บันทึกของรัก

บันทึกของรัก

บทนำ

บทนำ

“บันทึก...ตื่นหรือยังลูก”

น้ำเสียงนุ่มนวลที่ลอยตามลมมา เปรียบเสมือนปุยนุ่นแบบนี้ คงเป็นเสียงใครอื่นเป็นไม่ได้ นอกจากเสียงคุณยายผมเองฮะ

“ฮะ...ตื่นแล้วฮะ”

แย่แล้ว เปิดเรียนวันแรกของการเป็นเด็กมหาลัยก็จะสายแล้วหรอเนี่ย

งั้นผมขอแนะนำตัวเลยแล้วกันนะฮะ ผมชื่อบันทึก เพื่อนๆ ชอบบอกว่าผมเป็นคนซื่อ แต่ก็อาจจะจริงอย่างที่พวกนั้นบอกก็ได้ เพราะหลายๆ ครั้งผมก็ไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่เพื่อนพูดจริงๆ นั้นแหละ และปกติผมจะเป็นคนที่ตรงเวลามาก แต่ด้วยความตื่นเต้นที่จะได้ไปเรียนมหาลัยเป็นวันแรก ทำให้เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย วันนี้เลยตื่นสายไปนิดนึง

หลังผมขานรับเสียงของคุณยายเสร็จ ก็รีบลุกขึ้นออกจากเตียง อย่างกับจรวจทันที แล้วเข้าห้องน้ำเพื่อแปรงฟันอาบน้ำ หลังจากอาบน้ำเสร็จก็รีบแต่งตัวด้วยความเร็วแสง และรีบวิ่งลงบันไดอย่างไวเพื่อไปกินข้าว

“มาแล้วฮะ คุณยาย แฮกๆ”

“ไม่ต้องรีบจนหอบขนาดนั้นก็ได้ลูก นั่งพักให้หายหอบก่อน ค่อยกินข้าวนะลูก เดี๋ยวสำลักเอา”

พอกินข้าวเสร็จ ผมก็รีบวิ่งสุดชีวิตเพื่อไปเรียกพี่วินมอเตอร์ไซค์ เพื่อให้ไปส่งที่มหาลัย แต่ปกติถ้าไม่ตื่นสายเหมือนวันนี้ ผมจะนั่งรถเมล์ไปเรียนเพราะมันประหยัดกว่าฮะ

“ไปไหนน้อง...” เสียงของพี่วินมอเตอร์ไซค์ ที่มาพร้อมน้ำเสียงกวนๆ และแฟชั่นส่วนตัวที่เป็นเอกลักษณ์ กางเกงขาเดปสีดำแต่งขาด เสื้อเเจ็คเก๊ตหนังสีดำรัดรูป และรองเท้าคอนเวิร์สแจ็คสีแดงสด

“ไปมหาลัย...ฮะ”

“โอเคร...งั้นขึ้นมาเลย รับรองถึงเร็วแน่นอน แค่กระพริบตาเดียวเท่านั้นน้อง”

“ค่อยๆ ไปก็ได้ฮะ” จริงๆ ผมก็รีบนะ แต่กลัวจะถึงโรงพญาบาลก่อนมหาลัยซะมากกว่า

ถึงจะบอกพี่วินแล้วนะว่าค่อยไปก็ได้ แต่เหมือนพี่วินจะไม่เจ้าใจคำว่าค่อยๆ ไป พอขึ้นรถยังไม่ทันจัดระเบียบการนั่งให้เข้าที่เลย พี่วินก็บิดแฮนด์รถด้วยความเร็วเกือบสุดแฮนด์ จนล้อแทบจะยกลอยฟ้าเลยทีเดียว

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ ผมถึงกับต้องท่องบทสวดนะโมตัสสะในใจและหลับตาเพราะความกลัว ผมก็ไม่รู้หรอกว่ามันจะช่วยได้ไหม แต่วินาทีนี้น่าจะเป็นความคิดที่ดีที่สุด พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ช่วยให้ลูกถึงมหาลัยปลอดภัยด้วยเทอญ...

.....

“น้องๆ ถึงแล้วจะให้พี่ไปส่งตึกไหน”

“ตึกคณะการบินฮะ”

พอบอกพี่วินจะไปตึกไหน แปปเดียวพี่วินก็มาส่งตรงหน้าคณะเลย พร้อมกับบอกราคาอันแสนแพงหนึ่งร้อยยี่สิบบาท ผมนี่ถึงกับอึ้งพูดไม่ถูกเลยฮะ นี่คงจะเป็นบทลงโทษของการตื่นสายสินะ ฮือออ...

“บันทึก”

เสียงผู้หญิงที่เรียกจากข้างหลัง พอหันไปมองตามเสียง ก็พบว่าเป็นไลค์ เพื่อนผมเองฮะ ไลค์เป็นคนที่พูดเพราะตั้งแต่เป็นเพื่อนกัน ผมยังไม่เคยได้ยินคำพูดหยาบคาย ออกมาจากปากของไลค์เลย แต่เชื่อไหมว่าไลค์เป็นคนไม่ยอมคนถ้าเจอสิ่งที่ไม่ถูกต้องจะไม่ยอมเด็ดขาด

“อ้าว ไลค์เองหรอ เราก็นึกว่าใคร”

“แค่ไม่เจอกันเดือนกว่าๆ จำเสียงเราไม่ได้แล้วหรอ”

“ป่าวซะหน่อย...แล้วเลโก้กับภู ยังไม่ถึงหรอ”

“บันทึก ไลค์”

เสียงผู้ชายสองคน ที่ตะโกนดังลั่น เรียกชื่อผมกับไลค์ แล้วก็วิ่งเข้ามาหาเราสองคน ซึ่งแน่นอนว่าถ้าให้ทุกคนเดาก็น่าจะรู้แน่นอน ว่าสองเสียงนั้นเป็นของใคร

ใช่แล้วฮะ สองเสียงนั้นเป็นของเลโก้กับภูอย่างที่ทุกคนคิดนั่นแหละ

ซึ่งทั้งสองคนจะมีนิสัยที่ต่างกัน เลโก้จะเป็นผู้ชายที่ห่ามๆ ใจร้อนอยู่บ้าง ส่วนภูจะนิ่งๆ มาดสุขุม แต่ทั้งสองจะคอยซัพพอร์ตผมกับไลค์ตลอด และคอยปกป้องเวลาที่มีคนมาพูดจาไม่ดีกับผมด้วย ซึ่งสำหรับผมเวลาที่อยู่กับพวกเขาสองคนเปรียบเสมือนมีเกราะป้องกันเลยก็ว่าได้

“พูดถึงก็มาเลยนะ”

“ขอโทษครับ...คุณบันทึก”

เลโก้พูดกับผมด้วยน้ำเสียงทะเล้นแบบกวนๆ ส่วนภูก็หัวเราะเบาๆ ในมาดคุณชาย ส่วนผมกับไลค์ก็อดที่จะขำตามภูไม่ได้

“อ้อ...ไลค์ ตอนเรานั่งรถมาเห็นพี่รักอยู่กับผู้หญิงคนนึง ดูสนิทกันด้วย แฟนพี่รักหรอ”

ภูถามไลค์ด้วยความสงสัย ส่วนผมก็ได้ยินโดยปริยาย ซึ่งผมก็ฟังอย่างเงียบทำตัวนิ่งๆ และไม่ออกความคิดเห็น หรือสอดแทรกความคิดใดๆ ลงไประหว่างการสนทนาแม้แต่คำเดียว

“ไม่รู้สิ เดี๋ยวตอนเที่ยงก็ถามเอาเองแล้วกัน พี่รักจะกินข้าวด้วย”

“ตอนเที่ยง พี่รักจะมากินข้าวด้วยจริงหรอ...”

ผมนี่พูดเสียงเบาเลย เพราะว่าพี่รักหรือพี่ชายแท้ๆ ของไลค์ เขาดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบผมซักเท่าไหร่ ถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้ถึงสาเหตุนั้นเหมือนกัน

“อืม...ไม่ต้องกังวลนะ เราไม่ให้พี่รักทำอะไรบันทึกแน่นอน”

“อื้ม...ขอบใจนะไลค์”

“งั้นพวกเราขึ้นเรียนกันเหอะ”

เสียงชวนของเลโก้ที่ดัง เพื่อหวังตัดอารมณ์ความรู้สึกกังวล ของผมแต่ใครจะไม่รู้สึกกังวลกันละ เวลาที่ต้องอยู่กับคนที่เขาไม่ชอบเรา แต่ก็ชั่งเหอะน่ะเป็นไงเป็นกัน

.....

“เย้ๆ เรียนเสร็จซักที หิวข้าวจะแย่อยู่แล้ว”

“เรียนแค่สองชั่วโมงเองนะเลโก้ ตอนเช้าไม่ได้กินข้าวมาหรอ”

“บันทึกพูดผิดแล้ว ต้องใช้คำว่า (ตั้ง) ไม่ใช่ (แค่) ”

“เอาที่สบายใจเลยจร้า... บันทึกยังกังวลเรื่องนั้นอยู่มั้ย”

จะตอบไลค์ยังไงดีนะ จะให้ตอบว่ากังวลคงไม่ได้ ไลค์ต้องลำบากใจแน่เลย งั้นผมคงต้องตอบว่าไม่ถึงจะโอเครใช่ไหมเนี่ย เอางั้นก็ได้เพื่อความสบายใจของเพื่อนแม้เราจะต้องอึดอัดก็ตาม

“เรา...โอเครแล้ว”

“ถ้าอย่างงั้นเราไปกันเลยดีกว่า เพราะเราก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน”

ตลอดระยะเวลาที่เดินทางไปที่ศูนย์อาหารของคณะ ผมรู้สึกกระอักกระอ่วนใจอย่างบอกไม่ถูก มีความคิดหลายอย่างแล่นเข้าสมองของผม จนหัวของผมแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้วฮะ

“ถึงซักที ว่าแต่พี่รักนั่งอยู่ตรงไหนนะ…อ้อนั่นไง”

พอได้ยินเสียงนั่นไง สายตาของผมก็มองตามไปที่นิ้วของไลค์ที่กำลังชี้ไปที่พี่ชายของเขา ดูสายตาคู่นั้นสิถึงคนอื่นจะรู้สึกเป็นมิตร แต่สำหรับผมมันตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง

“สวัสดีครับ”

เสียงทักทายที่ผมพูดกับพี่เขาแต่กลับได้รับการเมินใส่ ซึ่งในขณะเดียวกันที่เลโก้และภูพูดเขากลับพูดตอบรับว่าครับและยิ้มกลับ เป็นไงล่ะฮะ นี่แค่เริ่มต้นในการที่จะนั่งร่วมโต๊ะกันนะ แล้วต่อจากนี้จะอึดอัดขนาดไหนเนี่ย

“เดี๋ยวมื้อนี้พี่เลี้ยงพวกเราเอง ถือเป็นการแสดงความยินดีที่พวกเราโตขึ้นอีกขั้นแล้ว”

พี่เขารวมเราด้วยหรือเปล่านะ สงสัยแต่ผมไม่กล้าถามหรอกฮะ

“เลี้ยงทุกคนใช่ไหมคะพี่รัก”

ไลค์ถามย้ำกับพี่ของเขาด้วยน้ำเสียงจริงจัง ซึ่งผมเข้าใจวัตถุประสงค์ของการที่ไลค์ถามแบบนั้น คงถามให้แน่ใจว่ารวมผมด้วย

“พี่บอกจะเลี้ยงทุกคนก็คือทุกคน แม้จะอยากเว้นบางคนก็ตาม”

น้ำเสียงและสายตาที่ไม่พอใจ บวกกับคำที่พูดออกมานั้นรับรู้ได้เลยว่าพี่เขาหมายถึงผมแน่ๆ

หลังจากสิ้นเสียงพี่เขา ไลค์ก็หันหน้ามาแล้วก็เอามือมาจับมือผม พร้อมกับส่ายหัวเล็กน้อยช้าๆ ความหมายน่าจะประมาณว่าไม่เป็นไรนะ ซึ่งผมก็ตอบกลับโดยการยิ้มให้พร้อมกลับและพยักหน้าขึ้นลงช้าๆ แสดงให้เห็นว่าผมไม่เป็นอะไร

ในระหว่างกินข้าว เลโก้ได้พูดโต้งถามพี่รักถึงเรื่องที่ภูเห็นเมื่อตอนเช้าในเรื่องผู้หญิงที่อยู่กับพี่เขา

“พี่รักผมถามอะไรหน่อยได้มั้ยครับ”

“ได้ดิ ถามอะไรอ่ะ”

“ผู้หญิงที่อยู่กับพี่ตอนเช้า แฟนพี่หรอครับ”

“คนอย่างพี่แค่มองผู้หญิงก็เดินมาแล้ว พี่ไม่ยกสถานะแฟนให้ใครง่ายๆ หรอก”

พี่เขาพูดด้วยความภาคภูมิใจในความมีเสน่ห์ของตัวเองสุดๆ

โห...พี่เขากล้าพูดแบบนี้ออกมาได้ไงเนี่ย ผมนี่อึงเลยฮะ ทำไมเจ้าชู้จังถ้าผู้หญิงคนนั้นมาได้ยินคงเสียใจมากแน่ๆ ผมได้แต่นึกในใจ

“ขอบคุณนะฮะ สำหรับอาหารมื้อนี้”

หลังจากที่กินข้าวเสร็จ ผมก็ได้พูดขอบคุณพี่เขา แต่ได้รับการตอบกลับโดยการมองหน้าผมด้วยสายตานิ่งๆ แล้วกรอกสายตาไปทางอื่นพร้อมถอนหายใจ หลังจากเห็นท่าทางที่พี่เขาทำ ผมถึงกับหน้าหงอยเลยฮะ

กลับจากศูนย์อาหาร ผมยังออกจากความรู้สึกซึนๆ หน่วงๆ กับคำพูดและท่าทาง ที่เขาทำใส่อยู่เลยฮะ

....

สวัสดีคะเป็นอย่างไรกันบ้างคะ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่านิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เราแต่งเลยคะ ฝากเป็นกำลังใจให้นักเขียนคนนี้ด้วยนะคะ

.....

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!