บทที่4 คนใจร้าย
“สวัสดีครับคุณยาย”
“อ้าว...สวัสดีจ้ะมารับบันทึกหรอลูก” คุณยายพูดเหมือนรู้อยู่แล้วว่าพี่รักจะมารับผมเรียน
“ครับ...แล้วคุณยายทำอะไรอยู่หรอครับ”
“อ๋อ...ยายกำลังปั้นขนมลูกชุบ รู้จักไหมลูก”
“รู้จักครับ วันนั้นที่คุณยายทำไปฝากพ่อกับแม่ ผมก็ได้มีโอกาสได้กินด้วยอร่อยมากครับ”
พี่รักพูดชื่นชมขนมจนคุณยายยิ้มแป้นออกมา
พอผมกินข้าวเสร็จคุณยายก็บอกให้ผมไปกับพี่รัก ผมก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะคุณยายให้เหตุผลว่า มันจะดูไม่ดีถ้าให้เขารอแล้วเราไม่ไปกับเขา
“เอ่อ...คุณยายครับต่อไปนี้ผมขอมารับน้องบันทึกทุกวันเลยได้มั้ยครับ”
คุณยายยิ้มและพยักหน้าขึ้นลงช้าๆ แล้วตอบตกลงพี่รักไป ผมยืนอึ้งและสงสัยทันทีว่าทำไมคุณยายตอบตกลงพี่รักไปง่ายๆ โดยไม่ถามผมซักคำ
ผมเดินขึ้นรถพี่เขาโดยไม่เต็มใจ รถออกไปได้ครึ่งทางผมนั่งเงียบจนพี่เขาถามผมว่าเป็นอะไร
“เป็นอะไรหรือเปล่าพี่เห็นเราหน้าบึ้งตึงตั้งแต่ขึ้นรถมาแล้ว”
“ผมขอถามพี่จริงๆ นะฮะ ที่พี่ทำอยู่ตอนนี้มันหมายความว่าอะไรหรอฮะ”
“เราดูพี่ไม่ออกจริงๆ หรอว่าพี่รู้สึกกับเรายังไง”
“ผม...ไม่แน่ใจอ่ะ ผมไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย”
พี่รักยิ้มให้ผมและบอกว่าที่เขาทำเพราะรู้สึกชอบผม มันทำให้ช่วงเวลานั้นมันเหมือนหยุดนิ่งไปชั่วขณะ รู้สึกเขินอายจนต้องหันหน้าเข้าหากระจกฝั่งตัวเองด้วยความทำตัวไม่ถูกจนถึงมหาลัย
“ถึงแล้วครับ ให้พี่ลงไปส่งที่ห้องด้วยมั้ย”
น้ำเสียงทะเล้นๆ ทำนองแซวผมของพี่รัก ทำให้ผมยิ่งเขินไปกว่าเดิม ผมเลยรีบเปิดประตูลงจากรถแล้วเดินขึ้นตึกทันที
หลังเรียนเสร็จผมกับเพื่อนๆ ก็พากันไปกินข้าวที่ศูนย์อาหารของคณะ ระหว่างกำลังจะกินข้าวพี่รักกับเพื่อนสามคนของเขาก็เดินมาที่โต๊ะ โน้มตัวพร้อมยื่นหน้ามาถามผมว่าพี่กินข้าวด้วยได้มั้ย ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นพากันตกใจด้วยความสงสัยถึงความสัมพันธ์ที่แปลกไปของผมกับพี่รัก
“เอ่อ...ฮะ” ผมพูดรับคำพูดของพี่รักสั้นๆ
“เอ๊ะ? สองคนนี้ทำไมคุยกันแปลกๆ ไลค์พลาดอะไรหรือเปล่าบันทึก พี่รัก”
ไลค์พูดด้วยความสงสัยถึงท่าทางการพูดของพี่รักที่ทำกับผม เพราะปกติอย่างที่ทุกคนเคยเห็นถ้าพี่รักเจอผมเมื่อไหร่จะพูดจาไม่ดีกับผม แต่ตอนนี้กับเป็นการกระทำที่ตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง
ผมนั่งนิ่งไม่รู้จะตอบไลค์ว่ายังไง ส่วนพี่รักก็อมยิ้มมุมปากเล็กๆ
“พี่กำลังจีบบันทึกอยู่อ่ะ”
คำพูดออกมาโต้งๆ ทำทุกคนตะลึงจากพี่รักไม่เว้นแม้แต่ผม ไม่นึกเลยฮะว่าพี่เขาจะกล้าพูดคำนั้นออกมาท่ามกลางเพื่อนของผมกับเพื่อนของเขา
หลังจากกินข้าวเสร็จผมกับพี่รักก็แยกย้ายกันไปเรียนคาบบ่าย แต่ก่อนที่จะแยกย้ายพี่เขาบอกกับผมว่าตอนเย็นพี่จะมารับ
“บันทึกเล่ามาเดี๋ยวนี้นะว่าไปชอบกันตอนไหน ทำไมพวกเราไม่รู้เลย” เลโก้พูดด้วยความสงสัย
ภูกับไลค์ก็พูดถามซ้ำเหมือนกันว่าผมกับพี่รักไปชอบกันตอนไหน ผมตอบกลับไปว่าไม่รู้ เพราะผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุอะไรที่ทำให้พี่รักมาชอบผม
“เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่เขาชอบเราได้อย่างไร”
“แปลกจังแล้วทำไมพี่รักถึงจีบบันทึกล่ะ”
ไลค์พูดด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ พวกเราเลยพากันขึ้นไปเรียน
วันนี้อาจารย์ให้นักศึกษาจับกลุ่มทำรายงานส่งอาทิตย์หน้า กลุ่มผมก็มีแค่พวกผมนี่แหละฮะผมเลยอาสาขอทำเอง เพราะดูแล้วไม่ยากอะไรแต่ไลค์พูดขึ้นมาว่าไม่ได้ งานกลุ่มก็คืองานกลุ่มจะทำคนเดียวได้ไง แล้วก็นัดกันหาสถานที่ทำงานด้วยกันตอนเย็น
พวกผมเลยลงมติเป็นเอกฉันท์ หลังเลิกเรียนพวกเราจะไปทำรายงานกัน โดยห้ามมีข้อแม้ใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งจะเริ่มพรุ้งนี้เป็นวันแรกเพราะภูติดธุระผมก็เลยเสนอให้เริ่มพรุ้งนี้แทน
ส่วนวันนี้ผมจะลองไปเสิร์ชหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่จะทำก่อนคร่าวๆ และลองขึ้นโครงไว้ก่อน
ติ๊งๆๆๆ
เสียงแชทดังขึ้น เอ๊ะมันแชทพี่รักนี่หน่าทำไม..พี่รักมีไลน์เราได้
[พี่รัก :เลิกเรียนหรือยังครับ]
[บันทึก :เลิกแล้วฮะ แต่พี่มีไลน์บันทึกได้ไง]
[พี่รัก :พี่ขอมาจากไลค์อ่ะ โกรธหรอ]
[บันทึก :เปล่าซะหน่อยทำไมผมต้องโกรธด้วย]
[พี่รัก :นึกว่าจะโกรธที่พี่เอาไลน์มาแล้วไม่บอก งั้นรอพี่หน้าคณะนะเดี๋ยวพี่ไปรับ]
[บันทึก :จริงๆ บันทึกกลับเองก็ได้นะฮะ รบกวนพี่เปล่าๆ]
[พี่รัก :ไม่รบกวนหรอกครับ พี่เต็มใจที่จะไปส่งนี่]
จบจากการแชทประมาณห้านาทีพี่รักก็มาถึง พอเจอหน้าก็ถามผมว่าเหนื่อยมั้ย แล้วชวนผมไปหาอะไรกินก่อนกลับ แต่ผมปฏิเสธเพราะอยากกลับไปกินข้าวที่บ้าน
ขับรถไปได้ซักพักจนใกล้จะถึงบ้านพี่เขาก็ถามผมเมื่อไหร่จะตกลงคบกัน แล้วพูดขอโทษกับสิ่งที่เคยทำไม่ดีที่ผ่านมา
“พี่ชอบผมจริงหรอฮะ แล้วทำไมถึงชอบผมล่ะฮะ”
“ก็พอพี่กลับถึงบ้านก็มีความรู้สึกคิดถึงเราขึ้นมา เป็นความรู้สึกเหมือนตอนที่พี่มีความรักครั้งแรก พี่รู้ทันทีว่าคงชอบเราแน่ๆ”
“ถ้างั้นเราลองคบกันก็ได้ฮะ”
ผมพูดตกลงคบกับพี่รัก แล้วก็บอกเกี่ยวกับตัวผมว่าเป็นคนที่น่าเบื่อไม่ได้มีความน่ารักขี้อ้อนเหมือนคนอื่น เขาฟังผมพูดอย่างตั้งใจและพูดปลอบผม ว่าที่ชอบเพราะความไม่เหมือนคนอื่นของผมนี่แหละ
“ถึงบ้านพอดีเลย เข้าไปดื่มน้ำก่อนมั้ยฮะ”
“วันนี้พี่มีธุระที่ต้องไปทำต่ออ่ะ ไว้วันหลังนะ”
“ได้ฮะ ไว้พรุ้งนี้เจอกันนะฮะ”
ผมลงจากรถด้วยสีหน้ามีความสุขอมยิ้มมุมปากเล็กน้อย ลงไปยืนหน้าบ้านรอส่งพี่รักแล้วจึงเดินเข้าบ้าน
“เป็นไงบ้างลูกวันนี้ดูร่าเริงกว่าทุกวันนะ มีอะไรอยากบอกยายหรือเปล่า”
คุณยายพูดแซวผม ทำให้ผมยิ้มกว้างออกมาด้วยความเขิน
“คุณยาย...แซวบันทึกหรอฮะ”
“เปล่า...ยายไม่ได้แซวหลานซะหน่อย ยายแค่ถามธรรมดาเอง”
“บันทึกไม่คุยกับคุณยายแล้ว” ผมเดินขึ้นห้องพร้อมรอยยิ้มด้วยอาการเขินเล็กน้อย
ผมกระโดดขึ้นนอนลงบนที่นอนพร้อมเอาหมอนมาปิดปากและเปล่งเสียงออกมาด้วยความดังเพราะความเขินผสมดีใจ
นี่เรามีแฟนแล้วจริงๆ หรอเนี่ยไม่อยากจะเชื่อเลย ทักไปถามเขาดีกว่าว่าถึงบ้านหรือยัง
[บันทึก :พี่รักถึงบ้านหรือยังฮะ]
[พี่รัก :ถึงแล้วครับ เป็นห่วงพี่หรอ]
[บันทึก :ฮะ ก็เราเป็นแฟนกันแล้วนี่ฮะ]
[พี่รัก :พี่ขอตัวไปอาบน้ำก่อนได้มัยครับ เดี๋ยวพี่มาคุยต่อ]
[บันทึก :ได้ฮะ บันทึกก็กำลังจะไปอาบน้ำเหมือนกัน]
ผมวางโทรศัพท์แล้วเตรียมตัวอาบน้ำ
“บอกน้องเขาว่ากำลังจะอาบน้ำ แต่มือยังถือแก้วเหล้าอยู่ที่พับอยู่เลย มึงทำแบบนี้ถ้าน้องเขารู้คงเสียใจมากแน่ กูว่ามึงหยุดเหอะไอ้รัก น้องเขาไปทำอะไรให้มึงนักหนาว้ะ”
“มึงไม่รู้อะไรมึงหยุดพูดดีกว่าไอ้อิน มึงรู้จักคนอย่างมันน้อยไป”
“มึงเรียกน้องเขาว่ามันเลยหรอว้ะ ปกติมึงเป็นคนพูดให้เกียรติคนนี่หว่า”
“มึงก็อีกคนไอ้เหนือตกลงใครเพื่อนมึงกันแน่ เออ แต่ยกเว้นคนนี้ ก็กูไม่ชอบหนิออกเกียจด้วยซ้ำ”
“แต่กูว่าที่ไอ้อินกับไอ้เหนือพูดก็ถูก กูไม่รู้หรอกทำไมมึงถึงไม่ชอบน้องเขา แต่กูว่าสิ่งที่มึงทำมันโหดร้ายกับความรู้สึกน้องเขาเกินไปว่ะ เท่าที่กูเห็นน้องเขาก็น่ารักดี”
“ขอบคุณครับคุณลมที่สอนผม แต่ไม่ต้องกูรู้ว่ากูกำลังทำอะไร”
เอ่...พี่รักอาบน้ำเสร็จหรือยังนะแต่ถ้าเสร็จแล้วพี่เขาบอกจะทักเรามาหนิ คงไปทำธุระอย่างอื่นอยู่มั้ง เราลงไปข้างล่างดีกว่า
“เย็นนี้ทำอะไรกินฮะคุณยาย”
“เย็นนี้มีไข่ทอดชะอม น้ำพริกกะปิ และต้มจืดมะระยัดไส้หมูสับจ้ะ”
“น่ากินทั้งนั้นเลยฮะคุณยาย บันทึกจะอ้วนมั้ยเนี่ย”
“จะอ้วนจะผอมหลานก็น่ารักสำหรับยายเสมอนั่นแหละจ้ะ”
“บันทึกรู้ฮะว่ายังไงคุณยายก็รักบันทึกอยู่แล้ว”
“แล้วบันทึกกลัวใครจะไม่รักล่ะ”
ฟังยายนะลูกถ้าใครซักคนหนึ่งจะรักเราแล้วบีบให้เราต้องเป็นคนในแบบที่เขาต้องการ ถ้าวันหนึ่งหลังคบกันเราไม่สามารถเป็นคนในแบบที่เขาต้องการได้ ลูกคิดว่าเขาจะยังเลือกที่จะคบกับเราอยู่เหมือนเดิมมั้ยล่ะ
“เข้าใจแล้วฮะคุณยาย งั้นผมจะกินให้หมดเลย”
“ยายว่าถ้ากินหมดนี่ จะไม่ใช่อ้วนนะแต่จะจุกท้องมากกว่า”
หลังกินข้าวเสร็จผมตัดสินใจบอกคุณยายเกี่ยวกับเรื่องที่ผมกับพี่รักคบกัน คุณยายถามผมขึ้นมาว่ารู้แล้วใช่มั้ยว่าความรู้สึกที่เคยบอกว่ามันแปลกๆ หมายความว่าอย่างไร ผมพยักหน้าพร้อมพูดเสียงเบาว่ารู้แล้วฮะ
ผมหาวด้วยความง่วงนอนและขอตัวคุณยายขึ้นห้องไปนอน
ทำไมพี่รักไม่ทักมาเลยนะ ลองโทรไปถามดีกว่าเพื่อพี่เขาไม่อยากพิมพ์
เสียงโทรศัพท์กำลังต่อสาย
“ฮัลโหล…ใครพูดคะ” เสียงผู้หญิงรับโทรศัพท์
“ไม่ทราบว่าใครพูดหรอฮะ”
“ใครโทรมาหรอครับ…”
เสียงพี่รักพูดกับผู้หญิงที่รับโทรศัพท์ด้วยโทนน้ำเสียงละมุนละไม ไม่ทันที่พี่เขาจะพูดกับผม ผมก็วางสายไปด้วยความโกรธ
ทำไมต้องโกหกกันด้วยไหนบอกจะไปอาบน้ำไง แต่กลับไปอยู่กับผู้หญิงอื่น
ผมเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองได้ยินจนน้ำตามันไหลออกมาเอง ผมไม่รู้ว่าจะเอายังไงกับความสัมพันธ์นี้ต่อไป ยังไม่ทันได้คิดไตร่ตรองอะไรทั้งสิ้น
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง ผมไม่ยอมรับสายเพราะด้วยความโกรธที่โกหกและมีผู้หญิงรับสาย
เสียงโทรศัพท์ดังไม่หยุด ผมเดินไปปิดเครื่องเพื่อไม่ให้เสียงโทรศัพท์มารบกวนผมอีก แล้วเข้านอนพร้อมคราบน้ำตาทันที
เช้านี้ผมตื่นขึ้นมาด้วยความไม่สบายใจเนื่องจากเรื่องที่เกิดเมื่อคืน ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวด้วยความรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะไม่อยากให้พี่รักมารับผมทัน
ถ้าเราออกจากบ้านช้าพี่เขาต้องมารับเราทันแน่ ต้องรีบออกแล้วซิงั้นข้าวเช้าวันนี้เราไม่กินดีกว่า
ลงจากบ้านผมรีบสวัสดีคุณยายแล้วขอตัวไปเรียนทันที
เปิดโทรศัพท์ได้แล้วมั้ง... พี่รักคงไม่โทรมาแล้วล่ะ
ผมเปิดโทรศัพท์หลังถึงมหาลัย บรรยากาศรอบๆ ค่อนข้างจะวังเวงนิดหน่อย เพราะตอนนี้เพิ่งจะหกโมงครึ่ง
หลังจากเปิดเครื่องโทรศัพท์ก็พบว่าพี่รักพยายามโทรหาผมเกือบจะหนึ่งร้อยสายแหนะ แต่ก็ช่างเหอะคนโกหกก็ต้องเจอแบบนี้แหละ...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments