เรื่องที่ 2 อย่าร้องไห้สิคะ

ณ คฤหาสน์ตระกูล ไวโอเล็ต หญิงสาวผมยาวสีทองในชุดเดรสสีขาวคนหนึ่งกำลังนั่งมองออกไปข้างนอกหน้าต่าง สายลมได้พัดผ่านเข้ามาหาเธออย่างเบาๆ ผ้าม่านได้ปริวไสว ทำให้เห็นถึงใบหน้าที่ งดงามของเธอที่ดูเหมือนเธอนั้นยิ้มอยู่ตลอดเวลา แต่แล้วในขณะที่เธอกำลังนั่งมองไปข้างนอกหน้าต่างนั้นก็ได้มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

ก๊อก! ก็อก!!

"นายหญิงได้เวลาตื่นนอนแล้วเพคะ ดิฉันขอเข้าไปนะเพคะ"เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งได้พูดขึ้นก่อนที่เธอนั้นจะเปิดประตูเข้ามา หญิงสาวผมดำสนิทกับดวงตาสีม่วงราวกับอัญมณีในชุดเครื่องแบบทางทหารที่ดูสบายๆไม่ได้สวมชุดเกราะอะไรเยอะ เธอนั้นได้พกดาบของเธอไว้ข้างกายเสมอ

นายหญิงได้หันหน้าไปหาเธอและก็ได้พูดขึ้น"อรุณสวัสดิ์นะ มาเรีย"เธอได้แสดงออกด้วยท่าทีที่ร่าเริงในขณะที่เธอพูด

มาเรียที่ได้เห็นแบบนั้นก็ได้พูดขึ้น"อรุณสวัสดิ์เพคะ นายหญิงเซเรน่า"ด้วยสีหน้าที่เฉยเมย

ว้า~ วันนี้มาเรียก็ยังหน้ารักเหมือนเคยเลยน้าา~ ฉันละดีใจจริงๆที่มีองค์รักษ์ที่น่ารักแบบนี้แถมเธอยังเป็นเพื่อนในสมัยเด็กอีก แต่ว่า...ทุกครั้งที่ฉันเห็นเธอบาดเจ็บจากการฝึกมันทำให้ฉันรู้สึกไม่ดีเลยสักนิด

มาเรียนั้นเป็นเพื่อนสมัยเด็กและยังเป็นองค์รักษ์ส่วนตัวของเซเรน่า และเธอนั้นยังเป็นนักดาบอันดับต้นๆของประเทศแต่เนื่องจากเธอถูกว่าจ้างจากตระกูลฉันให้มาเป็นองค์รักษ์ ทำให้เธอนั้นสูญเสียโอกาสที่จะได้ตำแหน่งนักดาบอันดับ 1 ของอาณาจักรไป 

"นายหญิงมองออกไปนอกหน้าต่างอีกแล้วงั้นเหรอเพคะ"มาเรียได้เดินไปยืนอยู่ใกล้ๆกับเซเรน่า

เซเรน่าที่ได้เห็นแบบนั้นก็ได้หันออกไปมองนอกหน้าต่างอีกครั้งและก็ได้พูดขึ้น

"อื้ม.. วันนี้ลมเย็นสบายมากเลยละ."

มาเรียได้ก้มลงไปมองที่เซเรน่าก่อนที่เธอจะพูดขึ้น"งั้น...เราออกไปข้างนอกไหมเพคะ"

เซเรน่าได้เงยหน้าไปมองมาเรียก่อนที่เธอจะแสดงอาการที่ดีใจออกมาก่อนที่เธอจะพูดขึ้น"อื้ม ไปสิ!"มาเรียได้ลุกขึ้นหลังจากทีที่เธอพูดจบและวิ่งออกไปจากห้องไป แต่แล้วเธอก็โผล่หน้ามาและก็พูดขึ้นด้วยท่าทีที่ยิ้มแย้มแจ่มใส

"นี่ มาเรีย เร็วสิไปข้างนอกกัน"

มาเรียที่ได้เห็นแบบนั้นก็ได้ยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนที่เธอจะพูดขึ้น"กำลังไปเพคะ"เธอได้เดินตามเซเรน่าไปยังข้างนอก

ณ ส่วนดอกไม้ เซเรน่าได้ออกมาเดินรับลมและเดินชมดอกไม้ในสวน ผีเสื้อได้บินมาเกาะดอกไม้ เซเรน่าได้ก้มลงมองอย่างช้าๆก่อนที่เธอจะพูดขึ้น

"นี่มาเรียเธอจำได้หรือป่าว

"คะ?"

เซเรน่าได้หันไปสบตากับมาเรียและเธอก็ได้พูดขึ้น"ในตอนเด็กพวกเราสองคนมักจะมาเล่นที่สวนนี้อยู่บ่อยๆ ฉันจำได้เลยละในตอนที่เธอนั้นวิ่งไล่จับผีเสื้อเพื่อฉัน และเธอก็สะดุ๊ดล้มเข่าถลอก จนแม่บ้านดุยกใหญ่เลยละ!"เธอได้พูดด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน

มาเรียที่ได้ยินและเห็นสีหน้าแสนอ่อนโยนของเซเรน่าก็ไม่ได้ตอบอะไรกับไป เธอได้ครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนที่เธอจะพยายามพูดขึ้น

"นะ-นั้น ส-"ในระหว่างที่เธอกำลังพูดอยู่นั้นเซเรน่าได้มีอาการไอออกมา เซเรน่าได้ใช้มือของเธอปิดปากและมีอาการไออยู่สักพัก มาเรียที่ได้เห็นแบบนั้นได้รีบเข้าไปหาเซเรน่าเพื่อดูอาการและได้พบว่าเธอนั้นกระอักเลือดออกมา มาเรียที่ได้เห็นแบบนั้นจึงได้ตะโกนขึ้น

"นี่!! มีใครอยู่ไหม!! ไปเรียกหมอมาที!!"

เมดที่อยู่แถวนั้นก็ได้รีบวิ่งไปตามหมอมาทันที

มาเรียได้พูดบอกเซเรน่าอย่างเป็นห่วง

"ทำใจดีๆนะเพคะนายหญิง!! อดทนอีกนิดนะเพคะ!!"มาเรียได้พยายามประคับประคองเซเรน่าไว้

เซเรน่าได้ยิ้มขึ้นในขณะที่เธอกำลังจะพูด"อื้ม ขอบคุณนะมาเรีย..ที่คอยตามใจฉันอยู่ตลอดเวลา.."

มาเรียที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้สะดุ้งเล็กน้อยก่อนที่จะพูดขึ้น"ยะ-อย่าพูดเหมือนเธอกำลังจากไปแบบนั้นสิ..."

เซเรน่าได้ยิ้มขึ้นก่อนที่เธอจะหัวเราะออกมา

"ฮะ ฮ่ะ ขอโทษท-"แต่เธอไม่ทันได้พูดจบเธอก็ได้มีอาการไอขึ้นอีกครั้ง

หมอและแม่บ้านได้วิ่งมาหาและดูอาการของเธอก่อนที่พวกเขาจะประคับประคองเธอและพาไปยังที่พัก

ณ ข้างในคฤหาสน์ มาเรียที่กำลังถือแก้วน้ำและกำลังเดินไปที่ห้องเซเรน่านั้นก็ได้หยุดเดินเพราะเธอได้ยินเสียงหมอกับคนรับใช้นั้นกำลังคุยกัน

"นะ-นายหญิงจะเป็นอะไรหรือป่าวคะคุณหมอ"เสียงแม่บ้านกำลังพูดคุยอยู่กับหมอ

หมอที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้ส่ายหน้าของเขาก่อนที่เขาจะพูดขึ้น"อาการของคุุณหนูแย่มากเลยละ เธอคงอยู่ได้อย่างช้าที่สุดก็ประมาณ 1 เดือนแต่ถ้าในกรณีที่เลวร้ายเธออาจจะอยู่ได้แค่ 1 อาทิตย์ เฮ้อ..ถ้าเรามีวิธีรักษาโรคหัวใจของคุณหนูก็ดีนะสิ"

แม่บ้านที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้ร้องไห้ออกมา

"คะ-คุณหนู ฮือ~"แม่บ้านได้ร้องไห้ออกก่อนที่เธอนั้นจะไปบอกเรื่องนี้ให้นายท่านและนายหญิงฟัง

มาเรียที่ได้ยืนฟังอยู่นั้นก็ได้เดินออกมาและเดินไปหาหมอที่ยืนอยู่ข้างหน้าห้องของเซเรน่าด้วยท่าทีที่เหมือนเธอนั้นไม่ได้ยินอะไร ก่อนที่เธอจะถามกับคุณหมอ

"อาการของเซเรน่าเป็นยังไงบ้างคะ"

หมอได้หันมามองเธอและก็ได้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูเศร้าเล็กน้อย"เธอเหลือเวลาไม่มากแล้วละ..."

หมอได้หันไปเห็นสีหน้าของมาเรียมี่แสดงออกมานั้น แม้ว่าเธอจะทำหน้าเฉยเมยอยู่ตลอดเวลาแต่เขาก็รู้ได้ทันทีว่าข้างในเธอนั้นรู้สึกยังไง แต่เขาก็ไม่ได้พูดออกมา

มาเรียได้เปิดประตูเข้าไปในห้องของเซเรน่าและเอาน้ำวางไว้ที่โต๊ะก่อนที่เธอนั้นจะเอาเก้าอี้มานั่งข้างๆเตียงและมองไปที่เซเรน่า ด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉย แต่จู่ๆน้ำตาของเธอก็ไหลออกมา เธอได้เช็ดน้ำตาบนใบหน้าของเธอก่อนที่เธอนั้นจะจะเอื้อมมือทั้งสองข้างไปกุมมือของเซเรน่าและคอยนั่งเฝ้าเซเรน่าตลอดเวลาทั้งวันจนเธอนั้นเผลอหลับไป

มาเรีบที่ได้รู้สึกถึงลมเย็นที่พัดผ่านก็ได้ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นและก็พบว่าเซเรน่ากำลังนั่งมองออกไปข้างนอก ท้องฟ้ายามค่ำคืนและพระจันทร์เต็มดวงที่สวยงามแสงจันทร์ได้สาดส่องเข้ามายังภายในห้อง

ในขณะที่มาเรียที่กำลังจ้องมองไปที่เซเรน่าอยู่ด้วยนั้น เซเรน่าก็ได้หันมาสบตาเธอก่อนที่เธอจะพูดขึ้น

"ตื่นแล้วหรอมาเรีย~"เธอได้พูดขึ้นพร้อมกับยิ้มไปด้วย

มาเรียที่ได้เห็นเซเรน่ายิ้มเธอก็ได้แต่ก้มหน้าลงและก็ได้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูเศร้าสร้อย

"ค่ะนายหญิง..."

เซเรน่าได้เอามือของเธอนั้นไปจับที่ใบหน้าของมาเรีย และเงยหน้าของเธอขึ้น ทั้งสองได้สบตากัน ก่อนที่เซเรน่าจะพูดขึ้นพร้อมกับส่ายหัวไปด้วย

"ไม่ได้สิ ไม่เห็นต้องพูดเป็นทางการขนาดนั้นก็ได้นี่นา ก็เราทั้งสองคนเป็นเพื่อนสมัยเด็กด้วยกันนี่....เพราะงั้นช่วยเรียกชื่อฉันเหมือนแต่ก่อนทีนะ..."

มาเรียที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูเศร้าเล็กน้อย"เธอนี่ขี้โกงชะมัดเลยนะ แม้ว่าเธอรู้ว่าตัวเองอยู่ได้อีกไม่นานแท้ๆแต่กลับยิ้มออกมาอย่างดีใจซะได้"จู่ๆเมื่อพูดจบน้ำตาของมาเรียก็ได้ไหลออกมา

"เธอนี่มันขี้โกงจริงๆ เซเรน่า ฮือ~”เธอได้ร้องไห้ออกมา แม้ว่ามาเรียจะพยายามเช็ดหรือพยายามที่จะหยุดร้องไห้เท่าไหร่แต่น้ำตาของเธอก็ยังคงไหลออกมา

เซเรน่าที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้พูดขึ้นพร้อมกับหันไปมองข้างนอกหน้าต่าง"นี่มาเรีย เธอจำได้หรือเปล่า ความฝันในวัยของฉันนะ!?"

มาเรียได้ตอบกลับมาแม้ว่าเธอจะร้องไห้อยู่ก็ตาม"อื้มม~ จำได้สิ.."

เซเรน่าได้พูดต่อ"ฉันอยากเห็นความฝันนั้นเป็นจริงจัง ความฝันที่เธอนั้นจะขึ้นเป็นนักดาบอันดับ 1 ของอาณาจักรและมาขอฉันแต่งงานนะ..."เซเรน่าได้หันไปมองทีที่มาเรียและรอฟังคำตอบของมาเรียอย่างตั้งใจ

มาเรียที่ได้ยินแบบนั้นจู่ๆน้ำตาของเธอก็ได้หยุดไหล เธอนั้นก็ได้เช็ดน้ำตาบนใบหน้าของเธอออกและเงยหน้าขึ้นไปสบตากับเซเรน่าด้วยรอยยิ้ม"อื้ม ฉันจะทำให้ความฝันของเธอนั้นเป็นจริงเอง...เพราะงั้นก่อนที่จะถึงวันนั้นได้โปรดช่วยรอฉันด้วยนะ.."

เซเรน่าได้ยิ้มขึ้นอย่างมีความสุขก่อนที่เธอจะพูดขึ้น"อื้ม ฉันจะรอนะ"สิ้นเสียงของเธอลมเย็นได้พัดเข้ามาผมสีทองของเธอนั้นได้พัดปริวไสวก่อนที่เซเรน่าจะพูดขึ้นพร้อมกับทำมือเกี่ยวก้อยสัญญา

"สัญญานะว่าเธอจะทำให้ความฝันของฉันเป็นจริง"

มาเรียที่ได้เห็นแบบนั้นจึงได้ยกมือของเธอขึ้นและไปเกี่ยวก้อยกับเซเรน่าก่อนที่เธอจะยิ้มขึ้นและพูดออกมาอย่างมีความสุข

"อื้ม สัญญาเลยละ!!"

โชคดีที่งานแข่งขันประลองดาบนั้นจะจัดขึ้นในอีก 3 วัน นั้นจึงทำให้มาเรียนั้นมีเวลาเตรียมพร้อมถึงจะไม่มากเท่าไหร่ก็เถอะ ตลอดการแข่งขันมาเรียได้ชนะคู่ต่อสู้ของเธออย่างง่ายดาย จนเวลาได้ผ่านไปจนถึงช่วงสุดท้ายของการแข่งขัน ช่วงเวลานั้นก็ผ่านมาแล้วประมาณ 1 เดือนนิดๆ แต่เซเรน่านั้นก็ยังคงมีชีวิตอยู่ ในศึกรอบชิงนั้นมาเรียได้เจอกับคู่แข่ง ที่สู้กับเธอได้อย่างสูสี การต่อสู้นั้นได้ดำเนินไปอย่างยากลำบากทั้งสองที่ประดาบกันก็ได้ถึงขีดจำกัดกันทั้งคู่ 

"แฮ่ก แฮ่ะ แฮะ"

ทั้งสองได้จ้องหน้ากันอยู่สักพัก เพราะนี่จะเป็นการโจมตีครั้งสุดท้ายของพวกเขา แต่แล้วทั้งสองคนก็ได้พุ่งเข้าปะทะกันเสียงของดาบได้ดังขึ้น..

เพล้ง!! 

ผู้​ชมต่างพาก็ลุ้น​​​​​​ว่าใครกันจะชนะ แต่แล้วในขณะทั้งสองที่กำลังยืนหันหลังให้กันอยู่นั้นมาเรียก็ได้ล้มลงแต่เธอนั้นได้เอาดาบยันที่พื้นไว้ได้แต่แล้วก็ได้มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

ตุบบ!!

ร่างของคู่แข่งของมาเรียได้ล้มลงกับพื้นผู้คนที่ได้ดูอย่างเงียบๆอยู่นั้นก็ได้ต่างพากันดีใจและสงเสียงเรียกชื่อขอมาเรีย เสียงนั้นได้ดังไปทั่วทั้งสนาม มาเรียได้ลุกขึ้น และผู้ประกาศได้เดินมาเช็คคู่แข่งของเธอ และเดินจับมือของมาเรียชูขึ้น

"ผู้ชนะของการแข่งขันประลองดาบประจำปีได้แก่..'มาเรีย!!' "

เสียงตบมือและแสดงความยินดีได้ดังขึ้น มาเรียที่ดีใจที่ได้ยินแบบนั้นและหันไปมองที่ๆเซเรน่ามักนั่งชมอยู่ตลอดทั้งสองคนได้สบตากันก่อนที่เซเรน่าจะทำท่าทางแสดงความยินดีด้วยแต่แล้วเธอก็กระอักเลือดขึ้น มาเรียที่เห็นแบบจึงได้พยายามที่จะไปหาเธอแต่เพราะร่างกายที่เหนื่อยล้าของเธอทำให้เธอล้มลง แม่บ้านและหมอที่อยู่ข้างๆเซเรน่าต่างพากันพาเซเรน่ากลับไปที่บ้านและรักษา มาเรียที่ได้เห็นแบบนั้นก็พยายามที่จะคลานไปหาเธอแต่แล้วสายตาของเธอค่อยๆจางลงและเธอก็สลบไป

เมื่อเธอตื่นขึ้นเธอก็รีบพุ่งไปหาเซเรน่าทันที แต่เมื่อเธอเดินมาถึงหน้าห้องของเซเรน่าก็ได้พบกับคุณหมอและก็ได้ถามกับเขาด้วยท่าทีที่ร้อนรน

มาเรียได้เดินไปจับไหล่ทั้งสองข้างของคุณหมอ"เซเรน่าเป็นยังไงบ้าง!!"

หมอที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้ทำหน้าเศร้าก่อนที่เขาจะพูดขึ้น"คุณหนูอาจมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ไม่นาน.. ที่เธอยังมีชีวิตอยู่มาจนถึงตอนนี้ได้ก็ปาฏิหาริย์แล้ว...เพราะงั้นถ้ามีอะไรจะบอกคุณหนูก่อนที่เธอจะจากไปก็รีบบอกซะก่อนที่จะสาย"

มาเรียที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้ทำหน้าเศร้าออกมา ก่อนที่เธอนั้นจะปล่อยมือออกจากคุณหมอและเปิดประตูเข้าไปในห้อง เซเรน่าที่กำลังมองออกไปข้างนอกหน้าต่างนั้นก็ได้หันมามองมาเรียด้วยรอยยิ้มก่อนที่เธอจะพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

"ขอบคุณนะมาเรีย..ที่รักษาสัญญา"

มาเรียที่ได้เห็นรอยยิ้มของเซเรน่านั้นทำให้เธอมีความสุขมากก่อนที่เธอจะเดินไปนั่งบนเตียงข้างๆเซเรน่าและใช้มือข้างหนึ่งจับมือซ้ายของเซเรน่ายกขึ้นมา ก่อนที่เธอจะใช้มืออีกข้างหนึ่งของเธอนั้น หยิบแหวนมาสวมที่นิวนางของเซเรน่าและก็พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมา

"แต่งงานกันนะ เซเรน่า!"

เซเรน่าที่ได้เห็นและได้ยินแบบนั้นก็ได้ยิ้มขึ้นอย่างมีความสุขและก็ได้โน้มตัวไปกอดมาเรีย

"อื้ม!! ขอบคุณนะมาเรีย"

มาเรียที่ได้ยินแบบนั้นน้ำตาของเธอก็ได้ไหลออกมาไม่หยุดในขณะที่เธอกำลังโอบกอดเซเรน่าไปด้วย

เซเรน่าที่ได้เห็นแบบนั้นก็ได้พูดขึ้น"นี่มาเรีย อย่าร้องไห้สิมันไม่สมกับเป็นเธอเลยนะ เพราะงั้นอย่าร้องไห้เลยนะ"

นั้นเป็นคำพูดสุดท้ายที่เธอได้พูดไว้ก่อนที่เธอจะจากไปในวันต่อมา พิธีศพของเธอได้ถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โตจนเวลาได้ผ่านไปจนงานจบ มาเรียได้แต่ยืนอยู่หน้าหลุมศพของ เซเรน่า ทุกๆปีที่การแข่งขันประลองดาบจบลง มาเรียมักจะมาไหว้หลุมศพอยู่ตลอด จนเวลาได้ผ่านไป การประลองดาบประจำปี มาเรียได้สู้และชนะอีกครั้ง 

"ผู้ชนะการแข่งขันประจำปีได้แก่ มาเรีย!! ผู้ครอบครองอันดับ 1 อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานับ 7 ปี!!"

เสียงผู้คนต่างพากันยินดีให้กับชัยชนะของมาเรีย แต่หลังจบการแข่งขันมาเรียได้ไปไหว้หลุมศพอีกครั้ง เธอนั้นได้วางช่อดอกไม้หน้าหลุมศพของเซเรน่าก่อนที่เธอจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เศร้าโศก

"นี่เป็น..เซเรน่า..ฉันได้อันดับ 1 อีกแล้วล่ะ..เซเรน่า.....ฉันอยาก..เจอเธอจริงๆ"หลังเธอพูดจบก็ได้ทรุดลงกับพื้นและร้องไห้ออกมาเสียงร้องไห้ของเธอได้ดังไปทั่วทั้งบริเวร

"ฮืออ~"

ก่อนที่จู่ๆจะมีเสียงเดินเข้ามาใกล้และเสียงนั้นก็ได้พูดขึ้น

"อย่าร้องไห้แบบนั้นสิคะไม่สมกับเป็นคุณเลยนะ"

มาเรียที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้เงยหน้าขึ้นและก็ได้พบกับเด็กสาวผมสีทองในชุดสีขาวที่คล้ายกับเซเรน่าและเด็กคนนั้นก็ได้ยิ้มขึ้นพร้อมกับเอามือของเธอไปเช็ดน้ำตาให้มาเรีย

"อย่าร้องไห้สิคะ"

ตามไปอ่านใน RAW หรือ ธัญวลัย ได้น้า

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!