(Fic)จักรพรรดิ์เทพจุติ
“มีอะไรรึน่าเอ๋อร์ เจ้ามาหาอาจาร์ยเพราะอะไรรึ”
“อาจาร์ยข้าอย่างเรียน เคล็ดลับฮ่องจวิ้น”
“ไม่ได้ข้าให้เจ้าเรียนสิ่งนี้ไม่ได้ เจ้ายังไม่สามารถเข้าใจเรื่องนี้ถ้าข้าสอนไปเจ้าอาจจะตายได้”
“อาจาร์ยนี้ท่านต้องการเก็บไว้คนเดียวสิน่ะ ท่านไม่ต้องการถ่ายทอดให้ใครเอาเถอะศิษย์ของท่าน่ะฉลาดน่ะ ตอนนี้ท่านคงมึนหัวแล้วสิน่ะท่านอาจาร์ย”
“พิษบัดซบนี้เจ้าใช้พิษกับข้างั้นหรอ”
“ใช้แล้วใช้แล้วท่านอาจาร์ย~~~เพราะท่านมีความคิดที่จะเก็บวิชานั้นไว้คนเดียว ข้าเลยจะฆ่าท่านไปให้พ้นๆทางศิษย์คนนี้จะได้ใช้สถานะศิษย์เข้าไปยังห้องเก็บคัมภีร์ข้าก็จะสามารถเรียนเคล็ดวิชาฮ่องจวิ้นสำเร็จ”
“ฮ่าๆๆ”
“ท่านหัวเราะอะไรกันล่ะท่านอาจาร์ยไม่ใช้ท่านเป็นบ้าจนสติหลุดไปแล้วสิน่ะ”
“ป่าวเลย ข้าแค่หัวเราะกับ ค ว า ม โ ง่ ข อ ง เ จ้ า ไ ง ล่ ะ ”
“นี้ท่าน หมายความว่ายังไง”
“หมายความว่ายังไงน่ะหรอเคล็ดวิชานั้นข้าไม่เคยจดบันทึกไงล่ะ”
“บัดซบ”
“ก่อนที่ข้าจะตายข้ามีของขวัญให้ด้วยล่ะ นั้นก็คือระเบิดยังไงล่ะโชคดีน่ะศิษย์ของข้า~~~~”
“แย่แล้ว”
จวินโม่เซียก็ระเบิดตัวเองด้วยตัวต้นระดับจักรพรรด์ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแรงระเบิดนั้นรุนแรงแค่ไหน
“โชคของข้ายังดีหลบทันไม่งั้นข้าคงตายแน่ๆ”
//ข้าคงตายแล้วสิน่ะแต่ก็ดีเหมื่อนกันข้าจะได้ใช้ชีวิตสงบๆสักที่//
(ข้าคงยอมให้ท่านตายไม่ได้หรอกน่ะ)
//เสียงใครกัน//
(ข้าเป็นใครไม่สำคัญแต่ว่าตัวของเจ้านั้นมีโอกาศอยู่เจ้าต้องการโอกาศนั้นรึป่าวล่ะ)
//โอกาศอะไรกัน เกิดใหม่รึ//
(ใช้แล้วแต่โลกที่เจ้าเกิดใหม่จะไม่ใช้โลกเดิมของเจ้าเจ้าจะเกิดที่โลกไหนข้าก็ไม่อาจทราบได้)
//ข้ามีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเกิดใหม่งั้นหรอ?//
(เจ้ามีคุณสมบัตเพียงพอแน่นอนแต่ข้าก็ไม่อาจบอกได้หรอกน่ะว่าเจ้าคุณสมบัติเพียงพอเพราะอะไรข้าก็บอกไม่ได้หรอกน่ะ)
//แค่มีโอกาศเกิดใหม่ก็เพียงพอ ขอบคุณมากถึงจะไม่รู้ว่าจะเป็นใครก็เถอะ//
ผ่านไป6ปี
ตอนนี้ข้าเกิดมาในโลกที่ชื่อว่าโต้วหลัว เป็นโลกที่ฝึกพลังวิญญาณเป็นหลัก พลังของคนส่วนใหญ่คือสิ่งที่เรียกว่าวิญญาณยุทธ์ อ่าเป็นพลังที่น่าจะคล้ายๆปราณ
“ข้าฝึกทักษะก่อนเกิดใหม่ไม่ได้เลย แม้แต่ทักษะพื้นฐานที่เกียวกับปราณก็ใช้ไม่ได้อะไรก็ช่างเหอะเดียววันนี้ก็เป็นวันปลุกวิญญาณยุทธ์ของข้าอยากรู้จริงๆว่าข้าจะมีพลังอะไรกัน”
จากนั้นจวินโม่เซียก็รีบวิ่งไปหาแม่ของเขา แม่ของจวินโม่เซียชื่อของเธอ จวินมู่หลาน พูดก็พูดเถอะในโลกนี้ข้ายังไม่เห็นหน้าพ่อเลยเห็นหรือไม่เห็นมันไม่ต่างกันหรอก
“ท่านแม่วันนี้เป็นวันปลุกวิญญาณยุทธ์ใช่ไหมครับ”สิ่งที่แย่ที่สุดของข้าตอนนี้คือต้องแสดงเป็นเด็กน้อยเนี่ยแหละมันแสดงยากน่ะเห้ย ข้ามีอายุตั้ง30ปีในโลกก่อน ในโลกก่อนข้าน่ะเป็นอัจฉริยะน่ะเป็นจักรพรรดิตอนอายุ30น่ะ
“ใช้จ๊ะ ไปกันเถอะ”
ทั้งแม่กับข้าก็เดินไปปลุกวิญญาณยุทธ์ที่อาคารตรงกลางหมู่บ้าน
“ข้าไปปลุกวิญญาณยุทธ์ก่อนน่ะท่านแม่ ”
“โชคดีน่ะ ลูก”
ข้าก็เข้าไปปลุกวิญญาณยุทธ์ตอนนี้ข้าอยู่คิวสุดท้าย ด้านหน้าข้ามีเด็กคนหนึ่งผมฟ้าดูจะมีออร่าที่แข็งแกร่งมากๆ
“เอาล่ะ เข้าแถวเรียงหนึ่งแล้วก็มาที่ล่ะคน”
เด็กๆก็ทยอยไปที่ล่ะคนส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ไม่มีพลังวิญญาณ ตอนนี้มันใกล้ถึงคิวข้า เด็กหัวฟ้าด้านหน้าที่ออร่าแข็งแกร่งนั้นก็กำลังวิญญาณยุทธ์
“วิญญาณยุทธ์ของเจ้าคือหญ้าเงินคราม เห้อวิญญาณยุทธ์ขยะเจ้าไปเถอะ”
“ข้าขอลองวัดพลังวิญญาณดูก่อนได้หรือไม่”
“ก็ได้ๆรีบวัดล่ะเด็กที่อยู่ด้านหลังเจ้าจะได้วัด”
จากนั้นเด็กหัวฟ้านั้นก็วัดพลังวิญญาณและก็มีแสงออกมาสว่างจ้า
“พลังวิญญาณเต็มขั้น!!”
“มันคืออะไรหรอครับ?”
จากนั้นคนด้านหน้าก็เริ่มอธิบายเกียวกับพลังวิญญาณเต็มขั้นคืออะไร
“พลังวิญญาณเต็มขั้นคือเจ้ามีพลังวิญญาณสมบูรณ์แต่กำเนิดโดยส่วนใหญ่จะมีพลังวิญญาณที่1-5ตั้งแต่6-9ถือว่าหายากมากๆแต่เทียบไม่ได้กับพลังวิญญาณเต็มขั้นที่มีพลังวิญญาณ10ซึ่งถ้าหาวงแหวนได้ก็จะเป็นวิญญาณจารย์ ส่วนเรื่องของวงแหวนวิญญาณนั้นจะมีด้วยกัน5ระดับ ระดับที่ต่ำสุดคือวงแหวน10ปี ระดับที่สองคือระดับ100ปี ระดับที่สามคือ1,000ปี ระดับสี่คือ10,000ปี ระดับสูงสุดคือ100,000ปี อ่อใช้แล้วก็ระดับวิญญาณ ก็มี 9ระดับ วิญญาณจาร์ยมีระดับพลังวิญญาณตั้งแต่10-19 มหาวิญญาณจารย์มีระดับพลังวิญญาณตั้งแต่20-29 อัครจารย์วิญญาณพลังวิญญาณมีระดับตั้งแต่30-39 ปรมาจาร์ยวิญญาณพลังวิญญามีระดับตั้งแต่40-49 ราชาวิญญาณพลังวิญญาณระดับตั้งแต่50-59 จักรพรรดิวิญญาณพลังวิญญาณมีระดับตั้งแต่60-69 มหาปราชญ์วิญญาณพลังวิญญาณมีระดับตั้งแต่70-79 วิญญาณพรหมยุทธ์พลังวิญญาณมีระดับตั้งแต่80-89 ราชทินนามพรหมยุทธ์พลังวิญญาณมีตั้งแต่90-99 ที่นี้เจ้าเข้าใจแล้วใช่ไหม”
“ข้าเข้าใจแล้ว”
“เอาล่ะคนต่อไป”
((ในที่สุดของถึงคิวข้าสักที))โม่เซียบ่นในใจ
“เอาล่ะเจ้าปลุกวิญญาณยุทธ์ขึ้นมากเลย”
จวินโม่เซียก็เริ่มปลุกพลังวิญญาณขึ้นมาสิ่งที่อยู่ในมือเขาคือ กระบี่่ตระหนักรู้มันคือกระบี่คู่ใจเขาเมือชาติก่อน อีกข้างมีเจดีย์ฮ่องจวิ้น นีั้คงหมายถึงเคล็ดวิชาของข้านั้นมันได้กลายเป็นวิญญาณยุทธ์
“วิญญาณยุทธ์คู่รึ ลองวัดระดับพลังสิ”
“พลังวิญญาณเต็มขั้น เจ้าสนใจเข้าสำนักวิญญาณยุทธ์ไหม”
“ไม่ล่ะ ข้ารับแค่นามใจก็พอแล้วครับ”
“งั้นหรอน่าเสียดายแต่ก็ไม่เป็นไร”
จากนั้นตัวเขาก็เดินจากไป
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments