หนิงหลง มองไปรอบๆ ก่อนที่จะทันสังเกตเห็นว่าบ้านหลังนี้ทรุดโทรมอย่างมาก
เค้าจึงเตรียมทำความสะอาดแต่ก่อนที่เค้าจะได้ลงมื้อทำอะไร
จ้าวเฟ่ยก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมคนกลุ่มหนึ่งและอุปกรณ์ทำความสะอาด
แม้จ้าวเฟ่ยจะคิดเอาไว้แล้วว่าการกลันของเสียหลังจากฝึกวิชากระดูกจะเยอะแต่เค้าไม่เคยเห็นใครคัดของเสียออกมาได้เยอะขนาดนี้
และ บางส่วนกลับเป็นพิษที่ถูกขับออกมา “นายน้อยข้าเกรงว่าของเสียเหล่านี้คนทั่วไปคงจะจัดการไม่ได้ข้าคงต้องลงมื้อเอง
ท่านรีปไปชำระร่างกายเถอะนายหญิงน่าจะกลับมาในอีกไม่นาน” จ้าวเฟ่ยกล่าว
หนิง หลงมองของเสียที่ถูกขับออกมาพักหนึ่ง ก่อนที่จะเดินไปหยิบกาและเทน้ำทิ้ง
และเดินไปยังกองของเสียเค้ารวบรวมพลังปรานดึงพิษออกจากกองของเสียและค่อยๆ
กลั่นจนเป็นสีเขียนใสบริสุทธิ์และใส่ไว้ในกาน้ำชา มาหาเจ้าหลงที่ยืนตกตะลึง
ก่อนจะกล่าวว่า “ข้าทราบมาว่าท่านพอจะรู้จักตลาดมืด ข้าอยากให้ท่านหาขวดยามาแบ่งโอสถพิษเป็นสี่ส่วนท่านนำติดตัวไปแสดงสามขวดและขายเพียงสอง
หากเป็นไปได้อย่าให้ใครทราบว่าท่านเป็นใคร
พิษบริสุทธิ์แค่สามหยดก็สามารถล้มสัตว์อสูรได้แล้ว ข้าว่าน่าจะได้เงินมามากพอ
ที่จะทำตามแผนต่อไปได้”หนิงหลง กล่าว พร้อมเดินออกจากห้องไป
หลังจากที่เค้าชำระล้างร่างกายเสร็จก็ทำการปรับลมปราณ
เมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบว่าจ้าวเฟ่ย เดินเข้ามาโต๊ะกลางห้องก่อนจะวางถุงเงินลง
“คุณชายพูดถูกพิษพวกนั้นราคาดีมากข้าได้มา 4 เหรียญทอง กับ 600 เหรียญเงิน เรามีเงินพอที่จะย้ายออกจากเมืองและไปหาสถานศึกษาให้คุณชาย”
ก่อนที่จ้าวเฟ่ย จะกล่าวสิ่งที่เค้าคิดออกมาจบ
หลงหนิงก็ยกมื้อขึ้นมาห้ามเค้าเอาไว้ “เราจะไม่ไปไหน
ขอแค่วันนี้ท่านเชื่อใจข้าต่อไปจะไม่มีใครกล้ารังแกเราอีก”
หนิงหลง
และจ้าวเฟ่ยเดินออกจากบ้านที่อยู่หลังเขา ใช้เวลาราว 30-40 นาทที
ก็เข้ามายังส่วนกลางของเมือง และเค้าใช้เวลาอีกซักครู่ก็เดินมาถึงจุดหมาย
นั้นคือหอประมูลกลางเมือง
หอประมูลแห่งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของสมาพันการค้าใหญ่แห่งนครหลวง
แม้จะเป็นเพียงสาขาแต่ที่นี้ก็ยิ่งใหญ่ติดอันดับ 8 ของสาขาทั้งหมด หนิงหลง เดินเข้ามาด้านหน้าก็พบพนักงานสองคนยืนขวางไว้
และมีชายที่แต่งตัวดูดีเดินเข้ามาถามพวกเค้าว่า “ไม่ทราบว่าท่านมีบัตรผ่าน รึไม่
หากไม่มีข้าเกรงว่าคงไม่สามารถปล่อยให้ท่านทั้งสองเดินเข้าไปเที่ยวเล่นด้านในได้”
หนิงหลง
เดินเข้าไปใกล้ชายคนนั้นก่อนหยิบเหรียญเงินสิบเหรียญยัดใส่มื้อชายคนนั้น ลูดกลับไปว่า “แย่จริงๆรีปถึงขนาดลืมบัตรผ่านได้ไม่ทราบว่าท่านพอจะปล่อยผ่านข้าสักครั้งได้หรือไม่”
ชายคนนั้นแสดงรอยยิ้มก่อนที่จะแนะนำตนเองว่าคือผู้จัดการหยง
เป็นผู้จัดการทั่วไปมีหน้าที่แนะนำและพาลูกค้าชมสินค้าได้ไม่เกินชั้นสอง
และพาไปเข้าร่วมการประมูลได้ “ท่านต้องการเข้าไปเลือกซื้อสิ้นค้า
หรือเข้าร่วมการประมูล” เค้ากล่าวขณะเดินนำทั้งคู่เข้าไปด้านในก่อนผ่านทางเค้าให้
จ้าวเฟ่ยมอบเหรียญเงินแกทหารสองคนด้านหน้าที่ขว้างเค้าไว้เพื่อผูกมิตร ตึกนี้มีด้วยกันทั้งหมด
7 ชั้น และในทุกๆชั้นจะมีผู้คุ้มกันท่าทางแข็งแกร่งยืนอยู่ ส่วนชั้นที่ 1-4
จะเป็นชั้นจัดแสดงสินค้าทั่วไปตั้งแต่ตั้งแต่กลางลงไปจนถึงต่ำ และในชั้นที่ 2
นี่จะใช้เป็นสถานที่จัดการประมูลด้วย ส่วนชั้น5-6
จะแสดงสินค้าระดับสูงอยู่ ด้านบนชั้น 7 ไม่มีใครรู้ว่าไว้ใช้สำหรับทำอะไรแต่ผู้ที่อยู่บนนั้นคือ
ผจก.ประจำสาขาแห่งนี้
“ข้าต้องการนำของเข้าร่วมการประมูลเป็นของที่อาจารข้าฝากมา
“ หนิง หลงกล่าว
หลังจากผู้จักการทราบถึงจุดประสงค์ของเค้าก็พาเค้าไปยังชั้นสองเดินเข้าไปในส่วนของการประมูล
มีผู้คนต่อแถวเพื่อนนำสินค้าตรวจสอบมากมายผู้จัดการหยง
ยกมื้อเรียกพนักงานตรวจสอบก่อนจะยืนเหรียญเงินให้กับพนักงานตรวจสอบท่านนั้นและหันมาโค้งคำนำเล็กน้อยให้ก่อนจะขอตัวไปทำหน้าทีต่อ
หนิงหลง มองไปยังพนักงานที่เดินเข้ามาแม้ตอนแรกจะมีรอยยิ้มบนใบหน้า
แต่เมื่อเห็นการแต่งตัวของพวกเค้ารอยยิ้มก็เปลี่ยนไปแต่ยังคงรักษาภาพลักษณ์เอาไว้
“หากต้องการนำสิ้นค้ามาประมูล
ท่านต้องได้รับการตรวจสอบ โดยพนักงานของเราเพื่อประเมินราคา
และหากสิ้นค้าท่านมีที่มาไม่ชัดเจนหรือราคาที่เราแจ้งต่ำกว่าราคาที่ท่านต้องการท่านสามารถนำสิ่งของที่มีค้าทดแทนมาค้ำประกันได้ ท่างเราจะขอหักค่าดำเนินการ 1
ส่วนเพื่อเป็นค่าดำเนินการ ทั้งหมดที่ท่านควรทราบมีเท่านี้ต่อไป ท่านก็ไปเข้าคิวเพื่อรอทำการตรวจสอบ”
ผู้ตรวจสอบคนนั้น ทำหน้าคล้ายเหนือยใจและกำลังเดินจาก ไป “หยุดก่อน” หนิง
หลงตะโกนเรียกพร้อมทั้งโยนถุงเงินออกไปหาผู้ตรวจสอบ เมื่อเปิดดูก็แสดงท่าทีตกใจ
เพราะเหรียญที่เค้ารับมา เป็นเหรียญเงิน 3 แถมยังเป็นเหรียญทองถึง 2 เหรียญ
ชาวบ้านทั่วไปไม่น่าจะพกเงินติดตัวมากมายขนาดนี้ได้แน่
“ของที่อาจารย์ข้าให้นำมาร่วมประมูล
ราคาไม่ต่ำกว่าเหรียญทองสองเหรียญนั้นแน่ส่วนเหรียญเงินทั้งสาม
ท่านเก็บไว้และช่วยเป็นธุระในการจัดการตรวจสอบสินค้าให้ข้าหน่อยได้หรือไม่”หนิงหลงกล่าว
ท่าทีของผู้ตรวจสอบเปลี่ยนไปทันทีและรีปเชิญพวกเค้าไปยังห้องตรวจสอบด้านใน
เมือมาถึงเค้านำถาดสีดำมาเพื่อวางของที่ใช้สำหรับตรวจสอบและนำสองเหรียญทองออกมาวาง
“สิ่งของที่ท่านนำมาคาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกลับยาข้าขอตัวไปตามผู้ที่ชำนาญทางด้านนี้มาตรวจสอบจะแจ้งราคาที่เหมาะสม”
กล่าวจบเค้าก็รีปไปทันที
ระหว่างรอหนิง
หลงนำขวดยาไปวางไวที่ถาดก่อนจะหันมาเห็นท่าที่ของจ้าวเฟ่ยผู้ที่มองไปรอบๆด้วยสายตาที่เฉียบคม
เค้าคิดเลยว่าคนผู้นี้หละที่เหมาะจะฝากให้ช่วยดูแลด้านหลังของเค้า
หากวันข้างหน้าเค้าต้องเดินทางออกไปยังโลกภายนอกตามความฝัน อย่างนั้นถ้ามีคนอย่างจ้าวเฟ่ยอยู่เค้าก็ว่างใจ
ผู้ที่เดินเข้ามาเป็นชายแก่มีอายุมากพอสมควร
มีลัษณะมองดูภายนอกก็รู้ว่าเป็นนักปรุงยา
และกลิ่นยาที่อยู่รอบตัวแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้ที่ผ่านการปรุงยามาอย่างโชกโชน
ผู้เฒ่าท่านนั้นนั้งลง และหยิบขวดยาของหนิง หลงขึ้นมา เมื่อเปิดออกดู ก็แสดงสีหน้าตกใจขึ้นมาก่อนที่จะถามกลับไปว่าท่านคือ
ศิษย์ของสำหนักบุบผาหมื่นพิษรึ
“เหลวไหล
เจ้าสำหนักบุบผาหมื่นพิษสำเร็จเพียงระดับ 4 ขั้นสูง แต่อาจารของข้าบรรลุถึงระดับ 5
แล้วท่านแยกแยะจากพิษในขวดน่าจะเข้าใจนี้ท่านดูถูกอาจารข้า รึ” หนิง
หลงหาข้อมูลมาบ้างระหว่างทางเค้าได้สอบถามเรื่องต่างๆจาก จ้าวเฟ่ยมาพอควร นักปรุงยาท่านนั้นได้ยินดังนั้นก็รีปกล่าวต่อว่า “ข้ามิบังอาจ
แต่ของที่มีราคาสูงเยี่ยงนี้ข้าไม่อาจตัดสินใจได้แต่ว่า “ หลังพูดจบเค้าหลบสายตาหนิง
หลง ก่อนจะมีเสียงหญิงสาว คนหนึ่งดังขึ้นมา “กล่าวต่อเถอะท่านอาจารย์ “
หญิงสาวนางนั้นเดินออกมาด้านข้างอาจารย์ของเค้าก่อนจะโค้งคำนับเล็กน้อย พร้อมแนะนำตัว
“ข้าชื่อว่าเป่ยซาน เป็นนายหญิงของที่นี่ และนี้คืออาจารย์ของข้าผู้เฒ่าหลวนซาน
เป็นนักปรุงยาระดับ 5” นางกล่าวแนะนำและพูดต่อ “เมื่อไม่กี่วันก่อนข้าได้ล้วงเกินคนของบุบผาหมื่นพิษ
ทำให้โดนพิษระดับสูง จึงต้องขอยืมความรู้จากอาจารข้าแต่พิษชนิดนี้เป็นสมุนไพร 8
ประเภท สัตว์พิษ 8 ประเภท ที่เรียกว่าพิษ 8 เซียน
มีแต่เจ้าสำนักบุบผาหมื่นพิษเท่านั้นที่มียาแก้ อาจารข้าแม้จะเป็นนักปรุงยาชั้นสูงแต่ก็ไม่มีเวลามากพอจะวิเคราะห์ยาแกพิษทัน
“นางดึงแขนเสื้อด้านซ้ายเผยให้เห็นพิษที่กำลังรุกราม “หวังว่าท่านจะยกโทษให้การเสียมารยาทครั้งนี้”
หนิงหลง มองไปที่นางก่อนที่จะกล่าว
“ข้าไม่รู้ว่าจะเจ้าไปทำอะไรมาแต่การที่ทำให้
หญิงงามต้องมีบาทแผลเช่นนี้ถือเป็นความผิด” เป่ยซานมองไปที่
หนิงหลงอย่างเขิลอายแม้นางจะเป็นถึงผู้ดูแลหอการค้าแห่งนี้จะได้รับคำกล่าวชมมากมาแต่คำพวกนั้นกลับไม่จริงใจเลยสักนิด
ช่างแตกต่างจากถ้อยคำธรรมดาที่หนิงหลงกล่าวออกมา
ก่อนที่นางจะพูดอะไร
หนิง หลงก็เดินตรงมาหานางและถามว่า “เจ้าเชื่อใจข้ารึไม่”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 4
Comments