ณ บริษัทแห่งหนึ่ง
ตึกสูงใหญ่ยักษ์ที่ตั้งเด่นตระหง่าน อยู่ใจกลางเมืองใหญ่ บรรยากาศภายในค่อนข้างจะดูวุ่นวายมากพอสมควร เพราะว่านี่คือเป็นบริษัทชื่อดัง แถมบรรยากาศภายนอกบริษัทเองก็ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย ผู้คนที่ทำงานในบริษัทแห่งนี้ส่วนใหญ่ ก็ดูจะมีท่าทีที่มั่นอกมั่นใจเกือบทุกคน
ถ้าหากมองแค่เผินๆ อาจจะดูดีหรือดูหรูหรา เพราะทุกอย่างดูทันสมัยและเป็นระบบระเบียบ นอกเสียจากสถานที่นึงในบริษัทแห่งนี้..
"ไม่ใช่สิ! ต้องแบบนี้ต่างหาก ผมว่าเราควรใช้แผนสองดีกว่า!" ช1
"แบบนี้มันเสี่ยงเกินไป ถ้ายอดขายเราตกขึ้นมาล่ะ!" ญ1
มันดันมีเสียงเอะอะของเหล่าผู้คนในห้องประชุมใหญ่นี้ ที่กำลังถกเถียงกันไปกันมาในเรื่องของงาน อย่างเอาเป็นเอาตาย และต้นเสียงเอะอะนี่ ก็มาจากห้องประชุมที่ไร้ซึ่ง 'หัวหน้า' ที่ควรจะนั่งอยู่ตรงที่ประจำนี้
เพื่อที่จะได้ทำหน้าที่คอยนั่งไกล่เกลี่ยเรื่องงานต่างๆ รวมถึงให้ความคิดเห็นในเรื่องของข้อเสนอ แต่ที่ไม่มีหัวหน้าอยู่นััน มันก็เป็นเพราะว่า..
.....การประชุมมันจบลงไปตั้งนานแล้วนี่สิ.....
ตึก..
"....."
อย่างน้อยภายในห้องนี้ ก็ยังมีชายหนุ่มคนนึง ผู้ทำตัวเป็นอากาศไม่เข้าร่วมสงครามสนทนานี้ เขาพยายามทำตัวเองให้จืดจางเข้าไว้ เพื่อไม่ให้เป็นจุดเด่นระหว่างสงครามถกเถียงกันไปมาในห้องประชุมแห่งนี้
แกร๊ก!
นิ้วมือของเขาในตอนนี้เอง ก็กำลังลงมือพิมพ์งานต่อ อย่างไม่สนใจบรรยากาศที่อึกระทึกครึกโครมที่อยู่รอบๆด้านของตน..
"เฮ้ย!!! ลูเซียส! นี่แกคิดว่าไงบ้างวะ!! กับไอ้งานบ้านี่!"
แต่แล้วความสงบ และความที่เขาพยายามจะทำตัวเป็นธาตุอากาศก็หายไปอย่างง่ายดาย..
เมื่อมีสมาชิกคนนึง ในกลุ่มวงสนทนาเอ่ยถามขอความเห็นจาก ลูเซียส ชายหนุ่มลูกครึ่งรัสเซีย-ไทย ตัวเขานั้นก็ไม่มีอะไรโดดเด่น ราวกับว่าคำว่าลูกครึ่งมันไร้ความหมายสำหรับเขามาก เพราะเขาไม่รู้แม้กระทั่งภาษาอีกบ้านของตัวเองเลยสักนิด (ขั้นแยกไม่ออก) หน้าตาก็ไทยแท้ การงานก็พอถูๆไถๆได้ และเรื่องการเรียนที่ผ่านมาอย่าพูดถึงมันเลยจะดีกว่า..
"ไม่รู้"
"เหอะ! นายก็ไปถามผิดคน เจ้านี่มันรู้เรื่องอะไรบ้าง นอกจากการ์ตูนอะนิเมะเรื่องเดียว!!" ช2
"ไร้ประโยชน์จริงๆ.." ญ1
"ฉันเห็นด้วย หน้าตาก็งั้นๆ แถมยังเป็นลูกครึ่ง แต่ดันไม่มีเค้าโครงเชื้อสายอีกครึ่งเลยนี่..น่าเสียดายเนอะ" ญ2
เสียงซุบซิบเริ่มดังขึ้นมาเรื่อยๆ คนในห้องก็เปลี่ยนบทสนทนาไปตามๆกัน ไม่สิ..หัวข้อสนทนาต่างหาก แต่มันก็ดีสำหรับลูเซียส ที่พวกคนบ้าๆนี่ ลดเสียงอันดังก้องที่แสนจะน่ารำคาญลงไปได้
เวลา 15.00 น.
ผมมีชื่อว่า ลูเซียส อายุของผมคือ 28 ปี ผมไม่มีลูกไม่มีภรรยา โสดยงคงกระพันครับ แล้วผมก็ทำงานอยู่ในบริษัทชื่อดังแห่งนึง บริษัทนี้มีชื่อเสียงมาก แถมการเข้ามาทำงานก็ยากสุดๆ เพราะคุณภาพที่ทางบริษัทเน้นกันอยู่
ทำให้ผมผ่านมาได้และได้ทำงานในบริษัทนี้ และหาเงินเลี้ยงตัวเองไปวันๆ มิหนำซ้ำผมยังได้ฉายา ธาตุอากาศ ไปครอบครองด้วย
อ่อ..แล้วผมก็เป็นลูกครึ่งไทย-รัสเซีย แม่ของผมท่านเสียไปแล้ว ท่านเป็นคนไทย100% พ่อของผมเป็นรัสเซียแท้100% แต่ตอนนี้เขาก็มีครอบครัวใหม่แล้ว ส่วนผมที่ถูกทิ้งให้อยู่กับญาติๆ ตั้งแต่เด็ก โตมาก็จะต้องพึ่งพาตัวเองด้วยความสามารถอันน้อยนิดที่มีอยู่..(มั้ง)
ฟึบ..
ตอนนี้ก็เป็นเวลาที่ผมจะต้องหาอะไรดูเพื่อผ่อนคลายความเครียดรวมถึงอารมณ์ที่ขุ่นมัวในใจตอนนี้
และหลังจากที่ผมออกมาจากห้องประชุมได้ ผมก็ไม่ขอฟังเสียงเรียกร้องอะไรอีก คนพวกนั้นไม่มีค่าให้ผมสนใจหรอก และถ้าผมเป็นผู้หญิง..ผมคงจะไล่จิกหัวเจ้าพวกยัยปากปีจอพวกนั่นแล้ว แต่ผมเป็นชายผมก็จะต้องยอม เพราะผมก็ไม่อยากทำร้ายเพศแม่สักเท่าไหร่..
' ฮาฮิ!! คุณสึนะคะ!! '
พอผมเดินมาถึงโต๊ะทำงานของตัวเอง ผมก็เปิดเข้าไปดูอะนิเมะที่ผมชอบ เชื่อไหมว่า..สายตาของผมมันจ้องมองหน้าจอคอมอย่างไม่ละเลย
และนี่แหละคือการผ่อนคลายของผม โดยการดูอะนิเมะ..การ์ตูนอะไรแบบนี้ และนี่ก็เป็นเรื่องเดียวที่ผมชอบ ครูพิเศษจอมป่วนรีบอร์น แล้วสิ่งที่ผมชอบที่สุด ก็คือผู้หญิงคนนี้ที่มีชื่อว่า มิอุระ ฮารุ
ผมแค่รู้สึกสงสารเธอในบางที ที่เธอเอาแต่ตามตื้อซาวาดะ สึนะโยชิ ทั้งที่เขาก็ไม่คิดจะเหลียวแลมองเธออย่างสนอกสนใจสักครั้ง..
มันน่าขำนะ ผมก็เคยมีประสบการณ์ในเรื่องนี้ ตอนที่ผมอายุ 19-20 ปี ผมเคยถูกหักอก คนที่ทำก็คืออดีตแฟนผมนี่แหละครับ คบกันมาตั้งแต่อายุ 18 ปี อุตส่าห์ตามตื้อตามจีบเป็นยังไงล่ะครับ? ตกกระป๋องไปเลยสิ..
' ฮารุชอบคุณสึนะที่สุดเลยค่า!! '
ผมดูต่อไป ก็อดไม่ได้ที่จะมองเห็นเป็นตัวเองในอดีต..แบบนี้สินะที่เขาเรียกกันว่า ถ้าคนมันใช่ ก็ไม่จำเป็นจะต้องพยายาม ..แต่นี่มันไม่ใช่ ก็ยังจะตามตื้อตามหลง จนมันกลายเป็นความสุขที่แสนเจ็บปวด..
"เฮ้อ.."
ผมอดทนดูไปอย่างนั้น ก็มีความรู้สึกอยากจะกระชากหัวพระเอกในเรื่องนี้ ถึงจะเป็นบอสมาเฟียแล้วมีหลายเมียได้ก็เถอะ แต่ผมไม่อยากจะให้ฮารุเป็นรองใครน่ะสิ ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากจะช่วยเธอนะ..
"อ..เอ่อ ลูเซียสนายว่างใช่ไหม?"
"....."
ระหว่างที่ผมกำลังคิด ก็ดันมีเสียงของผู้หญิงหวานๆ เรียกผม ผมก็ทำเพียงแค่เหลือบสายตาไปมองเท่านั้น
นั่นก็ทำให้ผมได้เห็น ผู้หญิงผมยาวสีน้ำตาลและยังมีความเป็นลอนเพียงเล็กน้อย เธอเป็นพนักงานที่น่ารักและเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนใบบริษัทนี้
ยกเว้นผม ถึงเธอจะแสนดีแต่ผมก็ไม่ถูกกับผู้หญิงประเภท อ่อนโยน อ่อนหวาน แบบนี้เลย มันเหมือนเป็นปมของผมล่ะมั้ง แต่เรื่องงานผมก็พอจะแยกแยะและจำใจทำได้ เฮ้อ..ส่วนผู้หญิงคนนี้เธอมีชื่อว่า ฟ้าใส
"อืม มีอะไรเหรอ?"
"คือว่า..ฉันอยากจะให้นายช่วยตรวจเอกสารนี้หน่อยน่ะ ด..ได้หรือเปล่า?"
ฟ้าใสยื่นเอกสารปึกหนามาให้ผม ทั้งที่เธอยังคงมีท่าทีที่ประหม่า เป็นอย่างนี้ทุกครั้งเลยเวลาที่เธอมาขอให้ผมช่วยเหลือ..
ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไรออกไป กลับกันผมยอมสละเวลายื่นมือไปรับแฟ้มงานนั่นมา ท่ามกลางสายตาของคนในแผนกที่จ้องมองผมอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ เพราะผมเป็นที่พึ่งเพียงหนึ่งเดีนวให้ฟ้าใสยังไงล่ะ
...' หึ..วุ่นวายชะมัด '...
"ขอบคุณนะลูเซียส ถ้าฉันไม่มีนาย..ฉันคงไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้วจริงๆ.."
ฟ้าใสพูดกับผมด้วยน้ำเสียงที่แลดูเหนื่อยๆและซึ่งใจปะปนกันไป ผมเองก็ไม่พูดอะไรตอบกลับเธอไป และดูเหมือนฟ้าใสจะชินในการกระทำของผมแล้วด้วยสิ..
เพราะเธอถึงขั้นกลากเก้าอี้มานั่งตรงข้ามๆผม ดูจะไม่คิดมาแล้ว แถมยังก้มหน้าก้มตาตรวจสอบเอกสารที่เหลือต่อ เอกสารพวกนี้มันก็แค่งานยิบย่อยง่ายๆ แต่แผนกนี้มันทำให้ยากเอง..
มันก็จริงที่ฟ้าใสฮอต และไอ้ความฮอตนี่แหละทำให้เธอได้รับทั้งคนสนใจ มิตร โดยเฉพาะศัตรู วันนี้เธอก็จะต้องเอาเอกสารบ้าๆนี่ไปส่งให้หัวหน้า ด้วยตัวของเธอเอง
มิหนำซ้ำ..รายละเอียดทุกอย่างในเอกสารจะต้องเรียบร้อยนะ ไม่อย่างนั้นมันจะถูกตีกลับมา ด้วยเหตุผลบ้าๆ อย่างเช่น..แค่ผิดตัวเดียว หัวหน้าผมก็โวยวายเหมือนคนจะไม่มีโอกาสพูดอีกในวันพรุ่ง ผมก็ทำอะไรไม่ได้ อีกอย่าง..ผมก็ไม่อยากจะเสียงานด้วย
3 ชั่วโมงผ่านไป
"ลูเซียสให้ฉันเลี้ยงข้าวนายดีไหมวันนี้!^^"
"....."
3 ชั่วโมงหรือ..3 พันปีกันแน่ ตอนนี้ผมนั่งเหมือนคนจิตล่องลอยไปไกลแสนไกลแล้ส เพราะไอ้หัวหน้าบ้าบอนี่แหละ จู้จี้ชะมัด แถมยังจงใจจะแกล้งผมชัดๆ แต่มันคงเป็นเพราะฟ้าใสยังอยู่ด้วยกันกับผมเถอะนะ ผมถึงไม่ต้องถูกสั่งให้ทำงานเพิ่มเกินที่กำหนด..
เกือบจะล่มแล้วไหมล่ะ..ความสงบสุขของผม!!
"ไม่ล่ะ ฉันจะกลับบ้านก่อน.."
ลูเซียสรีบเก็บของอย่างว่องไว ราวกับว่าจะรีบหนีภัยธรรมชาติ ถึงอย่างไร..ใบหน้านั้นก็ยังคงนิ่งงันเช่นเดิม แม้ว่าในใจจะรู้สึกไม่สงบสักเท่าไหร่แล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังมีน้ำใจช่วยถือของให้กับฟ้าใสที่จะต้องเดินออกไปจากบริษัทนี้คนเดียว เพื่อรอคนที่บ้านมารับ..
"ถ้างั้น..ก็เดินทางกลับบ้านปลอดภัยนะลูเซียส^^"
ผมพยักหน้าตอบกลับไป พลางหันหลังเดินไปรอรถที่ป้ายรถเมล์ ส่วนฟ้าใสพ่อของเธอมารับทุกวันน่ะ ก็นะพ่อของเธอก็เป็นถึงคนใหญ่คนโต(แต่ลูกกลับไม่อยากจะมีฐานะแบบนั้น) แถมยังหวงเธอยิ่งกว่าไข่ในหินอีก ผมก็ไม่ได้ไปสุงสิงอะไรกับเธอมาก มีแค่เธอที่มายุ่งกับผมน่ะ ช่างเถอะ เฮ้อออ..
.
.
.
เวลา 18.30 น.
ตึก!..
ผมก้าวขาลงจากรถเมล์มาก็แทบจะทรุดตัวลงไปนอนกองกับพื้น วันนี้..ผมเหนื่อยมาก และอยากจะนอนพักผ่อนหรือดูอะนิเมะชิวๆ มันก็ได้ทั้งสองอย่าง
แต่เมื่อเท้าของผมเหยียบพื้นบ้านพักที่ผมเช่าอยู่และจ่ายค่าเช่าเป็นรายเดือน แค่นั้นแหละครับ มันก็จะต้องมีเรื่องที่โครตเหนื่อยใจเข้ามาให้ผมต้องหปวดหัวอีก!!!
ผัวะ!!!!
"......"
นี่คือเสียงจากกำปั้นของผู้เป็นน้องชายของผมที่ประทานลงมาซัดเข้าที่ซีกหน้าขวาของผมเต็มๆ ผมยังไม่ได้พูดอะไรด้วยซ้ำ เฮ้อ..เกลียดจริงๆ โดยเฉพาะไอ้กลิ่นคาวเลือดนี่ ที่คลุ้งเต็มโพลงปากผมเลย..อ่าาา
.....ไอ้น้องเวรนี่.....
"นี่แกกล้าดียังไง! ถึงสะเออะไปยุ่งกับผู้หญิงของฉันน่ะห๊ะ!!"
ว่าแล้วมันก็มาชี้หน้าผมพร้อมกับตะคอกใส่ผมด้วยน้ำเสียงที่โครตไร้มารยาท แถมนี่ก็ยังเป็นจำพวกเรื่องเดิมที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยในทุกวันนี้
"เฮ้อ.."
ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วมองกลับไปหาไอ้น้องชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า เสียดายนะ ที่มันเกิดมาแล้วดันตรงข้ามกับผมทุกอย่าง ทั้งหน้าตาที่หล่อเหลาดูไม่รู้เลยว่าเป็นคนเอเชีย
แต่มีสิ่งหนึ่งที่น่าเสียดาย..นั่นก็คือ มันไม่มีสมอง อาวุธของน้องชายของผมคือการใช้หน้าตาให้เป็นประโยชน์ จนตอนนี้มันอายุ 25 ปี แล้ว สัตว์ในทุ่งนายังมีประโยชน์กว่าน้องของผมอีก
เพราะอะไรน่ะเหรอครับ? มันก็เป็นเพราะไอ้นี่มันเอาแต่เที่ยว เอาแต่ใช้เงิน เผาผลาญเงินของผมไปวันๆ ออ..แถมยังใช้กำลังกับพี่ชายที่คอยหาเงินมายัดปากยัดท้องของมันทุกวันด้วย..
"ผู้หญิงของแกเหรอ? อย่าฝันกลางวันไปหน่อยเลย หรือถ้าแกยังไม่ตื่นก็รีบหันกลับเข้าห้องไปซะ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน.."
"เหอะ! คนอย่างแกจะทำอะไรฉันได้วะ ชีวิตนี้ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย ทั้งหน้าตาทั้งสมองแกมันไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง! แล้วแกคิดเหรอว่าฟ้าใสจะเลือกคนอย่างแก!?"
ผมกลอกตามองบนอย่างเบื่อหน่าย วันๆในหัวสมองของน้องผม มันก็มีแต่ผู้หญิงหรือไม่ก็ฟ้าใสที่มันหมายปองอยู่..
แล้วชื่อของเจ้านี่คือ ออสก้าร์ เป็นน้องแท้ๆอย่างที่บอกไป แล้วตอนนี้มันก็กำลังชี้หน้าพูดจาแย่ๆใส่ผมอยู่นี่แหละ แต่ผมสนเหรอ?
...' ไม่ '...
"โทษทีไม่ได้คิดว่ะ และขอโทษด้วยนะ ที่จริงแล้วสมองฉันมีดีกว่าแกเยอะ"
"แกว่าอะไรน--!!!?"
พลั่ก!!!
ผมเดินชนแขนของออสการ์ไป มันช่วยไม่ได้นี่ข้อหาที่เข้ามาขวางทางเดินผมเอง แน่นอนว่า..การที่ผมพูดออกไปแบบนั้น มันต้องแว้ดใส่ผมอยู่แล้ว ทุกวันที่มันกลับบ้านมา หรือผมกลับมา ผมก็ต้องมาเหนื่อยกับมันเนี่ยแหละ
.....ผมพูดเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วนะ.....
ปึง..
ผมปิดประตูห้องลง และโยนกระเป๋าเอกสารลงบนเตียง เหนื่อยเป็นบ้าเลย..
"เฮ้อออ"
ผมรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูอะนิเมะที่ผมชอบ อย่างน้อยมันก็ช่วยทำให้ผมผ่อนคลายได้ในอีกแบบน่ะนะ
' ฮาฮิ ขอโทษนะคะคุณสึนะ! '
ผมก็ไม่รู้ว่าผมเปิดดูเธอรอบที่เท่าไหร่แล้ว แต่ผมก็ยอมรับว่าผมชอบ มิอุระ ฮารุ จนลืมสเปคผู้หญิงทุกคนในชีวิตจริง..
และที่ผมชอบเธอ มันก็เป็นเพราะเธอมีความสดใสดุจดวงตะวัน ยิ้มแย้ม ขี้เล่น แปลกประหลาดแบบตลกน่ารัก แต่ก็มีเหตุผลเสมอ..ผมชอบเธอที่เป็นแบบนี้
ในใจก็อยากจะช่วยให้เธอได้สมหวังนะ..แต่ในเมื่อ ซาวาดะ สึนะโยชิ ไม่ใช่คนที่ชะตากำหนดให้เธอต้องอยู่เคียงคู่ด้วย ผมก็อยากเป็นคนที่ไปยืนอยู่ข้างๆเธอแทน..ผมก็พอจะรู้ว่า ความชอบที่มากจนเกินไป มันอาจจะไม่ดี แต่ผมก็ยังอยู่ในขอบเขต แยกแยะได้ มันคงจะตลกมากใช่ไหมนะ..
"......"
ระหว่างที่ผมดูอยู่ ผมก็รู้สึกเพลียขึ้นมากระทันหัน จริงๆ มันเพลียถึงขั้นจะหลับแล้วมันก็...
ฟุบ..
เปลือกตาของลูเซียสค่อยปิดลงอย่างช้าๆ เพราะความเหนื่อยล้าที่ถาโถมใส่เขา โทรศัพท์ที่วสงอยู่บนมือหนาก็ยังคงเล่นวีดีโอต่อไป จนเขาเข้าสู่การหลับไหลโดยสมบูรณ์
และสิ่งที่เขาพร่ำเพ้อ..ต้องการปราถนาที่อยากจะได้ ตอนนี้ในที่สุดก็มีคนรับฟังแล้วเขาแล้ว..
...' สักทีนะ '...
เพล้ง!!!!
___________________________________________
# หากมีข้อผิดพลาดตรงไหนไรท์ต้องขออภัยด้วยนะคะ!!^^
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 5
Comments