ภายในโลกสีขาวสว่างจ้าจนทำให้แสบตา มีเพียงความหนาวเย็นที่คืบคลานตามปลายประสาท ลุกลามจนหวานสุดขั้วหัวใจ
ภายในความว่างเปล่าสีขาวไร้ที่สิ้นสุด เด็กสาวรับรู้อะไรไม่ได้เลย..นอกจากความโดดเดี่ยวที่กลืนกินเลยในโลกสีขาวของความตายนี่..
ก่อนจะรู้สึกสัมผัสถึงความอบอุ่นสีดำที่กลืนกินตัวเธออย่างรวดเร็วและปัดเป่าความหนาวเย็นของอาการขาดเลือดออกไปมาก
"!!?"
หยงสะดุ้งตื่นมาบนเตียงของตัวเอง เหงื่อเย็นไหลพรากอยู่บนกรอบหน้ามล หน้าอกกระเพื่อมแรงอย่างผิดปกติด้วยอาการตกใจกับสิ่งที่เกิด
เหลียวไปมองหัวเตียง ยังคงมีขวดยาแก้ปวด3กระปุกตั้งอยู่อย่างเดิมเม็ดยาในกระปุกยังคงเหลืออยู่เต็ม
มองไปรอบห้อง ข้าวของทุกอย่างเรียบร้อยดีอย่างน่าเหลือเชื่อ จับดูที่ขมับที่ก่อนหน้ายังคงมีเลือดไหลอาบ กลับไร้ซึ่งรอยบาดแผล
หยงงุนงงอยู่บนเตียงกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอตอนนี้ มันเป็นโลกหลังความตายหรอ? หรือเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมทุกอย่างมันเรียบร้อยเหมือนกับไม่เคยมีอะไรมาก่อน?? แม้กระชุดที่สวมใส่ยังเป็นชุดปกติ ไม่มีเลือดไหลอาบเหมือนในความทรงจำที่ยังเด่นชัดในหัว
"ก๊อกๆ!!!"
เสียงบางอย่างเคาะทุบประตูอย่างรุนแรงทำให้เด็กน้อยที่กำลังใช้ความคิดอยู่สะดุ้งโหยง หันไปดูนาฬิกาข้างบน 5:56
เมื่อเห็นแบบนั้นหยงเลยรีบไปเปิดประตู
"เพี๊ยะๆ!!"
แต่เพียงแค่เปิดประตูมาเท่านั้น ในหน้าเล็กๆ ของเธอก็ถูกบางอย่างตบเข้าอย่างแรง เหมือนกับแซ่เถาวัลย์ฟาดลงที่หน้าของเธอ
เมื่อเหลือบมองดู เจอสิ่งมีชีวิตสีเขียวแปลกๆ แต่ก็คุ้นๆ มองเธอด้วยสายตาเหม็นเบื่อและเหยียดหยาม
" ฟูจิกิ..ดาเนะ? "
เจ้าสิ่งมีชีวิตที่เหมือนฟุจิกิดาเนะยิ่งมองเหยียดเธอเข้าไปอีก ก่อนมันจะหันหลังกลับและลงบันไดไป เหลือเพียงแต่หยง ที่ยืนงงกุมแก้วที่เจ็บแปร๊บของตัวเองไว้
เธอเสียสติไปแล้วแน่ๆ คงจะต้องเป็นผลจากการกินยาเกินขนาดหรืออาการมึนจากการตื่นนอน..
แต่ภาพหลอนมันเจ็บขนาดนี้เลยหรอ?
หยงสะบัดตัวไล่ความคิดออกจากหัว เพราะถ้าสายกว่านี้คงโดนแม่ซ้อมแน่ นั่นแย่กว่าเยอะ
เพราะงั้น เธอจึงเตรียมของเสื้อผ้าและจะลงไปอาบน้ำข้างล่าง
" นังหยง!! ทำไมถึงได้ชักช้าได้ขนาดนี้กันห๊ะ!! เกิดร่วมโต๊ะไม่ทัน แกคิดว่าพ่อของแกจะว่ายังไง!! "
มือของผู้เป็นแม่ง้างขึ้นสุดแขนและเตรียมจะตบกระทบบนแก้นนวลของลูกสาวของเธอ แต่ก็ต้องชะงักก่อน เพราะไม่ต้องการให้ใบหน้าของหยงบวมจากการตบก่อนจะออกไปข้างนอกนัก
" อย่าทำตัวขี้เกียจแบบนี้อีกล่ะ เถาวัลย์ของ ' ดาจี ' ที่น่ารักของฉันจะต้องแปดเปื้อนเพราะเอาไปตบหน้าของแถมอย่างแก! "
' ดาจี? ใครกัน?? '
ความคิดมากมายไหลพันแล่นในหัวของหยงถึงคนที่ชื่อว่าดาจี แต่สายตาก็ดันเหลือบไปเห็นเจ้าตัวสีเขียวที่ตบหน้าเธอเมื่อไม่นานมานี้
" โถ่ดาจีที่น่ารักของฉัน "
แม่ลงไปลูบหัวเจ้าฟุจิกิดาเนะอย่างเอ็นดู
" แม่..เห็นมันหรอ? "
ปากพึมพำตกใจเบาๆ
" แกพูดอะไรของแกน่ะ? ยังไม่ไสหัวไปอาบน้ำอีก!? "
หญิงผู้ได้ชื่อว่าเป็นแม่ของเธอ หันมาพูดเสียงแข็งใส่เธอด้วยความอารมณ์เสีย ทำให้หยงต้องรีบอพยพตัวเองเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว
หยงเข้าห้องน้ำมาส่องกระจกมองดูตัวเองภายในนั่น ไม่ต่างจากตัวเธอที่ตัวเองรู้จักและมองมันอยู่ทุกๆ วัน ทุกอย่างยังคงเดิม และนี่มันคืออะไรกัน...
โปเกม่อน?
ตัวเธอที่ยังไม่ตาย?
ข้าวของที่ทุกอย่างเหมือนเดิม?
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับตัวเธอในตอนนี้ ทุกอย่างที่ผ่านมา นั่นมันคือความฝันของเธอทั้งนั้นหรอ? หรือเธอบ้าไปแล้ว? แต่ทุกอย่างยังคงชัดแจ้งว่ามันคือความจริง ถ้าเธอไม่ได้บ้าเห็นโปเกมอน ก็คงบ้าคิดว่าบนโลกไม่มีโปเกมอนแล้วล่ะ
หรือเธอจะข้ามมิติ? แบบในนิยายแฟนตาซีที่เขาทำกัน??
ไม่หรอกน่า เธอคงไม่โชคดีพอที่จะเจอแบบนั้นหรอก...ใช่มั้ย? หรือว่าเธอบ้าที่คิดว่าในความฝันคือความจริง และบ้าที่คิดว่าบนโลกนี้ไม่มีโปเกม่อน...ถ้าเป็นแบบนั้นจริง...ทำไมถึงไม่มีความทรงจำอะไรพวกนั้นเลย? และคู่หูโปเกมอนของเธอล่ะ มันไปอยู่ไหน?
หยงสะบัดหัวไล่ความคิดออกไป ไว้ค่อยคิดทันทีหลังเธอต้องเอาตัวรอดก่อน
หยงรีบอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะทานข้าวปกติ เหมือนที่ทำทุกวัน แต่ที่ไม่ปกติคือ..
พี่เอาอาหารในลงในชามข้าวเหมือนของสุนัข และเอาไปให้สิ่งมีชีวิตประหลาดกิน มีโปเกมอนสามตัวกำลังกินอาหารอยู่ข้างล่างโต๊ะนั่น...ฟุจิกิดาเนะ..ซึทาจะ และ นิโดรันเพศผู้
เหอะ แค่มองก็รู้เลยว่าของใครเป็นของใครบ้าง
เหลียวมองดูบนโต๊ะอาหาร เธอเจอเหล่าเพื่อนโปเกมอนมากมายอยู่บนจานในฐานะของอาหารเช้า ไม่ว่าจะเป็นซุปฮิโตะคาเงะ หรือแม้กระทั่ง ฟุจิกิดาเนะขนาดไซส์เล็ก ทอดกรอบทั้งตัวตัดเพียงแค่ เท้ากับหัวเท่านั้น แหม่ บอกรักนักรักหนา..
หยงเลือกที่จะไม่สนใจ แล้วผันมาคิดวิเคราะห์เรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเองต่อ โดยเฉพาะเรื่องที่ว่า ' ถ้าโลกนี้มีโปเกมอนจริงๆ คู่หูของเธอหายไปไหน ' ไม่มีใครในนี้พูดถึงมัน และตั้งแต่ตื่นมา เธอก็ไม่เห็นแม้กระทั่งบอลที่ถ้าเธอมีโปเกมอน เธอคงจะเก็บมันไว้ในห้องหรือใกล้ตัวเธอแท้ๆ
คิดไป ก็คิดไม่ตก จนเธอเริ่มปวดหัว ชีวิตนี้แค่หายใจก็ยากพอแล้ว เธอขอพักเรื่องนี้ไว้คิดค้นหาทีหลังละกัน เพราะงั้นเธอจะทำสมองให้โล่ง และรอจนกว่าพวกเขาจะกินอาหารเสร็จละกัน
ไม่นานพวกเขาก็ทานเสร็จ หยงเอาจานชามทั้งของพวกเขาและโปเกมอนไปล้างให้เรียบร้อย ก่อนจะเตรียมของออกไปด้านนอกเพื่อรอรถสองแถวกับพี่สาว และสร้างภาพครอบครัวสุขสันต์กับแม่..
" แหม่ๆ หนูผินโตกันเร็วจริงๆ น้า เอ๊ะ หนูหยงง ทำไมตัวเล็กจังล่ะลูก "
เสียงแอ๊บๆ ดูโอ่อ่าของหญิงร่างท้วมบ้านตรงข้าม พูดข้ามฝากมาบ้านของเธอ คุณป้าข้างบ้านผู้ขี้อวด กำลังพยายามกระตุกหนวดแม่เธออยู่
" ฮ่าๆ ยัยหยงแกกินน้อยน่ะจะ "
คุณแม่ปูนกระเบื้องของเธอตอบหญิงใหญ่ตรงข้ามอย่างดูอ่อนหวาน ขัดจากภายในที่ยาพิษกรดทำลายล้างสูงกำลังเดือดพลั่กๆ ภายในกระเบื้องที่เธอเองฉาบเอาไว้บนหน้า
" หรือบางที อาหารอาจจะไม่ถูกปากหนูหยงเขาก็ได้นะคะคุณนาย หนูหยงจ๊ะ มากินข้าวบ้านป้าได้นะลูก "
" ไม่เป็นไรค่ะคุณป้า อาหารอร่อยถูกปากหยงดี หยงแค่กินน้อยไปหน่อยเองค่ะ "
เธอตอนอย่างสุภาพด้วยน้ำเสียงหวานนุ่ม
" งั้นหรอจ๊ะ "
คุณป้าใบหน้าเบี้ยวเขไปเล็กน้อยจากการตอบกลับ แต่เธอก็ทำท่าทางมองซ้ายมองขวาเหมือนหาอะไรซักอย่าง
" เอ๊ะ แล้วโปเกมอนของหนูหยงล่ะ ไปไหน "
หยงน่ะ มีท่าทีกระอักกระอ่วนในเพราะเธไม่รู้เหมือนกันว่า โปเกมอนของเธอไปไหน ตั้งแต่ตื่นมา เธอแทบไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับโปเกมอนของเธอด้วยซ้ำ แม่กับพี่สาวก็มีท่าทางคล้ายกัน...แต่น่าจะสาเหตุคนละเรื่อง
" อ้าว! หรือว่าหนูหญิงจะยังไม่มีโปเกมอนอีกหรอจ๊ะ? โถ่ๆ น่าสงสารหนูหยงของป้า จวนป่านนี้ ยังไม่มีโปเกมอนยอมรับหนูเลย ขนาดในวันที่หนูอายุ10ขวบ..โปเกมอนทุกตัวยังไม่ยอมอยู่กับหนู เฟอร์เฟคแท้ๆ น่าสงสารหนูหยงจริงๆ "
หญิงร่างท้วมข้างบ้าน พูดมาด้วยท่าทีสงสารที่มองดูก็รู้ว่าปลอมแค่ไหน แต่ก็ต้องขอบคุณคุณป้าที่ทำให้หยงรู้ว่า..ไม่ว่าจะที่ไหน ชีวิตเธอมันก็เฮงซวยจริงๆ..
เหอะๆ แม้แต่โปเกมอนที่น่าจะใจดี ยังไม่เอาเธอเลย...
" แหม่ ก็พูดไป แต่อาจจะยังไม่ถึงเวลาหยงมันมีโปเกมอนก็ได้นะจะ "
ผินตอบแทนแม่ที่กัดฟันกรอด อย่างใจเย็น
" งั้นก็หวังว่าจะถึงเวลาซักทีละกัน อ๊ะ รถมาแล้ว ตั้งใจเรียนนะหนู "
ทั้งหยงและผิน พยักหน้ารับยิ้มเจื่อนๆ และขึ้นรถไป
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างปกติ แตกต่างเพียงแต่ พี่สาวของเธอ มีเจ้าซึทาจะชื่อ เจฟฟา ตามที่พี่สาวเธอเรียกมันมาระหว่างทาง มาด้วย เจฟฟา มีท่าทีปกติกับหยงมากๆ ไม่ได้เหยียดเกลียดอะไรกัน
และทั้งคู่ ก็ต้องแยกย้ายกันขึ้นชั้นเรียนของตน หยงทำทุกอย่างตามปกติ แต่ทั้งชั้นช่างเงียบและว่าง มันทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ
และเมื่อหยง เปิดประตูเข้าไปในห้องเรียน พร้อมก้าวข้าเข้าไปเพียงไม่กี่ก้าว หลังของเธอก็ถูกถีบอย่างแรง ร่างกายผอมๆ ของหยง ล้มทรุดไปกับพื้น
" ไงยัยคุณหนูสุดเฟอร์เฟค อุ้ย หรือไม่กันนะ เพราะถ้าเฟอร์เฟคจริง เธอคงมีโปเกมอนแล้วล่ะ "
เด็กชายที่มักจะแกล้งเธอบ่อยๆ เป็นคนทำ พร้อมกับพูดจากเสียดสีถากถางเธอ โดยมีเพื่อนๆ ยืมล้อมหยงเอาไว้
" จามมี่! พ่นไฟ! "
เด็กผู้หญิงใกล้ๆ เขาสั่งเจ้าโพนิต้า ที่ชื่อจามมี่ ของเธอให้พ่นไฟใส่เธอ
หยงที่เห็นแบบนั้น จึงเอาแขนขึ้นมากันใบหน้าของตัวเองด้วยสัญชาตญาณ
" !!! "
ไฟร้อนที่ไม่ร้อนมากนัก เผาดาดๆ บนแขนของเธอ ผิวหนังแดง และมีการพุพองเล็กน้อย
และการที่เด็กทั้งห้องรุมหยงผู้น่าสงสารเพียงคนเดียว ก็ดำเนินจนเริ่มคาบเรียนแรก
หยงไม่รู้ว่า จะเรียกว่าโชคดีได้มั้ย ที่อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ทำจนเธอสาหัสและแผลที่เล็กมากพอจะให้เธอซ้อนมันได้
หยงทำอะไรไม่ได้...
ถ้าฟ้อง ก็อาจจะโดนครูลวนลาม และโดนแม่ทำร้าย สิ่งที่หยงทำได้ มีเพียงแค่ กุมแผลตัวเองไว้เท่านั้น และเธอก็ต้องกุมมัน จนกลับถึงบ้าน
วันนี้เธอไม่ได้สร้างเรื่องอะไรให้แม่ ก็คงว่าคงไม่มีอะไรแท้ๆ
แต่เมื่อเข้าไปในตัวบ้านได้ คนเป็นแม่ก็เข้ามาบีบกรามเธอแน่น และกระชากเธอออกมา
" เพราะแก!! เพราะแกคนเดียว เพราะของแบบแกมันไม่มีคุณภาพ ถึงทำให้ฉันต้องอับอายขนาดนี้!!! "
หล่อนจับและตะคอกใส่เด็กสาวด้วยแววตาแห่งความอับอายขาดขี้หน้าและความเดือดดาลเต็มสองลูกตาที่ฉายแววมองมาที่ลูกสาวคนเล็ก
เธอรีบปล่อยมือเองจากหยง และโยนลูกบอลสีแดงๆ มาให้เธอ โปเกบอล..
" เอาไปจับโปเกมอนของแกมาซะ และอย่าทำให้ฉันขายขี้หน้าอีกล่ะ เข้าใจมั้ย "
หยงหยิบเอาโปเกบอลเปล่าๆ นั้นขึ้นมา ก่อนจะรีบขึ้นห้อง เพื่อความปลอดภัยของตัวเองโดยเร็ว
...________________________________...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments