกซอมบี้ให้แห่แหนกันเข้ามาเรื่อยๆ จะให้เขาหนีไปอย่างงั้นหรอ? ให้เขาปล่อยคนที่พึ่งช่วยชีวิตเขามาหมาดๆ ตายต่อหน้าต่อตาและหนีเอาตัวรอดเองอย่างงั้นหรอ นิคยืนนึกตั้งคำถามอยู่ในใจ แต่จะให้เขาทำยังไงได้ล่ะ พุ่งเข้าไปตอนนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย นิคยืนมองดูมิวที่กำลังดิ้นเพื่อไม่ให้ตัวเองโดนกัดอย่างสุดชีวิต แม้โลกนี้จะโหดร้ายกับเขามากแค่ไหน แต่ก็ใช่ว่าจะทำให้เขาต้องกลายเป็นแบบคนพวกนั้นเสียหน่อย และอย่างน้อยนั้นมิวก็ทำให้เห็นว่าโลกนี้ไม่ได้โหดร้ายกับเขาเสมอไปนี่นา

    ขณะที่ความคิดของนิคกำลังตีกันอยู่ในหัว มีสิ่งหนึ่งที่เขาคิดมาตลอดคือ...เขาต้องช่วยเธอให้ได้ ไม่ว่าทางใดก็ตาม อะดีนาลีนที่เหมือนจะพุ่งพล่านในตัวของเขานั้นกำลังสั่งให้เขาต้องทำอะไรบางอย่าง บางอย่างที่ตัวเขาเองก็ไม่คิดว่าจะทำได้ นิคคว้าหมับที่รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันใหญ่ที่นอนอยู่ใกล้ๆ หากจะคิดว่าเขากำลังจะสตารท์รถนั้นก็คงคิดผิด เพราะส่ิงที่นิคจะทำมันเหนือกว่านั้น

    "ออกไปให้พ้นนะไอ้พวกผีดิบบ!!!"

    นิคออกแรงทั้งหมดยกเอาบิ๊กไบค์ขึ้นเหนือหัว น่าแปลกที่เขาไม่รู้สึกว่ามันหนักเลยสักนิด อาจเป็นเพราะอะดีนาลีนที่พุ่งพล่านอยู่ล่ะมั้ง ว่ากันว่าคนที่ตกใจหรือหวาดกลัวสามารถยกได้แม้กระทั่งตู้เย็นนั้นคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร นิคสูดหายใจเข้าเต็มปอด ออกแรงเหวี่ยงทุ่มรถบิ๊กไบค์ใส่ฝูงซอมบี้ที่กำลังรุมหญิงสาวอยู่ มันพุ่งตัดผ่านฝูงผีดิบคลั่งอย่างแรงและแม่นยำเกินคาดหมายจนพวกมันปลิวกระเด็นแหลกออกเป็นชิ้นๆ มิวที่นอนแน่นิ่งอยู่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เธอหันมามองนิคด้วยสายตาพิศวงและเหลือเชื่อ และนิคเองก็ยังเหลือเชื่อกับสิ่งที่ทำลงไปเหมือนกัน

++++++++++++++++++++

    มิวพานิควิ่งจนมาถึงเขตป่าที่รกชัฎ เหมือนเป็นป่าที่ผุดมากลางเมืองเสียมากกว่า ตลอดทางที่วิ่งมามิวไม่ได้เอ่ยอะไรกับนิคเลย เธอเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งอย่างเดียวจนมาถึงค่ายๆ หนึ่งซึ่งเป็นค่ายใหญ่เลยทีเดียว ข้างในเต็มไปด้วยผู้คนที่เป็น คน...แบบจริงๆ ไม่ใช่ซอมบี้ผีดิบเหล่านั้นแต่อย่างใด ภายในนั้นเป็นอาณานิคมขนาดใหญ่พอสมควร ผู้คนต่างละหน้าที่ของตัวเองออกมาต้อนรับผู้ที่มาถึง

    "กลับมาแล้วหรอ?"

    เสียงทุ้มใหญ่ดังขึ้น ชายสวมเสื้อกั๊กสีกรมเดินฝ่าฝูงชนออกมาอีกคน หนวดเคราของเขาดกเฟิ้มและมีสีขาวแซมออกมาบ้างแล้ว ผมเผ้าก็ดูยาวและรุงรัง ร่างกายกำยำบึกบึน เขาดูเป็นคนมีอายุแต่ไม่ได้แก่เสียทีเดียว

    "แล้วเจ้าหนุ่มหน้ามนนั่นเป็นใครกัน...เธอจะรับทุกคนเข้ามาที่ค่ายนี้ทุกครั้งที่ออกไปไม่ได้นะมิว" ชายใหญ่ตำหนิ

    "ฉันเจอเขาที่ศูนย์วิจัยเปโตร" มิวกล่าวเสียงเรียบ "ฉันคิดว่าเขาเป็นหนึ่งในโอเมก้า"

    ไม่ทันขาดคำ ผู้คนต่างก็แตกฮือกันราวกับผึ้งแตกรัง เหล่าผู้หญิงต่างไปหลบหลังผู้ชาย ส่วนเหล่าผู้ชายยกปืนจ่อมาที่เด็กหนุ่ม ซึ่งนิคเองก็ตกใจไม่แพ้กัน เด็กหนุ่มรีบยกมือขึ้นสูงเหนือหัวอย่างยินยอมและว่าง่าย

    "ใจเย็นๆ ก่อน...ผมไม่ได้มีเจตนาร้ายนะ" นิคพยายามพูดไกล่เกลี่ยแต่ดูเหมือนพวกเขายิ่งตื่นตระหนกเข้าไปใหญ่

    "แก...เป็น...ตัว...อะไร..." ชายในเสื้อกั๊กจ่อปืนไรเฟิลมายังเขาและถามเน้นทุกคำ

    "มะ...หมายความว่าอะไรกัน ผมไม่รู้เรื่องอะไรนะ" นิคเริ่มลนลานหนักกว่าเดิม แหงล่ะ..ก็เล่นเอาปืนมาจ่อหน้ากันขนาดนี้

    "บอกมาว่าแกเป็นตัวอะไร...แกเป็นคนของเปโตรใช่มั้ย!!แกมาจากการทดลองบ้าๆ นั่นใช่มั้ย!" ชายใหญ่ถามอย่างดุดัน

    "เขาช่วยชีวิตฉัน..." มิวเอ่ยปากในที่สุด "เขาช่วยฉันออกจากฝูงซอมบี้นั่น"

    "แล้วเธอจะแน่ใจได้ยังไงว่ามันจะไม่ใช่พวกนั้น" ชายใหญ่ถามย้ำ

    "เรื่องนี้ฉันเองก็ไม่รู้หรอก แต่เราต้องจับเขามัดและขังไว้ รอสอบสวนเมื่อพร้อม" มิวเสนอความเห็น

    "จับโอเมก้าขังเนี่ยนะ? เธอคิดว่าจะทำอะไรพวกนี้ได้งั้นหรอ?" ชายในเสื้อกั๊กตั้งคำถาม

    "ดะ...เดี๋ยวก่อนนะ คือตอนนี้ผมสับสนไปหมดแล้ว อะไรคือโอเมก้า และนี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกัน?" นิคถามแทรกขึ้น

    "เดี๋ยวได้รู้กัน"

    ชายในเสื้อกั๊กตอบก่อนที่พวกผู้ชายกำยำจะเข้ามารุมจับเขามัดไว้ นิคเองก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใดเพราะอย่างน้อยพวกเขาทำไปก็เพื่ออยู่รอดนั่นแหล่ะ เอาเป็นว่าอย่าจับเขาไปเชือดหรือถ่วงน้ำ หรือไปทรมารก็เป็นพอ.......

+++++++++++++++++++

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!