God's Hand : ปฐมบท
ในโลกใบนี้ตั้งแต่เริ่มเดิมทีแล้วทั้งวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิตคนนั้น ต่างพึ่งพาทั้งเทคโนโลยีและความรู้เพื่อใช้ชีวิต แต่มันมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างพัฒนาได้เร็วขึ้นนั้นก็คือ "พลังวิเศษ" มันมีอยู่ในตัวเราทุกคน
ตู้ม!!!
ในพื้นที่รกร้าง เป็นเศษซากของการต่อสู้ของชีวิตและอีกหนึ่งตน ตลอดเวลาหลายนาทีได้เกิดระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่เว้นช่วง
"กึก! ร้ายไม่เบาแหะ"
"จะลีลาท่ามากไม่ได้แล้วน่ะ เมสัน"
"รู้แล้วหน่า โคล"
สองชายหนุ่มได้กระเด็นออกมาจากควันระเบิดและได้ตั้งตัวขึ้นมาพรางปัดเช็ดเสื้อของพวกเขาเอง ทั้งสองผมสั้นสีดำสนิท แต่นัยน์ตาคนล่ะสี คนหนึ่งสีดำทมิฬและอีกคนสีน้ำตาลอ่อน
"กรรร!!!"
สิ่งที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาคือมังกรเกราะเหล็กทั้งตัว สีเงินแวววาวแต่บนตัวของมันนั้นมีคราบเลือดและอาวุธมากมายรวมถึงรอยไหม้
"เอาหละ จบเรื่องกันดีกว่า"
ชายหนุ่มผู้มีนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนได้กล่าวออกมา ร่างของเขาเริ่มมีละอองสีทองบริสุทธิ์ปรากฏขึ้น
"โปรดบรรดาให้ข้า ขจัดมลทินนี้ด้วยพลังแห่งพระองค์...."
.
.
.
.
[เมื่อหลายปีก่อน]
ตุบ!!
เสียงของต้นไม้ที่โค่นล้มลงกระแทกกับพื้นดังสนั่นลั่นป่าไม้ แสงยามรุ่งอรุณสอดส่องลงมาถึงพื้นป่าเพียงน้อยนิดเพราะเป็นป่าทึบ แต่ในป่าแห่งนี้มีเด็กหนุ่มสองคนกำลังวิ่งไปทั่วจากการหนีบ้างอย่างที่มีขนาดใหญ่ไล่ตามพวกเขาด้วยโทสะมากๆ
"เหวอ! โคล! เร็วๆหน่อยสิ! มันจะตามทันแล้ว!"
"เจ้าต่างหากไปทางไหนเฮ้ย!?"
"เอ๋?"
เด็กชายที่นามว่า เมสัน ได้พูดเสียงดังคล้ายตะโกนเร่งให้เพื่อนอีกคนของเขาชื่อว่า โคล รีบวิ่งหนีจากหมูป่ายักษ์ที่ไล่ตามพวกเขาด้วยความบ้าคลั่งสุดๆ แต่ว่าเมสันนั้นบอกเพื่อนให้รีบวิ่ง เขากลับวิ่งตรงไปหาหมูป่าซะงั้น
"เจ้าบ้านี้"
"แย่แล้วๆ!"
ก่อนที่เมสันจะโดนหมูป่าชนกระแทกจนตัวเละไม่เหลือชิ้นดีนั้น ได้มีเงาโผล่รัดตัวของเขาเหวี่ยงตัวหลบข้างขวาได้ทันแบบเฉียดฉิว
ตึง!!
และหมูป่ายักษ์ตัวนั้นได้ชนกับต้นไม้ใหญ่ไปแบบเต็มๆ ทำมันมึนไปเลยทีเดียว
"งั้นก็เอาตัวแม่ด้วยเลยล่ะกัน ขอโทษน่ะ!"
หลังจากที่เมสันหลบได้ เขาได้รวบรวมอณูพลังสีทองอร่ามไว้ที่หมัดขวาของเขาและดวงตาได้เปลี่ยนเป็นสีขาวทั้งหมดเพียงชั่วครู่
"อู๊ด!?!?"
"ย๊าากกก!!"
พึ่บ! ผัวะ!! ตึบตึง!!!
เมสันง้างหมัดต่อยสุดแรงเข้าที่แก้มขวาหมูป่า เกิดแรงลมตกกระทบตามมาจนต้นไม้แถวนั้นหักโค่นลงและร่างของหมูป่าได้กระเด็นไปไกลก่อนจะลงนอนกับพื้นด้วยสภาพที่เขี้ยวหัก หมดสภาพ
"ฟู่ว...เกือบไปแล้วไหมล่ะ"
โป๊ก!
"ซะทีไหนล่ะ อาจารย์ฆ่าพวกเราแน่"
เด็กที่ชื่อโคลได้มาเขกเข้าหลังหัวเมสันไปแรงๆทีหนึ่ง พร้อมด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เมสันที่โดนเข้าไปก็ถึงขั้นไปนั่งกุมขมับหัวตัวเองอยู่กับพื้น
"โอ้ย...ไม่เห็นต้องรุนแรงกันแบบนี้เลยนิ?"
"สมควรแล้วล่ะที่เจ้าจะโดน"
เมื่อโคลพูดเสร็จก็เดินไปที่ศพของหมูป่ายักษ์และเงาใต้เท้าเขานั้นผิดรูปผิดร่างขยายตัวใหญ่ขึ้นมากปกคลุมร่างหมูป่าสูบกลืนลงไปที่พื้น เมสันก็เดินตามหลังโคลไปติดๆ
"ความสามารถนายสะดวกจังเลยนะ"
"ก็ดีกว่าเจ้าที่เก่งเรื่องทำลายข้าวของ"
"รู้แล้วหน่าๆ เจ้าพ่อคนสำเนียงโบราณๆ"
"ก็ไม่ได้โบราณขนาดนั้น"
พวกเขาทั้งสองคนพี่น้องเถียงกันไปเถียงกันมานานกินไปเกือบครึ่งชั่วโมง มันเป็นเรื่องปกติของพี่น้องหลายๆคนแต่คู่นี้จะแปลกนิดๆหน่อยๆ เช่น ตอนนี้...
"กลับกันเถอะ อาจารย์คงเตรียมไม้รอเรากลับไปแล้วล่ะ"
"ไม่ตายดีแน่ๆเลย"
โคลนั้นได้เดินกลับไปทางที่จะออกจากป่าทึบแห่งนี่ ซึ่งเมสันก็ตามไปแต่มันติดตรงที่ว่าเมสันนั้นตามไปสักพักก็จะเลี้ยวขวาเลี้ยวซ้ายหรือไม่ก็เดินสวนทางเสียดื้อๆ และสุดท้ายก็จบด้วยการที่โคลลากเมสันออกจากป่าทึบแล้วมุ่งหน้าไปโบสถ์ ที่ที่เรียกได้ว่าเป็นบ้านของพวกเขาทั้งสองคน
[โบสถ์]
โบสถ์ใจกลางหมู่บ้านชนบท ผนังกำแพงตัวโบสถ์นั้นเป็นสีขาวสะอาดไร้ร่องรอยขีดข่วนหรือสิ่งสกปรกต่างๆ มีการตกแต่งด้วยงานจิตรกรรมฝาผนังมากมาย รวมถึงกระจกบานใหญ่ขาวดำหน้าโบสถ์บานใหญ่ที่เป็นรูปชายสองคนหันหลังให้กัน ซึ่งแสดงว่าสถานที่นี้ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและเป็นสถานที่ที่เงียบสงบ
"เจ้าพวกเด็กบ้า!!!!"
แต่ก็ใช่ว่าจะสงบเสมอไป ถึงจะเป็นในเวลายามค่ำคืนที่คนส่วนใหญ่ได้เวลาหลับไหลกันไปแล้ว
"ขอโทษครับ/ค้าบ"
เด็กน้อยสองคนเมสันกับโคลคุกเข่าอยู่หน้าโบสถ์โดยที่ตรงหน้าทั้งสองนั้นคือผู้ชายใส่ชุดบาตรหลวง ไม่มีผม เป็นคนอายุราวๆ 80 แล้ว และตอนนี้กำลังมีท่าทีหงุดหงิดเอามากๆ
"เวลาดึกดื่นเท่านี้แล้ว พวกนายไปไหนมา!?"
"คือว่า...."
"เจ้าเมสันหลงทางไปอยู่หลังหมู่บ้านครับ"
"แฮะๆ"
"เม...สัน...! อาร์มันโด้..!!!"
"จ๊ากกกก!"
พอบาตรหลวงแก่คนนี้ได้ยินก็ของขึ้นกว่าเดิมอีก จ้องไปที่เมสันจนเด็กน้อยต้องร้องกลัวตกใจเอามากๆ ส่วนโคลนั้น...
"หึ"
ก็ไม่ได้สนอะไรสักนิดเลย คงเป็นเรื่องปกติที่เกิดกับพวกเขาแล้ว รวมถึงเรื่องการหลงทางของเมสัน
"เอ๊ะอ่ะโว้ยอะไรกันอีกเนี่ย?"
หญิงสาวผมบลอนด์ทองคนนึงเปิดประตูโบสถ์ออกมาดูความวุ่นวายที่เกิดขึ้นและหันมองไปยังเมสันที่กำลังโดนบาตรหลวงจับหัวยกขึ้นขาลอยจากพื้นด้วยมือเปล่าๆข้างเดียว
"หยุดก่อนเถอะค่ะพ่อ นี้ก็ได้เวลานอนแล้ว"
".....เฮ่อ ก็ได้"
"ขอบคุณมากครับอาจารย์!"
บาตรหลวงได้ปล่อยหัวเมสันลงและยอมกลับไปในโบสถ์อย่างง่ายดาย ไม่ทำอะไรต่อ
"โคล นายไปนอนได้แล้ว"
"ครับ"
"หึหึ~"
โคลนั้นโค้งตัวเคารพหญิงสาวผมทองก่อนจะเดินเข้าไปในโบสถ์และมีเมสันตามหลังมาด้วย
"ใครให้นายเข้าไป"
เมสันที่เดินเข้าโบสถ์ได้เพียงก้าวเดียวก็ต้องโดนดึงกลับด้วยการจับหัวและดึงกลับมา หน้าเมสันได้เหงื่อออกหน้าซีดเรียบร้อย
"มาคุยกันหน่อยสิ เมสัน"
"อึก..."
[30 นาทีต่อ]
"โอ้ยหูแทบแตกเลย"
เมวันเปิดประตูเข้ามาในห้องของเขาพรางบ่นเบาๆหลังจากโดนเจ้ใหญ่เทศนายาวเหยียดเป็นครึ่งชั่วโมง
"ทำไมนายไม่โดนเหมือนกับฉันล่ะโคล กลับดึกมาพร้อมกันแท้ๆ"
"ที่กลับดึกไม่ใช่เพราะข้า"
โคลที่นอนอ่านหนังสือที่เตียงชั้นบนได้ตอบเมสันด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง ไม่รู้สึกรู้สาอะไร เมสันที่ได้ยินการตอบกลับแบบนั้นก็ชวนให้เขาหงุดหงิดนิดๆแต่มันก็เป็นเรื่องจริงที่เขาเองเป็นคนที่ทำให้กลับโบสถ์ดึกดื่นขนาดนี้
"เฮ่อ....ก็จริงของนาย"
ด้วยความเหนื่อยล้าทั้งการออกไปฝึกล่าสัตว์และโดนเทศนายาว เมสันได้ทิ้งตัวลงนอนหน้าคว่ำกับเตียงด้านล่างของเขา
"......"
"เมสัน"
"ว่า...?"
"อย่าลืมเป้าหมายที่เราสัญญากันไว้ล่ะ"
"......"
เด็กน้อยผมดำเจ้าของดวงตาสีน้ำตาลอ่อนได้เงียบไปชั่วครู่ก่อนจะพลิกตัวมองเตียงด้านบนของโคลและยกยิ้ม
"หึ แน่อยู่แล้วจะลืมได้ไง การพิชิตเพื่อการผจญภัยของพวกเรา"
โคลที่ได้ยินแบบนั้นก็แอบยิ้มไม่น้อยและปิดหนังสือพร้อมกับปิดไฟห้อง
"อ่า จำได้ก็ดีแล้ว แต่เจ้าจำทางไว้บ้างก็ดี"
"อ้าวเห้ย หลอกด่ากันนี้หว่า นายเองก็หัดพูดสำเนียงปกติได้แล้ว"
แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแซวแกล้งเล่นกันไป คนนึงดูมีหัวคิดกว่าส่วนอีกคนดูบื้อๆตรงๆ
"นอนล่ะ"
"เดี๋ยว คุยกันก่อน"
"......."
หลังจากโคลบอกไปก็ได้นอนไปเลยไม่ตอบกลับเมสัน เมสันที่รู้แบบนั้นก็ไม่ตามตื้อต่อและนอนตามแต่ก่อนจะนอนหลับนั้นก็คิดหลายๆอย่างไปด้วย
.
.
.
.
.
[ปฐมบทที่ 1 : พิชิต 4 จัตุรัส | ตอนที่ 0 : เริ่มต้น (จบ) ]
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments