[JJK] Os/Sf ความหอมหวานจากคำว่ายูจิ Allyuji
TW: Rude word , minor x minor
.
.
.
.
.
"นี่หมวย ตรุษจีนปีนี้อยากได้อั่งเปาเท่าไหร่เหรอ" ชายหนุ่มวัยมัธยมปลายเตรียมย่างก้าวเข้ามหาลัย โกโจ ซาโตรุ ในวัยอายุ 18 ปี ผมสีขาวและดวงตาสีฟ้ายามจ้องไปในดวงตาคู่นั้นราวกลับหลุดไปอยู่ท่ามกลางเสียงคลื่นทะเลซัดเข้าหาฝั่งที่เป็นเอกลักษณ์นั้น แถมพ่วงตำแหน่งลูกเจ้าของร้านขายของชำเอ่ยถาม อิตาโดริ ยูจิ ชายหนุ่มวัย 16 ปีแต่กลับถูกผู้คนทั้งหมู่บ้านเรียกหมวย เขาเคยลองไปถามผู้เป็นพ่อของเขาแต่คำตอบที่ได้กลัับมานั้นก็ทำเอาเขาแอบสงสัยไม่หาย
‘ก็ม๊าลื้ออยากได้ลูกสาวแถมตอนคลอดออกมาแทบจะอุ้มไปถามหมอที่อัลตร้าซาวด์ว่าดูเพศผิดป่าวทำไมถึงหน้าหวานขนาดนี้’…..เคเลยป๊า
“ของแบบนี้ใครเขาให้ถามกันหละเฮียฮ่าๆ” ชายหนุ่มผมสีโรสโกลด์ที่ถูกตัดสั้นด้วยทรงอันเดอร์คัตเอ่ยขึ้นอย่างร่าเริงตามปกติ
“สำหรับเฮียขอแค่หมวยบอกเฮียก็จะหามาให้นะ”
“หืม กลายเป็นคนปากหวานแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย”
“พูดแบนี้กับแค่หมวยคนเดียวน้าาา นอกนั้นอีกนิดจะโดนคนทั้งหมู่บ้านรุมกระทืบแล้วยิ่งป๊าหมวยหนะตัวดี”
“โอเค ประโยคหลังหมวยเชื่อ” อิตาโดริ จิน หรือเฮียจินพ่อหนุ่มคลั่งรักลูกชายสุดท้องกว่าสิ่งอื่นใดจนชาวบ้านต่างเอือมระอา ก็แหงสิ…เขาอายุ 16 แล้วนะแต่ป๊าของเขายังคงทำตัวเหมือนเขาพึ่งจะเข้าอนุบาลด้วยซ้ำ
“หมวยยยย ทำไมใจร้ายกับเฮียจังเลยหละ” ว่าแล้วถูหัวทุยสีขาวอันนุ่มนิ่มของตัวเองใส่ไหล่มนของหมวยรักแท้ของเฮีย ทำตัวให้โลกเอียงเข้าไว้เดี๋ยวเขาก็ใจอ่อนเอง
“ก็ดูที่เฮียพูดกับคนอื่นสิ ไม่แปลกที่ป๊าหมวยจะไม่ชอบขี้หน้าเฮีย” มือเล็กกว่ามาตรฐานชายปกติเนื่องจากถูกปฏิบัติราวกับลูกสาวทำให้เรื่องงานเกี่ยวกับการใช้กำลังกายแทบจะไม่ได้แตะผลักหัวอีกฝ่ายเบาๆหวังจะละออกจากไหล่เขา ถึงจะรู้อยู่เต็มอกว่าต่อให้เขาจะผลักยังไงคนข้างกายยังคงทำตัวโลกเอียงอยู่เหมือนเดิม
“หมวย!! ป๊าเรียกกลับบ้าน” เสียงทุ้มเข้มเอ่ยขึ้นขัดบรรยากาศที่กำลังจะเข้าที่เข้าทางกำลังจะก่อตัวขึ้น อิตาโดริ สุคุนะ อายุ 17 ปี พี่ชายที่มีหน้าตาคล้ายคลึงกับเขาราวกับใช้แม่พิมพ์เดียวกัน เพียงแต่หมอนั่นมีหน้าตาที่เอนเอียงไปทางพร้อมหาเรื่องมากกว่าแถมร่างกายค่อนข้างกำยำและสมส่วนมากกว่าเขาอีก
เป็นพี่ชายที่จัดเข้าข่ายหวงน้องชายของตนยิ่งได้มีพ่อที่หวงลูกสาวในร่างชาย(?)เป็นทุนเดิมทำให้กลายเป็นกองกำลังหนุนหลังคอยร่วมมือกันพวกหนุ่มมากหน้าหลายตาที่คอยแวะกันมาขายขนมจีบให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเขาอย่างไม่ขาดสาย
“อ้าว เฮียมาแล้วเหรอ” ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องชายหันไปตามต้นเสียงและเอ่ยเสียงอย่างสดใส
สาบานว่านี่แหละคือพระอาทิตย์ประจำหมู่บ้าน คนอย่างสุคุนะและป๊าต้องคอยระมัดระวังในการจับตามองพวกที่หมายปองน้องชายของเขาให้เป็นคู่
“พึ่งมาถึงเนี่ยแหละรอนานไหม แล้วไปเล่นกับหมาขี้เรื้อนทำไม สกปรก” สุคุนะเน้นคำสุดท้ายให้มันมากพอที่จะกระทบไปยังอีกฝ่ายที่ยังคงเกาะแกะน้องชายของเขา
อายุก็ไม่ใช่เล่นๆแล้วนะ เขาเข้าใจแล้วแหละไอ่คำว่าโตแต่ตัวตั้งแต่เจอไอ่แก่หัวขาวคนนี้
ในทุกๆวันน้องชายของเขาจะคอยนั่งรอเขาที่ม้านั่งบริเวณคาเฟ่เปิดใกล้ๆโรงเรียนที่น้องชายของเขาเรียนอยู่ตามคำบัญชาของป๊าจินที่เอ่ยบอกเขาตั้งแต่ที่น้องชายเขาเริ่มย่างเข้าระดับชั้นมัธยมศึกษา
ก็ไม่ค่อยจะหวงน้องชายกันเท่าไหร่หรอก
“อ้าว ไอ่เด็กแก่เเดดมารับน้องชายตัวเองแล้วเหรอ” น้ำเสียงยียวนของผู้เคยถูกกล่าวหาพูดในท่าทีที่สบายราวกับไม่ถือสาคำพูดของเขาในก่อนหน้านี้
“อย่าทะเลาะกันเลยนะ ถ้าเฮียมาแล้วงั้นหมวยกลับเลยก็แล้วกัน” เพื่อห้ามสงครามประสาทเล็กๆที่เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเพียงแค่เจอหน้ากัน
“ เออๆรีบกลับแล้วรีบกลับไปอาบน้ำเลยนะเดี๋ยวติดเชื้อโรค”
“โอ้โห พูดซะแบบกูแบบจะไม่ใช่คนแล้ว กูแทบจะเป็นขยะแล้ว”
“พึ่งรู้ตัวเหรอ"
“พอเหอะน่าเฮีย กลับบ้านเร็ว” กลายเป็นว่าคนเป็นน้องนั่งรอพี่ชายของตนต้องเป็นฝ่ายดึงดันพี่ชายตัวดีกลับบ้านแทนซะอย่างนั้น
“วันนี้กูเห็นแก่หมวยนะ จะยอมซักวันนึงก็แล้วกัน” ชายหนุ่มหัวขาวเอ่ยขึ้นอีกครั้งก่อนจะลากลับบ้านของตนเองเช่นกัน
“โธ่หมวยยย จะห้ามเฮียทำไมเนี่ย” น้ำเสียงออดอ้อนเปล่งขึ้นทันทีหลังจากไร้บุคคลภายนอกท่ามกลางเส้นทางกลับบ้านเหลือเพียงแต่สองพี่น้องที่ยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ
“ก็หมวยไม่อยากให้เฮียเจ็บตัวอีกนี่ หมวยขี้เกียจทำแผลให้เฮียอีกนะ”
เสียงบ่นหงุงหงิงดังตลอดทางที่เดินจนกระทั่งถึงจุดหมายปลายทาง สรุปแล้วเขาเป็นน้องหรือเป็นพี่กันแน่ สงสัยต้องไปดูสูจิบัตรของครอบครัวเขาอีกรอบซะแล้วสิ
“อ้าว กลับมาแล้วกันเหรอทั้งสองคน” เสียงของผู้เป็นพ่อเอ่ยอย่างต้อนรับลูกๆทั้งสองคน ครอบครัวของเขามีกันแค่ 3 คนเนื่องจากแม่ของเขาเสียชีวิตจากประสบอุบัติเหตุตั้งแต่ยูจิยังเป็นเด็กแบเบาะและประกอบกิจการเปิดร้านอาหารตามสั่งโดยเป็นบ้านสามชั้นซึ่งใช้ชั้นล่างเป็นที่เปิดกิจการ ช่วงวันหยุดเขาและสุคุนะจะออกมาช่วยงานพ่อกัน อาจจะมีบางครั้งบางคราวที่สุคุนะจะออกไปทำงานเล่นดนตรีที่คาเฟ่ในช่วงกลางวันเพราะพ่อเป็นคนเอ่ยคำขาดไม่อนุญาตให้ทำงานกลางคืนเนื่องจากห่วงเรื่องความปลอดภัยซึ่งตัวพี่ชายก็ยอมรับและเข้าใจดี
“ป๊า หมวยมันไปนั่งเล่นกับไอ่เฮียโกลูกร้านขายของชำอีกแล้วอะ” แต่ก็มิวายทันทีที่ป๊าเอ่ยจบประโยคมันก็ keep look กลับไปเป็นสุคุนะคนเดิมเพิ่มเติมคือมีการฟ้องบอกป๊าของเขาด้วย
“มันเอาอีกแล้วเหรอไอ้ลูกร้านขายของชำนี่เห็นมันมาทำคะแนนทุกวันเลยนะ” มือของผู้เป็นพ่อถอดเเว่นพร้อมนวดหัวคิ้วของตนหวังให้ช่วยคลายความปวด
“ป๊า! อย่าใช้คำว่าทำคะแนนดิ จะปล่อยลูกตัวเองแล้วรึไง” เป็นฝ่ายพี่ชายที่เอ่ยค้านอย่างสุดเสียง
“ไม่ปล่อยหรอก ช่วงนี้ปวดหัวบ่อยเลยเบลอนิดๆ”
“ไม่นิดแล้วมั้งป๊า ขึ้นไปพักก่อนป่าว”ลูกคนเล็กพูดขึ้นโดยสีหน้าเเสดงความห่วงใยอย่างปิดไม่มิดจนคนพ่อต้องเอื้อมมือมาลูบผมสีโรสโกลด์เหมือนตนอย่างหลงไหลตามประสาคุณพ่อคลั่งลูกชาย
“เออดิป๊า ผมกับหมวยเฝ้าร้านให้เดี๋ยวอีกซักพักก็จะปิด” สุคุนะที่เงียบอยู่นานเสนอความเห็นร่วมด้วยกับน้องชาย
“งั้นป๊าฝากหน่อยก็แล้วกันนะ เดี๋ยวป๊าไปพักก่อน”
“เอ้อ สุคุนะ--” ก่อนที่จะขึ้นบันไดผู้เป็นพ่อที่ยืนเกาะราวบันไดเอ่ยขึ้น
“โอเคป๊า” ….อะไรวะ ป๊ายังไม่ทันได้พูด
“นี่เฮียแล้วถ้าลูกค้ามาเฮียจะเป็นคนทำอาหารป้ะ” หลังจากแผ่นหลังของผู้อาวุโสสุดในบ้านหายขึ้นไปบนชั้นบนของบ้าน ยูจิถามสุคุนะที่กำลังเตรียมหยิบเครื่องเล่นเกมของตนมาเล่น ดูก็รู้ว่าจะมาอู้งานหนะ
“หึ หมวยทำเลยเดี๋ยวเฮียเฝ้าเผื่อมีหนุ่มหน้าตี๋ที่ไหนแวะมาขายขนมจีบอีกแถมเผื่อหมวยลืม เฮียทำไม่เป็น”
“โห่เฮีย หมวยอายุเท่าไหร่แล้วทำไมยังต้องมานั่งคุมอีก”
“เออหน่าหมวย พูดมากว่ะ” สุคุนะเอ่ยขึ้นอย่างหมดหนทางที่จะต่อล้อต่อเถียงทำได้เพียงตอบปัดเพื่อให้ยูจิหยุดถามเซ้าซี้
ก็คนมันจะเล่นเกมอะ อีเวนต์จำกัดเวลาแถมแจกของเเรร์เลยนะเว้ย ไม่ค่อยจะเห็นแก่เกมเท่าไหร่หรอก
“อ้าวหมวย วันนี้เฝ้าร้านแทนป๊าเหรอ ว้าา ดีใจจังได้ข้าวไปกินแถมฟรีหัวใจคนทำด้วยรึเปล่าน้าา” ชายหนุ่มลูกเจ้าของขายร้านขายของชำที่ลากสังขารจากท้ายซอยมาหน้าปากซอยเพื่อได้เเวะทำความสนิทสนมกับพ่อตาแต่ดันโชคดีที่วันนี้พ่อตาเขารถคว่ำรึเปล่ากลายเป็นลูกชายมาขายแทน ไม่เสียแรงจริงๆที่ยอมเดินทนเหนื่อยมา
“มึงเพ้อเสร็จยัง เพ้อเสร็จก็สั่งข้าวอย่ามาขวางทางหน้าร้าน” เหมือนสมองสุคุนะสั่งการจดจำเสียงนี้ว่าถ้าได้ยินให้ตอบสนองปกป้องตัวน้องโดยอัตโนมัติ มือที่กำลังกดเครื่องเกมหยุดชะงักก่อนจะวางมันลงพร้อมเคลื่อนย้ายตัวเองมายืนอยู่ข้างน้องชาย
“นี่ลูกค้านะ บริการให้มันดีๆหน่อยสิครับคุณพี่เขย”
“ทำไมกูต้องทำกับมึง แล้วอีกอย่างใครพี่เขยมึง”
“แสดงว่าลูกเก็บเหรอถึงไม่ใช่พี่แท้ๆของหมวยหนะ”
“ไอ้นี่ เลือดกลบปากซักทีไหมก่อนกลับบ้าน” สุคุนะว่าพลางเงื้อมือเพื่อจะตบสั่งสอนคนปากปีจอด้านหน้า
“พอได้แล้วน่าพี่! จะทะเลาะกันไปถึงไหนถ้าเสียงดังจนป๊าตื่นขึ้นหละทำไง” ยูจิสวมกอดพี่ชายเพื่อห้ามปรามไม่ให้ทำร้ายลูกค้าถึงแม้ว่าจะเป็นลูกที่สมควรโดนก็เถอะ
“อ้าว เฮียจินยังไม่ตายเหรอ” ชายผมขาวเอ่ยขึ้น
“นั่นปากเหรอ”
“โอ้ย ทั้งเฮียกับเฮียโกก็พอทั้งคู่เลย หมวยเหนื่อยกับไอ้พวกเฮียทั้งคู่แล้วนะ” มือจัดความเรียบร้อยของเครื่องแต่งกายพลางบ่นไป
“ก็ไอ้เด็กสุมันเริ่มก่อนนะหมวย”
“พอเลยนะเฮีย สรุปจะเอาอะไร”
“เอาใจ”
“มึงนี่มัน--” ยังไม่ทันที่สุคุนะจะเอ่ยปากขึ้น เสียงตะโกนอีกเสียงดังขึ้นเรียกความสนใจให้สองหนุ่มที่พร้อมปะทะกันกับอีกหนึ่งหนุ่มที่คอยห้ามทัพหันมามองต้นเสียง
“หมวย วันนี้พี่เอาเหมือนเดิมนะ” เสียงของชายหนุ่มผมดำที่ถูกจัดทรงอย่างดีเอ่ยขึ้นแทรกหยุดสงครามแทน
“พี่ยูตะ สวัสดีครับเอาเหมือนเดิมใช่ป้ะเดี๋ยวหมวยทำให้ พี่รอแป๊ปนึงนะ” บรรยากาศอึมครึมหายไปทันทีจากคนอายุน้อยที่สุดในร้านแผ่ออร่าความเจิดจ้าออกมาหลังจากพบบุคคลใหม่เข้ามาขัดสงครามประสาท
“เห้ยๆๆ ให้มันน้อยๆหน่อยนั่นเพื่อนกู” ตามมาติดๆกับลูกชายคนเล็กสุดของร้านซ่อมเครื่องยนต์เอ่ยขัดความคิดพี่ชายตน
“เมก็เอาเหมือนเดิมนะหมวย” ก่อนจะหันไปยิ้มให้น้องหมวยที่กำลังจดรายการอาหาร
“โห พวกมึงก็ไม่ต่างกันทั้งคู่เลยไอ้สัส” สุคุนะพูดอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะอาสาช่วยน้องชายตนทำอาหารร่วม
“เดี๋ยวๆๆ กูมาก่อนใครเลยนะ” ชายหนุ่มผมขาวสูง 190 เซนซึ่งเกินมนุษย์มนาพูดขึ้น
“ก็มึงไม่สั่งเอง” ตามมาด้วยเสียงสุคุนะที่ตามมาหลังจบประโยคพูด
“หมวย--”
“เลิกทำตัวเป็นหมาบ้าได้แล้วหน่าเฮีย” ว่าที่นักศึกษาทำหน้าสะเทือนใจหลังถูกคนรัก(?)ของเขาไม่เข้าข้างตน
“เดี๋ยวหมวยทำให้ เฮียไปนั่งรอที่โต๊ะก่อน” หลังจากเห็นสีหน้าหงอยลงอย่างเห็นได้ชัดก็อดไม่ได้ที่จะสงสาร
“อ้าวหมวยแล้วของพี่กับไอ้เมหละ”
“ของพวกมึงทั้งคู่เดี๋ยวกูทำให้” ว่าที่เจ้าของกิจการพูดขึ้น
“มันจะกินได้เหรอพี่” ฝ่ายน้องชายร้านซ่อมยนต์เอ่ยถามพี่ชายอย่างติดกังวล
“เอ๊ะ มึงกลัวอะไรกัน กูก็ลูกเจ้าของร้านขายข้าวเหมือนหมวย” ถึงจะโล่งใจเปราะหนึ่งแต่ก็ต้องกลับมานั่งกุมขมับหลังจากเสียงน้องหมวยคนสวยเอ่ยอย่างตกใจ
“เฮีย! นั่นมันเกลือไม่ใช่น้ำตาล!”
หลังจากผ่านเหตุการณ์วันนั้นก็ผ่านนับเป็น 4 สัปดาห์จะ 5 สัปกาห์ที่เฮียโกหรือลูกชายร้านขายของชำไม่โผล่หน้ามาแวะขายขนมจีบอีกเช่นเคย ไม่ใช่ว่าเขาน้อยใจอะไรหรอก เขาแค่รู้สึกเป็นห่วงกลัวอีกฝ่ายจะเป็นอะไรไปแค่นั้นจริงๆ ชีวิตของเขาดำเนินเป็นไปตามปกติของทุกๆวันอย่างที่ควรจะเป็นแต่มันกลับรู้สึกขาดอะไรบางอย่างไปก็เท่านั้น
“นี่หมวยจะนั่งซึมเหมือนคนอกหักไปอีกเมื่อไหร่” สุคุนะที่เห็นน้องชายนั่งเหม่อลอยแถมทำหน้าเป็นผักเฉาน้ำก็อดไม่ได้ที่จะถาม
“โถ่เฮีย…”
“ไม่ต้องมาอ้อน เป็นอะไรกันก็ไปถามกันดีๆสิ ไม่ใช่มานั่งซึมแบบนี้” ก็ในเมื่อแสงสว่างของบ้านไม่ได้เปร่งปลั่งดังเช่นเคยก็พลอยทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูเงียบเหงาไปตามๆกัน
“มันก็ถามก็คุยกันทุกวัน แต่มันก็อดน้อยใจไม่ได้หนิ” น้องชายตัวดีที่นั่งซึมมาหลายวันฟุบหน้ากับโต๊ะม้าหินอ่อนหน้าร้าน
“ไหนดูซิ น้องชายของเฮียคนที่ยิ้มตลอดทำไมเป็นอย่างนี้” มือหนาคอยกุมใบหน้าคนน้องพลางออกแรงบีบเบาๆราวกับปลอบประโลม
“ฮือออเฮีย มันเจ็บนะ” ถึงจะบ่นพึมพัมไปแต่ก็ยังเอนใบหน้าหาฝ่ามืออุ่นของคนเป็นพี่อยู่ดี
“เจ็บหนะดี จะได้รู้สึกตัวว่าทำแบบนี้ไปก็เปล่าประโยชน์ อยากหาก็ไปหาแค่นั้น”
“แต่ป๊า-”
“ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวเฮียบอกป๊าเองว่าหมวยไปทำงานบ้านเพื่อน” ใช่ว่าเรื่องที่ไอ้หน้าหมาอย่างโกโจกับน้องชายของเขากำลังคบกัน จริงๆเขารู้ตั้งนานแล้วตอนแรกก็คิดว่าแค่ข่าวลือแต่พอได้ยินจากปากน้องชายอีกทีก็เป็นเครื่องยืนยันว่ามันคือเรื่องจริง ถึงช่วงนั้นจะกลายเป็นหมาโดนเจ้านายทิ้งจนป๊าคิดว่าโดนหักอกก็ตาม แต่น้องชายอย่างยูจิก็ยังปฏิบัติใส่ใจกับเขาเป็นปกติทำให้เขาพอโล่งใจว่าอย่างน้อยน้องชายเขาก็สามารถให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นอันดับแรกก่อนเสมอ
“โห่ พี่ใครเนี่ยน่ารักจัง”
“พูดมากว่ะ รีบๆไปเลยก่อนป๊าจะกลับมา” เอ่ยพลางโบกมือไล่น้องชายไป
“โถ่ งั้นเดี๋ยวหมวยออกเงินค่าฟิกเกอร์ที่เฮียสั่งมานะ”
“ใจป๋าตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ได้นิสัยลูกบ้านนั้นมาเหรอ”
“หน่าเฮีย”
“แต่จะปฏิเสธไม่ได้ซะด้วย จะรับไว้ก็แล้วกันถือว่าตกลง”
“สวัสดีครับคุณน้า เฮียอยู่บ้านเปล่าครับ” หลังจากเดินตากแดดมานานก็มาถึงร้าน พักหายเหนื่อยก่อนจะทักทายผู้เป็นแม่ของแฟนหนุ่มเขา
“อ้าว…หมวยเหรอ ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยลูก” หล่อนเอ่ยทักทายบุคคลมาใหม่ด้วยความเอ็นดู
“อาโกโจนอนอยู่บนห้องตัวเองแหละจ่ะ ช่วงนี้รายนั้นพึ่งจะสอบเข้ามหาลัยเลยต้องเตรียมตัวจริงๆจังๆตอนช่วงใกล้สอบหนะ อาโกโจพึ่งจะสอบเสร็จเมื่อวานเอง” หญิงสาวอธิบายยาวเหยียดก่อนที่จะฝากวานให้นำอาหารขึ้นไปให้ลูกชายตัวดี
ขาเรียวยาวก้าวขึ้นบันไดอย่างระมัดระวังเหมือนกลัวจะรบกวนคนนอนหลับจากความเหนื่อยแต่ใจไม่รักดีกลับส่งเสียงดังออกมาราวกับจะหลุดออกมาจากอกเขา มือที่กำถาดวางข้าวเริ่มชื้นเหงื่อเมื่อเข้าใกล้ประตูเจ้าของห้องที่ยังหลับไหล มือถือวิสาสะเปิดประตูอย่างเงียบๆเพื่อไม่ให้รบกวนการนอน
“โห ได้นอนพักบ้างรีเปล่าเนี่ย” ดวงตาไล่สำรวจใบหน้าของชายผู้เป็นที่รักยามหลับ ใบหน้าที่ดูเหนื่อยล้าพร้อมกับซูบผอมลง
“ขอบตาดำขนาดนี้ยังจะฝืนคุยด้วยกันจนดึกทำไม” ปากก็บ่นพึมพัมส่วนมือที่รู้ตัวอีกทีก็วางลูบกลุ่มผมสีขาวสะอาดกล่อมให้นอนหลับสบาย
“คิดถึงขนาดที่ต้องเดินมาจากหน้าปากซอยเลยเหรอเนี่ย แฟนใครน่ารักจัง” ดวงตาของผู้ที่หลับลืมตาขึ้นก่อนจะอาศัยจังหวะช่วงที่เจ้าตัวเผลอดึงรวบตัวมากอดอยู่ข้างกาย
“ตื่นตอนไหนเนี่ย! หรือหมวยทำให้เฮียตื่น”
“ตั้งแต่ได้ยินเสียงเปิดประตูแล้ว” มืออีกข้างที่ยังว่างเลื่อนมาลูบเส้นผมสีชมพูของอีกฝ่าย
“อะไรกัน นี่แกล้งหลับใส่หมวยเหรอ”
“เปล่าซะหน่อย ก็เห็นหมวยหวังดีอุส่าห์ทำแบบเบาๆแล้วไง พี่ก็ไม่อยากขัด” ใบหน้ายกยิ้มขึ้นหลังจากร่างบางแสดงท่าทีไม่พอใจกับการกระทำของตนพร้อมบ่นพึมพัมไปตามประสาคนขี้บ่น ถ้าอยู่บ้านเดียวกันมีหวังเขาคงโดนอีกคนบ่นจนหูชาแน่ๆ
“แล้วเฮียไม่ไปช่วยคุณน้าซื้อของเตรียมไหว้เหรอ” หลังจากยอมแพ้ให้กับการบ่นที่บ่นไปเจ้าตัวก็ไม่ได้ดูจะสำนึกผิดอะไรขึ้นมาจึงเปลี่ยนประเด็นในการถาม
“อ่า จริงสิจะถึงวันตรุษจีนแล้วงั้นพี่ถามอีกรอบละกัน”
“ตรุษจีนปีนี้อยากได้เท่าไหร่”
“อะไรกัน หมวยนึกว่าเฮียพูดเล่นๆนะเนี่ย”
“หมวยเป็นเฮียเป็นคนติดเล่นตลอดรึไง”
“ก็ที่ผ่านมาก็เห็นตลอด”
“โถ่หมวยยย สรุปคืออยากได้เท่าไหร่”
“หมวยไม่อยากได้เงินอะ แค่เฮียให้ปกติก็เกรงใจจะแย่แถมใช้ไม่หมดอีก”
“ฮ่าฮ่า แล้วอยากได้อะไรหละคะคนเก่ง”
“เฮียอะ!” คนตัวโตก้มมองอีกคนที่ซุกหน้าลงบนอกแกร่งแต่ถึงอย่างนั้นสีของใบหูหมวยมันก็บอกเฮียอยู่แล้วอะนะ
“อยากให้เฮียอยู่แบบนี้กับหมวยไปนานๆ”
คงจะเป็นอีกปีที่สามารถทำให้เขายิ้มกว้างได้แบบนี้อีกครั้ง
End.
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments