ตอนที่ 6 ปฐมบท ( จบ )

เย่เทียน นั้นที่ได้ยินว่า เชียนเต้าหลิว กล่าวว่าจะรับตนเองนั้นเป็น ลูกบุตรธรรม ดวงตาก็เบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อเพราะคิดว่า เชียนเต้าหลิว คงกล่าวล้เล่นตนเอง

แต่พอได้ยิน เชียนเต้าหลิว กล่าวย้ำอีกครั้ง เย่เทียน ก็คิดว่านี้คงมิใช่การล้อเล่นแล้ว และระดับพรหมยุทธ์สุดขีด คงไม่มาล้อเล่นเรื่องพวกนี้หรอก

" เอ่อ...มันจะดีหรือขอรับ ท่านอาวุโส " เย่เทียน ประสานมือและกล่าวกับ เชียนเต้าหลิว ด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

เพราะถ้าหาก เย่เทียน จะปฏิเสธตรงๆไปก็คงจะไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายหนึ่งเป็นถึง พรหมยุทธ์สุดขีด และที่สำคัญหากตอบตกลงตัวของ เย่เทียน ก็จะได้มีผู้สนับสนุนระดับสูงด้วย ต่อไปเวลา เย่เทียน คิดจะทำอะไรก็จะล้วนง่ายขึ้น

" เจ้าหนูเย่ เจ้ารู้หรือไม่ว่า หากเป็นเด็กผู้อื่นมาที่นี้ต่อให้ เจ้าเจ็ดจะขอร้องให้อยู่ ข้าก็คงต้องไล่ไปอยู่ดี แต่วันแรกที่เจ้าเข้ามาก็มาแอบสังเกตเจ้าอยู่แล้ว และข้านั่นรู้สึกถูกชะตากับเจ้ายิ่งนัก หากเจ้าจะปฏิเสธก็มิเป็นอันใด ข้าจะไม่บังคับเจ้า " เชียนเต้าหลิว กล่าวกับ เย่เทียน ด้วยน้ำเสียงและแววตาที่ดูจริงใจ

" ถ้างั้น...ขอเวลาข้าคิดดูก่อนก็แล้วกันขอรับ ท่านอาวุโส " เย่เทียน ตอบกลับ เชียนเต้าหลิว ด้วยท่าทีเกร็งเล็กน้อย

" เช่นนั้นก็ตามใจเจ้า เจ้าหนู " เชียนเต้าหลิว ส่ายหน้าและกล่าวกับ เย่เทียน ด้วยรอยยิ้ม

...[ ปฐมบทแบบรวบรัด ]...

6 ปีต่อ เย่เทียน อายุเพียง 12 ก็เข้าสู่ระดับ 35 ( อัครวิญญาจารย์ ) และได้รับกระดูกวิญญาณส่วนนอก ปีกอินทรีย์ทมิฬ อายุ4000ปี จาก อินทรีย์ทมิฬ

เย่เทียน อายุ 16 ก็ถึงระดับ 52 ( ราชาวิญญาณ ) และได้เป็นรองหัวหน้าทีมสำนักวิญญาณยุทธ์ ที่แข่งขันวิญญาจารย์ โดยมี ปี๋ปี่ตง ที่อยู่ระดับ 49 ( ปรมาจารย์วิญญาณ ) เป็นหัวหน้าทีม และได้รับอันดับหนึ่งจากการแข่งขัน

เย่เทียน ได้รับกระดูกวิญญาณแขนขวา อายุ 10,000 ปี จากการแข่งขันวิญญาจารย์ และได้รับกระดูกวิญญาณแขนซ้าย อายุ8,000ปี จากเชียนเต้าหลิว ที่มอบให้เป็นรางวัลสมทบอีก

ซึ่งทุกครั้งที่ เชียนเต้าหลิว พบกับ เย่เทียน ทีไรก็มักจะถามว่า เย่เทียน ยอมรับตัวของ เชียนเต้าหลิว เป็นพ่อบุญธรรมหรือไม่ ซึ่งคำตอบของ เย่เทียน ก็เป็นคำตอบเดิมๆเช่นเคย นั้นคือขอเวลาคิดดูก่อน

ซึ่งความสัมพันธุ์ของ เย่เทียน และ ปี๋ปี่ตง นั้นชัดเจนมากว่าเป็นคู่รักกัน ซึ่ง เชียนเต้าหลิว ก็ไม่ได้ขัดขวางอะไรกับรู้สึกยินดี

แต่ เชียนซวินจี๋ นั้นต่างออกไปกลับรู้สึกไม่ชอบหน้า เย่เทียน และมารู้ทีหลังว่า เชียนเต้าหลิว ต้องการให้ เย่เทียน มาเป็นบุตรบุญธรรม ก็ยิ่งทวีความโกรธและเกลียดมากยิ่งขึ้นแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้

หลังจากจบการแข่งขันวิญญาจารย์ เย่เทียน ก็เดินทางออกจากสำนักวิญญาณยุทธ์ไปฝึกฝนที่ เมืองแห่งการสังหาร ซึ่งในตอนแรก ปี๋ปี่ตง จะตามไปด้วย แต่ถูกขัดขวางโดย เชียนซวินจี๋

เย่เทียน อายุ 20 ก็ถึงระดับ 69 ( จักรพรรดิวิญญาณ ) และได้รับเขตแดนเทพสังหาร และได้รับ กระดูกวิญญาณส่วนหัว อายุ30,000ปี จากมังกรมายา หลังจากออกมาจาก เมืองแห่งการสังหาร

หลังจากที่ เย่เทียน ออกมาจาก เมืองแห่งการสังหาร ก็พบว่า ปี๋ปี่ตง นั้นอยู่กับ อวี้เสี่ยวกัง ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นคำสั่งของ เชียนซวินจี๋ ที่ให้ไปสนิทกับ อวี้เสี่ยวกัง เพื่อสืบหาข้อมูลจาก สำนักราชามังกรสายฟ้า

เย่เทียน ที่เห็นเช่นนั้นก็ตัดสินใจที่จะต้องการเข้าไปคุยกับ ปี๋ปี่ตง แต่ก็ถูก เชียนซวินจี๋ ส่งคนมาขวางเอาไว้ และหลังจากนั้น ปี๋ปี่ตง ก็ถูก เชียนซวินจี๋ ข่มขู่ว่าหากไม่ยอมเลิกคบกับ เย่เทียน เชียนซวินจี๋ จะส่งพรหมยุทธ์ไปลอบสังหาร เย่เทียน ทันที

ปี๋ปี่ตง ที่ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกไม่เข้าใจว่าทำไม อาจารย์ของตนเองที่เคารพรัก ถึงพยายามขัดขวางความรักของตนเองกับ เย่เทียน ด้วย

แต่ ปี๋ปี่ตง ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะถ้าหาก ปี๋ปี่ตง ไม่ทำ เย่เทียน ก็อาจจะถูก เชียนซวินจี๋ สังหารเอาได้ ปี๋ปี่ตง จึงใช้ อวี้เสี่ยวกัง เป็นเครื่องมือในการให้ เย่เทียน นั้นตัดใจจากไป

เย่เทียน ที่รู้เช่นนั้นก็ตัดสินใจเดินทางออกจาก สำนักวิญญาณยุทธ์ เพื่อไปฝึกฝนผู้เดียว ซึ่ง เชียนเต้าหลิว นั้นก็ไม่ได้ห้ามอะไร ซึ่ง เชียนเต้าหลิว ก็ไม่ได้รู้เรื่องที่ เชียนซวินจี๋ นั้นทำอะไรไปบ้าง เพราะ หอบูชาพรหมยุทธ์ และ หอสังฆราช จะไม่ยุ่งเกี่ยวกัน

เชียนซวินจี๋ ที่รู้ข่าวว่า เย่เทียน จะออกจากสำนักวิญญาณยุทธ์ เพื่อไปฝึกฝน เชียนซวินจี๋ ก็ได้ส่ง พรหมยุทธ์หอกงู ( ระดับ 91 ) และ พรหมยุทธ์หนามโลหิต ( ระดับ 91 ) เดินทางออกจาก สำน้กวิญญาณยุทธ์ เพื่อไปสังหาร เย่เทียน ทันที

แต่ เชียนเต้าหลิว เคยสั่งให้ ผู้ทำพิธีคนที่หก และ เจ็ด คอยพลัดกันให้ความคุ้มครอง เย่เทียน อย่างลับๆ ซึ่งทำให้ พรหมยุทธ์หองู และ พรหมยุทธ์หนามโลหิต ที่เดินทางมาสังหาร เย่เทียน ต้องรับมือ พรหมยุทธ์พิชิตมาร ( ผู้ทำพิธีคนที่เจ็ด ) ที่มาให้ความคุ้มครอง เย่เทียน ในเวลานั้น

หลังจากนั้น เชียนเต้าหลิว ก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่า เย่เทียน ไปที่ใด เพราะเนื่องจาก พรหมยุทธ์พิชิตมาร มารับมือกับ พรหมยุทธ์หนามโลหิต และ พรหมยุทธ์หอกงู จึงทำให้คลาดสายตาจาก เย่เทียน ทันที

เย่เทียน อายุ 21 อยู่ในระดับ 72 ( มหาปราชญ์วิญญาณ ) ก็ได้เดินทางร่วมกับ สองดาราเฮ่าเทียน ( ถังเสี้ยว , ถังเฮ่า ) และได้สาบานเป็นพี่น้องกัน

เย่เทียน อายุ 24 ก็บรรลุระดับ 79 ( มหาปราชญ์วิญญาณ ) เย่เทียน ก็ตัดสินใจเดินทางแยกกับ ถังเสี้ยว และ ถังเฮ่า เพื่อไปฝึกฝนที่เกาะเทพสมุทร และได้รับการทดสอบสีดำ แบบพิเศษ 7ทดสอบ

เย่เทียน อายุ 27 บรรลุระดับ 89 ( วิญญาณพรหมยุทธ์ ) ผ่านการทดสอบจากเทพสมุทรไป 5ทดสอบ และได้รับกระดูกวิญญาณลำตัว อายุ70,000ปี จากเต่าอัคคียักษ์ และมีความสนิทสนมกับทาง ปัวไซซี ( พรหมยุทธ์สุดขีด ) ผู้เป็น ผู้ทำพิธีสูงสุด ของเกาะเทพสมทุร

เย่เทียน อายุ 30 บรรลุระดับ 92 ( ราชทินนามพรหมยุทธ์ ) ผ่านการทดสอบจากเทพสมุทรไป 7ทดสอบ และได้รับกระดูกวิญญาณขาซ้าย อายุ 95,000ปี จากปัวไซซี

ซึ่ง เย่เทียน และ ปัวไซซี ก็อยู่ด้วยกันอย่างสามีภรรยา ที่เกาะเทพสมุทร

เย่เทียน อายุ 35 อยู่ในระดับ 94 ( ราชทินนามพรหมยุทธ์ ) เสาเทพสมุทร เปล่งเสียงออกมา หาก เย่เทียน ยังอยู่บนเกาะเทพสมุทร ปัวไซซี จักต้องกลายเป็น วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ และตำแหน่ง ผู้ทำพิธีสูงสุด จะกลายเป็นของ เย่เทียน

ยกเว้นแต่ เย่เทียน จะเดินทางออกจาก เกาะเทพสมทุร จึงจะสามารถทำให้ ปัวไซซี รอดพ้นจากสิ่งนี้ได้ หลังจากนั้น เย่เทียน ก็ตัดสินใจเดินทางออกจากเกาะเทพสมุทร และตรงมาที่ ทวีปโต้วหลัว ด้วยความไม่เต็มใจนัก แม้แต่ ปัวไซซี เองก็ไม่เต็มใจกับเรื่องนี้

เย่เทียน อายุ 36 อยู่ระดับ 95 ( อัครพรหมยุทธ์ ) และได้รับกระดูกวิญญาณขาขวา 90,000ปี จากยักษ์น้ำแข็ง

เย่เทียน อายุ 40 บรรลุระดับ 97 ( อัครพรหมยุทธ์ ) ซึ่งในช่วงนี้ เย่เทียน ท่องเที่ยวไปทั่วทวีปโต้วหลัว โดยที่ ไม่มีผู้ใดรู้ว่า เย่เทียน กลับมาที่ ทวีปโต้วหลัว แล้ว

เย่เทียน อายุ 43 บรรลุระดับ 98 ( อัครพรหมยุทธ์ ) โดยในช่วงนี้ เย่เทียน ตามรวบรวมสมุนไพรอมตะต่างๆ กระดูกวิญญาณ และ เงิน เพื่อเตรียมรับศิษย์ในอนาคตเมื่อตนเองต้อง สร้างสำนัก เมื่อถึงระดับ99 ( พรหมยุทธ์สุดขีด ) ในอนาคต

...3 ปีผ่านมา ( เย่เทียน อายุ 46 ) ...

ปัง !! เสียงระดับพลังวิญญาณบรรลุขั้น

[ ติ้ง !! ]

[ ระบบเจ้าสำนัก ทำการเปิดอย่างทางการ ]

***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***