「BLACKDREAD MAGE」จอมเวทมฤตยูดำ
อาชญากรย่อมเข้าใจอาชญากร
เวทมนตร์คือศาสตร์แห่งจินตภาพ ประกอบด้วยวิญญาณ มานา และภาชนะ ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นเรื่องเพ้อฝันเนื่องจากอยู่เหนือเหตุผล แต่หลังจากผ่านยุคแคมเบรียนที่สองเป็นต้นมา เวทมนตร์ก็กลายเป็นสิ่งที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย
โดยศาสตร์แห่งเวทมนตร์ได้ถูกแบ่งออกเป็นสี่สาย ได้แก่ สายประดิษฐ์ สายเสริมกำลัง สายธาตุ และเวทมนตร์โบราณ ปัจจุบันมีเวทมนตร์กำเนิดใหม่อยู่มากมายหลายแขนง และเช่นกันกับเวทมนตร์ องค์กรใต้ดินต่างๆก็ถูกก่อตั้งขึ้นมาอย่างลับๆ
เพื่อจัดการกับองค์กรใต้ดินเหล่านั้น เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ CFBI (Caster Federal Bureau of Investigation) จึงได้รวบรวมสมาชิกฝีมือดีที่เป็นระดับท็อปในทุกสายอาชีพเพื่อดำเนินการกวาดล้างอาชญากร โดยเป็นการร่วมมือระหว่างประเทศต่างๆทั่วโลก
พวกเขาทำงานได้ดีทีเดียวในฐานะเจ้าหน้าที่รักษาความสงบ
แต่ในฐานะของผู้พิชิตอาชญากรพวกเขากลับล้มเหลวไม่เป็นท่าเมื่อต้องเข้าปะทะกับองค์กรขนาดใหญ่ที่เป็นดั่งนโปเลียนแห่งโลกอาชญากรรม
องค์กรนั้นมีชื่อเรียกที่หลากหลาย แต่ชื่อที่ CFBI ใช้เรียกพวกเขาคือ ‘องค์กรแบล็คลิสต์’ สมาชิกทุกคนสวมใส่อาภรณ์สีดำสนิทดุจขนกา ทั้งยังเดินเพ่นพ่านไปทั่วโลกปนไปคนธรรมดาและเข่นฆ่าศัตรูที่กล้ามาขวางทางอย่างเลือดเย็น เหล่าเจ้าหน้าที่ CFBI พยายามอย่างหนักที่จะตามล่าตัวและจับเป็นสมาชิกขององค์กรนั้น แต่สุดท้ายก็คว้าน้ำเหลวเรื่อยมา
ทั้งสองฝ่ายต้องการตัดขั้วปัญหาออกไปจะได้เปลี่ยนเป็นฝ่ายไล่ล่ากันเสียที ดังนั้น ในปฏิบัติการที่มีชื่อว่า ‘อามาเกดอน’ หน่วย CFBI จึงได้ส่งคอนราดเข้าไปปะทะกับคนในองค์กรตรงๆ โดยที่ไม่ได้คาดคิดว่าตัวอันตรายขององค์กรจะเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้ ในขณะที่ฝ่ายองค์กรแบล็คลิสต์ก็ได้ส่งไพ่ตายลงสนามเพื่อปิดฉากอัศวินสีเงิน
........................
คนชั่วต้องรับผลกรรมที่ตนได้ก่อ นั่นมันถูกแล้วไม่ใช่หรือไง เมื่อตระหนักได้ถึงเรื่องนั้นก็ได้ทราบถึงความจริงอันยากจะยอมรับ สังคมโลกในยุคปัจจุบันมันไม่มีความยุติธรรมแม้แต่กับเด็กตัวเล็กๆ
ความเสมอภาคคืออะไร ความเท่าเทียมคืออะไร ใช่ว่าไม่เคยสงสัย และใช่ว่าไม่เคยตั้งคำถาม หลายต่อหลายครั้งที่โลกใบนี้ทำให้สับสนอยู่เรื่อย เมื่อได้เห็นอีกด้านของโลกใบนี้จึงได้เข้าใจว่าการเรียกร้องหาความเท่าเทียมเป็นการกระทำที่ไร้ประโยชน์
ตั้งแต่เกิด ‘คุโรซากิ คานัน’ ไม่ได้เห็นพ่อหรือแม่เป็นสิ่งแรก สิ่งที่เห็นเมื่อลืมตาดูโลกคือเพดานสีขาวของห้องอบรมสมาชิกรุ่นเยาว์ขององค์กร มันเป็นโครงการลับที่ต้องผลิตบุคลากรสายงานต่างๆซึ่งผิดหลักจริยธรรม และเธอก็เติบโตมาในฐานะสายเลือดของท่านผู้นั้น
หลังจากที่คิดเองได้การเชื่อฟังคำสั่งของผู้เป็นนายก็กลายมาเป็นโลกทั้งใบ
เพราะไม่เคยได้รับความรักความเอาใจใส่จึงไม่เข้าใจวิธีคิดอย่างมนุษย์ สิ่งเดียวที่นึกออกคือการประมวลผลง่ายๆอย่างการตัดสินใจว่าจะ ‘ปล่อยไป’ หรือจะ ‘กำจัด’ คานันทำตัวสุขุมและสงบนิ่งเรื่อยมาเพราะขาดปัจจัยเรื่องอารมณ์ความรู้สึก และเมื่อโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ก็ได้รับคำสั่งให้ดิ้นรนเอาตัวรอดจากสถานการณ์เสี่ยงอันตราย
เธอยังคงจำได้ดี คำสั่งแรกของท่านผู้นั้น
คำสั่งให้เธอที่อายุแค่แปดขวบเข้าไปเจาะระบบปฏิบัติการตามหาคนๆหนึ่งในโปรแกรมคุ้มครองพยานของ CFBI
เป็นงานที่หินเอาเรื่อง แต่ก็สำเร็จไปได้ด้วยดี รวมถึงได้รับความไว้วางใจจนได้กลายเป็นมีดของท่านผู้นั้น ต่อมาก็ได้รับคำสั่งให้ออกไปเสี่ยงตายอีกไม่รู้กี่ครั้ง ทั้งการโจรกรรมข้อมูล การนัดพบแลกเปลี่ยนอาวุธ ไปจนถึงการซื้อขายสิ่งผิดกฎหมาย แต่ละงานอันตรายทั้งนั้น ทว่าเธอก็ผ่านมันมาได้จนกระทั่งคำสั่งครั้งที่ร้อยกว่ามาถึง
คานันอายุ 16 ปีในตอนที่ได้รับคำสั่งอันแสนอำมหิตนั้น
———ปกป้อง ‘แอสทารอธ’ ซะ
ไม่เข้าใจ
ไม่เข้าใจเลย
คานันรู้ดีว่าคนที่ทำงานพลาดสำหรับองค์กรนั้นคือขยะที่ต้องถูกกำจัด แต่ที่นั่น ในลอนดอน ‘แอสทารอธ’ สมาชิกระดับสูงคนนั้นทำงานพลาดอย่างใหญ่หลวง ไม่เพียงแค่ล่อคนทรยศ N.O.C ที่แฝงตัวเข้ามาไม่สำเร็จ แต่ยังถูกยิงในที่สาธารณะ รายงานที่ได้รับมาเป็นใครก็ต้องคิดว่านี่คือความผิดพลาดที่ไม่อาจมองข้าม
เธอรู้ดีว่าควรจะทำยังไง เตรียมไรเฟิลเอาไว้แล้วด้วย แต่คำสั่งที่ได้รับคือให้ปกป้องคนที่ทำงานพลาดแบบถวายชีวิต
ทำไมล่ะ หลังภารกิจนั้นเธอได้เข้าไปถามกับท่านผู้นั้นด้วยตัวเอง เพราะต้องหนีจากอดีต ‘อามอน’ สมาชิกระดับสูงแบบที่ต้องแบก ‘แอสทารอธ’ ไปด้วยจึงถูกยิงเข้าที่ช่องท้อง เธอได้ของแถมเป็นแผลฉกรรจ์สาหัสถึงปางตาย และเมื่อหายดีแล้วจึงไปถามกับท่านผู้นั้นด้วยตัวเอง
“เธอเป็นเพียงอะไหล่ อย่าตั้งคำถามเรื่องนี้อีก”
ทว่าคำตอบที่ได้รับคือความหมางเมิน
ต่อมาเมื่ออายุได้ 18 ปีเธอก็ได้รับคำสั่งอำมหิตนั่นอีก
———ปกป้อง ‘แอสทารอธ’ แบบถวายชีวิต
ด้วยความสงสัยเธอจึงไปถาม ‘แอสทารอธ’ ด้วยตัวเอง
“ทำไม”
พอถามไปแบบนั้นอีกฝ่ายก็แค่นหัวเราะ แล้วเธอก็ได้รู้เมื่อได้ถูกพาให้ไปมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจก เธอเห็นลักษณะใบหูของตัวเองจึงเข้าใจ เห็นสีของดวงตา เห็นใบหน้า เห็นสีผมแล้วจึงเข้าใจ เธอเข้าใจหมดทุกอย่าง
เพราะเป็นแค่อะไหล่ แม้จะเป็นสายเลือดของท่านผู้นั้นแต่ก็เป็นได้แค่เครื่องมือ นั่นคือคำตอบอันโหดร้าย เธอต้องทำตามคำสั่ง ต้องปกป้องแม่คนโปรดของท่านผู้นั้นให้ได้แม้ตัวตาย
เมื่อเธออายุได้ 20 ปี อยู่ๆก็มีคำสั่งที่ไม่ใช่การให้ไปคุ้มครองใครหรือฆ่าใครส่งมาถึง ท่านผู้นั้นเรียกเธอให้เข้าไปพบและส่งตัวเธอให้บุคลากรสายแพทย์นำตัวไปเพื่อทำบางอย่าง ไอ้บางอย่างที่ว่าคือการผสมเทียม ทำให้เธอตั้งครรถ์แบบบังคับเพื่อที่จะให้กำเนิดเด็กที่มีศักยภาพออกมา อาศัยเซลล์ไข่ขอลเธอเองและซูเปอร์สเปิร์มที่ประมูลมาจากธนาคารสเปิร์ม
ไม่ได้ต้องการเลยสักนิด
แต่ขัดคำสั่งไม่ได้
ท่านผู้นั้นต้องการให้เธอตั้งท้องลูกใครก็ไม่รู้และต้องการให้เธอกำเนิดเด็กที่มีศักยภาพออกมา รู้ทั้งรู้ว่าเมื่อเด็กคลอดเธอจะไม่มีวันได้อุ้มชูดูแลอย่างแม่ผู้ให้กำเนิด เด็กคนนั้นจะถูกพรากไปจากเธอและจะถูกเลี้ยงดูในฐานะตัวทดลองโครงการผลิตบุคลากร หากเป็นเด็กผู้ชายก็จะถูกรีดอสุจิเมื่อถึงเวลาซึ่งอาจจะดีกว่าเด็กผู้หญิง เด็กผู้หญิงต้องเตรียมตัวตั้งท้องลูกของใครก็ไม่รู้ทั้งที่ไม่ต้องการและต้องทำแบบนี้หากมีคำสั่งให้ทำ
ลูกคนแรกของเธอเกิดมาเป็นเด็กผู้หญิง คานันไม่มีโอกาสได้ตั้งชื่อหรือเห็นหน้า สิ่งเดียวที่เธอได้รับหลังการคลอดบุตรคือคำสั่งให้ลาพักจนกว่าจะหายดี และคำสั่งที่สั่งให้ไปประจำการที่อเมริกาทันทีที่หายดีแล้ว
ไม่เป็นอิสระ ไม่รู้จักกับการไม่ผูกมัดเอาซะเลย ทันทีที่ไปถึงอเมริกาก็ต้องวกกลับไปอยู่จุดเดิมอย่างการเป็นบอดี้การ์ดให้ ‘คริสติน วินยาร์ด’อีกตามเคยเพราะคนทรยศองค์กรคนนั้นกำลังป้วนเปี้ยนในนิวยอร์ก เธอต้องเล่นบทสตอล์กเกอร์ตามแม่คนโปรดของท่านผู้นั้นตลอดเวลา ระหว่างนั้นก็มีคำสั่งให้กลับไปเข้าโครงการผสมเทียมนรกนั่นอีก
เธอเชื่อฟังคำสั่ง ไม่เคยคัดค้าน แต่เมื่อเข้าโครงการนรกนั่นเป็นหนที่สองก็ได้รับภารกิจถาวรอย่างการมอบเซลล์ไข่ให้กับหน่วยทดลองทันทีที่ถึงฤดูตกไข่ของเพศหญิง เธอต้องทำมัน ในขณะนั้นไม่ได้รับรู้เลยว่ามันจะเป็นปัญหาต่อตัวเธอในอนาคต
5 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก
เธออายุ 25 ปีในตอนที่จุดเปลี่ยนสุดท้ายของชีวิตได้มาถึง วันนั้นแม่คนโปรดของท่านผู้นั้นล่อคนทรยศมาให้ติดกับได้สำเร็จ เธอซึ่งอิดโรยจากการทำภารกิจลอบสังหารอย่างต่อเนื่องก็ถูกส่งไปทำภารกิจตามไล่ล่าคนทรยศต่อทันที
“จงฆ่าเขาให้ได้”
คำสั่งที่เหมือนจะง่ายแต่มันยากสำหรับคนที่ร่างกายเหนื่อยล้าในเวลานั้น
คานันไม่ได้หลับมาสามวัน ทั้งยังถูกเวทมนตร์สารพัดแบบสาดซัดจนกระดูกศี่โครงหักไปสองซี่อยู่ก่อน เมื่อต้องเข้าประจันหน้ากับอัศวินสีเงินของเจ้าหน้าที่ CFBI คนนั้นจึงไม่แปลกที่จะสู้กันได้อย่างสูสี ไม่สิ เธอมีสิทธิ์แพ้ เธอบาดเจ็บอยู่แล้ว ซ้ำยังมีสภาพไม่เต็มร้อย ไม่แปลกหากจะโดนเล่นงานอยู่ฝ่ายเดียว
แต่มันก็แปลกอยู่ดี เพราะเธอสู้ได้สูสีกับเขา
“สมญานามยมทูตหมื่นศพไม่ใช่ของประดับสินะ”
เขาพูดพร้อมแสยะยิ้ม แล้วสาดคลื่นกระแทกใส่อย่างไม่ปราณีทันทีที่คิดว่าเธอเปิดช่องโหว่ บนตึกสูงในอเมริกา นิวยอร์กซิตี้ที่ไม่เคยหลับใหล เสียงโครมครามดังก้องทว่ากระจ้อยร่อย คานันเคลื่อนไหวหลบการโจมตีนั้นด้วยความเร็วสูงสุด ก่อนหมุนตัวฟาดขากระแทกแผ่นหลังกว้างอย่างรุนแรง
เจ็บที่หน้าอก เพราะซี่โครงมันทิ่มอวัยวะภายในจึงเจ็บ ขาที่ฟาดใส่แผ่นหลังของชายคนนั้นเองก็รุนแรงมาจนทำให้อีกฝ่ายปลิวเป็นว่าเล่น แต่ก็แลกมากับความเจ็บปวดมหาศาลจากอาการบาดเจ็บเดิม
คอนราดที่ปลิวกระเด็นกลับตัวกลางอากาศด้วยความคล่องแคล่ว แล้วใช้เวทสายประดิษฐ์แทรกแซงหลักฟิสิกส์ลดทอนแรงกระแทกเมื่อตกกระทบกับหลังคาของตึกอีกฝั่ง เขาสะบัดแขนเรียกอะไรบางอย่างออกมาหลังจากที่ได้ฐานยืนอันมั่นคง มันคือปืนไรเฟิลสีดำสนิทลายเพลิงที่เคยสอยเฮลิคอปเตอร์ขององค์กรร่วงมาหลายลำ
“ช่วยตายๆไปสักทีเถอะ” เธอพูดก่อนกระโดดไปหาเขา
อีกฝ่ายลั่นไก กระสุนที่อัดแรงระเบิดพุ่งสวนมาด้วยความเร็วสูง คานันตั้งสมาธิแล้วใช้เวทโบราณสร้างภาพมายา จากนั้นพุ่งเข้าประชิดเขาด้วยเวทประดิษฐ์เสริมความหนักของร่างกาย
คอนราดผงะไปเล็กน้อย แต่เขาก็ตั้งสติได้เร็วพอๆกับเธอ เขาลั่นไกใส่เธออย่างต่อเนื่องแต่เพราะเวทโบราณอันน่ารำคาญจึงยากจะเล็งหาตัวจริง คานันโผล่เข้ามาในระยะเผาขนเมื่อเขาผลาญกระสุนไปหลายนัด หญิงสาวที่แข็งแกร่งผิดกับรูปลักษณ์กระแทกฝ่ามือดันปากกระบอกปืนขึ้นแล้วยกขาถีบเขา
คงไม่ต้องบอกว่าเขาหลบไม่ทัน
แต่ใข้เวทประดิษฐ์สร้างบาเรียกันกระแทกได้แบบเฉียดฉิว
“อุก!!” แต่ใช่ว่าไม่ได้รับความเสียหาย แรงกระแทกยังคงสะเทือนมาถึงร่างกายโดยตรง แรงนั้นมากพอๆกับการโดนต่อยช่องท้อง คอนราดจินตนาการไม่ออกว่าหากคานันอยู่ในสภาพเต็มร้อยและเขาไม่ได้ป้องกัน กระดูกเขาจะเป็นยังไง
คานันขมวดคิ้ว เพิ่มน้ำหนักเท้าข้างที่ใช้ถีบเขาในชั่วอึดใจเพื่อส่งเขาให้ตกลงไปยังพื้นข้างล่าง แรงถีบยังคงถูกบาเรียต้านเอาไว้ คอนราดสะบัดแขนสาดประกายสายฟ้าใส่เธอเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจก่อนจะเอี้ยวตัวหลบ คานันสูญเสียประสาทสัมผัสกับการเคลื่อนไหวไปชั่วคราว แต่ก็มีสมาธิมากพอจะคว้าเสื้อของเขาเอาไว้ก่อนที่เจ้าคนทรยศจะมีโอกาสได้โถมตัวชนเธอให้ตกลงไปยังพื้นเบื้องล่าง
คอนราดคว้ามือเธอแล้วปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าร่างเธออย่างไม่ปราณี
คานันข่มความชาวาบที่ทำให้ร่างกายเป็นอัมพาต ฝืนกล้ามเนื้อทั้งหมดด้วยการเข้าประขิดเขาแล้วใช้ใ่ามือกระแทกเข้ากลางอกเยื้องไปด้านซ้าย
เอาสิ เธอท้าทายเขาด้วยการจิกนิ้วเข้าไปในอกแกร่ง ส่วนตัวเองถูกไฟฟ้าช๊อตจนเลือดไหลออกจมูก
ถ้านายไม่ปล่อยฉัน ก็ลาโลกนี้ไปได้เลย
คอนราดตกอยู่ในสถานการณ์ติดหล่มทันทีที่ถูกเข้าประชิดตัวและถูกตรึงเอาไว้ด้วยเวทประดิษฐ์ที่น่าพรั่นพรึง ใช่ว่าเขาไม่รู้จักเวทนี้ เวทที่ไม่มีในธาตุไหนเลย เขาเคยเห็นเธอใช้มันฆ่าคนมานักต่อนัก
อย่างที่เคยบอกไปว่าคานันอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์พร้อม เขาเคยเห็นเวทนี้สำแดงฤทธิ์และพรากชีวิตของผู้คนไปเป็นร้อยในคราวเดียว คอนราดเข้าใจอนุภาพกับหลักการของมันดี แค่เขาไม่คิดจะปล่อยเธอไปเพียงเพราะเธอสามารถขยี้หัวใจของเขาให้แหลกได้หรอก
หึ คอนราดยิ้ม
คานันรู้สึกไม่ชอบมาพากล
“คอนราด!”
ว่าแล้วเชียว คานันรีบผละจากเจ้าหน้าที่หนุ่ม ร่ายเวทธาตุของตัวเองออกมาเป็นครั้งแรกแล้วกระหน่ำคาถาใส่ทุกสิ่งตัวรอบ เวทธาตุสายฟ้าแบบเดียวกับคอนราด แต่เป็นสายฟ้าที่ทรงพลังกว่าด้วยคาถาที่เปี่ยมประสิทธิภาพ
คาถาพิรุณสายฟ้า
คิดว่าหลบได้ก็ลองดูสิ คอนราด!
“เจน! หลบ!!”
“นี่ขนาดบาดเจ็บยังแผลงฤทธิ์ได้ขนาดนี้เลยเหรอ!”
“ทุกหน่วย ยิง!”
อะไรนะ
คานันร่ายเวทสายฟ้าเบื้องต้นใส่ที่พื้นรองเท้า เคลื่อนไหวด้วยความเร็วชั่วพริบตาหนีออกมาจากตรงนั้น เจ้าพวก CFBI น่ารำคาญ พอสู้ไม่ได้ก็จะรุมหมาหมู่งั้นเรอะ
แต่เมื่อออกมาจากตำแหน่งเดิมคานันก็ต้องตกใจ
ไม่มี
เมื่อกี้แผนหลอกเรอะ!
“ตอนนี้แหล่ะ! เจนนิเฟอร์!”
หญิงสาวผมสีทองสวมแว่นตาร่ายคาถา รูนสลักที่ฝ่ามือเรืองแสงสีเขียวออกมาก่อนจะสาดพายุซัดใส่คานันที่หลบไม่ได้ในทันที
คานันได้ยินเสียงไหล่ของตัวเองหลุดจากข้อต่อ กล้ามเนื้อฉีกขาดจากความแรงของลมกระชาก แต่เธอยังมีสติอยู่ ปากขยับร่ายเวทด้วยวาจาก่อนที่ร่างกายจะหายไปจากตรงนั้น
“หายไปแล้ว!?”
เจนนิเฟอร์เบิกตากว้าง
“ไม่! เจนนิเฟอร์! อย่าโดนมันหลอก!” คอนราดตะโกนลั่น
ให้ตายสิ คานันลอบสบถหยาบ กับไอ้เวรคอนราดเธอไม่เคยหลอกมันด้วยเวทโบราณนี่ได้เลย
“อิลลูชั่นอาร์ท!!”
“ไม่ใช่หรอกเจมส์ นั่นเวทโบราณพรางตา”
“นอกจากจะเชี่ยวชาญเวทประดิษฐ์แล้วยังเชี่ยวชาญเวทโบราณด้วยเรอะ เป็นศัตรูที่น่ากลัวจริงๆ”
เป็นเกียรติกับคำชมนั้น
คานันเผยตัวทันทีและทำให้เจนนิเฟอร์ตกใจที่เธอพุ่งมาจากกลางอากาศ แขนทั้งสองข้างยกขึ้นเหนือศีรษะ จังหวะนั้นคงมีแค่คอนราดที่เข้าใจสถานการณ์
“เจมส์! เจนนิเฟอร์! กางบาเรียเร็วเข้า!” เขาตะโกนสุดเสียง
เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนเร็วพอจะตอบสนองด้วยการร่ายเวทประดิษฐ์สร้างบาเรียหนาพอๆกับเกราะกันกระสุนปืนขึ้นมาก่อนที่คานันจะทุ่มแขนทั้งสองข้าง ร่างบางๆโถมแรงมหาศาลอย่างน่าสะพรึง มากพอจะทำให้คอนราดใช้เวทสายฟ้าพาเจ้าหน้าที่สองคนเคลื่อนที่หลบไปเพราะรู้จักอานุภาพของมัน
อานุภาพทำลายรถถัง
อาคารทั้งหลังถล่มลงไปอย่างกับตัวต่อเลโก้
แต่ถึงอานุภาพจะรุนแรงจนเข่าทรุด คอนราดก็รู้อีกเหมือนกันว่าคานันเปิดช่องโหว่แล้ว เขาจึงเอาอวัยวะสักอย่างของตัวเองเป็นหลักประกัน แล้วเอาตัวเข้าไปเสี่ยงโชคด้วยการกระโจนใส่คานันแล้วทุ่มร่างนั้นลงไปพร้อมกับอาคารที่กำลังถล่ม
คานันดิ้นรนสุดชีวิต
น่ารำคาญ น่ารำคาญ! น่ารำคาญมาก เจ้าคนทรยศจาก CFBI ที่กัดไม่ปล่อยนี่
ฝ่ามือหนาตะครุบเข้าที่ลำคอของเธออย่างจัง คานันใช้ฝ่ามือของตัวเองดันไหล่ของเขาพร้อมกับกระแทกให้ข้อต่อหลุด
แต่นั่นไม่ช่วย
เมื่อคอนราดใช้เท้าถีบเธอส่งแรงกระแทกให้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว แรงที่เกิดขึ้นคูณกับแรงโน้มถ่วงกลายเป็นความเร็วระดับรถบรรทุกชน คานันเตรียมตัวรับแรงปะทะในชั่วอึดใจ ขอแค่ใช้เวทบาเรียเคลือบร่างกายเธอก็จะรอดและพลิกสถานการณ์ได้ทันทีแล้ว
....ก่อนจะรู้ตัวว่าติดกับอีกแล้ว
คอนราดตามเธอมาด้วย
ทันทีที่ร่างกายของเธอกระแทกพื้นเขาใช้ฝ่ามือจิกเข้าที่กลางอก กระแสไฟฟ้าแล่นปราดทะลุหัวใจ เขาทำให้ชีพจรของเธอเตเนช้าลงเพื่อลดการสูบฉีดเชือดไปเลี้ยงสมองชั่วคราว สติของเธอดับวูบ
คอนราดยืนหยัดในการต่อสู้ ทว่าในสภาพสะบักสะบอม การต่อสู้กินระยะเวลาเกือบทั้งวันและต่างคนต่างสาดเวทและคาถาใส่กันไม่ยั้ง เขาแทบล้มทั้งยืน
ปากพึมพำอย่างอิดโรย “...ชนะแล้ว”
........................
การพ่ายแพ้ต่อคอนราดคือจุดเปลี่ยนของชีวิต ไม่เพียงแค่ต้องตัดขาดกับองค์กร แต่ต้องเตรียมใจยอมรับความตายในฐานะนักโทษประหาร
คานันถูกพามาสอบปากคำด้วยสารพัดวิธี ทั้งด้วยเครื่องจับเท็จและอื่นๆ แต่คนระดับเธอไม่มีทางปริปากพูดอะไรง่ายๆ
ซ้ำเวทมนตร์ที่บังคับให้พูดแต่ความจริงก็ไร้ความหมายเมื่อเธอกัดลิ้นตัวเองให้ขาด
ตัวเธอเป็นขององค์กร ร่างกายนี้เป็นขององค์กร และชีวิตเป็นขององค์กร แม้จะรู้สึกว่ากำลังโดนทอดทิ้งแต่เธอก็ไม่เสียใจที่ต้องฆ่าคนไปมากมายหลายหมื่น เธอยินดีตายอยู่แล้ว แต่เสียดายนิดหน่อยที่อุทิศตนเพื่อองค์กรมากไปจนหลงลืมสิ่งที่เรียกว่าอิสรภาพ
คอนราดรับหน้าที่เป็นคนเค้นข้อมูลรับสารภาพจากเธออยู่สามเดือน
คานันไม่ปริปาก
แต่ยิ้มยอมรับคำสารภาพเพียงเรื่องเดียว
เมื่อสิบปีก่อนก่อนที่อายุได้แค่ 15 ปีเธอใช้เวทมนตร์ประดิษฐ์สังหารคนพร้อมกับหนึ่งหมื่นคนในสนามกีฬา เป็นฆาตกรจอมเชือดที่สร้างเหตุการณ์นั้นขึ้นมาและไม่รู้สึกผิดที่ได้ทำลงไป
ตลอดสามเดือนผ่านไปเหมือนกับวันปกติธรรมดา แม่คนโปรดนั่นมาเยี่ยมเธอด้วยซึ่งก็ปลอมตัวเป็นผู้คุมเรือนจำเพียงแค่จะมาบอกถึงความสัมพันธ์ลับๆกับสมาชิกระดับสูงคนหนึ่งในองค์กร เธอไม่ได้อยากฟังเท่าไหร่แต่จำเป็นต้องฟังจากแม่นั่นเพราะถูกบังคับ แต่เพราะไม่ได้ตั้งใจฟังเรื่องที่เล่ามาจึงเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาไป
วันต่อมาคานันถูกพาขึ้นศาลและได้รับการตัดสินโทษประหารอย่างรวดเร็ว เธอถูกพาขึ้นแท่นประหารแขวนคอกลางสายตาของเหยื่อจากหนึ่งหมื่นครอบครัวที่เธอได้สังหารไป พวกเขาจ้องเธอด้วยความเกลียดชัง สาปส่งกันเป็นว่าเล่น ถ่มน้ำลายใส่เธอ และก่นด่าด้วยความเจ็บปวด
สื่อให้เธอได้ฟัง
อยากให้เธอรับรู้ว่าพวกเขาทรมาน
ฟังดูโหดร้ายแต่คานันไม่เข้าใจความรู้สึกของพวกเขา เธอปราศจากอารมณ์เพราะไม่เคยมีโอกาสได้สัมผัสกับมัน ดวงตาที่ใช้มองพวกเขาเหล่านั้นจึงมีแต่ความว่างเปล่า ไร้ซึ่งความสงสารหรือความรู้สึกผิด
ปลายเชือกถูกปล่อยลงมาคล้องของเธอ และเพชฌฆาตก็มองเธอด้วยสีหน้าไร้อารมณ์เหมือนกัน
หึ
ให้ตายสิ
คานันลอบพึมพำอยู่คนเดียว
สุดท้ายเธอก็ได้สัมผัสกับอิสรภาพ ในเวลาเดียวกับที่เชือกรัดคอของเธอจนหักและทำให้เธอตายภายในแปดวินาที
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments